“คุณหมอรมิดา ฉันมาเป็นลูกมือของคุณได้ไหมคะ?”
เสียงของณิตาใสราวกับนกกระจิบ ทำให้คนฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
สำหรับณิตารมิดาก็ยังคงรู้สึกคุ้นเคย แม้จะบอกว่าในประเทศไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่หลายปีมานี้ในต่างประเทศเป็นถึงบุคคลที่มีอิทธิพลแห่งยุคสมัยในวงการแพทย์ มีแววบางอย่างแบบตนเองในปีนั้นมาก
“คุณณิตามาเป็นลูกมือฉันถือว่าใช้คนเก่งไม่ค่อยสมกับความสามารถเลย”
รมิดาหัวเราะสบายๆ ดูเป็นกันเองอย่างยิ่ง
ณิตาก็หัวเราะพร้อมกับเอ่ยขึ้นเช่นเดียวกันว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันได้รับการไหว้วานจากคนอื่น ก็จำเป็นต้องทำให้สำเร็จอย่างเต็มที่”
รมิดาชะงักเล็กน้อย คิดถึงความสัมพันธ์พี่ชายน้องสาวของกิจจาและณิตา อดไม่ได้ที่จะเข้าใจขึ้นมา
“งั้นก็ลำบากแล้ว”
“นี่คือแหล่งไตของรุ่นพี่ทางนั้นที่ส่งมา หากสภาพของไอราพร้อมล่ะก็ พวกเราก็เริ่มกำหนดแผนการกันเถอะค่ะ”
“ได้”
รมิดาไม่ได้คัดค้านในสิ่งนี้ ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกสาวที่ตนเองรักมากที่สุด
ณิตากับรมิดาไปแล้ว หน้าที่ปลุกไอราให้ตื่นก็ต้องตกไปที่แมทธิวเป็นธรรมดา แต่ว่าคิดถึงความหวานของคนสองคนที่อยู่ด้านใน แมทธิวคิดว่ายังไงตัวเองก็อย่าก็ทำตัวเป็นคนที่น่ารังเกียจอย่างนั้นเลย อยู่เงียบๆคนเดียวบนระเบียงทางเดินก็ดีเหมือนกัน
ในวินาทีที่พวกเขาเข้ามากานต์ก็ตื่นแล้ว เพียงแต่เหมือนถูกจับได้คาเตียง รู้สึกทำตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก ก็เลยแกล้งหลับไปจนถึงที่สุด
ถึงอย่างไรคนที่เข้ามาก็เป็นว่าที่แม่ยายและน้องเมียของตนเอง ก็ไม่ใช่คนนอก
เขาคิดเช่นนี้การแกล้งหลับก็แกล้งอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติเป็นธรรมดา เพียงแต่มือที่โอบไอราเอาไว้คลายลงเล็กน้อย
ไม่มีทางเลือก ต่อหน้าแม่ยายเขายังไม่กล้าสนิทสนมกับไอรามากเกินไปจริงๆ
ไอรานอนอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกมือที่บริเวณเอวคลายลงเล็กน้อย ส่งเสียงร้องเล็กๆออกมาโดยจิตใต้สำนึก ขายาวพาดไป ชั่วพริบตาคร่อมอยู่ที่ส่วนกลางระหว่างลำตัวของกานต์
กานต์รู้สึกเลือดพลุ่งพล่านจนไหลย้อนกลับขึ้นมาในทันที
กานต์ไม่กล้าแกล้งหลับอีกต่อไป รีบนำขาออกไอราออก จะลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความรวดเร็ว กลับได้ยินไอราพึมพำออกมาประโยค “อย่าไป!นอนต่ออีกหน่อย” จากนั้นแขนของเธอก็ล้อมเอวกานต์เอาไว้อีกครั้ง
กานต์หน้าแดงขึ้นมา
หากเป็นเพียงแค่พวกเขาสองคนก็ช่าง ตอนนี้ด้านนอกทั้งแม่ยายทั้งน้องชายเมีย ท่าทางและการเคลื่อนไหวนี้ของไอราช่างทรมานคนจริงๆ
กานต์อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปบีบจมูกของไอราเอาไว้
ไม่นานนัก ไอราก็กลั้นหายใจจนสีหน้าเริ่มแดง ร้องตะโกนเสียงดังออกมา ปัดมือฝ่ามือของกานต์ทิ้ง หอบหายใจคำใหญ่ จากนั้นเอ่ยถามด้วยใบหน้ามึนงงว่า “เกิดอะไรขึ้น? ฉันรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้หายใจไม่ออกแล้ว”
กานต์แสร้งอย่างสงบเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง มองดูไอราแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยว่า “เธอกำลังฝัน”
“หา?“
ไอรามึนงงเล็กน้อย
ฝัน?
ตัวเธอเองทำไมไม่รู้สึกล่ะ?
เมื่อครู่นี้รู้สึกว่ามีคนบีบจมูกของเธอเอาไว้แท้ๆ
เธอมองดูกานต์ด้วยความสงสัย
กานต์กลับเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งเฉยว่า “เธอคิดว่าฉันกำลังพูดโกหก?”
ดวงตาของเขาแคบลึกดำมืด ไอรารู้สึกขลาดกลัวขึ้นมาในทันที
หรือว่าตัวเธอเองเมื่อครู่นี้กำลังฝันจริงๆ?
แต่ว่าทำไมรู้สึกจมูกค่อนข้างเจ็บ?
เธอลูบจมูกเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ย “แปลก จมูกทำไมเจ็บล่ะ?”
“เธอไม่นอนดีๆ ชนเข้ากับหลังของฉันแล้ว ไม่งั้นเธอนึกว่าฉันจะตื่นได้ยังไงกัน?”
กานต์โกหกต่อไปอย่างหน้าตาเฉย
ไอราได้ฟัง ก็รู้สึกเกรงใจขึ้นมาในทันที
“จริงหรอ?”
“ฉันมีความจำเป็นต้องโกหกเธอ?”
ในขณะที่กานต์กำลังพูดก็ได้ลงจากเตียง อีกทั้งเริ่มจัดการเสื้อผ้าของตนเอง
ไอรามองดูท่าทางที่หล่อเหลาเป็นธรรมชาติของเขา คิดถึงว่าตนเองตามจีบผู้ชายคนนี้มายี่สิบปี และเขาเฉยเมยมาโดยตลอด กลัวว่าจะเป็นตนเองที่ลงไม้ลงมือกับเขามั่วๆตามความปรารถนาที่มีทั้งหมดในความฝันถึงได้โดนจมูกเข้าจริงๆ?
ในใจของเธอยังคงกำลังคาดเดาอยู่ กานต์ไปที่ห้องน้ำแล้ว เสียงในลำคอที่ไพเราะก็สะท้อนเข้ามาในทันที
“รีบจัดการตัวเองหน่อย แม่กับน้องชายของเธอเมื่อครู่นี้ต่างก็เข้ามากันแล้ว”
“หา?”
ไอราพอคิดถึงท่าทางที่ตนเองนอนถูกรมิดากับแมทธิวเห็นเข้าแล้ว ในใจก็เต้นตึกตัก
จบเห่แล้ว
ท่าทางที่เธอกับกานต์กอดกันนอนถูกแม่เห็นแล้ว อีกสักครู่ไม่แน่จะต้องถูกบ่นอีก
ไอราลุกขึ้นวิ่งไปห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
เป็นการตอบสนองโดยจิตใต้สำนึกของเธอล้วนๆ จนกระทั่งผลักประตูห้องน้ำให้เปิดออกถึงได้พบกานต์กำลังรองน้ำ คนทั้งคนยืนค้างอยู่ตรงนั้นราวกับถูกทุบจนมึน สายตามองไปทางที่ๆกานต์รองน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ
ท่าทางการรองน้ำของกานต์ชะงักเล็กน้อย เสียงน้ำหยุดไหล สีหน้าถูกเติมด้วยคลื่นความร้อนเล็กน้อย
ไอรากลับยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับคืนมา มองดูเจ้าสัตว์ที่ใหญ่มหึมานั่น ในสมองมีเพียงความคิดเดียว
ใหญ่กว่าตอนเด็กๆเยอะมากจริงๆด้วย
กานต์เห็นไอรายืนมองอยู่ตรงนั้นตลอด ใบหูก็แดงขึ้นมา เสียงก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองว่า “ดูพอแล้วหรือยัง? ดูพอแล้วก็ออกไป!”
ในใจของเขาโอดครวญ
แฟนคนนี้มีความชอบอะไรกัน?
มักจะชอบถลันเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้สักรอบตอนที่เขาเข้าห้องน้ำอยู่ หรือว่าไม่กลัวเขาตกใจจนเกิดเป็นโรคอะไรออกมา?
แต่ว่าคิดส่วนคิด ร่างกายกลับเป็นเพราะการพุ่งชนเมื่อสักครู่นี้ของไอราเดือดขึ้นมา แอบควบคุมเอาไว้ไม่อยู่
หลังจากที่ไอราถูกดุจนในที่สุดก็ได้สติกลับคืนมา ใบหน้าเพียงครู่เดียวก็แดงจนมาถึงลำคอ จากนั้นหมุนตัวแล้ววิ่งไปด้วยความรวดเร็ว ถึงขั้นเหวี่ยงประตูห้องน้ำจนเสียงดังลั่นฟ้า แม้กระทั่งบานประตูก็ยังสั่นอยู่หลายที
กานต์รู้สึกว่าตนเองไม่ได้ถูกเธอทำให้ตกใจจนกลายเป็นคนที่ใช้การไม่ได้เป็นเพราะพลังใจและความสามารถในการยอมรับของตนเองแกร่งกล้าจริงๆ
หลังจากที่ไอราออกมา เสียงรองน้ำด้านในก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ใบหน้าของไอราถูกเผาหนักยิ่งกว่าเดิม
เธอๆๆ…
เธอยังจะเจอคนได้ยังไงอีก!
ไอราอายจนสวมรองเท้าหยิบเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกไปในทันที จากนั้นวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยของชมพูภายในอึดใจเดียว พูดหนึ่งประโยคภายใต้สายที่ค่อนข้างประหลาดใจของชมพูว่า“ยืมห้องน้ำเธอใช้หน่อย” จากนั้นก็วิ่งเข้าไป ปิดประตูดัง“ปัง”ทั้งยังล็อดประตู
ชมพูสภาพใบหน้ามึนงง
เช้าตรู่มาเข้าห้องน้ำที่ห้องเธอ?
หากเธอจำไม่ผิด ห้องที่ไอราเปิดเป็นถึงห้องเดี่ยว อีกทั้งยังเป็นVIP ทำไมห้องน้ำสักห้องก็ยังไม่มี?
เพียงแต่เธอยังไม่ได้พูดอะไร ก็ได้ยินไอราเอ่ยขึ้นอย่างอุดอู้ “อย่าถาม อย่าพูดกับฉัน ฉันอยากอยู่เงียบๆ”
ชมพูปากกระตุกขึ้นมาในทันที
“เธออยากเงียบๆฉันไม่สน แต่ทางที่ดีที่สุดเธอเร็วหน่อย เพราะว่าฉันปัสสาวะเร่งด่วน”
ชมพูเอ่ยขึ้นอย่างกลัดกลุ้ม
ความสัมพันธ์ของเธอกับไอราไม่ได้ดีขนาดนั้นมั้ง?
ถึงขั้นมาแย่งห้องน้ำที่ห้องของเธอแต่เช้าตรู่?
ช่างไม่เป็นความจริงเอาเสียเลย!
ไอรากลับในตอนที่ได้ยินคำว่าปัสสาวะเร่งด่วนสองคำนี้ในสมองปรากฏภาพสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มหึมาของกานต์ขึ้นมาอีกครั้ง
WTF!
เธอรู้สึกตัวเองจะบ้าอยู่แล้ว
ไอราสาดน้ำเย็นเข้าที่ใบหน้าตนเองด้วยความรวดเร็ว พยายามลดอุณหภูมิใบหน้านั้นที่แทบกำลังจะติดไฟขึ้นมา กลับได้ยินด้านนอกดังสะท้อนเสียงฝีเท้าเข้ามา เสียงของนะโมก็ดังสะท้อนตามมาด้วย
“ชมพู ทำไมเธอยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำไม่เข้าไปล่ะ?”
คำพูดนี้ออกมา ไอราก็กลัดกลุ้มในทันที
เธอควรจะอธิบายยังไง? แล้วชมพูจะพูดอะไรอีก?