“โอ๊ย ใครวะ?”
แมทธิวไม่พอใจ เมื่อหันหลังไปก็พบว่าเป็นรมิดาที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขาจึงสะดุ้งทันที
“แม่ แม่ตบหัวผมอย่างนี้เดี๋ยวผมก็โง่หรอก”
“โง่สิดี แกจะได้ไม่ต้องไปพูดพร่ำกับคนอื่นให้มาก”
รมิดาหมดคำจะพูดกับลูกชายคนนี้สุดๆ แต่ไม่รู้ว่าแมทธิวถูกกานต์ซื้อใจไปได้ยังไง
แมทธิวกลับหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “แม่ ผมไม่ได้ถูกพี่กานต์ซื้อใจนะ จริงๆแล้วผมดูออกว่าพี่ใหญ่รู้สึกกับเขายังไง อีกอย่างเขาก็ดีกับพี่ใหญ่ไม่ใช่เหรอ?”
“ทำพี่แกร้องไห้เรียกว่าดีเหรอ?”
รมิดกามองบนใส่ลูกชายคนเล็ก
แมทธิวรีบพูดว่า “นั่นก็เพราะว่าอยากให้พี่ใหญ่ระบายอารมณ์เครียดๆออกมาไง แม่เองก็ดูออกไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าแม่แค่ไม่ยอมรับพี่กานต์เฉยๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว และผมก็คิดว่าถ้าบนโลกนี้ไม่มีพี่กานต์ พี่ใหญ่ก็คงไม่มีความสุขขนาดนี้ สิ่งที่พวกเราต้องการมาตลอดคือการที่พี่ใหญ่มีความสุขไม่ใช่เหรอ?”
รมิดาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา
ผ่านไปสักพักถึงได้พูดขึ้นมาว่า “ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ต้องให้ความสำคัญกับทุกอย่างของพี่แก รู้ใช่ไหม?”
“ผมรู้”
“งั้นแกก็พักผ่อนเถอะ”
รมิดาลุกออกไป
ด้านไอราก็วิ่งมาถึงหน้าห้องกานต์ด้วยใบหน้ากังวลทว่ากลับไม่กล้าเข้าไป
เธอกำชายเสื้อเอาไว้แน่น กังวลจนทำตัวไม่ถูก ในตอนนี้เองกลับได้ยินเสียงไอของกานต์ดังมาจากข้างในห้องเธอจึงเปิดประตูพรวดแล้วเดินเข้าไปหา
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
กานต์ไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไอรา เขาส่ายหน้า ทว่าไม่อาจหยุดอาการคันคอของตัวเองได้ ยังคงไอออกมาอย่างรุนแรง
ไอราวิ่งไปเทน้ำเปล่ามาให้เขา พร้อมกันนั้นก็เตรียมตบหลังให้กานต์เบาๆเพื่อให้เขาหายใจสะดวก มือยังไม่ทันแตะแผ่นหลังก็นึกขึ้นมาได้ว่ากานต์มีแผล
เพราะใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนั้นเธอจึงได้กลิ่นยาล้างแผลจางๆบนตัวของเขา
ไอราอดนึกไปถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ขึ้นมาไม่ได้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าในตอนนี้ควรที่จะรู้สึกอย่างไรดี จึงเอ่ยพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ฉันขอดูแผลบนหลังของนายได้ไหม?”
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่ต้องดูหรอก สองสามวันก็หายแล้ว”
กานต์จับมือของไอราพร้อมกับพูดเสียงเบา แต่กระนั้นก็ยังไอออกมาเหมือนเดิม
ดวงตาของไอราแดงระเรื่อ จากนั้นก็หว่านล้อมให้เขาดื่มน้ำสักหน่อย และกานต์ก็ทำตาม
ชั่วขณะนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วหรือยัง?”
กานต์เป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
ไอราพยักหน้า กระนั้นก็ยังจดจ้องไปที่แผลบนหลังของกานต์
พ่อตัวเองเป็นคนยังไงเธอรู้เป็นอย่างดี และเธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายใส่ใจเธอมากขนาดไหน ดังนั้นในตอนที่ได้รู้ว่ากานต์ไปหาพ่อเธอเพียงลำพังเธอจึงเป็นห่วงมาก แต่ทำไมเธอถึงไม่สนใจบาดแผลของกานต์เป็นสิ่งแรกล่ะ?
ใช่อยู่ที่เธอน้อยใจและเสียใจ แต่ว่ากานต์ควรที่จะสำคัญที่หนึ่งในใจของเธอไม่ใช่เหรอ?
เธอมัวแต่พูดเรื่องบุญคุณ เรื่องความรัก ต่อหน้ากานต์ไปเพื่ออะไรกัน?
และก็เพราะว่าเธอเอาแต่ยึดติดอยู่กับปัญหานี้ ถึงได้หลงลืมบาดแผลของกานต์เป็นปลิดทิ้ง ทำไมเธอเป็นแบบนี้?
เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของไอราที่จ้องมองมาที่ตัวเองไม่ลดละ กานต์จึงถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า “กำลังโทษตัวเองอยู่ใช่ไหม?”
“อืม”
ไอราไม่คัดค้าน เสียงพูดเริ่มขาดห้วง
กานต์ดึงเธอมานั่งบนตัก ลูบหัวเธอแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “ตอนนี้เธอรู้สึกยังไง ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นตอนที่ได้รู้ว่าเธอบริจาคไตให้ฉัน เพราะฉะนั้นการที่เราเอาแต่คิดเล็กคิดน้อยว่ามันคือบุญคุณหรือความรักเธอคิดว่ามันสนุกไหม?”
“ไม่สนุก”
ไอราโอบรอบคอของกานต์เอาไว้ เมื่อเห็นรอยช้ำใต้ตาของเขา ก็นึกถึงคำพูดเหล่านั้นของแมทธิว จึงอดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “เรายังจะเลิกกันอยู่ไหม?”
“แล้วแต่เธอสิ”
กานต์กระตุกมุมปากเล็กน้อย
ไอราในตอนนี้อย่างกับเด็กคนหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าน่าสงสารมากกว่าเดิม
แม้ว่ากานต์จะปล่อยให้ไอราเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่มือของเขาก็วางอยู่บนเอวของไอรา พร้อมกระชับกอดเธอแน่น จนแทบจะรวมร่างกับเธออยู่แล้ว
ด้านไอรากลับไม่สังเกตเห็นจุดนี้ เอ่ยพูดอย่างอัดอั้นว่า “นายก็รู้ ถ้าเป็นเรื่องนายฉันไม่สบายใจและกระวนกระวายตลอด ฉันไม่รู้ว่านายจะชอบฉันตอนไหน จะสนใจฉันตอนไหน เพราะฉันรู้ดีว่าเงื่อนไขที่นายใช้เลือกแฟนมีอะไรบ้าง และฉันก็คุณสมบัติไม่ตรงสักข้อ แต่ตอนที่ได้รู้ว่านายยอมตกลงคบกันฉันฉันดีใจจริงๆนะ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็อดที่จะระแวงไม่ได้ ว่าที่นายยอมรับฉันเป็นเพราะเรื่องบริจาคไตนั้นหรือเปล่า เพราะงั้นฉันถึงกระวนกระวายและคิดไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้ไง และฉันก็มีความสุขมากที่นายทำดีกับฉัน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะนายรู้สึกขอบคุณหรือเปล่าถึงได้ทำอย่างนี้”
“ทุกเรื่องที่ทำให้เธอ ฉันไม่เคยเดือดร้อน”
กานต์จับมือของไอรามาวางตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเอง เอ่ยพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ได้ยินเสียงตรงนี้ไหม? มันเต้นแรงเพราะเธอมาตลอด”
ไอรามองตรงมาที่กานต์ รู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ทั้งงุนงงสับสน
เมื่อกานต์เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ก็พูดยิ้มๆขึ้นมาว่า “ฉันยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะได้รู้ว่าเธอบริจาคไตให้ฉัน ฉันไม่เคยคิดลึกซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราเลย ถึงขั้นคิดว่าฉันไม่ได้รักเธอด้วยซ้ำ แต่พี่ชายฉันเคยพูดประโยคหนึ่งเอาไว้ บางทีเธออาจจะอยากฟัง”
“พูดว่าอะไร?”
ณ ขณะนี้ไอราสูญสิ้นความสามารถในการนึกคิด
กานตเอ่ยออกมาชัดๆทีละคำว่า “พี่ชายฉันพูดว่าแต่ไหนแต่ไรฉันเป็นคนไม่ยอมให้คนนอกมาสร้างความลำบากใจให้ตัวเอง ฉันอาจจะใจดำ และอำมหิต แต่ก็ไม่เคยใช้ความรู้สึกไปให้ความหวังคนที่ตัวเองไม่สนใจ ไอรา ฉันไม่รู้ว่าเธอเข้ามาอยู่ในใจฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ บางทีอาจจะเป็นตอนที่เธอบริจาคไตให้ หรืออาจจะก่อนหน้านั้น ฉันชินกับการมีเธอเดินตามอยู่ข้างหลัง วันไหนที่ไม่ได้เจอเธอฉันก็ไม่สบายใจทั้งวัน คิดไปต่างๆนานาว่าเธอป่วยหรือเปล่า? หรือว่าไปชอบคนอื่นแล้ว? เธอไปตามตื๊อเขาแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า? ในหัวฉันคิดไปมากมายหลายอย่าง ไม่ได้นิ่งๆเหมือนที่แสดงออกเลยสักนิด”
ไอรานิ่งอึ้งไปแล้ว
กานต์ก็ไม่สบายใจ?
กังวลว่าเธอจะไปชอบคนอื่นเหมือนกัน?
คล้ายกับว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เทวดาที่แตะต้องไม่ได้อีกต่อไป แต่เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีเนื้อมีหนัง
เธอหยิกตัวเองแรงๆไปที จากนั้นก็ร้องโอ๊ยออกมาอย่างเจ็บปวด พลอยทำให้กานต์ไม่รู้ว่าจะขำหรือจะร้องไห้ดี
“เธอโง่หรือไง?”
“ใช่ การมาชอบนายคือเรื่องที่โง่ที่สุดของฉันแล้ว ชีวิตนี้แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลแล้วนะว่าฉันจะไปชอบคนอื่น เพราะว่าการรักใครสักคนมันเหนื่อยกายเหนื่อยใจมากๆเลย แค่รักนายคนเดียวใจฉันก็แตกสลายมากพอแล้ว ฉันจะเอาพละกำลังและเวลาที่ไหนไปชอบคนอื่นอีก? อีกอย่างไอราคนนี้เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ฉัน….อื้อ….”
ไอราพูดยังไม่จบ กานต์ก็จับท้ายทอยของเธอเอาไว้แล้วจูบเธอ