แมงมุมหน้าผี
หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่ามันรูปปั้นของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อะไรกันแน่ หัวของมันเป็นแกะ ส่วนร่างกายเหมือนของมนุษย์ หลังของมันมีปีกงอกออกมา มันดูเหมือนกับเทพเจ้าแกะสมัยก่อน
“ทำไมที่นี่ถึงได้มีรูปปั้นตั้งอยู่? พวกซีโน่เจเนอิคเป็นคนสร้างมันขึ้นมาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสับสน
กระเรียนพันขนได้บอกหานเซิ่นเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณมาบ้างเล็กน้อย แต่คนรุ่นใหม่ของเผ่าพันธุ์นภาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าซีโน่เจเนอิคของที่นี่จริงๆแล้วเป็นยังไง
ไห่เอ๋อร์พูด “มันไม่ใช่รูปปั้น แต่มันเป็นบ้านของซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ”
“บ้าน?” หานเซิ่นประหลาดใจ เขามองไปที่รูปปั้นอีกครั้ง
“ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นทำไมพวกมันถึงถูกเรียกว่าซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ? นั่นเป็นเพราะซีโน่เจเนอิคพวกนี้อาศัยอยู่ในรูปปั้นสมัยโบราณ เจ้ามาที่นี่โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างนั้นหรอ? นี่ราชินีแห่งมีดไม่ได้บอกอะไรเจ้าเลยหรือยังไง?”
หานเซิ่นไหล่ตก เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้นำของปราสาทนถาถึงทำแบบนี้ การที่เขาส่งหานเซิ่นมาที่นี่โดยไม่บอกอะไรเลยเป็นอะไรที่แปลก หานเซิ่นไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่
ไห่เอ๋อร์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นมา เธอจึงรีบเข้าไปซ่อนตัวในรอยแยก
หานเซิ่นมองไปทางเสียงที่ดังมา เสียงนั้นดังก้องรอบทิศทาง แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่ามันดังออกมาจากรูจมูกของรูปปั้น
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีแมงมุมที่มีความกว้าง 3 เมตรคืบคลานออกมาจากรูจมูกของรูปปั้น
แมงมุมตัวนั้นมีร่างกายดูเหมือนกับโลหะ และลวดลายบนหลังของมันก็ดูเหมือนกับใบหน้าของมนุษย์
“นี่คือซีโน่เจเนอิคเทพโบราณ แมงมุมหน้าผี มันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ล อย่าเพิ่งลงมือทำอะไร พวกมันมักจะอยู่กันเป็นกลุ่ม ดังนั้นมันต้องมีอีกหลายตัวอยู่ข้างในรูปปั้นนั้น พวกเราควรจะวางแผนก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตกอยู่ในวงล้อมของพวกมัน” ไห่เอ๋อร์พูด
หานเซิ่นมองไปที่แมงมุมหน้าผีพร้อมกับครุ่นคิด เขาเคยต่อสู้กับแมงมุมแบบนี้มาก่อนในความฝันที่ถูกส่งเข้าไป ความจริงแล้วเขาเคยต่อสู้กับพวกมันเป็นจำนวนมาก เขาจึงรู้ดีว่าแมงมุมนี้มีพลังแบบไหน
‘ที่แท้ความฝันก็มีไว้สำหรับฝึกเราในเรื่องนี้ แต่ทำไมเจ้าม้านั้นถึงไม่บอกกับเราตรงๆ? ทำไมมันต้องพยายามทำให้เราหวาดกลัวแบบนั้นด้วย?’ หานเซิ่นสงสัย
แต่หานเซิ่นรู้ว่าถ้าผู้นำของปราสาทนภารวบรวมข้อมูลของซีโน่เจเนอิคทั้งหมดมาให้กับเขา เขาก็จะแค่มองมันผ่านๆเท่านั้น และเขาก็คงจะไม่ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพวกมันอย่างจริงจัง
แต่ทว่าเมื่อได้ต่อสู้กับพวกมันในความฝัน หานเซิ่นก็สามารถจดจำซีโน่เจเนอิคแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน
หานเซิ่นเรียกมนตราออกมาในร่างปืนไรเฟิล หลังจากนั้นเขาเล็งปืนไปยังแมงมุมหน้าผีที่ออกมาจากรูจมูกของรูปปั้น
“เจ้ากำลังจะทำอะไร? เจ้าคงไม่คิดจะยิงแมงมุมหน้าผีจากระยะนี้หรอกใช่ไหม? แมงมุมหน้าผีเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเอิร์ลที่แข็งแกร่งมากๆนะ!” ไห่เอ๋อร์ตกใจกับการกระทำของหานเซิ่น
ไห่เอ๋อร์รู้ว่าหานเซิ่นสามารถฆ่าแมงมุมหน้าผีได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่ระยะระหว่างพวกเขากับแมงมุมหน้าผีนั้นมากถึง 3 กิโลเมตร ซึ่งพลังของเอิร์ลจะอ่อนลงในการโจมตีระยะไกล ดังนั้นมันคงจะไม่มากพอที่จะฆ่าแมงมุมหน้าผีได้
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นและกระสุนก็พุ่งไปที่หลังของแมงมุม บริเวณดวงตาข้างซ้ายบนลวดลายของใบหน้าคือจุดอ่อนของพวกมัน หานเซิ่นเคยฆ่าพวกมันไม่รู้กี่ตัวในความฝัน ดังนั้นเขารู้เกี่ยวกับพวกมันเป็นอย่างดี
เลือดเริ่มไหลออกมาจากบาดแผลบนหลังของแมงมุม หลังจากนั้นมันก็ร่วงลงมาที่พื้น
“ซีโนเจเนอิคแมงมุมหน้าผีถูกฆ่า ยีนซีโนเจเนอิคถูกพบ” เสียงประกาศดังขึ้นในหัวของหานเซิ่น
ไห่เอ๋อร์ตกตะลึง พลังของหานเซิ่นแข็งแกร่งกว่าเอิร์ลทั่วๆไปมาก เขาสามารถฆ่าซีโนเจเนอิคที่อยู่ในระยะไกลได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หลังจากที่เสียงปืนดังขึ้น แมงมุมจำนวนมากก็เริ่มหลั่งไหลออกมาจากรูปปั้น แต่ทัศน์วิสัยและสัมผัสของพวกมันค่อนข้างจำกัด ทำให้พวกมันไม่สามารถหาตำแหน่งของหานเซิ่นได้
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง และกระสุนก็พุ่งเข้าไปที่แผ่นหลังของแมงมุมอีกตัว
เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแมงมุมก็เริ่มร่วงหล่นลงมาจากรูปปั้นไปตามๆกัน พวกมันไม่ค่อยมีสติปัญหา และดูเหมือนพวกมันจะพึ่งพาสัญชาตญาณเท่านั้น พวกมันไม่สามารถหาตำแหน่งของหานเซิ่นได้
หานเซิ่นฆ่าแมงมุมหน้าผีไปทีละตัวๆ และในเวลาไม่ถึงนาที เขาก็ฆ่าพวกมันได้หลายสิบตัว ไห่เอ๋อร์มองหานเซิ่นด้วยความตกตะลึง เธออึ้งจนทำอะไรไม่ถูก
ไห่เอ๋อร์รู้สึกหนาวขึ้นมา อาวุธจีโนที่ดูเหมือนกับปืนของหานเซิ่นมีระยะการจู่โจมที่น่าเหลือเชื่อ เธอไม่มีทางจะรู้ตัวได้เลยถ้าหานเซิ่นตัดสินใจที่จะใช้มันลอบสังหารเธอ เธอมั่นใจว่าสามารถหลีกเลี่ยงมันได้ถ้ามีโอกาสได้เตรียมตัว แต่เธอไม่สามารถระวังตัวอยู่ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน พลังของหานเซิ่นเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไป
และเขายังเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง ถ้าเขากลายเป็นราชันหรือเทพเจ้าเมื่อไหร่ เขาก็คงจะฆ่าศัตรูโดยการยิงจากอีกฝากของดวงดาว
แมงมุมหน้าผียังคงหลั่งไหลออกมาเต็มไปหมด และพวกมันก็ปล่อยใยออกไปทั่ว พวกมันไม่รู้ว่าหานเซิ่นอยู่ที่ไหน ดังนั้นพวกมันจึงทำได้แต่ปล่อยใยออกไปแบบมั่วๆ แมงมุมยังคงถูกยิงร่วงลงมาทีละตัวๆราวกับว่าพวกมันเป็นเป้าสำหรับฝึกซ้อม
หลังจากที่ฆ่าแมงมุมหน้าผีไปร้อยตัว ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประกาศว่าเขาได้รับวิญญาณอสูร
หานเซิ่นยังคงฆ่าพวกมันต่อไป แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องประหลาดดังขึ้นมา มันดังออกมาจากปากของรูปปั้น หลังจากนั้นก็มีแมงมุมที่ตัวใหญ่กว่าตัวอื่นๆถึง 2 เท่าออกมา
“นั่นคือแมงมุมหน้าผีระดับมาร์ควิส!” ไห่เอ๋อร์ตะโกนขึ้นมา
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาหยุดยิงและรอจนกระทั่งแมงมุมหน้าผียักษ์เผยแผ่นหลังของมันออกมา จากนั้นเขาก็เหนี่ยวไก
ปัง!
กระสุนพุ่งออกไปถูกเข้าที่แผ่นหลังของแมงมุมหน้าผีและเจาะเข้าไปในดวงตาข้างซ้ายของลวดลายรูปใบหน้า หลังจากนั้นแมงมุมหน้าผีระดับมาร์ควิสก็ร่วงลงมา
ไห่เอ๋อร์มองหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ เขาสามารถสังหารซีโนเจเนอิคระดับมาร์ควิสได้จากระยะไกลด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถจะหยั่งถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่นได้อีกแล้ว
‘มันเพิ่งจะผ่านมาไม่นาน ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้?’
ตอนนี้ในสายตาของไห่เอ๋อร์ หานเซิ่นเปลี่ยนไปเหมือนกับเป็นคนละคน
ไห่เอ๋อร์คิดว่าตัวเธอพัฒนาได้อย่างรวดเร็วแล้ว แต่มันเห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นพัฒนาเร็วกว่าเธอมาก