สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 41.5

ตอนที่ 41.5

บทที่ 41 เขาต้องพิษ (5)
Ink Stone_Romance
คนทั้งสอง ดวงตาทั้งสี่ต่างจ้องมองกัน

คิ้วของฉู่สวินหยางนั้นเต็มไปด้วยข้อสงสัยที่คิดไม่ตก “เป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่? คนผู้นั้น…ดูเหมือนจะไม่ต้องการให้เกิดศึกภายในราชสำนักในทันที”

ไม่เช่นนั้นเขาคงจะวางยาพิษรุนแรงคร่าชีวิตฮ่องเต้ในคราเดียว ไม่มีความจำเป็นต้องใช้พิษชนิดที่ออกฤทธิ์ช้ามาเสี่ยงอันตราย

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ข้าจับชีพจรให้ฝ่าบาทนั้นยังพบอย่างอื่นอีก” เหยียนหลิงจวินยกมือขึ้นลูบหน้าผากนาง รอยยิ้มที่เห็นเป็นปกติยังคงประดับอยู่บนริมฝีปากของเขา แต่สีหน้าและอารมณ์นั้นยังคงเฉียบคมอยู่ “ฮ่องเต้องค์นี้ของพวกเจ้ารนหาที่ตายเอง อาจเพราะต้องการควบคุมภาวะกระอักเลือด…เขาเริ่มกินยาวิเศษที่ปรุงโดยนักพรตลัทธิเต๋า”

“อะไรกัน?” ฉู่สวินหยางตกใจ สีหน้าดำทะมึนลงอีกหลายส่วน “เมื่อก่อนฝ่าบาทไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ แล้วยาลับของลัทธิเต๋านั้นบอกไว้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ แต่ในความเป็นจริงแล้วหากกินมากไป…”

ยาวิเศษ เป็นสิ่งของที่ฮ่องเต้ไปแตะต้องเพื่อต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวยิ่งขึ้นไปอีก แม้ฉู่สวินหยางจะไม่รู้รายละเอียดอย่างชัดเจน แต่ก็ทำความเข้าใจมาบ้าง ในหนังสือประวัติศาสตร์ได้เขียนไว้ถึงตัวอย่างของผู้ที่ใช้ยาประเภทนี้เกินขนาดแล้วเสียชีวิต

ฮ่องเต้…

นี่ฮ่องเต้เสียสติไปแล้ว?

“ถูกต้อง นี่เป็นการเล่นกับไฟแท้ๆ รักษาได้เพียงปลายเหตุของโรค ทว่ากลับไม่สามารถรักษาต้นตอของการเกิดโรคได้ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ชีวิตของเขาน่าจะมีเวลาเหลือไม่เกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้” เหยียนหลิงจวินกล่าวเสริม

แต่การที่ฮ่องเต้เลือกที่จะกระทำเช่นนี้ ทั้งเขาและฉู่สวินหยางต่างเข้าใจในเหตุผล

ฮ่องเต้ไม่อยากชราภาพ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อยากตาย จำเป็นจะต้องมีชีวิตยืนยาวต่อไปเพื่อควบคุมอำนาจในมือ ต่อให้ข้างนอกดูแข็งแรงแต่ข้างในอ่อนแอก็ไม่สนใจแล้ว

“เรื่องนี้ ท่านก็ไม่ได้ทูลต่อฮ่องเต้ไปตามความจริง?” เมื่อสงบจิตสงบใจลงแล้ว ฉู่สวินหยางจึงเอ่ยถาม

เหยียนหลิงจวินยักไหล่ “ข้าลองหยั่งเชิงดูท่าทีของหัวหน้าขันทีหลี่แล้ว ดูเหมือนเขาจะรู้สถานการณ์สุขภาพของฝ่าบาทเป็นอย่างดี ในเมื่อพวกเขาสองนายบ่าวต่างมีปฏิกิริยาเช่นนี้ แล้วข้าจะไปทำให้หน้าต่างทะลุทำไมเล่า? ถึงเวลาเป็นข้าเองที่จะวางตัวลำบาก”

แม้เฉินเกิงเหนียนจะมีนิสัยวู่ว่ามใจร้อน แต่เขาปรนนิบัติรับใช้ฮ่องเต้ด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดี เมื่อควรแสดงอำนาจก็ใช้อำนาจ ควรแสดงตนเป็นคนเขลาเขาก็เป็นคนเขลา ฮ่องเต้ไม่ได้เอ่ยอะไรกับเหยียนหลิงจวิน คาดว่าคงจะเป็นเพราะรู้เรื่องนี้เช่นกัน รู้ว่าเฉินเกิงเหนียนต้องเตือนเขาเป็นแน่

และ…

สุขภาพของฝ่าบาทเป็นเช่นนี้ ต่อให้ไม่ใช่เหยียนหลิงจวิน เขาก็ต้องเรียกใช้หมอหลวงคู่กายท่านอื่นมาจับชีพจร เมื่อคัดเลือกคนใหม่เข้ามา เขาย่อมไม่สามารถรับรองได้ถึงความซื่อสัตย์ภักดี เช่นนี้มิสู้ใช้เหยียนหลิงจวิน

ทุกคนปลอดภัยไม่เกิดเรื่องอันใด ก็เพียงพอแล้ว

“ได้ ข้ารู้แล้ว” ฉู่สวินหยางรวบรวมสติ หายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง “เวลาไม่เช้าแล้ว ท่านรีบกลับไปเถิด”

“อืม” เหยียนหลิงจวินพยักหน้าและก้มลงจุมพิตริมฝีปากของนาง “จำไว้ว่าเจ้าพูดเอง พรุ่งนี้มาหาข้า”

“อืม” ฉู่สวินหยางพยักหน้า ในเวลาเช่นนี้นางไม่มีกะจิตกะใจจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา

เหยียนหลิงจวินจึงยอมปล่อยมือจากนาง จัดเสื้อผ้าอาภรณ์แล้วพลิกตัวขึ้นม้า

ฉู่สวินหยางยืนอยู่ที่เดิมมองส่งเขาจากไป จากนั้นเดินเข้าไปในตรอกอย่างใจลอย

———————————

วันถัดมา เหยียนหลิงจวินยังคงปฏิบัติตัวตามปกติ เข้าวังไปจับชีพจรให้ฮ่องเต้

สีหน้าท่าทางของฮ่องเต้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมองดูแล้วก็มองออกว่าดีขึ้นอย่างไม่ค่อยปกตินัก

เหยียนหลิงจวินไม่ได้เอ่ยอันใด หลังจากจับชีพจร เขียนใบสั่งยาเอาไว้แล้วจึงถอยออกมา

ครั้งนี้เขาไม่ได้ออกไปในทันที แต่รอจนหลี่รุ่ยเสียงเดินมาส่งเขาด้านนอกตำหนักจึงเรียกเขาเอาไว้

“หัวหน้าขันทีหลี่ พอจะปลีกเวลาพูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวสักสองสามประโยคได้หรือไม่?”

หลี่รุ่ยเสียงขมวดคิ้วขึ้นทันที เขาคิดอยู่แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วเหยียนหลิงจวินต้องถามแน่นอน เขาหันกลับไปมองตำหนักที่อยู่ด้านหลังแล้วจึงพยักหน้า คนทั้งสองเดินไปอีกด้านหนึ่งสุดระเบียงทางเดินค่อนข้างปลอดผู้คน

“หลายวันก่อนข้าไม่อยู่ ทางฝ่าบาทเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?” เหยียนหลิงจวินไม่พูดจาอ้อมค้อม ถามออกไปตรงๆ “รายงานชีพจรที่หมอหลวงจางเขียนเอาไว้ข้าดูแล้ว มันไม่ตรงกับ…ชีพจรของฝ่าบาท”

สีหน้าของหลี่รุ่ยเสียงมีความหดหู่อยู่เล็กน้อย มองเข้าด้วยสายตาที่มีความลังเลใจ

เหยียนหลิงจวินมองตอบเขาอย่างตรงไปตรงมา

เขากำลังหลอกล่อให้หลี่ลุ่ยเสียงพูดออกมา ทำให้อีกฝ่ายทนไม่ได้ต้องออกมากล่าวตักเตือนเขา เขาต้องหลอกล่อกดดันอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายคายรายละเอียดทั้งหมดออกมา

และหากว่าเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ฮ่องเต้ยังคงต้องการให้เขาช่วยปิดบังเรื่องนี้ต่อไป หลี่รุ่ยเสียงย่อมต้องยอมเปิดเผยความลับกับเขา

เพราะความไว้วางใจที่เฉินเกิงเหนียนได้รับจากฮ่องเต้นั้นไม่ธรรมดา หลี่รุ่ยเสียงเลือกเหยียนหลิงจวินให้ฮ่องเต้ใช้สอยจึงไม่มีการป้องกันเหล่านี้เท่าใดนัก เขาถอนใจเบาๆ เมื่อปรับสีหน้าให้สงบนิ่งลงแล้วจึงพูดว่า “ใต้เท้าเหยียนหลิงคงจะดูออกแล้ว ฝ่าบาทนั้นไม่เพียงต้องลมเย็นธรรมดา ก่อนหน้านี้หมอหลวงจางได้ทำการวิจินิจฉัย บอกว่าฝ่าบาทอายุมากแล้ว ปอดและหัวใจอ่อนแอพราะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ได้แต่ค่อยๆ พักฟื้น ก็จะช้าลงชั่วคราว”

เป็นเช่นนั้นจริงๆ หมอหลวงจางมิได้ทูลถวายเรื่องที่ฮ่องเต้ต้องยาพิษ

เหยียนหลิงจวินหัวเราะเบาๆ ในใจ แต่ทว่าสีหน้ากลับไร้ซึ่งความรู้สึกใดใด เพียงเอ่ยว่า “แต่ข้าดูชีพจรของฝ่าบาทแล้ว ดูเหมือนว่าฝ่าบาทใช้ยาลับของนักพรตเต๋ามาควบคุมอาการป่วยไข้ใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนี้…” “นี่เป็นความต้องการของฝ่าบาทเอง” หลี่รุ่ยเสียงยิ้มอย่างทุกข์ใจ เมื่อมองเหยียนหลิงจวินอีกครั้ง สายตาของเขามีแววตักเตือนอยู่หลายส่วน “ในเมื่อฝ่าบาทเชื่อใจใต้เท้าเหยียนหลิง ใต้เท้าให้ความร่วมมือก็พอ นิสัยของฝ่าบาทท่านย่อมรู้ดี และสถานการณ์ในยามนี้ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นทางฝ่าบาท…”

เขาพูดแล้วหยุดชะงักอย่างจนใจ “ข้าจะขอร้องฝ่าบาทอีกครั้ง ใต้เท้าเหยียนหลิงรับผิดชอบเก็บความลับนี้ให้สนิทก็พอ”

“ได้” เหยียนหลิงจวินพยักหน้า “ในเมื่อหัวหน้าขันทีหลี่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เช่นนั้นข้าก็วางใจได้แล้ว ข้าไม่มากเรื่อง ขอฝ่าบาททรงวางพระทัยได้”

หลี่รุ่ยเสียงรั้งรออยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดอย่างกังวลว่า “อาการป่วยของฝ่าบาท ท่านก็ไม่สามารถรักษาจนหายขาดหรือ?”

“หมอหลวงที่มาจับชีพจรให้ฝ่าบาทไม่ได้มีเพียงหมอหลวงจางหรอกกระมัง?” เหยียนหลิงจวินไม่ตอบคำถามทว่ากลับย้อนถาม ต่อให้ฮ่องเต้ไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ ก็ไม่น่าจะหมดความอดทนเพียงเพราะคำพูดของหมอหลวงจาง น่าจะได้รับการยืนยันจากคนอื่นๆ อีกด้วย

และข่าวที่อิ้งจื่อสืบมานั้น หลายวันก่อนมีท่านหมอจากโรงแพทย์สามโรงด้วยกันที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุประหลาด

หลี่รุ่ยเสียงหน้าดำทะมึนลง ทว่าไม่ได้พูดอันใด

เหยียนหลิงจวินเพียงยิ้มบางๆ “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”

—————————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน