แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1822 นายไม่รู้สึกอะไรกับฉันสักนิดเลยเหรอ

บทที่ 1822 นายไม่รู้สึกอะไรกับฉันสักนิดเลยเหรอ
“กานต์ ช่างมันเถอะ”
ไอราจับแขนของกานต์เอาไว้
กานต์เห็นท่าทีเป็นกังวลของไอรา แววตาจึงเปล่งประกายความอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย พูดขึ้นเบาๆ “ช่างมันไม่ได้ นี่เป็นไตที่ฉันหามาให้เธอ ใครหน้าไหนก็ไม่มีคุณสมบัติแล้วก็ไม่มีสิทธิ์แย่งไปทั้งนั้น เชื่อฉันรอฉันกลับมานะ”
“ฉันจะไปกับนายด้วย”
ไอรากังวลใจ หวาดกลัว เธอรู้ว่ากานต์เก่ง แต่ก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้
ถ้าเป็นแต่ก่อน กานต์คงไม่ปฏิเสธแน่ๆ แต่ตอนนี้สุขภาพของไอราแย่มาก แม้เธอจะเก็บซ่อนเรื่องนี้อย่างเต็มที่มาโดยตลอดก็ตาม
กานต์ลูบผมของเธอ พูดเบาๆ “เชื่อฉัน รอฉันกลับมานะ”
คำพูดนี้ทำให้ไอรารู้แล้วว่าการตัดสินใจของเขาคืออะไร แววตาของเธอผิดหวัง
ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถตามกานต์ไปได้ ตอนนี้สำหรับกานต์แล้ว ไม่รู้เลยว่าตนเองถือเป็นภาระของเขาหรือเปล่า ไอรารู้เพียงแค่ ถ้ามีโอกาสที่ต้องเลือกอีกครั้ง เธอก็ยังคงไม่ลังเลที่จะตัดสินใจเหมือนเดิม เพราะการได้รักเขากลายเป็นความเคยชินไปแล้ว
“ก็ได้ นายต้องไม่เป็นไรนะ ฉันจะรอนายกลับมา”
ไอราไม่ได้อ้อนวอนต่อไป
ในเมื่อกานต์รู้สึกว่าเธอไม่เหมาะที่จะไปกับเขา งั้นเธอก็จะรอเขาอยู่ที่นี่อย่างสงบ ถึงเธอจะร้อนรนกระวนกระวาย ถึงเธอจะเป็นห่วงเขาเหลือเกิน
กานต์รู้ว่าจริงๆในใจของไอราก็ทนไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาต้องมีเหตุผลให้มากขึ้น เพราะรู้ว่าถ้า ไอราออกไปก็ต้องแบกรับกับความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนี้เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย
หลังจากเขามองไอราอย่างลึกซึ้งแล้วก็ก้าวเท้าเดินออกไป กิจจาถึงได้เดินตามหลังเขาออกไปจากห้อง
กิจจาเห็นกานต์เดินเร็วมาก จึงขมวดคิ้ว พูดขึ้น “ไม่พาเธอไปด้วยจริงๆเหรอ? จริงๆสุขภาพของเธอในตอนนี้ยังไหวอยู่นะ”
“ผมไม่หวังให้เธอเกิดเรื่องใดๆขึ้นเลย อยู่ที่นี่มีคนของเขตทหาร มีคนของตระกูลเชาวนภูติ แล้วยังมีแม่กับน้องชายของเธออีก ที่นี่ปลอดภัยจนทำให้ผมไม่ต้องกังวล พี่ใหญ่ คนๆนั้นไปทางไหน?”
กานต์เดินมาถึงทางเข้า จึงหันกลับไปมองกิจจา
กิจจาชี้ๆไปทางด้านข้าง พูดขึ้น “พี่ก็เห็นไม่ชัดมาก แต่น่าจะเป็นทางนี้ ไม่งั้นนายรอให้คนของเขตทหารตรวจสอบผลลัพธ์ออกมาก่อนแล้วค่อยตัดสินใจไหม?”
“ไม่ต้องหรอก ไตของไอรารอไม่ได้”
กานต์พูดจบก็เดินออกไปทางที่กิจจาชี้ทันที
เขาเดินไปด้วยความรีบร้อน จึงไม่เห็นความรู้สึกซับซ้อนในแววตาของกิจจา ที่แวบขึ้นมาแล้วหายไปในทันที
คนของเขตทหารก็กำลังสืบสวนเรื่องราว ทั้งโรงพยาบาลทหารโดนประกาศเคอร์ฟิวแล้ว
กานต์ไล่ตามออกไปไกลระยะหนึ่งแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ
เขาจึงหยุดฝีเท้าลง
แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้ก่อการร้ายที่มีความสามารถในการหลบหลีกการติดตามมากมาย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พบร่องรอยใดๆเลย
กานต์ขมวดคิ้วแน่น กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ส่วนทางด้านนี้ กิจจากลับมาที่ห้องทำงาน เพิ่งจะเปิดประตูก็โดนใครบางคนจ่อกริชเข้ามาที่คาง
“ฉันเอง”
กิจจาไม่ได้แสดงท่าทีตกใจสักนิด ราวกับกริชที่อยู่ใต้คางนั้นทำมาจากกระดาษ ไม่มีท่าทีที่โดนข่มขู่คุกคามเลย เขาเดินเข้าไปอย่างทะนงตัว
อีกฝ่ายรีบเก็บกริชลงมา มองกิจจาแล้วขมวดคิ้วแน่นพูดขึ้น “นายไม่กลัวตายเลยหรือไง? ถ้าฉันถือไว้ไม่มั่นคง นายคงโดนฉันตัดคอไปแล้ว”
“ตายก็ตายสิ เรื่องที่ฉันทำทั้งหมดตอนนี้แตกต่างจากตายไปแล้วยังไงเหรอ?”
แววตาของกิจจาสงบจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด
อีกฝ่ายกำลังกัดริมฝีปากมองกิจจา ราวกับมีคำพูดมากมายที่อยากพูด แต่สุดท้ายกลับระงับเอาไว้ทั้งหมด
เธอถอดที่คลุมหัว เปิดเผยผมหยักศกสีน้ำตาลออกมา ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นเหมือนมาพร้อมกับเสน่ห์มัดใจ ทำให้คนที่ได้เห็นละสายตาไม่ได้เลย
สำหรับความงดงามของเธอกิจจาไม่สนใจสักนิด เดินไปที่หลังโต๊ะเปิดลิ้นชักหยิบตั๋วเรือใบหนึ่งออกมาทันที พูดอย่างเมินเฉย “ฉันช่วยได้แค่นี้ รีบไปเถอะ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลโตเล็กก็ดี หรือคนของเขตทหารก็ตาม เธอต่อกรกับพวกเขาไม่ได้หรอก ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเธอ ตั้งแต่นี้ต่อไปเราสองคนไม่เกี่ยวข้องกันอีก”
แววตาของหญิงสาวยากที่จะเข้าใจ เธอมองกิจจา พยายามมองหามิตรภาพเพียงเล็กน้อยจากบนใบหน้าของเขา แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเลย
เธอพูดขึ้นอย่างไม่ยินยอม “นายไม่มีความรู้สึกกับฉันสักนิดเลยเหรอ?”
“ไม่มี”
“ในเมื่อไม่มี นายจะช่วยฉันทำไม? เพราะฉันเคยช่วยนายไว้งั้นเหรอ? กิจจา ฉันเอาไตของน้องสะใภ้นายมา นายไม่กลัวทะเลาะกับน้องชายจนกลายเป็นศัตรูกันเพราะเรื่องนี้เหรอ?”
“ไสหัวไป! ให้ไว เดี๋ยวนี้!”
แววตาของกิจจาเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
หญิงสาวคิดว่ากิจจาเป็นคนสุภาพมาโดยตลอด ถึงขั้นที่ไม่เคยเห็นเขาระเบิดอารมณ์ใส่ใครมาก่อน แต่ตอนนี้ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ถึงกับเหมือนธนูน้ำแข็งที่ยิงไปหาเธอ ทำให้เธอขดตัว ตัวสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้
กิจจาในตอนนี้เป็นคนแปลกหน้า เป็นคนที่น่าหวาดกลัว ทำให้เธอไม่กล้าเข้าใกล้
หญิงสาวจึงกอดกล่องที่อยู่ในมือ สุดท้ายก็มองกิจจาอีกครั้ง แล้วกระโดดออกไปทางหน้าต่าง
หลังจากหญิงสาวออกไปแล้วกิจจานั่งลงไปบนเก้าอี้ ฝ่ามือกับแผ่นหลังมีเหงื่อโซกเต็มไปหมด
ตอนที่เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามือยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำร้ายคนในครอบครัว แม้ไอราจะยังไม่ถือเป็นคนของตระกูลโตเล็ก แต่ท้ายที่สุดก็ต้องแต่งงานกับกานต์
แต่เขากลับช่วยเหลือคนนอกที่แตะต้องไตของน้องสะใภ้
ดวงตาของกิจจาราวกับโดนน้ำหมึกสะบัดลงไปอย่างนั้น เขาที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนเลยไม่นึกว่าจะหยิบบุหรี่ออกมาจุด พยายามดูดได้สองคำ ก็สำลักจนไอออกมาไม่หยุด
เขาวางบุหรี่ลง นิโคตินทำให้อารมณ์ของเขากลับมาเป็นปกติได้ชั่วคราว เขาแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรไปหาคนของตลาดมืด
“ฉันต้องการไต เหมือนที่ฉันต้องการคราวก่อน ไม่ว่าราคาเท่าไหร่ ฉันก็เอาทั้งนั้น แต่ต้องเร็ว!”
ทางด้านตลาดมืดตะลึงไปชั่วครู่ แต่ทว่าไม่ได้พูดอะไร บอกตัวเลขไปในทันที หลังจากกิจจาวางโทรศัพท์แล้วก็โอนเงินไปให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าที่ด้านหลังมีคนจ้องมองตนเองอยู่
“ใคร?”
กิจจาหันไปทันที ก็เห็นกานต์ยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่างฝรั่งเศส ไม่รู้ว่าอยู่มานานแค่ไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าได้ยินอะไรไปบ้าง ถึงยืนอยู่ที่มุมมืดของหน้าต่างฝรั่งเศสอย่างนั้น แต่ทว่าสายตากลับทำให้กิจจารู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากๆ
“นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่ส่งเสียงเลย?”
ใจของกิจจาค่อนข้างกระวนกระวาย ทว่าพยายามควบคุมเอาไว้อย่างเต็มที่ เขารินน้ำแล้วดื่มเข้าไป แต่กลับยังคงหมดหนทางจะเผชิญหน้ากับสายตาของกานต์
กานต์ที่เห็นทุกอย่าง ค่อยๆเดินออกมาจากมุมมืด
น้อยมากที่เขาจะมองกิจจาอย่างจริงจังเช่นนี้
ด้วยอายุที่โตขึ้น จริงๆแล้วเขากับกิจจายิ่งโตยิ่งหน้าเหมือนกัน ออกไปข้างนอกถ้าบอกว่าเป็นแฝดกันก็มีคนเชื่อ
กานต์ไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชายแท้ๆของตนเองจะทำเรื่องอย่างนี้ออกมา
ผลลัพธ์อย่างนี้โจมตีเขาอย่างรุนแรง เขาถึงกับลังเลว่าควรเดินออกมาหรือเปล่า ควรให้กิจจารู้ว่าตนเองเคยมาที่นี่หรือเปล่า แต่สมองกลับเหมือนหยุดทำงานไปแล้ว จนปัญญาที่จะควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้
“ทำไม?”
เสียงของกานต์ค่อนข้างแหบพร่า เขาจ้องมองกิจจา ราวกับส่งวิญญาณของตนเองเข้าไปต้อนให้จนมุม ทำให้กิจจาไม่สามารถสบตาได้
แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท