ตอนที่214 ฉันต้องไป
“อย่า!”
ใครจะรู้ว่าปาลีกลับจับมือของปิยะไว้ ส่ายหัวยกใหญ่แล้ว พูดว่า “ไม่ต้องบอกพวกเขา ฉัน…ฉันแค่อยากจะออกไปจาก ที่นี่”
“อะไรนะ?”
ปิยะตะลึง “ปาลี เธอคิดจะไปที่ไหน?”
ปาลีระบายยิ้มบาง “ไปที่ไหนก็ได้แต่ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อ ไปแล้ว”
“ทำไมล่ะ?”
ปิยะมองปาลีอย่างกังวล เธอกลัวว่าปาลีจะกำลังพูดแบบ
ไม่คิด
“เธอถามฉันว่าทำไม เหตุผลน่ะเยอะมากเยอะมากๆ
ปาลีหมดแรงส่ายหัว เธอเจ็บจนถึงหัวใจ ทันใดนั้นก็ช้อน ตาไปมองตาปิยะ พูดว่า “ปิยะ เธอเชื่อฉันไหม?”
“เชื่อแน่นอน”
ปิยะตอบอย่างไม่ลังเล
ปาลีรู้สึกซาบซึ้งใจมาก “ขอบคุณ ฉันรู้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ ถึง แม้ทุกคนจะหักหลังฉัน ฉันก็ยังมีเพื่อนที่ดีแบบเธออยู่ ฉัน อยากจะพูดอีกครั้งว่า ที่ฉันแท้งลูกไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นฝีมือ ของธนัทพ่อดนผลทำร้ายให้ถึงชีวิต เขาเรียกคนให้มาพา ฉันไปบนเตียงผ่าตัด เจาะถุงน้ำคร่ำฉัน เพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ เด็ก ผลลัพธ์คือทำให้ฉันแท้ง ไม่ว่าเรื่องทั้งหมดจะไม่ แสดงออกมาง่ายๆ แต่ธนัทก็คือตัวการในการฆ่าลูกฉัน นัฐ พงษ์กับรฐาเป็นคนช่วย และโสรจก็เป็นคนที่หลบซ่อนอยู่ เบื้องหลังนี้ ฉันพูดแบบนี้ เธอเชื่อฉันไหม?”
ถึงแม้ว่าวันนั้นโสรจจะไม่ได้พูดว่านัฐพงษ์เข้าร่วมด้วย แต่ ปาลีก็ไม่ได้โง่ ธนัทบังคับให้เธอเจาะน้ำคร่ำ ถ้าไม่ได้รับช่วย เหลือของนัฐพงษ์และปกปิดเรื่อง ดนุพลจะไม่เชื่อคำพูด เธอได้อย่างไร!
ปิยะฟังจบตกใจอย่างถึงที่สุด ทันใดนั้นเธอหยักหน้าอย่าง แรง พูดอย่างสายตาแน่วแน่ว่า “ฉันเชื่อ แน่นอว่าฉันเชื่อเธอ ตั้งแต่วันนั้นที่เธอพูดว่าที่เธอแท้งลูกไม่ใช่อุบัติเหตุฉันก็เชื่อ มาตลอด แต่ว่าฉันเชื่อแค่คนเดียวก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อ พวกเขาล้วนไม่เชื่อ ที่สําคัญที่สุดคือ….ดนพลก็ไม่เชื่อเธอนี่
“ใช่แล้ว แม้แต่เขาก็ไม่เชื่อฉัน
ปา ยิ้มอย่างอ้างว้าง ยิ้มทั้งน้ำตา “ความแค้นครั้งนี้ ฉัน คนนี้จะต้องแก้แค้นให้ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้มีสายตา จับจ้องฉันเยอะเกินไป พวกเขาล้วนมองว่าฉันบ้า ถึงแม้ว่า แท้จริงแล้วฉันจะไม่ได้บ้า พวกเขาก็ยังยัดเยียดว่าฉันบ้า ด้งนั้น ปิยะเธอช่วยฉันหน่อยนะ ช่วยพาฉันไปให้ไปจากที่นี่”
ฟังปาลีพูดจบ ปิยะเงียบไปนานพอสมควร หลังจากนั้นเธอ พยักหน้าอย่างแน่วแน่ “โอเค ฉันจะช่วยเธอ ในเมื่ออยากไป ก็ต้องไปที่ที่พวกเขาหาไม่เจอ ฉันส่งเธอไปต่างประเทศดี ไหม?”
ปาลีตะลึงนิดหน่อย ต่างประเทศ?
ถึงแม้ว่าเธอจะมีความคิดทที่จะไปให้ไกล แต่กลับไม่ได้ คิดว่าจะไปไกลขนาดนั้น
แต่ ไปต่างก็ดี แบบนั้นพวกเขาจะได้หาเธอไม่เจอ ไม่เช่น นั้นด้วยฐานะและวิธีการของพวกเขา เธอหนีไปเมืองไหนก็ หาเจอแน่ๆ
“ไปต่างประเทศก็ต้องทำพาสปอร์ต ทำพาสปอร์ตต้องใช้ เวลาหลายวันอยู่ ดังนั้นช่วงนี้เธอก็ยังต้องอยู่โรงพยาบาล ไปก่อน”ปิยะอธิบายอย่างละเอียด
ปาลีตอบรับเบาๆ “ฉันเข้าใจ ฉันรู้ว่าควรจะทำอะไร
ในเมื่อตัดสินใจจะไป งั้นก่อนไปห้ามแสดงพิรุธอย่างเด็ด
ขาด
ทั้งสองพูดกันอีกหน่อยและเมื่อธามกลับมา ปิยะถึงจะออก ไป
ปาลึกลับไปเป็นร่างไร้วิญญาณแล้วเหมือนเดิมอีกครั้ง ที่ ไม่เหมือนก็คือเมื่อก่อนเป็นเรื่องจริง ตอนนี้เธอกำลังแสดง
หางตาเหลือบมองธามที่กำลังจัดของใช้ประจำให้เธอจน ยุ่ง บางครั้งพูดคุยกับตัวเอง ปาลีรู้สึกว่าเธอทำเกินไป ได้สติ แล้วแต่กลับยังหลอกว่าไม่ได้สติอยู่
พระเจ้ารู้ เขาอยากจะพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดอบอุ่นของพ่อ เหลือเกิน เรียกพ่อ
แต่ปาลีรู้ว่าตัวเธอต้องอัดกลั้นเก็บไว้ เธอไม่เหลืออะไร อะไรแล้ว เธอไม่สามารถเสียพ่อที่รักเธอสุดหัวใจไปไม่ได้ เพราะว่าเธอเป็นห่วงว่าถ้าข่าวที่เธอไม่ได้บ้าออกไป คน พวกนั้นจะมาทำให้เธอยิ่งคลั่งบังคับให้เธอบ้า เช่น ทำร้าย พ่อสุดที่รักของเธอ
ธามไม่รู้ว่าเวลานี้ปาลีได้สติแล้ว เขาชินกับการที่บ่นคน เดียวกับปาลีแล้ว ในใจก็ยังยุ่งเหยิงว่าควรจะโทรหาวิสาข์ดี ไหม?
ปัญหานี้ทำให้จิตใจของธามว้าวุ่นมาครึ่งเดือนแล้ว ตั้งแต่ วันแรกที่ปาลีเข้าโรงพยาบาลเขาก็เริ่มว้าวุ่นไปหมด
พูดอย่างแท้จริงแล้ววิสาข์ก็เป็นแม่แท้ๆของปาลี ลูกสาว เป็นแบบนี้คนเป็นแม่ก็ควรจะรู้
แต่ว่าธามก็เป็นห่วงหลังจากที่วิสาข์รู้ จะเสียใจถึงขั้น ทำร้ายร่างกายทั้งยังโรงพยาบาลนี้เป็นพวกคนรวย คนจากพวกชนชั้นสูง เขากลัวว่าถ้าวิสาข์มาเยี่ยมปาลีก็ถูกคนจำ ได้ ถ้าเป็นแบบนี้การดึงวิสาข์ที่การหลบซ่อนมาตลอด จะ กระทบต่อครอบครัวปัจจุบันของเธอ งั้นเขาก็จะทำผิดครั้ง ใหญ่เลยทีเดียว
ดังนั้น คิดไปคิดมาธามก็ลังเลอยู่ครึ่งเดือนแล้ว ยังคงคิด ไม่ออกว่าควรจะวิสาข์ดีไหม
กลับไม่รู้ว่า ถ้าเขาบอกไปครั้งนี้ ก็จะไม่มีการทะเลาะกันทะ เทือนน้ำสะเทือนบกหลังจากนี้