แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1832 คิดถึงเธอแล้ว

บทที่ 1832 คิดถึงเธอแล้ว
“อยากดูให้เต็มตาจริงๆเหรอ?”
จู่ๆร่างกายของทั้งสองคนก็แนบสนิทกันอย่างไร้รอยต่อ หน้าของไอราแดงขึ้นมาทันที ส่วนณิตาก็ไอออกมาได้ถูกเวลาพูดขึ้น “ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นส่วนเกิน งั้นฉันจะออกไปก่อนแล้วกัน อีกเดี๋ยวถ้ากานต์จะไปแล้วเรียกฉันนะ”
พูดจบณิตาก็ไม่สนใจการส่งสัญญาณของไอราแล้ว หนีออกไปทันที
สิงหราชก็ถอยออกไปอย่างเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา
ตอนนี้มีกานต์อยู่ ความปลอดภัยของไอราจึงมีหลักประกันไปโดยปริยาย
ชั่วพริบตาในห้องก็เหลือแค่พวกเขาสองคน
ไอราพอจะได้ยินเสียงหัวใจของตนเองมันเต้นเร็วจนเหมือนจะทะลุออกมานอกร่างกายอยู่แล้ว และความอบอุ่นบนร่างกายของกานต์ในตอนนี้ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
จู่ๆก็ถามขึ้นอย่างร้อนรน “บอกว่าไม่มีเวลาเข้ามาไม่ใช่เหรอ?”
“คิดถึงเธอแล้ว”
คำพูดนี้ของกานต์ทำให้ไอราตะลึงเล็กน้อย แล้วตามมาด้วยความสุขที่โผล่เข้ามาในก้นบึ้งของหัวใจ
“ไม่นึกว่านายจะยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิง ทำให้ฉันแปลกใจมากจริงๆ”
แต่กานต์กลับพูดอย่างเมินเฉย “แค่พอจะทำให้ได้เจอเธอ ไม่ต้องพูดถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงหรอก ให้ฉันแก้ผ้าฉันก็ไม่ใส่ใจ”
ในหัวของไอราจึงนึกถึงร่างกายที่เปลือยเปล่าของกานต์ขึ้นมาทันที
“ไม่ได้!”
“ห๊ะ?”
“ห้ามแก้ผ้า นั่นเป็นสวัสดิการของฉันนะ”
ถึงไอราจะหน้าแดงสุดๆ แต่เธอยังคงจดจ้องไปที่กานต์ ราวกับว่าต่อให้ต้องตายก็ต้องได้รับคำตอบ
จู่ๆกานต์ก็ยิ้มออกมา
เพราะการแต่งหน้า แค่เขายิ้มออกมาก็สวยเกินต้านสุดๆเลย ทำให้ไอราเคลิบเคลิ้ม มองเขาอย่างใจลอยไม่พูดไม่จาอยู่นาน
ความอึดอัดที่กานต์ต้องสวมชุดผู้หญิงนั้นในที่สุดก็สลายหายไปหมดแล้ว
“สวยไหม?”
“สวย”
“ถ่ายรูปคู่กันไหม?”
