สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 25.4

ตอนที่ 25.4

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 25.4 แผนร้ายลับหลัง ท่านหญิงอันเล่อถูกทำร้าย (4)
บทที่ 25 แผนร้ายลับหลัง ท่านหญิงอันเล่อถูกทำร้าย (4)
โดย
Ink Stone_Romance
“ท่านพี่!” เจิ้งเยียนกำชับข้ารับใช้คนสนิทให้เฝ้ารออยู่ด้านนอก ส่วนตัวเองก็ผลักประตูเดินเข้ามา

ในขณะเดียวกันนั้นเองฉู่หลิงอวิ้นกำลังนั่งเหม่อลอย ไม่ได้ทำอะไรอยู่ข้างใน เมื่อได้ยินเสียงเรียกดังขึ้นก็หันไปมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางนิ่งเฉย “นี่เพิ่งกี่วันเอง ทำไมเจ้ามาอีกแล้วล่ะ?”

เจิ้งเยียนเบ้ปากเล็กน้อย เดินไปหยิบเก้าอี้แล้วนั่งลง พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เรื่องที่ท่านพี่สั่งให้ข้าทำเมื่อครั้งก่อนเละไม่เป็นท่าเลยเจ้าค่ะ!”

ฉู่หลิงอวิ้นก้มตาจ้องมองพุทธคัมภีร์เล่มหนึ่งอยู่ สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนราวกับว่านางไม่สนใจไยดีเลยแม้แต่น้อย นางเพียงเอ่ยถามขึ้นอย่างขอไปทีว่า “เรื่องมันเป็นมาอย่างไร?”

เจิ้งเยียนเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟังอย่างคร่าวๆ เมื่อเล่าจบได้แต่โมโหเล็กน้อย “พวกคนบ้านสกุลหลัวนั้นมันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ทำไมไม่ยอมตรวจสอบหลัวส่วงให้แน่ชัดเสียก่อน ทำเอาซะทุกอย่างที่ทำไปเสียแรงเปล่า”

“หึ!” ฉู่หลิงอวิ้นสบถเสียงเย็นชาออกมาด้วยความไม่พอใจ “เรื่องมันจะบังเอิญแบบนั้นได้เยี่ยงไร ต้องมีใครเล่นตุกติกอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน เจ้าคิดว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆ แบบนี้เหรอ?”

“จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ?” เจิ้งเยียนพูดขึ้นอย่างโมโหพลางเดินไปนั่งลงบนเบาะรองนั่งข้างๆ อีกฝ่ายแล้วกุมมือนางเอาไว้ พูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “ถึงแม้พวกคนบ้านสกุลหลัวเอาแต่จะโทษคนอื่น ทว่าเจ้ากรมการพระนครคนนี้เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งได้ไม่นาน เขาคงไม่ได้ยัดเงินซื้อตัวได้ง่ายๆ หรอกเจ้าค่ะ?”

“แล้วถ้าพวกคนบ้านสกุลหลัวทำอะไรกับศพเล่า?” ฉู่หลิงอวิ้นยกมุมปากขึ้นแล้วถามกลับ

วิธีการของฮ่องเต้นั้นเด็ดขาดหักดิบ ในเมื่อเขารับสั่งลงไปแล้ว ของอย่างผงยาอู่สือส่านไม่มีทางปรากฎขึ้นในเมืองหลวงแห่งนี้ได้อีกเป็นแน่ หากหลัวส่วงต้องการจะใช้มันจริงๆ เขาเองก็ต้องมีช่องทางในการได้เจ้าของสิ่งนี้มาอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่า…

ต้องเป็นฝีมือของคนผู้นั้นแน่นอน!

เขากล้าลงมือทำทุกอย่างเพื่อฉู่สวินหยางจริงๆ!

ผสมยาต้องห้ามให้นางไม่พอ ทั้งยังไปยุ่งตุกติกกับร่างศพ จนทำให้การชันสูตรศพผิดพลาด!

ที่จริงนางรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ใช่คนดีมีเมตตาอะไรนักหรอก แต่ยิ่งเห็นการกระทำเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดีของเขา ยิ่งดึงดูดสายตานางให้จับตามองราวกับต้องมนต์สะกด อีกทั้งหลายปีมานี้เองนางได้คลุกคลีกับคุณชายแห่งตระกูลสูงส่งมากหน้าหลายตา มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่มีรูปร่างท่าทางงดงามราวกับเทพสวรรค์ แต่กลับมีอุปนิสัยและพฤติกรรม ต่างจากผู้อื่นลิบลับ ทั้งคำพูดและรอยยิ้มของเขานั้นล้วนทำให้นางหลงใหล ทุกครั้งที่พบเจอกัน ใจของนางเองเต้นอย่างบอกไม่ถูก

นางกับเขาก็เป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีไม่ใช่งั้นหรือ?

แต่ทำไม…

ในสายตาของเขาถึงมีเพียงแค่ฉู่สวินหยางคนเดียวเท่านั้น

ราวกับว่าทั้งความดีและความชั่วของเขา ทั้งรอยยิ้มและความเย็นชาของเขา ทุกท่วงท่าการกระทำทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเขานั้นมันหมุนเวียนอยู่กับนางคนนั้นเพียงผู้เดียว

เขายอมทำทุกสิ่งเพื่อนางคนนั้น ถึงขนาดลงไม้ลงมือกับตนอยู่หลายครั้ง เพียงเพื่อต้องการให้ฉู่สวินหยางมีความสุข!

มีสิทธิ์อะไร!

ยิ่งคิดฉู่หลิงอวิ้นยิ่งรู้สึกโกรธแค้น แววตาของนางฉายความเย็นชาโหดเหี้ยม ทำให้เจิ้งเยียนที่มองอยู่ยังตกใจจนตัวสั่น เอ่ยขึ้นเสียงสั่นคลอนว่า “ท่านพี่? ท่าน…ท่านพี่เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”

“ไม่ได้เป็นอะไร!” ฉู่หลิงอวิ้นดึงสติกลับมา สีหน้าอารมณ์ของนางเปลี่ยนกลับอย่างรวดเร็ว วินาทีนั้นเจิ้งเยียนคิดว่าสิ่งที่ตนเพิ่งเห็นไปก่อนหน้าเธอคงแค่รู้สึกไปเองเท่านั้น

“พลาดแล้วก็พลาดไปเถอะ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่มีอะไรให้สูญเสีย” ฉู่หลิงอวิ้นยิ้มตอบ

“แต่ข้าไม่ชอบใจเอาเสียเลย” สีหน้าของเจิ้งเยียนเย็นชาขึ้น แล้วพูดออกมาอย่างโมโห “ข้าไปขอร้องท่านพ่อแล้ว แต่เขาไม่ยอมไปรับท่านแม่กลับมา ส่วนท่านยายยิ่งแล้วใหญ่ ข้าไปหาตั้งหลายครั้ง นางไม่ยอมให้ข้าเข้าพบสักครั้งเลย”

ฉู่หลิงอวิ้นรู้จักนิสัยของฮูหยินเจิ้งดี ขอเพียงแค่เป็นเรื่องที่นางบอกว่าใช่แล้ว ใครก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงมันได้

เจิ้งตั๋วเองก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญูเชื่อฟังทุกอย่าง เพราะฉะนั้น…

ความคิดของเจิ้งเยียนที่อยากรับตัวคนแซ่หลินกลับมานั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป

แต่ว่าที่นางยังสั่งให้เจิ้งเยียนทำแบบนั้นอยู่ร่ำไป ก็เพราะอยากให้ทุกครั้งที่นางบอกปฏิเสธ นางจะได้รู้สึกเกลียดฉู่สวินหยางและวังบูรพามากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่นางจะหลอกใช้น้องสาวโง่ๆ คนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

“เวลาเพิ่งผ่านไปไม่นานเอง ท่านยายกับท่านลุงพวกเขาน่าจะยังโมโหอยู่ เจ้าก็คอยพูดดีทำดีกับพวกเขาหน่อย ต้องมีสักวันแหละที่เขาจะยอม” ฉู่หลิงอวิ้นยิ้มแล้วเอ่ยปลอบขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นถึงเอ่ยถามขึ้นราวกับไม่ได้ตั้งใจว่า “แล้วพี่สะใภ้เจ้าล่ะ? สบายดีอยู่ใช่หรือไม่?”

“นางขาหักน่ะเจ้าค่ะ!” เจิ้งเยียนตอบ เดิมทีใบหน้าจิ้มลิ้มสะสวยนั้นก็แฝงไปด้วยโหดร้ายดุดันพอตัวอยู่แล้ว นางกัดฟันกรอดพูดขึ้นต่ออีกว่า “แบบนี้มันก็ว่านางได้ดีไป ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ท่านแม่จะลำบากโดนหางเลขไปด้วยแบบนี้ที่ไหนกัน นางกลับดี มีบ้านฝั่งแม่คอยหนุนหลัง ท่านยายเอาแต่โอ๋นางเลี้ยงนางอย่างดี หึ!”

“ที่จริงแล้ว…” นิ้วของฉู่หลิงอวิ้นกรีดกรายลงบนคัมภีร์นั้น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบช้าว่า “ความสัมพันธ์ของนางกับองค์รัชทายาทสองพ่อลูกไม่ได้สนิทสนมกันหรอก!”

เจิ้งเยียนฟังไปแบบนั้นนานพอสมควรกว่าที่นางจะรู้สึกตัว นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ความหมายของท่านพี่คือ…”

“ข้าไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรอก” ฉู่หลิงอวิ้นยิ้มเล็กน้อย จัดแจงชุดแล้วลุกตัวขึ้นยืน

ท้องฟ้ามืดแล้ว แสงสว่างในห้องจึงเริ่มมืดลงไปตามกัน นางหยิบแท่งไฟจุดตะเกียง จากนั้นเอ่ยปากขึ้นอย่างสบายอารมณ์ว่า “ก็แค่คนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น ตายไปแล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ตอนนี้ชายารองสามกับหวงจ่างซุนเองก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว จะมีใครมายุ่มย่ามกับเจ้าอีกเล่า? อีกอย่างคนเขาต่างบอกกันว่า บุตรสาวที่แต่งงานออกจากบ้านไปแล้วเป็นเหมือนน้ำถูกรดสาดออกไปน่ะ คนเราทุกคนต่างย่อมต้องพบกับชะตากรรมอันยากลำบากด้วยกันทั้งนั้นจริงไหม?”

“แต่ถ้าท่านยายรู้เรื่องนี้เข้า…” เจิ้งเยียนเม้มปาก พูดขึ้นอย่างลังเล

นางเกลียดฉู่เยว่เหยาเหลือเกิน แต่ฮูหยินเจิ้งกลับต้องการไว้ชีวิตฉู่เยว่เหยา

ฉู่หลิงอวิ้นค่อยๆ เดินกลับเข้าไปหา ยกมือขึ้นช่วยจัดชุดของอีกฝ่าย ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “น้องโง่ เจ้าอายุเยอะขนาดนี้ ยังคิดอยู่ที่บ้านกับแม่ต่ออีกงั้นหรือ?”

เมื่อเจิ้งเยียนได้ยินดังนั้น นางไม่รู้เหมือนกันว่าตนคิดอะไรอยู่ แต่ใบหน้าของนางแดงก่ำขึ้นทันตา บิดตัวเขินอายจนต้องหันหน้าหนี แล้วพูดเสียงเบาอย่างอารมณ์เสียว่า “ท่านพี่ยังจะพูดอีก ช่วงนี้ข้าก็แค่กลับไปเยี่ยมท่านป้าบ่อยหน่อยก็แค่นั้น ก็ไม่รู้เหมือนว่าใครมันพูดใส่ร้ายลับหลัง บอกว่า…บอกว่า…”

ระหว่างที่นางพูดอยู่ใบหน้านั้นแดงก่ำด้วยความเขินอายจนพูดต่อไปไม่ไหว

ฉู่ฉีเหยียนเป็นคนหล่อเหลารูปงามเก่งรอบด้าน ทั้งยังเป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่ของนางด้วย สนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็กความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขานับว่าเหมาะสมกันมากเลยก็ย่อมได้

เมื่อก่อนคนแซ่เจิ้งไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กับครอบครัวฝั่งนี้เท่าไรนัก นางเองก็เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนั้นไปโดยปริยาย ครั้นตอนนี้พวกเขาเยี่ยมเยือนกันบ่อยครั้งขึ้น นางกับฉู่หลิงอวิ้นเริ่มสนิทสนมกันขึ้นทุกวันแบบนี้ รวมถึงมีใครไม่รู้กุข่าวลือพวกนั้นขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้เจิ้งเยียนอดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้เช่นเดียวกัน

อีกอย่าง…จวนอ๋องหนานเหอเองก็ไม่มีใครออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องนี้เลยสักคน

ฉู่หลิงอวิ้นหัวเราะเย็นชาขึ้นในใจแต่ใบหน้ายังยิ้มอ่อนโยน นางตั้งใจถามขึ้นว่า “บอกว่าอะไรเหรอ?”

“บอกว่า…” เจิ้งเยียนขบกัดริมฝีปากกำลังจะเอ่ยต่อแต่เมื่อเงยหัวมองสีหน้าของอีกฝ่ายแล้ว นางก็รีบลุกขึ้นเดินหนีออกไปพลางกระทืบเท้าแล้วพูดว่า “ท่านพี่หยอกข้าเล่นอีกแล้ว!”

“เอาน่าๆ ถือซะว่าข้าล้อเล่นแล้วกันนะ” ฉู่หลิงอวิ้นเองไม่พูดอะไรมาก ลุกขึ้นแล้วเดินตามไปก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ถ้าเรื่องนั้นไม่สำเร็จก็ช่างมันเสียเถิด เจ้าอย่าได้คิดมากเลยนะ ยังมีเวลาอีกนานนัก อย่างไรต้องมีโอกาสให้เจ้าได้แก้แค้นแน่นอน!”

เจิ้งเยียนคิดอยู่สักพักจากนั้นก็พยักหน้าลง “เจ้าค่ะ ข้ารู้แล้ว”

รับคำก่อนปรายตามองห้องสี่เหลี่ยมนี้ไปทั่วทิศ แล้วพูดกับฉู่หลิงอวิ้นอย่างเห็นอกเห็นใจว่า “ท่านพี่อยู่ที่นี่คงรู้สึกแย่มากแน่ๆ ท่านพี่ทนอีกนิดนะเจ้าคะ เดี๋ยวเรื่องมันก็ผ่านไป”

“อืม!” ฉู่หลิงอวิ้นตอบอย่างขอไปที

ฉู่หลิงอวิ้นเดินออกไปส่งนางด้วยตนเอง มองตามไปยังแผ่นหลังนั้น มุมปากค่อยๆ ยกยิ้มอย่างเย็นชา…

—————————————

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน