“กานต์ฉันรักคุณตายเลย”
ไอราบอกรักออกจากปาก
แววตาของกานต์มีความอบอุ่น รีบดึงมือออกมาพยุงก้นเธอเอาไว้และพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “เพราะสตอร์เบอรี่พวกนี้หรือ?”
“ไม่ใช่ แต่ว่าทำให้ฉันคาดไม่ถึงเลยจริงๆนะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณเป็นคนโรแมนติกขนาดนี้ ฉันคิดว่า……”
“คุณคิดว่านอกจากฉันจะจับปืนและคอมพิวเตอร์เป็นแล้ว ไม่เป็นอย่างอื่นสักอย่างเลยใช่ไหม?”
ไอราพยักหน้า
“เด็กโง่”
ก็โง่ไม่ใช่เหรอ?
บริจาคอวัยวะเพื่อผู้ชายคนนึง ซึ่งไม่เคยเห็นตัวเองอยู่ในสายตาเลย คาดว่าในโลกนี้ หาผู้หญิงที่โง่เหมือนไอราแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วแหละ กานต์หันหลังโดยตรงและกดเธอเอาไว้ที่กำแพง ร่างกายที่เร่าร้อนบวกกับแววตาที่ร้อนแรง ทันทีนั้นทำให้ไอรารู้ตัวว่าท่าทางของตัวเองช่างยวั่ยวนแค่ไหน “คุณ คุณปล่อยฉันนะ”
“ฉันคิดว่าเพื่อเป็นการแสดงคำขอบคุณแล้วคุณจะทำอะไรสักอย่างกับฉัน”
ดวงตาของกานต์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แก้มของไอราแดงโดยไม่รู้ตัว เพียงแต่ว่าคิดถึงกานต์เคยพูดว่าจะให้คืนเข้าหอที่แสนงดงามกับเธอ เธอรวบรวมความกล้าและยื่นมือออกมาโดยตรงแล้วล้วง เข้าไปในเสื้อของกานต์
กล้ามเนื้อที่แน่นปึ๊กทำให้คนกระชุ่มกระชวยหัวใจเหลือเกิน
ไอราหัวเราะอย่างเย้ายวน
“คุณชายกานต์ คุณคิดว่าฉันไม่กล้าจริงๆหรือ?”
“ยินดีอย่างยิ่งครับ”
ครั้งนี้กานต์ไม่ขัดขวาง
ไอราอึ้งเล็กน้อย ตอนนี้ขี่หลังเสือแล้วลงยากเสียแล้ว คงไม่ถึงขั้รนถอยหลังจริงๆหรอกนะ?
มือเล็กๆที่นุ่มนวลและไร้กระดูกค่อยๆลูบไล้อยู่ที่ร่างกายของกานต์แล้วจุดไฟ
ชั่วขณะหนึ่ง แววตาของกานต์เข้มขรึมขึ้นมา ลมฝนที่รุนแรงซึ่งอยู่ข้างในแทบทำลายคนเช่นนั้น
ไอรากลัวอย่างไม่รู้ตัว
จู่ๆกานต์ก้มหน้าอย่างกะทันหัน ริมฝีปากบางๆที่เย็นเจี๊ยบหาที่ที่แม่นยำเจอเสียแล้ว รีบทำการบุกรุกอย่างเร่งด่วน
ไอราแค่รู้สึกว่าใกล้หายใจไม่ออกแล้ว ความรู้สึกที่ถูกความสุขหุ้มเอาไว้ ความรักของคนสองคนที่หวานชื่นขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายแทบจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งคน
เธอเหมือนกับตกลงไปในถ้ำมืด ตกลงไปอย่างไม่ขาดสาย แล้วก็ขึ้นมาจมอยู่ในความสุขกับกานต์ไปจนชั่วนิรันดร์
ระหว่างเบลอๆเหมือนกานต์บังคับให้เธอกลืออะไรลงไปสักอย่าง ไอราไม่ได้คิดมากอาจเป็นน้ำลายของทั้งคู่หรอกมั้ง คิดถึงตรงนี้ แก้มของไอรายิ่งแดงใหญ่เลยยิ่งไปกว่านั้นมีความรู้สึกแบบมึนๆ
เธอช่างอ่อนเสียจริง
ผู้ชายที่ชอบมาโดยตลอด แค่จูบก็เกือบจะทำให้เธอพ่ายแพ้แล้ว วันข้างหน้าหากทำอะไรขึ้นมาจริงๆ เธอก็แย่ล่ะสิ?
มุมปากของไอราค่อยๆยกขึ้นมากลับรู้สึกว่าถ้ำมืดตรงหน้า กลับมืดขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเหมือนกับตกลงไปในเหวลึก อยากยื่นมือจับอะไรสักอย่าง เหมือนกับ การต์จับมือของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา เสียงที่นุ่มนวลมีความยั่วยวน
“นอนเถอะนะ ฉันอยู่เสมอ”
ดวงตาของไอราค่อยๆปิด จากนั้นก็หลับสนิทไปเลยโดยตรง
อุ้มร่างกายที่อ่อนเพลียและตกลงมาของไอรา ความใคร่ของกานต์ก็ค่อยๆจางหายไป
เขาอุ้มเธอวางไว้บนเตียง แล้วจัดผมข้างๆของเธอให้เรียบร้อย มองดูหน้าตาที่สวยสดงดงาม มีความรับผิดชอบอย่างนึง กำลังเกิดขึ้นในใจเป็นคร้ังแรก จากนี้เป็นต้นไป ผู้หญิงคนนี้ให้เขามาปกป้องเอง
กานต์ก้มตัวลงและจูบที่หน้าผากของเธอหนึ่งครั้ง พูดเสียงต่ำว่า “รอฉันกลับมานะ”
พูดจบเขาถอยออกไปโดยตรง
ธเนศพลยืนอยู่ที่นอกประตูขณะที่เห็นกานต์ออกมาหยุดนิ่งไปสักพักแววตาก็สับสนเล็กน้อย
“แกตัดสินใจแล้วจริงๆเหรอ?”
“ครับ”
กานต์พยักหน้า
ธเนศพลเสียใจเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจความหมายของกานต์
“ไปบ้านตระกูลเชาวนภูติครั้งนี้แกอาจจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเลยนะ ยังไงซะ ไอราเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของรมิดากับอรรณพ ตอนนี้ เสียไตไปหนึ่งข้างเพราะแก ความโกรธของพวกเขาไม่น้อยเลยนะ”
“ผมรู้ แต่ว่าผมจำเป็นต้องแบกรับมันเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?หวังแค่ว่าหลังจากผมจากไปแล้วน้าพลสามารถปกป้องความปลอดภัยของไอราได้” “วางใจเถอะ ก่อนที่แกกลับมาฉันจะไม่ให้เธอมีอันตรายเลยแม้แต่นิดเดียว”
ได้ยินการรับปากของธเนศพล กานต์พยักหน้า แล้วยกขาเดินออกไปที่ข้างนอกโดยตรง
สิงหราชรออยู่ที่ข้างนอกแล้ว
“คุณชายกานต์”
“ไปประเทศY”
กานต์พูดแบบนิ่งๆว่าโทรหารมิดาเดี๋ยวนี้
“น้ารมิดา น้าอย่าเพิ่งมาที่เมืองหลวงเลยนะครับ ผมไปหาพวกน้าโดยตรง สำหรับเรื่องของไอรา ผมอยากคุยกับพวกน้าอย่างละเอียด” ได้ยินกานต์พูดเช่นนี้ ทีแรกรมิดาใกล้จะขึ้นเครื่องแล้ว กลับต้องอยู่ที่เดิมต่อ
สำหรับเธอแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ารมิดาแล้ว
กานต์คุยโทรศัพท์เสร็จก็หลับตาเลย จากนั้นก็พิงพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้
เขาพบว่าโลกข้างนอกซับซ้อนกว่าในค่ายทหารมากเลย เรื่องที่ต้องเผชิญก็เสี่ยงกว่าที่ค่ายทหารมากอีกด้วยแต่ว่าไม่เป็นไร สนามรบที่ใหม่เขามั่ นใจว่าจะทำเรื่องพวกนี้ได้ดีอย่างแน่นอน
เครื่องบินเจอกับคลื่นที่รุนแรงเลยสะดุดหนึ่งครั้ง
กานต์ค่อยๆลืมตา มองดูสิงหราชตรงหน้าที่ผอมและตัวเล็กเอ่ยปากแบบนิ่งๆ
“ทำไมต้องมาเป็นผู้ช่วยฉัน?”
สิงหราชอึ้งไปแป๊บนึง รีบพูดว่า “คุณชายกานต์เป็นคนเลือกเอง”
“ที่ฉันถามคือ เธอผู้หญิงตัวคนเดียวปลอมตัวเป็นผู้ชายแล้วมาทำงานบอดี้การ์ดที่ลำบากขนาดนี้”
คำพูดนี้ออกมาปุ๊บ มือของสิงหราชกระตุก จู่ๆเครื่องเอียงเล็กน้อยอย่างกะทันหัน
“ระวังหน่อยนะ ชีวิตของฉันยังอยู่ที่มือของเธอ ในเมื่อฉันเอ่ยปากถามแล้ว แน่นอนรู้มากกว่าที่เธอจินตนาการไว้มากเลยแหละ สิงหราช ข้างกายฉันเอาแค่คนที่ซื่อสัตย์เท่าน้ันนะ”
คำพูดของกานต์ไม่มีขึ้นๆลงๆเลย แม้แต่น้อยกลับทำให้จิตใจของคนกดดันมากมาย
หน้าผากของสิงหราชมีเหงื่อซึมออกมา
เธอคิดว่าตัวเองปกปิดอย่างมิดชิดแล้ว ทำไมถึงถูกเปิดเผยหล่ะ?
กานต์ไม่บีบบังคับเธอ แค่รออย่างเงียบๆ
ผ่านไปนานมาก สิงหราชถึงพูดเสียงต่ำว่า “ขอโทษนะคะ คุณชายกานต์ฉันไม่มีทางแล้วจริงๆ ได้แต่เข้ามาในบ้านตระกูลโตเล็ก ไม่เข้ามาในบ้านตระกูลโตเล็กฉันก็ต้องตาย เพื่อความอยู่รอดฉันยอมลำบากทุกอย่าง เพียงแต่ว่าคุณชายกานต์สบายใจได้เลย ฉันจะไม่ทรยศบ้านตระกูลโตเล็กและจะไม่ทรยศคุณชาย กานต์อย่างเด็ดขาด”
“อยากแก้แค้นไหม?”
เสียงของกานต์มีพลังดึงดูด กลับทำให้สิงหราชสั่นกระตุกไปทั้ตัว
เธออยากแน่นอนอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า…..
“ฉันอยาก แต่ว่าแม่ฉันมีคำสั่งเสีย ห้ามทำร้ายเขา”
นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่ทา ให้สิงหราชทรมานที่สุด
ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีปัญหาในการมีชีวิตอยู่หรอก
“วันหน้ามีโอกาส ฉันจะช่วยเธอ”
กานต์เอ่ยปาก ทำให้สิงหราชตื่นตกใจและประหลาดเล็กน้อยอย่างกะทันหัน
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ขอแค่เธอทำงานดีๆ เธอก็คือน้องชายของฉัน เพียงแต่ว่าเรื่องภายในบริษัทฉันจะให้คนทำกับเธอ”
“คุณชายกานต์ ฉันทำได้อยู่แล้ว ถึงแม้ฉันเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่ว่าด้านความสามารถฉันไม่แพ้ใครเด็ดขาด”
สิงหราชคิดว่ากานต์จะไล่เธอออก และกังวลโดยไม่รู้ตัว
กานต์กลับพูดแบบนิ่งๆว่า “เรื่องของบริษัทใครก็ทำได้หมด แต่ว่ามีภารกิจหนึ่ง มีแค่เธอเท่านั้นที่สามารถทำได้ สิงหราช เราก็ถือว่าเป็นเพื่อนในสนามรบที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่ใช่หรือ?ถ้างั้น ฉันสามารถมอบคนที่สำคัญที่สุดของฉันให้คณุปกป้องได้รึเปล่า?