“เอาสิ”
ไอรารีบหามือถือ
กานต์เห็นท่าทางเบิกบานของเธอ จึงอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม
เขาชอบมองไอราที่เป็นอย่างนี้ที่สุดเลย
ตอนที่ไอราหยิบมือถือมา กำลังโอบคอของกานต์แล้วมองไปที่กล้อง ในวินาทีที่เธอกดชัตเตอร์ กานต์ก็จุ๊บลงไปที่แก้มของเธอทันที
เสียงแชะทำให้ไอราได้สติกลับมาเล็กน้อย มองรูปที่อยู่ในจออีกครั้งไม่อยากจะตื่นเต้นเกินไปจริงๆ
“ถ้าแม่ฉันเห็นเข้า นายต้องตายแน่ๆ”
แต่กานต์กลับยิ้ม ทว่าเขาไม่พอใจแค่จุ๊บที่แก้มหรอก จึงกดไอราไปบนกำแพงแล้วจูบลงไปทันที
ไอราก็คิดถึงกานต์แล้ว ตอนที่เห็นเขาปลอดภัยดีความกังวลในช่วงนี้ในที่สุดก็คลายกังวลลงได้ เธอโอบคอของเขาไว้แน่น ตอบสนองกลับไปอย่างเร่าร้อน
กานต์เกือบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ในวินาทีสุดท้ายเขาจึงปล่อยไอราออก
“ผ่าตัดอย่างปลอดภัยนะ รอเธอฟื้นตัวดีแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด”
ภายในดวงตาเรียวยาวที่น่ามองของกานต์มีแต่การรุกรานและความเป็นเจ้าของ
นี่เป็นครั้งแรกที่ไอราได้สบเข้ากับแววตาที่ปรารถนาของเขาอย่างตรงไปตรงมา ยิ้มพูดขึ้น “รอให้ฉันฟื้นตัวดีแล้ว จะยอมให้นายเล่นให้เต็มที่เลย”
“นี่เธอพูดเองนะ ถึงตอนนั้นอย่ามาอ้อนวอนล่ะ”
“ใครจะเป็นคนอ้อนวอนยังไม่แน่นอนหรอก”
ทั้งสองคนกำลังต่อปากต่อคำกัน แต่กลับอิงแอบกันอย่างแนบแน่น
กานต์ลูบผมยาวๆของไอรา พูดขึ้นเบาๆ “ตอนที่เธอผ่าตัดฉันไม่สามารถอยู่ข้างๆเธอได้ เธอโกรธฉันหรือเปล่า?”
“ไม่โกรธ นายคงมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำแน่ๆ”
เผชิญหน้ากับความเข้าใจในตัวเขาของไอรา กานต์ก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ
ไม่โกรธไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ต้องการตนเอง
กานต์จูบลงไปบนหน้าผากของไอรา พูดขึ้น “ฉันจะพยายามกลับมาให้ทัน ในวินาทีที่เธอออกมาจากห้องผ่าตัดฉันจะพยายามทำให้เธอได้เจอฉัน”
“อื้ม”
กานต์เป็นคนที่รักษาสัญญามาโดยตลอด แค่เขาพูดเขาก็ต้องทำได้แน่นอน
ในที่สุดในใจของไอราก็สงบลงได้เล็กน้อยแล้ว
กานต์ไม่ได้บอกไอราเรื่องกิจจา แล้วก็ไม่ได้บอกเธอเรื่องที่เกี่ยวกับสายฟ้าด้วย เขาแค่อยู่เป็นเพื่อนไอรา กำลังฟังไอราเล่าเรื่องสัพเพเหระอย่างเงียบๆ ตอนนี้รู้สึกว่าช่วงเวลาที่สงบอย่างนี้มันช่างดีจริงๆ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไอราไม่ได้รู้สึกว่าเวลาที่ตนเองกับกานต์อยู่ด้วยกันนานขนาดไหน แต่ตอนที่ณิตาเคาะประตูเข้ามา เธอก็ค่อนข้างอาลัยอาวรณ์
“นายจะไปแล้วเหรอ?”
เธอดึงชายเสื้อของกานต์ราวกับเด็กน้อย ท่าทางน้อยอกน้อยใจทำให้เขาตัดใจจากไปไม่ได้
กานต์เจ็บปวดในใจ นอกจากปลอบใจก็ไม่รู้ว่าตนเองยังพูดอะไรได้อีก
“ฉันต้องไปแล้ว มีคนที่ฉันจำเป็นต้องไปช่วยออกมา”
“สำคัญกว่าฉันเหรอ?”
ไอราไม่อยากถามอย่างนี้จริงๆ แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป แค่ในหัวกระตุกก็ถามออกไปเลย แสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วในใจของเธอกระวนกระวายมาก
แววตาของกานต์สั่นไหวเล็กน้อย
เขาลูบใบหน้าของไอรา พูดเบาๆ “สำคัญเหมือนเธอเลย วางใจเถอะ หลังเธอผ่าตัดเสร็จฉันจะรอเธออยู่ข้างนอกแน่นอน”
“คำไหนคำนั้นนะ คนโกหกเป็นหมา”
“อื้ม”
เห็นไอรายื่นนิ้วก้อยออกมาอย่างใสซื่อ กานต์จึงยิ้มบางๆแล้วยื่นนิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวกับเธอ
ณิตาเห็นท่าทีอย่างนี้ของพวกเขาสองคนจู่ๆก็อิจฉาขึ้นมา
กิจจาคงไม่อดทนกับความไร้เดียงสาอย่างนี้ของเธอหรอก
เฮ้อ!
เป็นผู้ชายของตระกูลโตเล็กกันทั้งคู่ แต่ทำไมถึงแตกต่างกันขนาดนี้ล่ะ?
วันหน้าเธอต้องคุยกับกิจจาหน่อยแล้ว ให้เรียนรู้จากกานต์เยอะๆ
หลังจากกานต์กับไอราประทับตราด้วยนิ้วมือกันแล้ว ณิตาจึงพากานต์ออกไป
ระหว่างนั้นกานต์ไม่กล้าหันกลับไป กลัวว่าจะเห็นสายตาที่อาลัยอาวรณ์ของไอรา
ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะชอบทำตัวเป็นจุดสนใจเหิมเกริมขนาดไหน เผด็จการขนาดไหน ท้ายที่สุดเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง
ตอนที่กานต์เดินสวนกับสิงหราชจึงพูดขึ้นเบาๆ “พรุ่งนี้ก่อนเธอผ่าตัดครึ่งชั่วโมงแจ้งฉันด้วย”
“ครับ”
สิงหราชรับปากเบาๆ ทั้งสองคนเดินสวนกัน ในสายตาของคนนอกก็เหมือนคนธรรมดาที่เดินสวนกันตามทางเท่านั้น
ณิตาได้ยินกานต์พูดประโยคนี้ ก็ไม่ได้พูดอะไร พากานต์ออกไปจากโรงพยาบาลทหาร
ระหว่างนั้นกานต์เจอเข้ากับนะโม แต่น่าเสียดายที่นะโมไม่ได้สังเกตเห็นกานต์ตั้งแต่แรกแล้ว หรืออาจจะบอกได้ว่าใครๆก็คงคิดไม่ถึงว่ากานต์จะปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อเข้ามาในโรงพยาบาล
แต่ทว่าตอนที่กานต์กำลังจะเลี้ยวไปอีกทางหนึ่งชมพูกลับตะโกนเรียกเขาเอาไว้
“คุณเป็นผู้หญิงเหรอ?”
เธอเอาแต่รู้สึกว่าคนตรงหน้าตัวสูงใหญ่เกินไป
กานต์สีหน้าเย็นชา จริงๆในใจกระวานกระวายอยู่ตั้งนานแล้ว
ชมพูกับเขาเติบโตมาด้วยกัน แค่เอ่ยปากก็ต้องเผยความลับแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ทีมลาดตระเวนของเขตทหารกำลังตรงมาทางนี้ด้วย
กานต์อดไม่ได้ที่จะร้อนรนและกังวลใจ
ณิตาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย รีบพูดขึ้น “นี่คุณเป็นอะไรเหรอ? ไม่ได้มีเรื่องอะไรจะมาขวางทางพวกเราทำไม?”
ชมพูชำระล้างพิษในร่างกายภายใต้การช่วยเหลือของหมอ เธอรู้สึกว่าภายในห้องมันอึดอัดเกินไปถึงได้เดินออกมา ไม่คิดว่าจะได้เจอผู้หญิงที่สูงถึง180กว่าๆ จึงรู้สึกสงสัยถึงได้เรียกเธอเอาไว้ ตอนนี้โดนณิตาฉีกหน้าไปหนึ่งยก จู่ๆเธอก็ไม่รู้ว่าตนเองควรจะพูดอะไรแล้ว
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“งั้นช่วยหลีกทางด้วยนะคะ”
ณิตาพูดแล้วก็กำลังจะเดินออกไป ความหมายชัดเจนมาก ก็คือหวังว่าชมพูจะหลบ แต่ชมพูกลับไม่ถอย ทั้งยังมองกานต์ที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงอย่างโจ่งแจ้ง ครั้นแล้วก็เบิกตาโพลงขึ้นมาทันที
“คุณคือ……อือ……”
เธอยังพูดไม่ทันจบก็โดนกานต์ปิดปากเอาไว้ทันที แล้วผลักประตูเข้าไปในห้องคนไข้อย่างง่ายดาย
แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท