ดวงตาของกานต์ทอแววเยือกเย็น
“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการหายตัวไปของกมลเกี่ยวข้องกับไอรา”
“ถึงขนาดนี้แล้วแกยังปกป้องเธออีกเหรอ? งั้นฉันถามแกหน่อย เธอได้บอกเรื่องที่เธอโทรหากมลให้แกรู้ไหม?”
คำถามของธรรศทำให้กานต์ปิดปากเงียบ
“ไม่ได้บอกล่ะสิ? แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกแก? ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าเธอไม่รู้เรื่องที่กมลหายตัวไป กานต์ เรื่องนี้มันไม่ได้ธรรมดาอย่างที่แกคิดหรอกนะ!”
ธรรศมองมาที่กานต์ เอ่ยพูดอย่างไม่สบายใจว่า “เรื่องความรู้สึกของแกฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่ว่าสถานะตัวตนของไม่เหมือนกัน การที่เธอไปโผล่ในเหตุการณ์ลักพาตัวในช่วงเวลาสำคัญแบบนั้น และไม่ว่าการที่แกทำพลาดจะเกี่ยวกับเธอหรือไม่ก็ตาม เรื่องนี้ยังไงก็ต้องทำการสืบสวนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กานต์ แกไม่ใช่ทหารหน้าใหม่ ความเคร่งครัดของที่นี่แกยังต้องให้ฉันบอกอีกเหรอ?”
“ผมเชื่อใจเธอ!”
คำพูดของกานต์ทำให้ธรรศนิ่งอึ้ง
เด็กนี้ไม่ถูกกับไอรามาตั้งแต่เด็กๆไม่ใช่เหรอ?
ทำไมแววตาของอีกฝ่ายในตอนนี้กลับทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ?
“กานต์……”
“ผมเป็นคนลบกล้องวงจรปิดเอง ถ้าเบื้องบนจะลงโทษหรือปลดผมออก ผมก็จะไม่ขัดขืน เรื่องที่ทำพลาดก็มาจากเหตุผลส่วนตัวของผม ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น ถ้าสไนเปอร์ให้คนนอกมามีอิทธิพลต่อตัวเองได้ง่ายๆ นั่นก็แปลว่าเขาไม่คู่ควรกับการเป็นสไนเปอร์อีกต่อไป ดังนั้นแล้วต่อให้ต้องเกษียณหรือถูกปลดออกก็เป็นเรื่องที่ผมสมควรโดนทั้งนั้น แต่ว่าการหายตัวไปของกมล ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของไอรา ถึงแม้เธอจะโผงผางตรงไปตรงมา หรืออาจจะเป็นอย่างที่ปู่ว่า เธอเป็นคนต่างประเทศ สถานะไม่เหมือนกัน แต่ผมก็ยังเชื่อเธอ ผมเชื่อว่าความรู้สึกที่เธอมีให้ผมคือเรื่องจริง ผมเชื่อว่าเธอไม่มีทางทำร้ายคนในครอบครัวของผม และผมก็เชื่อว่าที่เธอไม่บอกเหตุผลว่าทำไมถึงไปปรากฏตัวที่นั่นไม่ใช่เพราะอยากให้ผมตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก คุณปู่สาม กมลไม่ใช่คนคิดอะไรเองไม่เป็นและไม่ใช่คนไร้ฝีมือ เธอเก่งพอที่จะเอาตัวรอดได้ ที่ตอนนี้เธอไม่ติดต่อหาพวกเราอาจเป็นเพราะมีความลับบางอย่าง และผมก็เชื่อว่าเธอไม่น่าจะถูกลักพาตัวไปแน่ๆ”
กานต์เอ่ยพูดออกมาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ธรรศจึงเงียบเสียงไปชั่วขณะ
เขามองมาที่กานต์ และก็ยังมองอยู่อย่างนั้น
การอาศัยตำแหน่งที่อยู่สูงกว่าเข้าข่มใช้ไม่ได้ผลกับกานต์เลยสักนิด เขานั่งอยู่กับที่อย่างภูมิฐาน หลังเหยียดตรง เหมือนต้นไม้ต้นใหญ่ที่สูงตระหง่าน น่าชื่นชม
“แกเชื่อว่ากมลไม่ได้ถูกลักพาตัวไป?”
“แล้วบนโลกนี้คนที่สามารถลักพาตัวกมลได้จะมีซักกี่คนกันล่ะครับ?”
คำพูดของกานต์ทำให้ธรรศเข้าใจอะไรบางอย่างทันที
นี่พวกเขากังวลกันเกินเหตุหรอกเหรอ?
กมลเปรียบเหมือนเจ้าหญิงที่เป็นที่รักของตระกูลโตเล็ก ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักมาดีขนาดนี้ ดังนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นแม้แต่น้อยก็คงสะเทือนฟ้าสะท้านดิน แต่ก็เพราะเหตุผลนี้ กานต์ถึงได้ทำใจแข็งส่งกมลไปฝึกวิชาป้องกันตัว
ตอนนี้เธอเป็นถึงแชมป์มวยระดับโลก ฝีมือขนาดนี้คงถูกใครลักพาตัวไปได้ยาก
“ต่อให้ที่แกพูดจะเป็นความจริง และกมลไม่ได้เป็นอะไร แต่เรื่องที่ไอราไปโผล่ที่……”
“เรื่องนี้ผมจัดการเอง”
“จัดการเองกับผีสิ กานต์ ที่ฉันพาแกมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากให้แกจัดการเอง แกคิดว่าคุณชายธเนศพลจะปกป้องแกได้ทุกเรื่องเหรอ? แกอยู่ที่นี่ไปซะ สองสามวันนี้ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น เรื่องข้างนอกเดี๋ยวฉันจัดการเอง ที่นี่มีอาหารให้กินเสื้อผ้าให้ใส่ แล้วฉันก็จะให้คนมาดูหูให้แกด้วย เอาเป็นว่าช่วงนี้แกห้ามติดต่อกับไอรา แล้วก็โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ที่นี่ไม่มีสัญญาณสักตัว อย่าคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากทักษะของแกทำอะไรทั้งนั้น”
เมื่อได้ยินธรรศพูดออกมาแบบนี้ กานต์เองก็ไม่ได้แสดงท่าทีหงุดหงิด เพียงแค่เอ่ยพูดอย่างเนิบนาบว่า “นี่คุณปู่สามคิดจะกักบริเวณผม?”
“อะไรคือกักบริเวณ? ไหนๆแกพูดมาก็ดีแล้ว ตอนนี้ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น แล้วก็พริมรตาอะไรนั่น ฉันได้ยินมาว่าเธออยากให้แกแต่งงานกับเธอเหรอ?”
“ครับ”
กานต์ไม่ได้ปิดบัง
ในเมื่อพริมรตามีความคิดนี้ กันติมาก็ต้องนำข้อเสนอมาบอกเจ้านายของเขาเป็นธรรมดา เพียงแต่ผู้บังคับบัญชาที่ขึ้นตรงกับเขาเดิมทีต้องเป็นธเนศพล แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนมาเป็นธรรศได้
ถ้าพูดกันตามเหตุผลธรรศกับเขามีความสัมพันธ์ฉันฑ์ญาติมิตร ไม่สามารถสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของเขาได้
ซึ่งกานต์ไม่เข้าใจตรงนี้นิดหน่อย
เมื่อธรรศเห็นกานต์ไม่โวยวายอะไรออกมา ก็แอบรู้สึกไม่สบายใจ
“ฉันรู้ การคิดจะขังแกเอาไว้ที่นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ว่ากานต์ แกลองคิดถึงพ่อแม่แก คิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังแกหน่อยได้ไหม?”
“ครับ”
คำตอบของกานต์ทำให้ธรรศไม่รู้จะพูดหว่านล้อมยังไง
“งั้นแกก็พักผ่อนเถอะ ฉันต้องไปแล้ว”
“คุณปู่สามขับรถระวังๆนะครับ”
กานต์มองไปรอบๆที่พักสไตล์ดูเพล็กซ์แห่งนี้ ไม่ถือว่าใหญ่นัก แต่ก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการที่เขาต้องอยู่คนเดียว
เขาลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอน แล้วเข้าไปอาบน้ำ จากนั้นก็ออกมานอนแผ่อยู่บนเตียง ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกง่วงอะไร
จริงๆแล้วมีเรื่องหนึ่งที่กานต์ไม่ได้พูดออกไป
ตอนที่ปฏิบัติภารกิจ ปืนที่เขาใช้มีปัญหา
เพราะศูนย์หน้าของปืนถูกปรับ!
แม้ว่าการที่ไอราไปปรากฏตัวในที่เกิดเหตุจะทำให้เขาเหนือความคาดหมายก็ตาม แต่มันก็ยังไม่มากพอทำให้เขาเสียสมาธิพลั้งมือยิงถูกตัวประกัน
สาเหตุหลักๆที่พลาดยิงถูกตัวประกันมาจากการที่ปืนมีปัญหา ไม่ใช่แค่ศูนย์หน้าของปืนถูกปรับ แต่กระสุนข้างในยังเป็นกระสุนเปล่าลูกหนึ่ง
ใครๆต่างก็รู้ว่าสไนเปอร์ต้องยิงให้โดนภายในนัดเดียว แต่ว่าในตอนนั้นเขากลับยิงไปสองนัด เพราะนัดแรกเป็นกระสุนเปล่า แบบนี้จึงเสียโอกาสแรกไป และทำให้โจรไหวตัวทัน แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวประกัน เขาจึงจำเป็นต้องยิงนัดที่สอง และก็เพราะแบบนี้เขาถึงได้พลาดพลั้งทำให้ตัวประกันบาดเจ็บ
เป็นใครกันที่คิดจะทำร้ายเขา?
เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ขึ้นตรงกับธเนศพล ปืนทุกกระบอกล้วนแล้วแต่เป็นของที่เขาใช้ได้คนเดียว คนที่สามารถเข้าไปในฐานทัพฝึกซ้อมและห้องเก็บปืนของเขาได้มีไม่เกินห้าคน แต่ว่าในบรรดาห้าคนนี้ก็ไม่มีใครน่าสงสัยเลยสักคน
กานต์ไม่อยากตามสืบและเคลือบแคลงพวกพ้องของเขา ห้าคนนี้ต่างก็เป็นคนในทีมที่เคยร่วมรบร่วมสู้มาด้วยกันทั้งนั้น เขาอุตส่าห์ฝากชีวิตและเบื้องหลังให้คนพวกนี้ แล้วจะให้สงสัยในตัวพวกเขาได้ยังไง?
แต่ถ้าไม่ใช่ฝีมือของคนใดคนหนึ่งในห้าคนนี้ แล้วปืนของเขาจะถูกปรับเปลี่ยนได้ยังไงล่ะ?
หัวคิ้วของกานต์ขมวดเล็กน้อย
เขาไม่อยากคิดเรื่องชวนปวดหัวพวกนี้แล้ว ไม่รู้ว่ายัยไอรายอมกลับไปแล้วหรือเปล่า
เมื่อนึกถึงความเอาแต่ใจของไอราเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ มุมปากของกานต์ก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย
เขาเลิกรำคาญเธอไปตั้งแต่ตอนไหนกันนะ?
ถ้าจะให้บอกเป็นเวลาเป๊ะๆเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้เขาจำได้ขึ้นใจก็คือเรื่องที่เขาถูกงูกัดตอนออกไปปฏิบัติภารกิจบนภูเขา ตอนนั้นที่โรงพยาบาลสนามไม่มีเลือดเหลือสำรอง จำเป็นต้องไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลใหญ่ แต่ในตอนนั้นอาการของเขากำลังย่ำแย่ กลับเป็นไอราที่ก้มหน้าดูดพิษที่ขาให้เขาอย่างไม่ห่วงตัวเอง
ในตอนนั้นเขาช็อกเป็นอย่างมาก
เขารู้มาตลอดว่าไอราชอบเขา รู้มาตั้งแต่เด็กๆ แต่เขาไม่ได้ชอบเธอ แถมยังรู้สึกเกลียดด้วยซ้ำ ส่วนทำไมถึงเกลียด กานต์ก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกัน บางทีอาจเป็นเพราะไม่ถูกชะตาล่ะมั้ง
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้กลับเป็นเหมือนแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตายไล่ไม่ไป เอาแต่มาโผล่ตรงหน้าเขาตลอดเวลา เวลาเขาออกไปปฏิบัติภารกิจเธอก็จะไปรอเขาอยู่บริเวณรอบนอกสถานที่ที่เขาออกปฏิบัติการ เมื่อเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัยเธอก็มักจะยิ้มเหมือนคนบ้องตื้น แม้ว่าเขาจะไม่เคยมีสีหน้าดีๆให้เธอสักครั้งเลยก็ตาม
จู่ๆกานต์ก็รู้สึกนับถือความพยายามของไอรา อีกฝ่ายเริ่มวิ่งตามตูดเขาต้อยๆตั้งแต่เป็นเด็กสี่ห้าขวบ จนมาถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปหลายปี เธอสามารถทุ่มเทชีวิตของตัวเองเพื่อเขาได้ทุกอย่าง ผู้หญิงแบบนี้จะมาคิดร้ายกับเขาและคนในครอบครัวของเขาได้ยังไง?