อันตราย
ปีกของแมลงแก้วเงินหักครึ่งและร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยรอยแผล เปลือกของมันถูกทำลายจนเผยให้เห็นเนื้อที่อยู่ข้างใน และมันก็มีเลือดสีเงินไหลออกมาเต็มไปหมด
ชีวิตของเจ้าตัวนี้คงจะเป็นอะไรที่ยากลำบาก ถึงทำให้มันแน่วแน่ได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่ในสภาพแบบนั้น มันก็ยังมาตามหาหานเซิ่น
เมื่อเห็นแมลงแก้วเงินกำลังคืบคลานเข้า หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้งๆออกมา สภาพของเขาเลวร้ายยิ่งกว่าเจ้าแมลงซะอีก เขาไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ด้วยซ้ำ
พรวด!
แมลงแก้วเงินคลานมาตรงหน้าหานเซิ่นและกระอักเลือดสีเงินออกมา มันดูแย่ไม่ต่างไปจากเขา
“ไหนๆพวกเราก็ตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหมือนกัน ทำไมพวกเราไม่มาสงบศึกกันสักพักล่ะ?” หานเซิ่นกำลังบาดเจ็บหนัก เขาไถลไปด้านหลังขณะที่พูดกับเจ้าแมลง
หานเซิ่นไม่รู้ว่าเจ้าแมลงจะเข้าใจหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ตอนนี้เขาไม่มีพละกำลังที่จะต่อสู้ได้
เจ้าแมลงไม่เข้าใจที่หานเซิ่นพูด มันอ้าปากเพื่อจะกัดเขา
หานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรได้ เขาตัดสินใจเรียกชุดเกราะวิญญาณอสูรออกมา เขาไม่ได้มีพละกำลังพอที่จะหลบการโจมตีของเจ้าแมลงได้
ชุดเกราะนั้นมอบพลังป้องกันเล็กน้อยให้กับเขา แต่มันก็ใช้พลังของเขาเช่นกัน ตอนนี้หานเซิ่นไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกแล้ว
มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะใช้วิญญาณวัวหินผาปีศาจ เพราะวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่างจะกินพลังงานจากร่างกายของเขา ซึ่งสภาพของหานเซิ่นในตอนนี้ไม่สามารถใช้พลังงานมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
แมลงแก้วเงินกระโดดเข้าใส่หานเซิ่น ฟันที่เหมือนกับใบเลื่อยของมันกำลังพยายามที่จะกัดหานเซิ่น
แต่เจ้าแมลงก็บาดเจ็บหนักเช่นกัน และมันก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ ขากรรไกรของมันไม่ได้แข็งแรงอย่างที่หานเซิ่นคาดคิดเอาไว้ และเมื่อมันกัดหานเซิ่น ฟันของมันก็ไม่สามารถเจาะทะลุชุดเกราะของเขาได้ มันทำได้แค่ทิ้งร่องรอยบางๆเอาไว้
หานเซิ่นถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ถ้าเจ้าแมลงไม่สามารถฆ่าเขาได้ขณะที่สวมชุดเกราะอยู่ เขาก็อาจจะมีโอกาสรอด
ไม่นานแมลงแก้วเงินก็ล้มเลิกความพยายามที่จะกัดชุดเกราะของหานเซิ่นและหันมางับขาของเขาแทน หลังจากนั้นมันก็ลากตัวหานเซิ่นออกไป
หานเซิ่นไม่รู้ว่าเจ้าแมลงกำลังจะพาเขาไปที่ไหน แต่เขาก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนมันได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแกล้งตายและปล่อยให้เจ้าแมลงลากตัวของเขาไป เขาใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการรักษาตัวโดยหวังว่าจะฟื้นตัวได้มากพอเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องต่อสู้
ไม่นานหานเซิ่นก็พบว่าตัวเองกำลังถูกลากเข้าในอุโมงค์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เจ้าแมลงยังคงลากตัวของเขาไปเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ แต่เจ้าแมลงเองก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน มันจึงลากเขาไปอย่างช้าๆ และหลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงถ้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ภายในถ้ำหานเซิ่นได้ยินถึงเสียงการไหลของน้ำ และเมื่อเงยขึ้นมา เขาก็ได้เห็นสระน้ำที่มีดอกไม้อยู่ภายใน
หานเซิ่นมองไปรอบๆและคิดว่าเจ้าแมลงอาจจะลากเขามายังจุดที่ลึกที่สุดของถ้ำ สระที่อยู่ข้างหน้าของเขาก็คงจะเชื่อมต่อกับน้ำตกด้านนอก ซึ่งเขายังคงได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากที่นั่น
กำแพงของถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยเถาวัลย์ แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีผลอะไรงอกออกมา มันจึงยากที่จะบอกได้ว่าพวกมันเป็นพืชชนิดไหนกัน
แมลงแก้วเงินยังคงลากตัวหานเซิ่นต่อไป และเมื่อดูจากทิศทางที่มันลากไปแล้ว มันก็ดูเหมือนว่าเจ้าแมลงต้องการจะลากหานเซิ่นลงไปในสระน้ำ
ในเวลาเพียงไม่นานหานเซิ่นก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เจ้าแมลงเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่มันเลือกที่จะลากหานเซิ่นมาที่นี่แทนที่จะสนใจเรื่องรักษาบาดแผลของตัวเอง เห็นได้ชัดว่ามันลากหานเซิ่นมาที่นี่ด้วยเหตุผลอย่างอื่น
‘นี่มันต้องการอะไรกันแน่? ทำไมมันถึงจะลากเราลงไปในสระนั่น? มันต้องการทำให้เราจมน้ำอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่สังเกตไปรอบๆสระ
หานเซิ่นอ่อนแอเกินกว่าที่จะใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียน ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพาสายตาและการได้ยิน แต่สำหรับตอนนี้เขาไม่ได้ยินอะไรที่ผิดปกติ เขาได้ยินเพียงแค่เสียงของน้ำเท่านั้น
แต่เมื่อหานเซิ่นมองดูสระน้ำอย่างระมัดระวัง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
หานเซิ่นสังเกตเห็นเงาสีดำขนาดใหญ่ภายในสระ ดูเหมือนว่ามันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ภายในสระแห่งนี้
หานเซิ่นไม่รู้ว่าเงาดำมืดคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อดูจากท่าทางของเจ้าแมลงแล้ว เขาก็คิดว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในสระน้ำคงจะไม่ใช่อะไรที่ดีแน่
หานเซิ่นพยายามจะขัดขืน แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป เขาไม่สามารถดึงขาออกมาจากปากของเจ้าแมลงได้
เลือดของแมลงแก้วเงินยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ยังคงจะลากหานเซิ่นลงในสระน้ำให้ได้ เมื่อไปถึงขอบสระ มันก็โยนหานเซิ่นลงไปในน้ำ
หานเซิ่นดิ้นรน แต่มันไม่ได้ผล เขาร่วงลงไปในน้ำ
เมื่อร่างกายไปสัมผัสกับน้ำอันหนาวเย็น มันก็ทำให้เขาสะดุ้ง เขารู้สึกว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดกลับคืนมา และเขาพยายามจะว่ายกลับไปบนฝั่ง
แต่แมลงแก้วเงินยืนเฝ้าขอบสระเอาไว้ เมื่อหานเซิ่นเข้าไปใกล้ มันก็จะใช้อุ้งเท้าฟาดใส่หัวของเขา ทำให้หานเซิ่นกระเด็นถอยกลับลงไปในสระ
หานเซิ่นพยายามจะว่ายไปอีกด้านหนึ่ง แต่เจ้าแมลงก็ไม่ยอมให้เขาขึ้นมาบนฝั่งได้ง่ายๆ ทันทีที่เขาใกล้ไปถึงฝั่ง มันก็จะใช้อุ้งเท้าทุบให้เขากลับลงไปในน้ำอีกครั้ง
หานเซิ่นขุดหาหินอัญมณีอยู่ในเกาะความฝันมาเป็นเวลานาน เขาจึงเคลื่อนไหวภายในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้ แค่พยายามทำให้ตัวเองลอยขึ้นก็เต็มที่แล้ว ถ้าเขาพยายามต่อสู้กับแมลงแก้วเงิน เขาก็อาจจะหมดแรงจนหมดสติไป ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้ขอบสระอีก
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าแมลงจะหวาดกลัวอะไรบางอย่าง และนั่นก็เป็นเหตุผลที่มันหลีกเลี่ยงที่จะลงมาในน้ำ
เมื่อหานเซิ่นไม่ได้พยายามจะขึ้นฝั่งอีกและลอยตัวอยู่กับที่นั่น เจ้าแมลงก็ส่งเสียงกรีดร้องใส่หานเซิ่นด้วยความโกรธ
หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะลอยตัวต่อไป แต่เมื่อเขาก้มมองลงไปข้างล่าง เขาก็มองไม่เห็นอะไรที่อยู่ใต้น้ำ ส่วนลึกของสระดูเหมือนกับหลุมดำ
แต่ถึงเขาจะมองไม่เห็นอะไร เขาก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในความมืดใต้น้ำ และก็ดูเหมือนว่ามันกำลังว่ายขึ้นมาด้วย ซึ่งทำให้เขาเริ่มจะตื่นตระหนก
“นี่เราต้องตายอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมีจิตใจที่แข็งแกร่ง แต่สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขารู้สึกได้ว่าเงานั้นกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