แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1835 เราเป็นพี่น้องกัน

บทที่ 1835 เราเป็นพี่น้องกัน
สายฟ้าสะอึกไปในทันที
กิจจาเอาคำพูดของเขามาอุดปากเขาเอาไว้ เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?
“งั้นหมอกิจจายังคงไม่ยินยอมผ่าตัดให้ลูกชายผมใช่ไหม?”
“ไม่ใช่”
ครั้งนี้กิจจากลับไม่ทำให้สายฟ้าเป็นกังวล เขาพูดขึ้นเบาๆ “เมื่อกี้ฉันเพิ่งพูดถึงขีดจำกัดของฉันไป คุณสายฟ้าเป็นคนฉลาด คงรู้ว่าควรทำยังไงแล้วสินะ”
จู่ๆสายฟ้าก็เงียบ
กิจจารู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทว่าก็ไม่ได้เร่งรัด กลับพูดขึ้นเบาๆ “ต่อให้ฉันช่วยลูกชายคุณ คุณคิดว่าด้วยสิ่งที่คุณกับท่านพลทำมาทั้งหมดเขาจะสามารถเติบโตมาอย่างแข็งแรงได้งั้นเหรอ? แทนที่จะให้เขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางคำติฉินนินทาของคนอื่นๆในวันหน้า การจากไปโดยไม่รู้อะไรเลยในตอนนี้ก็ถือเป็นความเมตตาอย่างหนึ่งนะ ไม่งั้นอีกเดี๋ยวคุณกับท่านพลเข้าคุกแล้ว เขาจะใช้ชีวิตยังไงล่ะ?”
คำพูดนี้ค่อนข้างรุนแรง ทำให้สายฟ้าขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาทันที
กิจจาก็ไม่เร่งเขา พูดอย่างเมินเฉย “คุณสายฟ้ากลับไปครุ่นคิดให้เต็มที่หน่อยก็ได้ ผมรอได้ แต่ลูกชายคุณจะรอไหวไหมผมคงไม่ต้องพูดแล้วนะ เชิญเถอะ ผมอยากพักผ่อนแล้ว”
ได้ยินกิจจาไล่แล้ว สายฟ้าจึงยืนขึ้นอย่างตื่นตระหนก หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก
เขาไม่ได้ไม่รู้ความหมายของกิจจา เพียงแต่การเลือกระหว่างพ่อกับลูกชายมันยากสำหรับเขาจริงๆ
ถึงท่านพลจะไม่มีความรักระหว่างพ่อลูกมอบให้เขา แต่ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำ เขาไม่เคยคิดจะส่งพ่อแท้ๆของตัวเองเข้าไปในคุกด้วยน้ำมือของเขาเองเลย
แต่ที่กิจจาพูดก็ถูก ลูกชายยังเด็ก สักวันทุกเรื่องที่ท่านพลกับเขาทำทั้งหมดก็ต้องแดงออกมา ถึงตอนนั้นลูกชายของเขาจะทำยังไง?
สายฟ้าจมอยู่กับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
กิจจาไม่สนใจความยุ่งเหยิงในใจของสายฟ้าอยู่แล้ว หลังจากเห็นสายฟ้าเดินออกไปก็ล็อกประตูทันที แล้วส่งสัญญาณมือไปที่ด้านนอกหน้าต่าง
กานต์กำชับให้คนอื่นๆรอรับคำสั่ง ส่วนตนเองกระโดดขึ้นไปบนระเบียงตามลำพัง เข้าไปในห้องของกิจจาทันที
ตอนที่เห็นกานต์ ดวงตาที่น่ามองของกิจจาคู่นั้นก็มาพร้อมกับรอยยิ้ม
“มีนายอยู่นี่มันดีจริงๆ ไม่นึกว่าจะหาที่นี่เจอจนได้”
“ไม่ใช่แผนของพี่หรือไง?”
กานต์ชำเลืองมองเขา ค่อนข้างโกรธ นั่งลงไปบนเก้าอี้ข้างๆทันที พูดถากถาง “ใช้ได้นะ กิจจา ตอนนี้พี่ยอดจริงๆ กล้าวางยาใส่ผม ต่อไปพี่ส่งน้ำอะไรมาให้ผม ผมคงไม่กล้าดื่มอีกแล้ว”
“ยังโมโหอยู่อีกเหรอ?”
จู่ๆกิจจาก็ยิ้มขึ้นมา ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางศัตรูเลยสักนิด
กานต์เห็นรอยยิ้มของเขาก็รู้สึกขัดตา
“ยิ้มอะไร? จริงจังหน่อยสิ! อย่าคิดว่าแค่พี่ยิ้มแล้วผมจะให้อภัยนะ ผมบอกพี่ไว้เลย เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆหรอก”
“งั้นนายจะเอายังไง? ต่อยพี่สักยกไหม? มาสิ พี่จะไม่ตอบโต้เลย”
ท่าทางแสนดีของกิจจา กลับทำให้กานต์ยิ่งดูเหมือนเด็กน้อย
อยู่ต่อหน้าคนอื่นกานต์ไม่เป็นอย่างนี้หรอก มีแต่กิจจาเท่านั้นแหละที่จะได้เห็นกานต์โกรธ
พวกเขาเป็นอะไรกันล่ะ?
เป็นพี่น้องกันไง!
แล้วเป็นไงล่ะ?
ไม่คิดว่าไอ้พี่บ้านี่จะวางยาเขา!
ถึงจะทำเพื่อปกป้องเขา แต่พฤติกรรมอย่างนี้ปล่อยผ่านไปไม่ได้!
แววตาของกานต์ยิ่งทวีความโกรธมากขึ้น
“ต่อยพี่ทำอะไรล่ะ? ต่อยพี่มือผมก็เจ็บ เดี๋ยวกลับไปไอราของผมก็เป็นห่วงอีก”
“แค่กๆ”
กิจจารู้สึกอิจฉาคนรักกันอย่างไม่มีสาเหตุ จึงทำได้เพียงไอออกมาอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วพูดขึ้น “พี่ไปกับนายไม่ได้”
“พี่เสียสติหรือไง?”
กานต์มองกิจจาด้วยความกลัดกลุ้ม
ถึงจะไม่ได้ยินที่เขากับสายฟ้าคุยกัน แต่กานต์ก็รู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
กิจจาก็ไม่สนใจใบหน้าที่กลัดกลุ้มของกานต์ พูดขึ้นเบาๆ “สถานการณ์ของเด็กคนนั้นไม่ค่อยดี”
“พี่ก็เลยไม่ได้เลือดเย็นอย่างภาพลักษณ์ภายนอกใช่ไหมล่ะ? พี่อยากจะช่วยเขาสินะ?”
กานต์เข้าใจกิจจาดี
บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนไปโหดเหี้ยมอำมหิตเพื่อคนในครอบครัวก็ได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เขาจึงไม่เคยละทิ้งจิตใจที่แสนดีไปเลยสักนิด
เห็นกานต์เดาได้แล้ว กิจจาจึงไม่ปิดบัง เขาพยักหน้าพูดขึ้น “ช่วยเด็กคนนั้นเป็นเหตุผลแรก ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือพี่ต้องรอการตัดสินใจของสายฟ้า”
“พี่คิดจะปลุกระดมให้เขาก่อกบฏเหรอ?”
กานต์เดาบางอย่างออกมาทันที
กิจจาพยักหน้าพูดขึ้น “ไม่มีแผนการไหนที่มั่นใจได้ไปกว่าแผนการนี้แล้ว”
“งั้นสรุปว่าตัวตนของพี่คืออะไรกันแน่?”
กานต์ไม่อยากไปตรวจสอบกิจจา ก่อนหน้านี้ที่ให้นะโมตรวจสอบก็เป็นเพราะในใจมันขัดแย้งกัน
การที่เขาอยากจะตรวจสอบคนๆหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายหรอกเหรอ? แต่เพราะคนๆนั้นคือพี่ชายของเขา เป็นคนในครอบครัวของเขา เขาจึงไม่อยากใช้ทักษะคอมพิวเตอร์ของตัวเองกับคนในครอบครัว
ให้นะโมไปตรวจสอบก็เป็นเพียงการหาข้ออ้างให้ตัวเองเท่านั้น ตอนนี้ได้ยินกิจจาพูดอย่างนี้ เขาจึงยิ่งมั่นใจการคาดเดาที่อยู่ในใจ อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
กิจจามองกานต์ มองอยู่สักพักจึงได้พูดขึ้นเบาๆ “สำหรับนายแล้วพี่จะมีตัวตนแบบไหนมันส่งผลต่อนายหรือเปล่า? ไม่ได้ยังคงเป็นพี่ใหญ่ของนายเหรอ?”
จู่ๆกานต์ก็ยิ่งกลุ้มใจ
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงตอนเด็กๆตอนที่เพิ่งได้รู้จักกับกิจจา
กิจจาในตอนนั้นวันๆเอาแต่เดินตามก้นเขาต้อยๆ เรียกเฮียๆอยู่ตลอด น่ารักสุดๆ เหมือนตอนนี้ตรงไหนล่ะ? เหมือนพี่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“พี่นี่น่ารักสู้ตอนเด็กๆไม่ได้เลยนะ”
กานต์บ่นออกมา
กิจจาจึงยิ้มขึ้นมาทันที
เขาก็นึกถึงท่าทีของตัวเองตอนที่เพิ่งได้เจอกับกานต์เช่นกัน ถ้าไม่ใช่กานต์ บางทีตอนนี้เขาคงยังเป็นคุณชายธรรมดาๆที่ไม่ได้มีความสามารถอะไร แล้วก็คงไม่มีความโชคดีและความสำเร็จอย่างตอนนี้หรอก
เขาเดินเข้าไปตบไหล่ของกานต์เบาๆ ยิ้มพูดขึ้น “ไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนนี้ ความจริงที่นายกับพี่เป็นพี่น้องกันมันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจนตาย”
“นี่จึงถือเป็นการบอกผมอ้อมๆว่าไม่ต้องสืบเรื่องตัวตนของพี่งั้นเหรอ?”
กานต์ค้อนขวับ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
กิจจามองเขาอยู่นานถึงได้พูดขึ้น “ฉันเป็นคนของสำนักงานรักษาความปลอดภัย”
กานต์ที่คิดว่าคงไม่ได้คำตอบอะไรจู่ๆก็ตกตะลึง
มาตรการการรักษาความลับของสำนักงานรักษาความปลอดภัยสูงมาก ไม่ต้องพูดถึงคนในครอบครัวหรอก ต่อให้เป็นคนที่นอนอยู่ข้างๆกันก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ตอนนี้กิจจากลับพูดออกมา ทั้งยังเป็นที่นี่อีก
กานต์ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“พี่เสียสติเหรอ?”
เขารีบปิดปากของกิจจา แล้วถือโอกาสค้นหาว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟังหรือเปล่าอย่างรวดเร็ว
กิจจายิ้มมองกานต์ที่กำลังยุ่ง รู้สึกอบอุ่นใจ
นี่ก็คือน้องชายของเขา พี่น้องที่เชื่อมโยงกับเขาทางสายเลือด
ไม่ว่าเขาจะเคยทำอะไรกับกานต์ ในเวลาที่รุกรานมาถึงความปลอดภัยของชีวิตกานต์มักจะกระตือรือร้นกว่าใครทั้งนั้น
กิจจานึกถึงตอนเด็กๆที่เขมิกาลักพาตัวเขากับกานต์ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นกานต์ที่ยั่วโมโหเขมิกา ปกป้องเขาด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล
ดวงตาของกิจจาจึงชุ่มชื้นขึ้นมาทันที
เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ไม่ต้องหาแล้ว พี่ค้นมาหมดแล้ว ระบบวงจรปิดและการดักฟังทั้งหมดโดนที่ทำลายไปแล้ว จะไม่มีใครได้ยินหรือเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่แน่นอน”
กานต์ยังคงไม่สบายใจ หลังจากค้นหาไปหนึ่งรอบถึงคลายกังวลลงได้ เมื่อหันกลับมาก็เจอดวงตาที่มีรอยยิ้มและอ่อนโยนคู่นั้นของกิจจา อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
จู่ๆเขาก็เข้าใจอะไรขึ้นมา เดินเข้าไปกอดกิจจาทันที พูดเบาๆ “ถ้าต้องการอะไรมาหาผมได้ตลอดเลยนะ เราเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว พี่”
“อืม”
กิจจาพยักหน้า แต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกอย่างฉับพลัน เขาจึงออกแรงเท่าที่มี โยนกานต์ออกไปนอกหน้าต่างทันที
เขารู้ว่า ด้วยทักษะของกานต์ต้องตกลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัยแน่นอน!
แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท