ตอนที่ 730 ภูเขาผลึกแก้ว
แม้เซี่ยวเสวียนฉินเคยสิ้นชีวิตมาครั้งหนึ่ง ทั้งยังเป็นถึงเซียนผู้สูง
ศักด์ิในชาติภพก่อน ขณะนี้ต้องเผชิญหน้าต่อความตายที่ใกล้เข้ามา
นางย่อมอดไม่ได้ที่จะมีความร้อนรนและหวาดกลัว
นางไม่ทราบว่าจะสามารถกลับชาติมาเกิดได้อีกครั้งหรือไม่ หากไม่
เช่นนั้นนางก็จะตายโดยสมบูรณ์
ฉินหยุนยืนด้านหลังของนาง แสร้งทำตัวเป็นหุ่นเชิด สัมผัสได้ถึง
ความว้าวุ่นภายในของนาง
“ป้าเซี่ยวคิดเสี่ยงชีวิตจริง!” ฉินหยุนถอนหายใจ
“นางพยายามชดใช้ความผิดพลาดก่อนหน้านี้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
“เสี่ยวหยุน เตรียมตัวได้แล้ว!”
ฉินหยุนใช้พลังเงาหลบซ่อนในความมืด จากนั้นจึงทะลวงพื้นดินลง
ไป
เซี่ยวเสวียนฉินที่ร้อนรน พลันนึกขึ้นได้ว่ามีหุ่นเชิดซึ่งเซี่ยวเย่ว์เหม่ย
ทิ้งไว้ให้เบื้องหลัง นางหันกลับมองรอบ พบว่าหุ่นเชิดนั้นหายตัวไป
แล้ว
นางนึกขึ้นได้ ว่าเซี่ยวเย่ว์เหม่ยเคยกล่าว หุ่นเชิดตัวนั้นมีความสามารถ
ในการหลบหนีอันเลิศล้ำ
ครานี้มันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ถือเป็นการยืนยันคำของเซี่ยวเย่ว์
เหม่ย
เซี่ยวเสวียนฉินถอนหายใจยาว “จบแค่นี้งั้นหรือ?”
นางไม่อาจหนีได้ ไม่เช่นนั้นราชันยุทธ์กลุ่มนี้จะไล่ล่าสื่อชิงเฉิงและ
คณะ นางไม่มีทางเลือก มีแต่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อยืนหยัด
“พวกมันเดินทางในดินแดนยอดฝีมือเช่นนี้ กระนั้นกลับไม่ทราบ
วิธีการปิดผนึกออร่าของตนเอง!” หลิงหยุนเอ๋อแค่นเสียงเบา “หาก
พวกมันกำจัดออร่าตนเองออกไป ยามเมื่อหลบหนี เมื่อนั้นพวกมัน
คงมีโอกาสรอดพ้นบ้าง!”
“พวกมันเป็นผู้ผ่าเผย ดังนั้นสมควรนึกรังเกียจที่จะเรียนรู้เคล็ดวิชา
เหล่านั้น!”
ออร่าของบรรดาราชันยุทธ์เริ่มใกล้เข้ามา
เมื่อสัมผัสถึงออร่าเหล่านั้นได้ ใบหน้ารูปไข่งดงามของเซี่ยวเสวียน
ฉินจึงหลั่งเหงื่อออก นางร้อนรนและหวาดกลัว มือกระชับดาบยาว
ซึ่งเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันไว้แน่น สายตาจับจ้องที่เบื้อง
หน้า
“พวกมันมาแล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อร้องบอก
ขณะราชันยุทธ์เหล่านั้นใกล้มาถึง ฉินหยุนพลันใช้เคล็ดวิชาอัญเชิญ
ราชสีห์สวรรค์ เรียกราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพทั้งสามตัวออกมา!
หลังอัญเชิญราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพที่แข็งแกร่งออกมาแล้ว เขาจึงให้
ราชสีห์สวรรค์เหล่านั้นส่งเสียงร้องคำรามราชสีห์สวรรค์ดังจากสาม
ทิศทาง
ได้ยินเสียงคำราม ผู้ใดล้วนทราบว่าเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
บรรดาราชันยุทธ์พอได้ยิน พวกเขาหยุดมุ่งเป้ามาที่เซี่ยวเสวียนฉิน
แต่พลันกระจายตัวออก มุ่งหน้าไปยังทิศทางทั้งสามซึ่งราชสีห์
สวรรค์ใต้พิภพคงอยู่
เซี่ยวเสวียนฉิน เมื่อได้ยินเสียงคำรามราชสีห์สวรรค์ นางพบว่ามัน
คุ้นเคยยิ่ง ถึงตอนนี้เอง นางรับรู้ได้ว่าข้อเท้าถูกคว้าเอาไว้ ในพริบตา
ที่นางคิดดิ้นรน นางกลับถูกลากสู่ใต้ดินลงลึก
เมื่อนางคิดตอบสนอง จึงพบว่าถูกอุ้มไว้โดยบุคคลหนึ่ง!
“ป้าเซี่ยว ข้าเอง!” ฉินหยุนส่งเสียงสื่อสารไปยังเซี่ยวเสวียนฉิน
“ผ่อนคลาย ข้าจะใช้พลังเงา!”
ภายในใจเซี่ยวเสวียนฉิน ทั้งตื่นตะลึงและโกรธเกรี้ยวไปพร้อมกัน
ทว่าด้วยสถานการณ์ตอนนี้ นางมีแต่ต้องให้ความร่วมมือกับฉินหยุน
นางสูดลมหายใจเข้าลึก ผ่อนคลายร่างกาย ปล่อยให้พลังเงาของฉิน
หยุนเข้ามาปกปิดออร่าของนางเอาไว้
“เจ้าคือหุ่นเชิดนั่น?” เซี่ยวเสวียนฉินส่งเสียงสื่อสารถามมา
“ใช่! อย่าได้กล่าวโทษเย่ว์เหม่ยเลย ข้าคือคนที่บอกให้นางทำเช่นนั้น”
ฉินหยุนกล่าว
เซี่ยวเสวียนฉินสะบัดพ้นจากอ้อมกอดฉินหยุน คงสภาพไว้เพียงการ
จับมือ
นางเมื่อเกาะกุมมือของฉินหยุนไว้ ความทรงจำครั้งเดินทางไปสุสาน
ราชวงศ์เทียนเซี่ยวจึงปรากฏ ในตอนนั้น นางก็เกาะกุมมือฉินหยุน
เอาไว้เช่นนี้ ทั้งยังถูกเขาดึงไปนั่นมานี่ เป็นผลให้ความรู้สึกยาก
อธิบายภายในใจของนางทะลักท่วมท้นขึ้นมา
และตอนนี้ ที่ส่วนลึกภายในหัวใจของนาง ความรู้สึกซับซ้อนที่นาง
มีต่อฉินหยุน พลันต้องทะยานขึ้นมาอีกครั้ง มันกำลังขัดขืนต่อความ
เกลียดชังที่นางมีให้ฉินหยุน
เซี่ยวเสวียนฉินคล้ายลืมเลือนเรื่องราชันยุทธ์เหล่านั้นจนสิ้น เพราะ
ช่วงเวลานี้ หัวใจของนางมีแต่ความขัดแย้งที่สู้ต่อกัน
นางทราบดี ว่าหากไม่ใช่ฉินหยุนลงมือทันเวลา นางก็คงจบสิ้นชีวิต
ไปแล้ว!
กล่าวได้ว่าฉินหยุนได้ช่วยเหลือนางไว้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยความรู้คุณ
นางไม่อาจเกลียดฉินหยุนลงได้อีก
“ฉินหยุน เจ้าและเย่ว์เหม่ยได้พูดคุยกันหลายเรื่องกระมัง อย่างเช่น
เรื่องชาติภพก่อนของเจ้า?” เซี่ยวเสวียนฉินที่เผชิญความรู้สึกอัน
ยากลำบาก นางพยายามส่งเสียงสื่อสารถามมา
“ใช่ขอรับ! ข้าทราบเรื่องชาติภพก่อน และข้าเองก็ทราบ ว่ากาลก่อน
นั้นท่านเกลียดชังข้าเพียงใด!” ในความมืด ฉินหยุนไม่อาจมองเห็น
เซี่ยวเสวียนฉิน เขาเพียงแต่รับรู้ ว่ามือขาวนวลของนางอ่อนนุ่มทว่า
เย็นเยียบ
“ป้าเซี่ยว ชาติภพก่อนของข้าก็คืออดีต! ตัวข้าตอนนี้ไม่อาจทำอะไร
กับมันได้แล้ว!” ฉินหยุนกล่าวย้ำ “แม้ข้าไม่อาจตื่นรู้ความทรงจำชาติ
ภพก่อนตอนนี้ ทว่าภายหน้าอย่างไรมันก็คงต้องตื่นขึ้นมา! ดังนั้นข้า
จะใช้ความได้เปรียบในข้อเท็จจริง ที่ว่าข้ายังไม่ตื่นรู้ความทรงจำ ทำ
การชดเชยความผิดพลาดที่ตัวข้าเคยสร้างเอาไว้!”
เซี่ยวเสวียนฉินพิจารณาตาม นางถอนหายใจยาว “เจ้าช่วยชีวิตข้า
เอาไว้ ดังนั้นข้อพิพาทระหว่างเราในชาติภพก่อน เอาเป็นว่าลืมเลือน
เรื่องเหล่านั้นไป! ก่อนหน้า เจ้าได้ช่วยข้าขัดเกลาวิญญาณ ให้ข้าได้
เลื่อนระดับ ทั้งยังช่วยให้ผ่านพ้นจากวิกฤต ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่มีทาง
เลื่อนระดับและตื่นรู้ความทรงจำชาติภพก่อนเช่นตอนนี้ขึ้นมาได้”
ฉินหยุนนับถือต่อเซี่ยวเย่ว์เหม่ย นางจงใจให้เขาลงมือในช่วงเวลา
หน้าสิ่วหน้าขวาน มีแต่ทำเช่นนี้ จึงค่อยสั่นคลอนความรู้สึกของ
เซี่ยวเสวียนฉินได้
“ดียิ่งนักขอรับ ข้าจะได้ไม่ถูกท่านถลกหนังเที่ยวไล่แขวนหน้าเมือง
แล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“เหอะ!” เซี่ยวเสวียนฉินหยิกมือฉินหยุนรุนแรงไปทีหนึ่ง “เด็กน้อย
เย่ว์เหม่ยนั่นบอกให้เจ้าทำเช่นนี้หรือ?”
“ใช่ นางเพียงชี้ทางให้ข้า ตัวข้าเองคิดอยากลงมือก่อนหน้านี้แล้ว
ทว่านางห้ามข้าเอาไว้!” ฉินหยุนกล่าว
“เด็กน้อยผู้นั้น! นางกล่าวก่อนหน้า ว่าจะไม่โกหกและคดโกงใดอีก
ต่อไป แต่แล้วกลับลวงหลอกต่อข้าอีก!” เซี่ยวเสวียนฉินสบถออก
เสียงเบา
ฉินหยุนหาได้ห่วงหาเรื่องทางด้านสื่อชิงเฉิงอีก เพราะเซี่ยวเย่ว์เหม่ย
ย่อมมีวิธีการซ่อนตัวตนเอาไว้
“ป้าเซี่ยว ท่านอย่าได้โกรธนางไปเลย” ฉินหยุนกล่าว
“ช่างมัน ตอนนี้ดีก็ดีแล้ว!” เซี่ยวเสวียนฉินไม่อาจมองเห็นใบหน้า
ฉินหยุน นางได้แต่กล่าวไปพร้อมความรู้สึกดีภายในหัวใจที่เข้าแทนที่
“ป้าเซี่ยว อย่างนั้นภายหน้าเมื่อพบท่านข้าควรใส่หน้ากากดีหรือไม่?”
ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ข้าไม่รู้ ไว้ได้เห็นหน้าเจ้าอีกครั้งค่อยว่ากล่าว!” เซี่ยวเสวียนฉินถอน
หายใจเบา “ฉินหยุน ชาติภพก่อนของเจ้าสร้างความเกลียดชังไว้มาก
นัก ข้าไม่อาจปล่อยวางความรู้สึกทั้งหมดอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้!”
“ขอรับ พี่สาวปิงชิงเองก็เป็นเช่นกัน ทว่าตอนนี้นางดีต่อข้าแล้ว!”
ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“พี่สาวปิงชิง? ปิงชิงงั้นหรือ? นี่นางก็ตายด้วย?” เซี่ยวเสวียนฉินไม่
ค่อยทราบเรื่องของปิงชิงเท่าใดนัก
“นางไม่ตาย ตอนนี้อยู่ที่พระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์” ฉินหยุนบอก
เล่าถึงสถานการณ์ของปิงชิงให้เซี่ยวเสวียนฉินรับรู้
เซี่ยวเสวียนฉินหลังได้ทราบ นางยังคงรู้สึกว่าเรื่องราวเหลือเชื่อ
เกินไป “ปิงชิง เย่ว์เหม่ย เย่ว์หลาน และฉีเย่ว์ พวกนางล้วนปล่อยวาง
ต่อเจ้า อย่างไรแล้วเจ้าก็ยังไม่ได้ตื่นรู้ความทรงจำขึ้นมา ดังนั้นเจ้าจึง
ไม่ใช่ตัวบัดซบนั่น! นอกจากนี้ เจ้ายังช่วยเหลือพวกนางเอาไว้หลาย
ครั้งครา ไม่เช่นนั้น เจ้าคงไม่มีทางสะสางหนี้ที่ก่อไว้ได้หมด!”
“เป็นข้าย่ำแย่นัก ข้าไม่ควรรังควานเจ้าเพราะเป็นตัวบัดซบผู้นั้น ฉิน
หยุน เรื่องนี้ข้าต้องขออภัยต่อเจ้า!”
“ไม่เป็นไรเลยขอรับป้าเซี่ยว” ฉินหยุนยิ้มตอบ
เขายังไม่กล้าพูดกล่าวถึงเรื่องที่ปิงชิงจูบตนเอง ไม่เช่นนั้น เซี่ยว
เสวียนฉินอาจเริ่มคิดหนี้แค้นกับตัวเขาในชาติภพนี้
“อย่างนั้นเจ้าเกลียดข้าหรือไม่?” มือเย็นเยียบของเซี่ยวเสวียนฉินค่อย
อบอุ่นขึ้นมา
“ข้าหรือจะเกลียดท่าน?” ฉินหยุนหัวเราะรับ “ป้าเซี่ยว ท่านยังจำครั้ง
สุสานราชวงศ์เทียนเซี่ยวได้หรือไม่? เรื่องราวที่ใต้โลงศพแห่งนั้น
ความลับอันยิ่งใหญ่เบื้องล่าง ข้ากระทั่งได้รับจารึกวิญญาณราชัน
สัตว์มา รวมถึงปากกาลึกล้ำสะท้อนจิต!”
เซี่ยวเสวียนฉินพยักหน้ารับ “โลงศพนั่นสามารถเคลื่อนย้ายคนตายที่
ภายใน เพราะผู้คนส่วนใหญ่ซึ่งถูกฝังเอาไว้ในภายในนั้น ล้วนเป็น
คนของตระกูลเซี่ยว มีโอกาสสูงว่าพวกเขาจะมีสายเลือดมังกรคงอยู่
ในร่าง! พวกเขาเหล่านั้นล้วนถูกส่งไปยังสุสานเซียน ดังนั้นภายหน้า
จึงยังมีโอกาสได้ฟื้นคืนชีพ!”
“ราชันยุทธ์ที่เบื้องบนพวกนั้นกำลังถูกราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพของข้า
ดึงความสนใจไป ตอนนี้พวกเราน่าจะปลอดภัยแล้ว!” ฉินหยุนยิ้ม
“พวกเราขึ้นไปตอนนี้ ตามไปสมทบกับพวกเย่ว์เหม่ยจะดีกว่า”
เซี่ยวเสวียนฉินแค่นเสียงเบา “หากวิญญาณร้ายวารีได้เห็นเจ้า นางคง
ยินดีไม่ใช่น้อย! นางพูดกล่าวถึงเจ้าต่อหน้าข้าทุกวี่วันเพราะทราบว่า
ข้าเกลียดชังเจ้า! กระทั่งว่าเจ้าไม่ตื่นรู้ความทรงจำขึ้นมา ความสามารถ
ในการล่อลวงสตรีของเจ้าก็ยังเป็นเหมือนเช่นเคย!”
“ป้าเซี่ยว ชาติภพก่อนข้าทำท่านไว้เลวร้ายมากเลยหรือ? หากเป็น
เช่นนั้น…” ฉินหยุนกล่าวพลางเกาศีรษะ
“ตัวเจ้ากาลก่อนนั้นละโมบในเงินตราอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังชื่นชอบ
เล่นกับความรู้สึกของสตรี ภายหลังเจ้าค่อยละทิ้งพวกนาง แม้เจ้าคด
โกงเงินไป กลับไม่เคยหลอกให้ผู้อื่นร่วมเพศสัมพันธ์กับเจ้า เรื่องนี้
ช่างน่าเกลียดชังนัก!” เซี่ยวเสวียนฉินยังคงมีโทสะอยู่บ้างยาม
กล่าวถึงชาติภพก่อนของฉินหยุน
“ฉินหยุน ข้าไม่ทราบว่าควรบอกเรื่องราวในกาลก่อนของเจ้าเพียงใด
ดี หากเจ้าฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาได้ ตัวเจ้าจะเกิดการผสมปนเป
ทางความทรงจำ ตัวเจ้าในตอนนี้เป็นคนดีอย่างนี้ก็ดีแล้ว!” เซี่ยว
เสวียนฉินกล่าว
“ขึ้นไปข้างบนกันดีกว่า” ฉินหยุนเปลี่ยนร่างตนเองกลับคืนเป็นเช่นเดิม
เขานำเซี่ยวเสวียนฉินกลับสู่พื้นดินเบื้องบน
เซี่ยวเสวียนฉินนำเปลือกหอยสื่อสารออกมา ติดต่อหาสื่อชิงเฉิงและ
คณะ
“เสวียนฉิน! เจ้าอยู่ที่ใดแล้ว? เร่งรีบมา พวกเราเจอสถานที่คุ้มภัยแล้ว
และยังมีแกนกลางดวงดาวที่ร่วงหล่นลงมา เป็นภูเขาผลึกแก้ว! ตอนนี้
หลายคนต่างมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อฉกชิงกันแล้ว!” น้ำเสียงของสื่อชิง
เฉิงเปี่ยมด้วยความกังวล
เซี่ยวเสวียนฉินและฉินหยุนพอได้ฟัง ทั้งสองต่างมองหน้ากันก่อน
พบว่าเรื่องราวน่ากังวล
“ชิงเฉิง ลงมือไปตามสมควร พวกเรากำลังมุ่งหน้าไป!” เซี่ยวเสวียน
ฉินกล่าวคำจบ นางเก็บเปลือกหอยสื่อสารก่อนจะเร่งรีบพุ่งทะยาน
ไปพร้อมฉินหยุน
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ราชันยุทธ์พบตัว เซี่ยวเสวียนฉินจึงปล่อยให้ฉิน
หยุนใช้พลังเงาเก็บซ่อนตัวตน นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นนางที่ต้องการ
เกาะกุมมือฉินหยุนต่อไป
หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะกล่าว “เสี่ยวหยุน ป้าเซี่ยวภายนอกเย็นชา กระนั้น
ภายในเป็นสตรีที่ร้อนแรง! ความรู้สึกของนางที่มีต่อเจ้าเก็บซ่อนไว้
เป็นอย่างดี ดียิ่งกว่าปิงชิงเสียอีก ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“หยุดพูดจาไร้สาระจะได้หรือไม่?” ฉินหยุนกล่าว “ข้าหาได้คิดอัน
ใดเช่นนั้นไม่!”
“หากนางไม่รู้สึกใดต่อเจ้า นางย่อมไม่เปลี่ยนท่าทีต่อเจ้ารวดเร็วเพียง
นี้! นางเกลียดชังเจ้ามากมายเมื่อครู่ แต่แล้วพอได้เห็นเจ้า นางกลับ
กลายเป็นอ่อนระทวย!” หลิงหยุนเอ๋อยังคงหัวเราะไม่หยุด “นางดื้อ
รั้นไล่สังหารเจ้าในชาติภพก่อน ชัดเจนว่าความรักและความเกลียด
ชังบังเกิดในความรู้สึกนางพร้อมกัน เป็นความรู้สึกที่คิดอยากได้ละ
เล่นกับเจ้า!”
“หยุดพูดกล่าววาจาไร้สาระ!” ฉินหยุนตอบกลับ
ฉินหยุนถึงตอนนี้ค่อยให้ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพกลับคืนสู่ปรโลก
เพื่อเป็นการลากถ่วงราชันยุทธ์เหล่านั้น ราชสีห์สวรรค์ทั้งสามจึง
ต้องบาดเจ็บไปไม่ใช่น้อย
ถึงตอนนี้ เซี่ยวเสวียนฉินจึงนำเอาเปลือกหอยสื่อสารออกมา เสียง
สื่อชิงเฉิงดังขึ้น “เสวียนฉิน พวกเราไม่ได้อยู่ตำแหน่งก่อนหน้านี้
แล้ว ให้ใช้เปลือกหอยสื่อสารหาตำแหน่งใหม่พวกเราแทน!”
“เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยวเสวียนฉินถามขึ้น
“แม้พวกเราพบเจอก่อน ทว่ามีกลุ่มคนมุ่งหน้ามายึดครองสมบัติพวก
นั้นไป!” สุ่ยเทียนสื่อเผยเสียงกราดเกรี้ยว “เร่งรีบมาทางด้านนี้! พวก
มันล้วนเป็นราชันยุทธ์ พวกเราไม่มีโอกาสให้ฉกฉวย!”
เซี่ยวเสวียนฉินพอได้ทราบตำแหน่งอีกฝ่ายผ่านทางเปลือกหอย
สื่อสาร นางหันไปกล่าวกับฉินหยุน “เจ้ามีวิธีรับมือกับราชันยุทธ์
เหล่านั้นหรือไม่?”
ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King – ตอนที่ 730
ตอนที่ 730
Posted by ? Views, Released on ธันวาคม 11, 2022
, ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King
Status: Ongoing