ชมพูได้ยินว่ากานต์เท้าแพลงแล้ว ก็ไม่สนใจอย่างอื่น กระโดดลงมาจากระเบียงวิ่งออกไปด้านนอกในทันที
ไอราในขณะเดียวกับที่โล่งอกก็ขึ้นข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว ส่งสันมือตรงไปที่ชมพู
ชมพูก็ไม่ใช่ไม่เก่ง หลังจากที่สังเกตเห็นการจู่โจมของไอราก็สู้กลับด้วยความรวดเร็ว ไม่ช้าทั้งสองคนก็สู้กันขึ้นมา
กานต์กับนะโมออกมายังไม่ทันพูดถึงสองประโยค ก็ได้ยินภายในห้องสู้กันขึ้นมาแล้ว ชายหนุ่มสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็วิ่งกลับไป กลัวว่าวิ่งช้าแล้วผู้หญิงสองคนภายในห้องจะล้มหลังคาทิ้ง
รอถึงตอนที่พวกเราเร่งรีบมาถึง ไอรากับชมพูก็ตีกันจนยากที่จะแยกออก
ชั่วพริบตานะโมก็ร้อนรน และก็ไม่สนว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อกรของไอรา ยกมือขึ้นเข้าไปในทันที
พอกานต์เห็น โอ้โห แกยังจะกล้าตีเมียฉัน?
เขาไม่เป็นหัวหน้าทีมแล้ว นะโมตอนนี้ก็กล้าขึ้นมากแล้วจริงๆ
กานต์ขึ้นไปหนึ่งก้าวรั้งนะโมเอาไว้ในทันที หนุ่มใหญ่สองคนก็ประลองกันขึ้นมาเช่นเดียวกัน
สายตาที่เหลือจากบริเวณหางตาของไอรามองเห็นพวกเขาทั้งสองก็ตีกันขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะแทบกระอักเลือด เอ่ยขึ้นอย่างหอบหายใจด้วยความโมโหว่า “หยุดตีกันได้แล้ว รีบช่วยฉันจับตัวชมพู บนคอของเธอมีเข็มเล่มหนึ่ง คงจะถูกคนแทงจุดนอนหลับเอาไว้”
คำพูดนี้ออกมา กานต์กับนะโมก็หยุดมือลงในทันที
นะโมมีความสงสัย แต่กลับก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ กลัวจะทำชมพูบาดเจ็บ กานต์กลับไม่ได้กังวลมากมายขนาดนั้นแล้ว เขาขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งฝ่ามือกระแทกเข้าที่สันคอของชมพู
ดวงตาของชมพูกลอกขึ้นสลบลงไปในทันที
นะโมรีบเข้าไปรับร่างของชมพู อุ้มเธอมาวางไว้ที่บนเตียงคนไข้
กานต์กลับไม่ได้ไปสนใจชมพู หันหน้ามองไอราแวบหนึ่ง เห็นเพียงแค่ไอราหอบหายใจ มือข้างหนึ่งกุมไว้ที่บริเวณไตโดยจิตใต้สำนึก ดวงตาของเขาหนักอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย
“กอดฉันเอาไว้”
“หา?”
ไอราอยู่ๆได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ ตอนที่ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับคืนมาว่าหมายความว่าอะไรก็รู้สึกเท้าทั้งสองข้างลอยขึ้นจากพื้น ทั้งตัวถูกกานต์อุ้มขึ้นมา จากนั้นวางลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้าง แล้วยื่นน้ำอุ่นหนึ่งแก้วมาให้ไอราด้วยความรวดเร็ว
“ดื่มน้ำหน่อย”
ไอรามองดูกานต์ที่ดูแลเอาใจใส่อย่างทั่วถึง ก็เอ่ยขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูกว่า “ชมพูถึงจะเป็นคนไข้ คุณดูแลฉันทำไมกัน? ฉันแข็งแรงดี”
สี่คำสุดท้ายนี้ไอราพูดอย่างไม่มีความมั่นใจนัก แต่อยู่ต่อหน้ากานต์แสดงออกมาไม่ได้โดยเด็ดขาด ดังนั้นพยายามที่จะนิ่งเฉย
ดวงตาของกานต์สะท้อนสายตาที่มีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นเอ่ยขึ้นในทันทีว่า “ชมพูมีคนดูแล เธอคือผู้หญิงของฉัน ฉันไม่ดูแลเธอจะให้ไปดูแลใคร รีบดื่มซะ”
“อ้อ”
ไอราถูกกานต์อ้าปากหุบปากก็ผู้หญิงของฉันพูดจนจิตใจเบิกบานมีความสุข
เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าปากของผู้ชายคนนี้จะหวานได้ขนาดนี้
ในใจของกานต์กลับรู้สึกไม่ค่อยจะดีนัก
ไอราในก่อนหน้านี้เรื่องตบตีเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง แทบจะมีเพียงไม่กี่คนที่เป็นคู่ต่อกรของเธอ ทว่าไอราในตอนนี้เพิ่งจะต่อสู้กับชมพูได้ไม่เท่าไรก็หอบแล้ว ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือไตของเธอข้างนั้นค่อนข้างเจ็บ
แม้ว่าไอราจะปิดบังได้ดีมาก แต่กานต์ยังคงดูออกสีหน้าของเธอ
พอคิดถึงไตข้างนั้นที่ตอนนี้ทำงานอยู่ในร่างกายของตนเอง และไอรากลับกลายเป็นผู้หญิงที่มีไตข้างเดียว ต่อไปไม่ว่าจะเป็นตั้งครรภ์คลอดลูก หรือว่าตบตีอะไรก็ตามแต่ก็ไม่สามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้แล้ว หัวใจของกานต์ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมากะทันหัน
ผู้หญิงโง่คนนี้ทำให้เขาแม้แต่แรงที่จะด่าคนก็ยังไม่มี ความปวดใจลอยขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ลึกมากขึ้นตามวันเวลา นับวันยิ่งลงลึกถึงไขกระดูก
“เมื่อครู่นี้เธอบอกว่าบนคอของเธอมีเข็มเล่มหนึ่ง?”
“อืม คือเข็มเงินที่ใช้ฝังเข็ม จุดที่แทงเข้าไปคือจุดนอนหลับ แต่แทงไปไม่ลึก ทำให้คนสูญเสียการรับรู้ชั่วคราวเท่านั้น ฉันคิดถึงที่คุณบอกว่าสะกดจิต ด้วยสภาพของชมพูเธอจะต้องไม่ถูกคนสะกดจิตง่ายๆอย่างแน่นอน นอกเสียจากมีคนทำการนอนหลับเทียมกับเธอ อีกทั้งตอนที่ฉันเพิ่งเข้ามา เธอกำลังยืนอยู่บนระเบียงจะกระโดดลงไปพอดี ทำฉันตกใจแทบแย่จริงๆ”
ไอราจนถึงตอนนี้คิดขึ้นมาก็ยังคงรู้สึกอกสั่นขวัญหาย
หลังจากนะโมได้ยินคำพูดของไอราคนทั้งคนก็เกิดอาการตกใจ
“กระโดดตึก?”
“ไม่งั้นล่ะ? นายคิดว่าทำไมฉันต้องตบตีกับเธอ? ฉันว่างมากมั้ง?”
นิสัยของไอราแต่เดิมก็ไม่ดี ตอนนี้ยิ่งเจ็บจนทรมาน เธอจำได้ว่าตนเองกินยาแล้วแท้ๆ ช่วงนี้ก็ดีมากเหมือนกัน ทำไมเพิ่งลงมือก็เจ็บแบบนี้กันนะ?
แต่ก็ให้กานต์ดูออกไม่ได้อีก ช่างยากลำบากจริงๆ
นะโมคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนเองทำกับไอราตอนที่เพิ่งจะเข้ามา กำลังคิดจะขอโทษก็ได้ยินไอราเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าจะขอโทษก็ไม่ต้องหรอก แทงข้างหลังค่อยมาขอโทษ ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด ฉันสามารถเข้าใจอารมณ์เพื่อความรู้สึกไม่สนใจอะไรทั้งนั้นของนายได้ แต่ก็ไม่ได้มีหน้าที่มาทนต่อความเข้าใจผิดและความโมโหของนายอย่างไร้เหตุผล นะโม คราวนี้เห็นแก่หน้าของกานต์ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับนาย หากมีคราวหน้าอีกฉันรับรองว่าจะต่อยจนนายฟันร่วง ถึงเวลานายอย่าร้องไห้ก็พอ”
ตั้งแต่ต้นจนจบกานต์ต่างก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดให้นะโมสักประโยค ในมุมมองของเขา ไอราไม่มีความจำเป็นต้องลงมือกับชมพูเลยแม้แต่น้อย ความเป็นความตายของชมพูก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ หากไม่ใช่เพราะลงมือกับชมพู บาดแผลของเธอก็ไม่มีทางเจ็บขึ้นมาได้
พอคิดถึงผู้หญิงคนนี้ตอนนี้กำลังทนต่อความเจ็บปวดอย่างไร ใจของกานต์ก็ราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นจับเอาไว้ยังไงอย่างงั้น บิดเอาไว้อย่างแน่นหนา ลมหายใจเล็ดลอดออกมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
นะโมมองดูกานต์เล็กน้อย เห็นสีหน้าของเขามืดหม่น ก็รู้ว่าตนเองคราวนี้สะเพร่าเกินไปหน่อยแล้ว คิดจะเอ่ยปากขอโทษกลับก็ไม่รู้ว่ากานต์จะยอมรับหรือไม่ จะเป็นแบบเดียวกับที่ไอราพูดหรือเปล่าอีก ชั่วพริบตาบรรยากาศภายในห้องก็ค่อนข้างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“นิ่งอึ้งกันทำไม? รีบไปเรียกหมอสิ ยังคิดจะมองดูชมพูตายจริงๆหรอ? จุดนอนหลับนี้แม้ว่าจะไม่มีผลกระทบอะไร แต่หากคำสั่งการสะกดจิตไม่ได้ถอยห่างออกไปล่ะก็ เธอก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะฆ่าตัวตาย”
คำพูดนี้ของไอราพูดออกมา นะโมก็ได้สติคืนมาในทันที รีบกดกริ่งฉุกเฉิน เพียงแต่มีความสงสัยต่อคำสั่งการสะกดจิตนั่นที่ไอราพูดมา
“คำสั่งการสะกดจิตอะไร?”
กานต์กลอกตามองบนใส่เขา เอ่ยว่า “เรื่องที่ฉันกำลังจะบอกกับแก แกกลับดี ได้ยินในห้องมีเสียงก็รีบวิ่งกลับมาแล้ว นะโม แกใจร้อนเกินไป”
“เฮีย ผมผิดไปแล้ว”
นะโมแคร์ชมพูจริงๆ แม้ว่าหนึ่งฝ่ายมีใจหนึ่งฝ่ายไม่มีใจ แต่ความรู้สึกที่เขาทุ่มเทออกไปนั้นเก็บกลับคืนมาไม่ได้
กานต์แม้ว่าจะตำหนิเขาอยู่บ้าง แต่ก็รู้ว่าในใจของเขาทุกข์ทรมานมาก เพียงแต่เรื่องที่ไอราเจ็บปวดในวันนี้เขาจะจำเอาไว้ คราวหน้าจะต้องเอาคืนมาจากนะโมอย่างแน่นอน แต่ว่านี่ต่างก็เป็นสิ่งที่เอาไว้พูดต่อในภายหลัง
เขาพูดผลการตรวจสอบของตนเองให้นะโมฟังด้วยความรวดเร็ว
หมอก็มาพอดี ไอรามีการวิจัยทางด้านนี้ ดังนั้นพูดโดยไอรานี่เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
มองดูท่าทางพูดจามั่นใจสงบเยือกเย็นของสาวน้อยคนนี้ ในใจของกานต์ทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง
เขาถอยออกจากห้องผู้ป่วยอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไปสถานที่เงียบสงบ หารายชื่อหนึ่งจากในรายการติดต่อ กดคำเชิญวิดีโอคอลไปในทันที