แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1812 ไม่รู้ว่ามันถูกหรือมันผิด

บทที่ 1812 ไม่รู้ว่ามันถูกหรือมันผิด

ไม่นานสิงหราชก็กลับมา เมื่อเห็นไอรายืนคิดอะไรอยู่ข้างหน้าต่าง ก็เดินเข้าไปปิดหน้าต่างลงอย่างอดไม่ได้

“คุณไอรา ร่างกายของคุณไม่ค่อยแข็งแร็ง กลับไปพักผ่อนเถอะครับ”

“ใครบอกนายว่าร่างกายฉันไม่แข็งแรง?”

ไอราจับสังเกตคำพูดของสิงหราชได้อย่างมีไหวพริบ

สิงหราชเอ่ยพูดอย่างแปลกใจว่า “แล้วไม่ใช่เหรอครับ? ก่อนที่คุณกานต์จะไปเขาทิ้งท้ายว่าร่างกายของคุณไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ จึงให้ผมคอยประกบดูแลคุณไว้”

ไอราหรี่ตาลงเล็กน้อย

ทำไมกานต์พูดอย่างนั้น?

เขารู้อะไรมาหรือเปล่า?

“เขาพูดอะไรอีกไหม?”

“ไม่แล้วครับ บอกแค่ว่าให้ผมตามประกบคุณไอราไม่ให้คาดสายตา”

คำพูดของสิงหราชทำให้ไอราขบคิด

เมื่อเชื่อมโยงเรื่องที่กานต์ไปประเทศYคนเดียว และเรื่องที่น้องชายส่งรูปที่พ่อของเธอลงแส้กับเขามาให้เธอเข้าด้วยกัน แปลว่าเรื่องมันอาจจะเกี่ยวกับเธอก็เป็นได้

หรือว่าจะเป็นเรื่องบริจาคไต!

ไอราพลันนึกมาถึงเรื่องนี้

หรือว่ากานต์จะรู้เรื่องแล้ว เลยไปขอขมาพ่อแม่เธอที่ตระกูลเชาวนภูติคนเดียว?

แค่คิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของไอราก็รู้สึกว้าวุ่นแล้ว

เธออุตส่าห์พยายามปกปิดมาตั้งนานทำไมถึงถูกกานต์รู้เข้าซะแล้วล่ะ?

ปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน?

หรือว่าสายฟ้าไปพูดอะไรกับกานต์?

อารมณ์ของไอราไม่อาจสงบนิ่งได้

“นายออกไปก่อน ฉันอยากอยู่เงียบๆคนเดียว”

“ครับ ถ้าคุณไอรามีเรื่องอะไรเรียกผมได้นะครับ”

สิงหราชถอยออกไป

ไอรายืนกอดอกแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาแมทธิว แต่ว่าปลายสายกลับปิดเครื่อง อารมณ์ของเธอยิ่งขุ่นมัวขึ้นเรื่อยๆ

สิงหราชออกมาไม่ทันไร ก็เห็นร่างกายของใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาอย่างลับๆล่อๆ

“หยุดนะ! ทำอะไรน่ะ?”

สิงหราชเข้าไปขวางอีกฝ่ายได้อย่างทันท่วงที

อีกฝ่ายปล่อยหมัดใส่สิงหราชด้วยความรวดเร็ว จากนั้นทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กัน

“สิงหราช นายไม่อยากแก้แค้นเหรอ? ฉันช่วยนายได้นะ ขอแค่นายช่วยอะไรฉันบางอย่าง”

อีกฝ่ายกดเสียงต่ำคุยกับสิงหราช

สิงหราชพลันนึกถึงคำสั่งทิ้งท้ายของกานต์

เขาพูดว่าในเมื่อเธอเลือกที่จะเชื่อเขาแล้ว ก็ต้องเชื่อเขาตลอด และต้องเชื่อเขาคนเดียว

ความคิดวุ่นวายในหัวของสิงหราชพลันแจ่มชัดขึ้นมา

“แค้นของผมผมแก้เองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครช่วย ในเมื่อคุณพุ่งเป้ามาที่ผม แล้วตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้ว ไม่ทราบว่าจะไปได้หรือยังครับ?”

สิงหราชอยากเห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ แต่ฝ่ายนั้นกลับเผ่นหนีไปไวเหมือนปลาไหล

สิงหราชขมวดคิ้วเมื่อมองตามร่างที่กำลังวิ่งหนี แต่ก็ไม่ได้วิ่งตามไป เธอท่องจำคำสั่งของกานต์ได้อย่างขึ้นใจ ว่าต้องดูแลปกป้องไอราให้ดีๆ

แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวทางนี้ส่งถึงหูของพวกธเนศพล หลายๆคนจึงตรงมาที่นี่ ด้านไอราก็มองมาที่สิงหราชอย่างกังวล

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ แต่ผมปล่อยเขาหนีไปได้”

สิงหราชแอบโทษตัวเอง

ไอรากลับพูดออกมาเสียงเบาว่า “ช่างมัน หนีไปก็เท่านั้น ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องจับตัวคนพวกนี้ได้อยู่แล้ว”

ในตอนที่ทั้งสองกลับมาที่ห้อง จึงพบว่าพวกธเนศพลก็มาที่นี่ด้วย

เรื่องที่ชมพูดถูกวางยาพวกเขาคิดหาทางแก้ไขไม่ได้ เลยมาสอบถามไอรา ว่าเมื่อไหร่รมิดาแม่ของเธอจะมาถึง

จะว่าไปถ้ารมิดาบินมาทันทีที่รับสาย ป่านนี้คงใกล้จะถึงแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมาไม่ถึงสักที ไอราจึงอดที่จะเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้

“ฉันโทรถามแม่ฉันก่อน”

ไอราพูดพร้อมกับกดโทรออกหารมิดา

“แม่ ทำไมแม่ยังไม่ถึงเมืองหลวงอีก?”

“แกยังมีหน้ามาบอกให้ฉันไปเมืองหลวงอีกเหรอ?”

เมื่อรมิดาได้ยินเสียงของไอราก็โมโหไม่ไหว

ยัยเด็กโง่นี่ยังกล้าจองตัวเธอไปตรวจดูอาการให้ชมพูอีกเหรอ ไม่กลัวว่าเธอจะตีตัวเองให้ตายหรือไง?

เมื่อไอราได้ยินเสียงของรมิดา ก็พูดอ้อนๆว่า “ฉันขี้กลัว แม่อย่าพูดเสียงดังสิฉันกลัวนะ”

“แกหัดจริงจังเป็นไหม คอยดูเถอะถ้าไปถึงแล้วฉันจะจัดการกับแกยังไง”

“โอเคๆๆ ว่าแต่แม่จะมาเมื่อไหร่?”

“พรุ่งนี้เช้า กลับไปพร้อมกานต์”

รมิดาพูดกับไอราอย่างเป็นมั่นเหมาะ

ไอราถือโอกาสเอ่ยถามว่า​ “กานต์ไปทำอะไรที่บ้านเรา?”

“ทำไม? กลัวพ่อแกกับน้องชายแกกินหัวเขาหรือไง? นี่ขนาดยังไม่แต่งออกเรือน ก็เริ่มเห่อผู้ชายแล้วเหรอ?”

“แม่——”

ไอราโอดครวญอย่างออดอ้อน จากนั้นก็ได้ยินรมิดาพูดว่า “ไม่ต้องห่วง เอาแค่ที่แกตามจีบกานต์ฝ่ายเดียวมาตั้งหลายปี พ่อก็ไม่ชอบหน้าเขาแล้ว นี่เขายังมาสู่ขอแกอีก จนตอนนี้พ่อแกยังเคืองไม่หายเลย ดูท่าเรื่องแต่งงานแกคงไม่สมหวังหรอก”

“แปลว่าพ่อตีกานต์จริงๆใช่ไหม? แม่ ทำไมแม่ไม่ห้าม? พ่อมือเบาซะที่ไหน ถ้าเกิดกานต์เป็นอะไรไปจะทำยังไง?”

ไอราร้อนใจขึ้นมาในทันที

เมื่อเห็นลูกสาวให้ใจกานต์ทั้งดวงขนาดนี้ รมิดาก็ทั้งรู้สึกสงสารทั้งโกรธปนกันไปหมด

“แกน่ะหุบปากไปเลย เป็นสาวเป็นนาง แต่ไม่มีความกระดากอายเลยสักนิด อีกอย่างแกคิดว่าร่างกายของกานต์จะเป็นอะไรไปง่ายๆเหรอ? แกคิดว่าเขาปวกเปียกเหมือนทำมาจากโคลนหรือไง? เวลาพ่อแกทำอะไรเขารู้ดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ถ้าแกยังเอาแต่โหวกเหวกโวยวายอยู่แบบ ก็อย่าคิดว่าจะได้แต่งงานเลย”

“ไม่เอาๆๆ แม่ แม่ถือซะว่าเมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกันนะ ตอนนี้ฉันอยากแต่งงานกับกานต์ใจจะขาดแล้ว”

ไอราไม่ปกปิดความต้องการครอบครองและความเร่งรีบที่มีต่อกานต์เลยสักนิด รมิดาได้ยินอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมาดี

หลังจากที่วางสาย รมิดาก็เดินมาที่ห้องของกานต์

ซึ่งกานต์ยังคงหลับสนิท

บาดแผลทำให้ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย แมทธิวคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ และคอยใช้มืออังหน้าผากของเขาเพื่อเช็กอุณหภูมิว่าไข้ขึ้นหรือเปล่าเป็นระยะๆ

เมื่อเห็นรมิดาเดินเข้ามา แมทธิวก็รีบลุกขึ้นยืน

“แม่ แม่มาทำไม?”

“เขาเป็นยังไงบ้าง?”

“ตัวร้อนนิดหน่อย แผลน่าจะติดเชื้อ แต่คนแข็งแรงอย่างพี่กานต์ผ่านมันไปได้อยู่แล้ว”

คำพูดของแมทธิวทำให้รมิดาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

“พ่อแกคงยอมรับลูกเขยคนนี้หลังจากลงแส้เสร็จ ว่าแต่แกคิดยังไงกับเรื่องแต่งงานของพี่ใหญ่แก?”

“ผมคิดว่าแค่พี่ใหญ่ชอบก็พอแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง เมื่อก่อนแม่ก็พูดอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ?”

แมทธิวไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้รมิดาถึงได้ลังเล จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้

“แม่ แม่มีแผนอย่างอื่นใช่ไหม?”

“ไม่มี”

รมิดาส่ายหน้าเบาๆ “เมื่อก่อนต่อให้พี่สาวแกตามจีบกานต์แค่ไหนฉันก็ไม่คัดค้าน แต่ว่าตอนนี้เธอถึงกับเอาไตของตัวเองไปให้กานต์ โดยไม่ปรึกษาพวกเราสักคำ ฉันเลยกลัวนิดหน่อย แมทธิว แกว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งรักผู้ชายคนหนึ่งมากจนถึงขั้นนี้ ถ้าหากในอนาคตเกิดเสียใจขึ้นมา จะรับมือกับแรงสะเทือนนี้ได้หรือเปล่า?”

นี่แหละคือเรื่องที่รมิดากังวล

แมทธิวหันไปมองกานต์ที่ัยังอยู่ในห้วงนิทรา จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ผมคิดว่าพี่กานต์ไม่มีทางทำให้พี่ใหญ่ของผมเสียใจแน่ๆ”

“แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขารักไอราอย่างที่ไอรารักเขาจริงๆหรือเปล่านี่นา? บนโลกนี้ความรู้สึกที่ลวงตาคนได้ง่ายที่สุดคือความรัก การที่ไอราทุ่มเททุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับเขาแบบนี้ ไม่รู้ว่ามันถูกหรือมันผิด”

รมิดากังวลเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็ยังเดินเข้าไปดูแผลและทายาให้กานต์อยู่ดี

ไม่นานหลังจากนั้น ไข้ของกานต์ก็ลดลง อาการดีขึ้นมาก เขาจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

หลังจากที่ตื่นเขาก็ตัดสินใจว่าจะกลับประเทศ

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท