แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1819 การมาชอบนายคือเรื่องที่โง่ที่สุดของฉันแล้ว

บทที่ 1819 การมาชอบนายคือเรื่องที่โง่ที่สุดของฉันแล้ว
“โอ๊ย ใครวะ?”
แมทธิวไม่พอใจ เมื่อหันหลังไปก็พบว่าเป็นรมิดาที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขาจึงสะดุ้งทันที
“แม่ แม่ตบหัวผมอย่างนี้เดี๋ยวผมก็โง่หรอก”
“โง่สิดี แกจะได้ไม่ต้องไปพูดพร่ำกับคนอื่นให้มาก”
รมิดาหมดคำจะพูดกับลูกชายคนนี้สุดๆ แต่ไม่รู้ว่าแมทธิวถูกกานต์ซื้อใจไปได้ยังไง
แมทธิวกลับหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “แม่ ผมไม่ได้ถูกพี่กานต์ซื้อใจนะ จริงๆแล้วผมดูออกว่าพี่ใหญ่รู้สึกกับเขายังไง อีกอย่างเขาก็ดีกับพี่ใหญ่ไม่ใช่เหรอ?”
“ทำพี่แกร้องไห้เรียกว่าดีเหรอ?”
รมิดกามองบนใส่ลูกชายคนเล็ก
แมทธิวรีบพูดว่า “นั่นก็เพราะว่าอยากให้พี่ใหญ่ระบายอารมณ์เครียดๆออกมาไง แม่เองก็ดูออกไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าแม่แค่ไม่ยอมรับพี่กานต์เฉยๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว และผมก็คิดว่าถ้าบนโลกนี้ไม่มีพี่กานต์ พี่ใหญ่ก็คงไม่มีความสุขขนาดนี้ สิ่งที่พวกเราต้องการมาตลอดคือการที่พี่ใหญ่มีความสุขไม่ใช่เหรอ?”
รมิดาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา
ผ่านไปสักพักถึงได้พูดขึ้นมาว่า “ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ต้องให้ความสำคัญกับทุกอย่างของพี่แก รู้ใช่ไหม?”
“ผมรู้”
“งั้นแกก็พักผ่อนเถอะ”
รมิดาลุกออกไป
ด้านไอราก็วิ่งมาถึงหน้าห้องกานต์ด้วยใบหน้ากังวลทว่ากลับไม่กล้าเข้าไป
เธอกำชายเสื้อเอาไว้แน่น กังวลจนทำตัวไม่ถูก ในตอนนี้เองกลับได้ยินเสียงไอของกานต์ดังมาจากข้างในห้องเธอจึงเปิดประตูพรวดแล้วเดินเข้าไปหา
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
กานต์ไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไอรา เขาส่ายหน้า ทว่าไม่อาจหยุดอาการคันคอของตัวเองได้ ยังคงไอออกมาอย่างรุนแรง
ไอราวิ่งไปเทน้ำเปล่ามาให้เขา พร้อมกันนั้นก็เตรียมตบหลังให้กานต์เบาๆเพื่อให้เขาหายใจสะดวก มือยังไม่ทันแตะแผ่นหลังก็นึกขึ้นมาได้ว่ากานต์มีแผล
เพราะใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนั้นเธอจึงได้กลิ่นยาล้างแผลจางๆบนตัวของเขา
ไอราอดนึกไปถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ขึ้นมาไม่ได้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าในตอนนี้ควรที่จะรู้สึกอย่างไรดี จึงเอ่ยพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ฉันขอดูแผลบนหลังของนายได้ไหม?”
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่ต้องดูหรอก สองสามวันก็หายแล้ว”
กานต์จับมือของไอราพร้อมกับพูดเสียงเบา แต่กระนั้นก็ยังไอออกมาเหมือนเดิม
ดวงตาของไอราแดงระเรื่อ จากนั้นก็หว่านล้อมให้เขาดื่มน้ำสักหน่อย และกานต์ก็ทำตาม
ชั่วขณะนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วหรือยัง?”
กานต์เป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
ไอราพยักหน้า กระนั้นก็ยังจดจ้องไปที่แผลบนหลังของกานต์
พ่อตัวเองเป็นคนยังไงเธอรู้เป็นอย่างดี และเธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายใส่ใจเธอมากขนาดไหน ดังนั้นในตอนที่ได้รู้ว่ากานต์ไปหาพ่อเธอเพียงลำพังเธอจึงเป็นห่วงมาก แต่ทำไมเธอถึงไม่สนใจบาดแผลของกานต์เป็นสิ่งแรกล่ะ?
ใช่อยู่ที่เธอน้อยใจและเสียใจ แต่ว่ากานต์ควรที่จะสำคัญที่หนึ่งในใจของเธอไม่ใช่เหรอ?
เธอมัวแต่พูดเรื่องบุญคุณ เรื่องความรัก ต่อหน้ากานต์ไปเพื่ออะไรกัน?
และก็เพราะว่าเธอเอาแต่ยึดติดอยู่กับปัญหานี้ ถึงได้หลงลืมบาดแผลของกานต์เป็นปลิดทิ้ง ทำไมเธอเป็นแบบนี้?
เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของไอราที่จ้องมองมาที่ตัวเองไม่ลดละ กานต์จึงถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า “กำลังโทษตัวเองอยู่ใช่ไหม?”
“อืม”
ไอราไม่คัดค้าน เสียงพูดเริ่มขาดห้วง
กานต์ดึงเธอมานั่งบนตัก ลูบหัวเธอแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “ตอนนี้เธอรู้สึกยังไง ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นตอนที่ได้รู้ว่าเธอบริจาคไตให้ฉัน เพราะฉะนั้นการที่เราเอาแต่คิดเล็กคิดน้อยว่ามันคือบุญคุณหรือความรักเธอคิดว่ามันสนุกไหม?”
“ไม่สนุก”
ไอราโอบรอบคอของกานต์เอาไว้ เมื่อเห็นรอยช้ำใต้ตาของเขา ก็นึกถึงคำพูดเหล่านั้นของแมทธิว จึงอดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “เรายังจะเลิกกันอยู่ไหม?”
“แล้วแต่เธอสิ”
กานต์กระตุกมุมปากเล็กน้อย
ไอราในตอนนี้อย่างกับเด็กคนหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าน่าสงสารมากกว่าเดิม
แม้ว่ากานต์จะปล่อยให้ไอราเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่มือของเขาก็วางอยู่บนเอวของไอรา พร้อมกระชับกอดเธอแน่น จนแทบจะรวมร่างกับเธออยู่แล้ว
ด้านไอรากลับไม่สังเกตเห็นจุดนี้ เอ่ยพูดอย่างอัดอั้นว่า “นายก็รู้ ถ้าเป็นเรื่องนายฉันไม่สบายใจและกระวนกระวายตลอด ฉันไม่รู้ว่านายจะชอบฉันตอนไหน จะสนใจฉันตอนไหน เพราะฉันรู้ดีว่าเงื่อนไขที่นายใช้เลือกแฟนมีอะไรบ้าง และฉันก็คุณสมบัติไม่ตรงสักข้อ แต่ตอนที่ได้รู้ว่านายยอมตกลงคบกันฉันฉันดีใจจริงๆนะ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็อดที่จะระแวงไม่ได้ ว่าที่นายยอมรับฉันเป็นเพราะเรื่องบริจาคไตนั้นหรือเปล่า เพราะงั้นฉันถึงกระวนกระวายและคิดไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้ไง และฉันก็มีความสุขมากที่นายทำดีกับฉัน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะนายรู้สึกขอบคุณหรือเปล่าถึงได้ทำอย่างนี้”
“ทุกเรื่องที่ทำให้เธอ ฉันไม่เคยเดือดร้อน”
กานต์จับมือของไอรามาวางตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเอง เอ่ยพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ได้ยินเสียงตรงนี้ไหม? มันเต้นแรงเพราะเธอมาตลอด”
ไอรามองตรงมาที่กานต์ รู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ทั้งงุนงงสับสน
เมื่อกานต์เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ก็พูดยิ้มๆขึ้นมาว่า “ฉันยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะได้รู้ว่าเธอบริจาคไตให้ฉัน ฉันไม่เคยคิดลึกซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราเลย ถึงขั้นคิดว่าฉันไม่ได้รักเธอด้วยซ้ำ แต่พี่ชายฉันเคยพูดประโยคหนึ่งเอาไว้ บางทีเธออาจจะอยากฟัง”
“พูดว่าอะไร?”
ณ ขณะนี้ไอราสูญสิ้นความสามารถในการนึกคิด
กานตเอ่ยออกมาชัดๆทีละคำว่า “พี่ชายฉันพูดว่าแต่ไหนแต่ไรฉันเป็นคนไม่ยอมให้คนนอกมาสร้างความลำบากใจให้ตัวเอง ฉันอาจจะใจดำ และอำมหิต แต่ก็ไม่เคยใช้ความรู้สึกไปให้ความหวังคนที่ตัวเองไม่สนใจ ไอรา ฉันไม่รู้ว่าเธอเข้ามาอยู่ในใจฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ บางทีอาจจะเป็นตอนที่เธอบริจาคไตให้ หรืออาจจะก่อนหน้านั้น ฉันชินกับการมีเธอเดินตามอยู่ข้างหลัง วันไหนที่ไม่ได้เจอเธอฉันก็ไม่สบายใจทั้งวัน คิดไปต่างๆนานาว่าเธอป่วยหรือเปล่า? หรือว่าไปชอบคนอื่นแล้ว? เธอไปตามตื๊อเขาแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า? ในหัวฉันคิดไปมากมายหลายอย่าง ไม่ได้นิ่งๆเหมือนที่แสดงออกเลยสักนิด”
ไอรานิ่งอึ้งไปแล้ว
กานต์ก็ไม่สบายใจ?
กังวลว่าเธอจะไปชอบคนอื่นเหมือนกัน?
คล้ายกับว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เทวดาที่แตะต้องไม่ได้อีกต่อไป แต่เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีเนื้อมีหนัง
เธอหยิกตัวเองแรงๆไปที จากนั้นก็ร้องโอ๊ยออกมาอย่างเจ็บปวด พลอยทำให้กานต์ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะร้องไห้ดี
“เธอโง่หรือไง?”
“ใช่ การมาชอบนายคือเรื่องที่โง่ที่สุดของฉันแล้ว ชีวิตนี้แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลแล้วนะว่าฉันจะไปชอบคนอื่น เพราะว่าการรักใครสักคนมันเหนื่อยกายเหนื่อยใจมากๆเลย แค่รักนายคนเดียวใจฉันก็แตกสลายมากพอแล้ว ฉันจะเอาพละกำลังและเวลาที่ไหนไปชอบคนอื่นอีก? อีกอย่างไอราคนนี้เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ฉัน….อื้อ….”
ไอราพูดยังไม่จบ กานต์ก็จับท้ายทอยของเธอเอาไว้แล้วจูบเธอ
แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท