แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1783 พูดเหลวไหลทั้งวัน

บทที่ 1783 พูดเหลวไหลทั้งวัน

“พอแล้วๆ กมลก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ นี่นายทำอะไรน่ะ? อีกหน่อยถ้าเรามีลูกสาว แล้วนายยุ่งวุ่นวายขนาดนี้ฉันจะไม่เชื่อฟังนายนะ”

แค่ไอราพูดออกไป กมลกับกานต์ต่างก็ชะงักไปชั่วครู่

กมลรีบยกนิ้วโป้งให้ไอรา ส่วนกานต์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีสุดๆเลย

ลูกสาวเหรอ?

ลูกสาวของเขากับไอรา!

อื้ม แค่คิดๆก็ไม่เลวแล้ว

เจ้าก้อนแป้งนุ่มๆนิ่มๆ อยากจะตามใจยังไงก็ได้

“ตามนี้แหละ อีกไม่นานเราสองคนจะมีลูกสาวสักคน”

คำพูดนี้ของกานต์ เหมือนกับเขาเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้กำเนิดลูกชายหรือลูกสาวได้ยังงั้นแหละ ทำเอาไอราพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย

“รีบไปกันเถอะ พวกเราจะสายแล้วนะ”

จริงๆไอราค่อนข้างทำตัวไม่ถูก จึงรีบดึงกานต์ขึ้นรถ

กมลเห็นไอราจัดการพี่ชายของตัวเองได้อยู่หมัด จึงอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มขึ้นมา

ดูแล้วต่อไปอิสรภาพในการมีความรักของเธอคงต้องประจบพี่สะใภ้รองคนนี้ให้เต็มที่ซะแล้ว

ทั้งสามคนขึ้นไปบนรถ กานต์เป็นคนขับ อย่างรวดเร็วก็ถึงสถานที่ที่นัดกับณิตาแล้ว เพียงแต่ณิตายังมาไม่ถึง

กมลจึงสงสัยขึ้นมา

“ยัยณิตานัดพวกเรา ก็ไม่ควรมาสายสิ ทำไมตอนนี้ยังมาไม่ถึงอีก?”

ถึงไอราจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ค่อนข้างเป็นห่วง

“งั้นให้ฉันรอเป็นเพื่อนพวกเธอสักพักไหม?”

“ไม่ต้องหรอก นายไปทำงานเถอะ”

ไอรารู้ว่ากานต์เพิ่งรับช่วงต่อYS Group ตอนนี้กำลังเป็นช่วงที่ยุ่งวุ่นวาย เธอกับกมลต่างก็เป็นคนที่มีทักษะป้องกันตัวอยู่แล้ว คงไม่โดนใครรังแกหรอก

กานต์พยักหน้า แล้วชี้ๆไปที่แก้มของตนเอง ทำเอาไอราหน้าตางงงันและประหลาดใจ

“หมายความว่าไง?”

กมลที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วก็ค้อนขวับทันที

เธอไม่รู้เลยว่าหลังจากที่พี่ชายแท้ๆของตนเองมีความรักแล้วจะเลี่ยนขนาดนี้

แต่ก่อนยังคิดอยู่ว่าชีวิตนี้ของกานต์คงจะครองตัวโสด คิดไม่ถึงว่าเขาจะเรียนรู้การโชว์หวานต่อหน้าคนโสดได้ด้วยตัวเอง นับถือจริงๆ

กมลมองไอราที่กำลังงุนงง แล้วก็มองกานต์ที่หน้าตาเคร่งขรึมเล็กน้อย จึงรีบก้าวเข้าไปใกล้ๆ ออกแรงผลักไอราทันที

ไอราไม่ทันตั้งตัว จึงพุ่งเข้าไปในอ้อมอกของกานต์อย่างกะทันหัน แล้วจุ๊บลงไปที่แก้มของกานต์พอดิบพอดี

เธอรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวจนไฟจะลุกขึ้นมาอยู่แล้ว

ส่วนกานต์กลับอมยิ้ม พูดขึ้น: “ยัยบ๊อง ต่อไปจำเอาไว้ด้วยนะ”

พูดจบเขาก็จูบลงไปบนใบหน้าของไอราทันที ถึงได้หมุนตัวเดินกลับไป ทิ้งให้ไอราจิตใจว้าวุ่นอยู่คนเดียว

โดนกานต์จูบในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่แต่ก่อนเธอไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ อีกอย่างเห็นๆอยู่ว่ากานต์ก็ไม่ได้เป็นคนที่เปิดเผยขนาดนั้น เพียงแต่ความอบอุ่นใจที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้ทำให้ไอราตะลึงงันไปเลย

กมลเม้มปากยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เข้ามาใกล้ๆใช้แขนกระทุ้งไอราที่กำลังเหม่อลอยพูดขึ้น: “พี่ฉันเดินไปแล้ว ยังอาลัยอาวรณ์อยู่อีกเหรอ? ตอนนี้พวกเธออยากจะเป็นเหมือนแฝดสยามที่ตัวติดกันทั้งวันให้ได้เลยใช่ไหมล่ะ?”

ไอราได้สติกลับมาทันที จึงนึกถึงเมื่อกี้ที่กมลทำอะไรลงไป

“เธอยังกล้าพูดอีกนะ? เมื่อกี้ใครผลักฉัน?”

เธอถกแขนเสื้อขึ้น ท่าทางอยากจะสั่งสอนกมล

กมลหัวเราะไปหลบไป พูดขึ้น: “พี่ฉันรอให้เธอจุ๊บเขา แต่เวลานั้นเธอดันโง่ซะได้ ถ้าฉันไม่ช่วยเธอ คงไม่ได้จุ๊บง่ายๆอย่างนี้หรอก ไม่แน่พี่ฉันอาจจะกินเธอตรงนี้เลยก็ได้”

“ไปให้พ้นเลยนะ! วันๆเอาแต่พูดจาเหลวไหล”

แม้ไอราจะต่อว่ากมล แต่ทว่ามุมปากกลับเก็บเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

“อีกอย่างนะ ต่อให้จะกิน ก็ต้องเป็นฉันที่กินพี่เธอ! อย่าลืมสิ ฉันน่ะจีบพี่เธอมาตั้งยี่สิบปีนะ”

“จ้าๆๆ เธอจีบเขามายี่สิบปีแล้ว เธอเนี่ยมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ที่สุดเลย”

กมลส่ายหน้า แต่ในใจกลับเตือนตนเองเอาไว้ ชีวิตนี้จะไม่ทำให้ตนเองลำบากเช่นนี้เพื่อผู้ชายคนไหนเลย

จากที่เธอเห็น ถ้าไอราไม่ได้ถูกใจกานต์มาตั้งแต่เด็กๆ ก็คงไม่ถึงขั้นต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนมาใช้ชีวิตอยู่ที่ด้านนี้เพียงคนเดียวหรอก

ความกล้าหาญอย่างนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมี

ส่วนกมลคนอย่างเธอน่ะตั้งแต่เด็กก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักความเอาอกเอาใจจากพ่อและพี่ๆ ถ้าเธอต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเพื่อผู้ชายสักคน ก็ฝันไปเถอะ

ทั้งสองคนไปที่ร้านกาแฟ ส่วนณิตายังมาไม่ถึง ทั้งสองคนจึงสั่งกาแฟมาค่อยๆดื่ม แล้วเปิดประเด็นหัวข้อสนทนาเลย

“ไอรา เธอว่าพี่ใหญ่ฉันจะแต่งงานกับสิชาจริงๆเหรอ?”

“ไม่รู้สิ”

ไอราไม่ได้สนิทกับกิจจา แม้เธอจะชอบกานต์ และได้รับความชื่นชอบจากคนอื่นๆของตระกูลโตเล็กด้วย แต่ปกติแล้วทุกคนก็จะต่างคนต่างยุ่งเรื่องของตัวเอง พูดตามความจริงโอกาสที่จะได้นั่งคุยความในใจกันมีไม่เยอะหรอก โดยเฉพาะกิจจา สุขุมเก็บตัว ทั้งยังยุ่งอยู่กับข้อมูลในสถาบันวิจัยเป็นเวลานานๆ ถึงจะใส่แว่นตาขอบทองที่ดูแล้วค่อนข้างสุภาพเรียบร้อย แต่ไอรารู้ว่า ผู้ชายของตระกูลโตเล็กไม่ง่ายดายเลย

กมลพูดด้วยความกลุ้มใจ: “ปกติพี่ใหญ่ฉันก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ แค่ดีกับณิตาบ้างก็เท่านั้น ภายหลังณิตาไปต่างประเทศแล้ว ข้างกายพี่ใหญ่ฉันจึงไม่มีผู้หญิงคนไหนอีกเลย เธอว่าสิชาเข้ามาใกล้ชิดกับพี่ใหญ่ฉันได้ยังไง? แล้วยังท้องลูกของพี่ใหญ่ฉันอีก? แค่นึกถึงผู้หญิงเจ้าชู้คนนั้น แต่ในท้องกลับมีสายเลือดของตระกูลโตเล็กของพวกเราอยู่ฉันก็รู้สึกแย่สุดๆเลย”

ไอรารู้นิสัยของกมลดี เธอเป็นเจ้าหญิงน้อยของตระกูลโตเล็ก โดนตามใจมาตั้งแต่เด็กจนโต แน่นอนว่าไม่ชอบใครก็พูดออกมาตรงๆ อันที่จริงนิสัยของเธอกับกมลค่อนข้างคล้ายกัน สำหรับสิชาเธอก็ไม่ชอบเหมือนกัน

“เรื่องนี้จะจัดการยังไงคงต้องดูพี่กิจนั่นแหละ ถ้าเขายังยืนกรานว่าจะแต่งงานกับสิชา พวกเราก็คงจนปัญญา”

คำพูดนี้ของไอรากลับเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ

กมลกลุ้มใจขึ้นมาทันที

ตอนที่ณิตามาถึงแล้วได้ยินประโยคนี้พอดี จึงขมวดคิ้วขึ้นมา

“พี่กิจจะแต่งงานกับสิชาเหรอ?”

กมลกับไอราได้ยินเสียงของณิตาจึงรีบหันไป

“ณิตา เธอมาแล้วเหรอ?”

กมลรีบเรียกพนักงานเสิร์ฟ แล้วสั่งคาปูชิโน่ให้ณิตาหนึ่งแก้ว

ณิตากลับดื่มไม่ลงแล้ว กำลังมองกมลกับไอราแล้วถามขึ้นอย่างร้อนรน: “เมื่อกี้ที่พวกเธอพูดจริงหรือเปล่า? พี่กิจจะแต่งงานกับสิชาเหรอ?”

เรื่องนี้กมลไม่รู้ว่าควรจะพูดกับณิตายังไงดี

เนื่องจากไอรากับณิตาเรียนโรงเรียนเดียวกัน ตั้งแต่เด็กก็ชอบผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน แล้วยังเป็นผู้ชายของตระกูลโตเล็กด้วย ดังนั้นตั้งแต่เริ่มแรกทั้งสองคนจึงอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งตอนที่ณิตาไปต่างประเทศ

ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว แต่กิจจากลับจะแต่งงานกับคนอื่น แล้วยังเป็นน้องสาวต่างแม่ของเธอด้วย ความรู้สึกนี้คงแย่มากสินะ

ไอราดึงมือของณิตาเอาไว้ กำลังพูดปลอบใจ: “พี่กิจพูดอย่างนี้ และตามที่พูดๆกันก็กำลังจะเริ่มคุยกันเรื่องงานหมั้นระหว่างสองครอบครัวแล้ว ณิตา เธอ……”

“สิชาผู้หญิงคนนั้นใช้ลูกไม้อะไรทำให้พี่กิจยอมแต่งงานกับเธอ?”

สีหน้าของณิตาซีดขาวราวกับกระดาษ แต่ทว่าดวงตากลับเปล่งประกาย แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเอง

กมลพูดเหยียดหยาม: “จะเป็นอะไรได้ล่ะ? พี่ใหญ่ฉันบอกว่าสิชาท้องลูกของเขา ดังนั้นจะหมั้นกันไว้ก่อน พวกเธอก็รู้ สิชาเป็นคนเจ้าชู้ สรุปว่าในท้องเป็นสายเลือดของพี่ใหญ่ฉันหรือเปล่า ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้”

แค่พูดออกไป ณิตาก็ตะลึงงัน

สิชาท้องลูกของกิจจางั้นเหรอ?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท