พลังของเทพเจ้าสปิริต
ในจังหวะนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีขาว เขาเปลี่ยนเป็นตัวตนแห่งแสงและกลายเป็นร่างพลังงานที่โปร่งใส
เมื่อกรงเล็บของชารอนแทงทะลุเข้าไปในร่างของหานเซิ่น เขาก็ไม่รู้สึกถึงอะไร เขาไม่สามารถสัมผัสเนื้อหนังของหานเซิ่นได้แม้แต่นิดเดียว
หานเซิ่นดูเหมือนกับเทพเจ้า เขาใช้มีดขนนกโลหิตฟันลงมาที่หัวของชารอนราวกับลำแสงศักดิ์สิทธิ์ ชารอนกระพือปีกและร่างของเขาก็หายวับไปราวกับว่าเขาเทเลพอร์ต
เมื่อชารอนปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้กรงเล็บแทงเข้าใส่หานเซิ่นจากด้านหลัง
ชารอนใช้พลังมารนภาและพลังพิชิตมารจนถึงขีดสุด เขาโจมตีใส่หานเซิ่นด้วยวิชาที่จะไม่พลาดเป้าหมาย
แต่หานเซิ่นไม่มีแผนที่จะหลบมัน กรงเล็บของชารอนทะลุร่างของหานเซิ่นไปอีกครั้ง ราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ภาพโฮโลแกรม การโจมตีของชารอนไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อหานเซิ่นได้แม้แต่นิดเดียว
“เป็นไปไม่ได้? นี่มันพลังอะไรกัน?” ชารอนตกตะลึง มันดูเหมือนกับว่าเขาโจมตีถูกหานเซิ่นเต็มๆ แต่มันไม่ได้ผล การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“นี่คือพลังที่จะฆ่าเจ้าไง” หานเซิ่นเคลื่อนที่ไปอยู่ตรงหน้าชารอนอย่างรวดเร็วราวกับลำแสง และฟันใส่เขาด้วยมีดขนนกโลหิต
หานเซิ่นไม่มีเวลามากนัก โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะทำงานอยู่แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น และถ้าเขาไม่สามารถฆ่าชารอนได้ภายในเวลานั้น เขาก็จะถูกฆ่าตายซะเอง
ตูม!
ชารอนกระพือปีกอีกครั้งและหายตัวไป
มีดของหานเซิ่นไม่สามารถฟันถูกตัวของชารอนได้ ดูเหมือนกับว่าชารอนใช้ความสามารถในการเทเลพอร์ตจริงๆ ดังนั้นมันจึงไม่มีร่องรอยอะไรให้ติดตาม แต่หานเซิ่นสามารถตามการเคลื่อนไหวของชารอนได้ด้วยศาสตร์ตงเสวียน
“เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้” ชารอนพูด “ข้ามีเลือดของเผ่าพันธุ์เดม่อนและดราก้อน และข้าก็มีพลังในการผ่ามิติ ส่วนพลังของเจ้าไม่ใช่ของเอิร์ลคนหนึ่ง เจ้าไม่ควรจะอยู่ในร่างนั้นได้เป็นเวลานาน ซึ่งเมื่อพลังของเจ้าหมดเมื่อไหร่ ข้าก็จะฆ่าเจ้าซะ”
“ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น” หานเซิ่นที่ดูเหมือนกับเทพเจ้าเริ่มกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตในมือ หลังจากนั้นมีดแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชารอน
ชารอนเทเลพอร์ตหลบมีดแสงของหานเซิ่น และไปปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอุโมงค์หนึ่ง เขามองไปทางหานเซิ่นด้วยความดูถูก
“ข้าบอกเจ้าแล้วยังไง เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้”
แต่ในวินาทีต่อมาสีหน้าของชารอนก็เปลี่ยนไป ในทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา ร่างกายของเขาก็ถูกตัดโดยมีดแสงที่มองไม่เห็น
แขนของชารอนหลุดออกจากร่าง ทำให้เลือดของเดม่อนและดราก้อนพุ่งออกมา ทุกหนทุกแห่งภายในรูปปั้นนั้นเต็มไปด้วยมีดแสงที่ส่องสว่างราวกับใยแมงมุม ไม่ว่าชารอนจะเทเลพอร์ตไปที่ไหน เขาก็จะถูกเฉือนด้วยมีดแสงของหานเซิ่น
“เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าเลือกคู่ต่อสู้ผิดคน” หานเซิ่นพูดกับชารอนก่อนที่จะโฉบเข้ามาตัดร่างของเขา
ชารอนที่สูญเสียแขนไปพยายามจะเทเลพอร์ตหนี แต่เมื่อเขาเสร็จสิ้นการเทเลพอร์ต มีดแสงนับไม่ถ้วนก็แทงทะลุร่างกายของเขา พวกมันเฉือนร่างของเขาเป็นชิ้นๆ และทำให้เลือดของเขากระเด็นกระจัดกระจายไปทั่ว
“ซีโน่เจเนอิคปีศาจมังกรระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
พรวด!
หานเซิ่นล้มลงกับพื้นพร้อมกับกระอักเลือดออกมา เขากลับมาดูเหมือนกับมนุษย์อีกครั้ง ชารอนเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่มาร์ควิสคนหนึ่งจะทำได้ ถ้าไม่พึ่งโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด หานเซิ่นก็จำเป็นต้องเป็นระดับมาร์ควิสเช่นกัน ถึงจะสามารถต่อสู้กับเขาได้
โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดทำให้หานเซิ่นสามารถต่อสู้กับชารอนได้ แต่ร่างกายของเขาก็ถูกใช้จนถึงขีดสุด ในตอนนี้แม้แต่เอิร์ลธรรมดาก็สามารถปิดชีวิตของหานเซิ่นได้อย่างง่ายดาย
หานเซิ่นพยายามลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาร่างของชารอน เขาเก็บเกล็ดปีศาจมังกรสีดำขึ้นมาก่อนที่จะหาที่ซ่อนตัว
มันยังมีมาร์ควิสที่ติดตามชารอนเหลืออยู่อีก ซึ่งหานเซิ่นไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นหานเซิ่นจึงเลือกหาที่ซ่อนอยู่ภายในรูปปั้นและใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่ออำพรางตัว
หานเซิ่นลองใช้พลังเพื่อกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ แต่ดูเหมือนว่าซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณจะหยุดเขาจากการเปิดประตูมิติเพื่อกลับไป
แน่นอนว่าตอนนี้ร่างกายของหานเซิ่นอ่อนแอเกินกว่าที่จะเทเลพอร์ตกลับได้ เขาจึงรักษาตัวอยู่ภายในรูปปั้น เขาใช้พลังหลายๆอย่างเพื่อจะเร่งความเร็วในการฟื้นตัว
โชคดีที่ร่างกายของหานเซิ่นแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตทั่วๆไป วิชากายหยกและโลหิตชีพจรทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์ดราก้อน
ถ้าหานเซิ่นกลายเป็นมาร์ควิสได้เมื่อไหร่ ร่างกายของเขาก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าดราก้อนเธอร์ทีน
“หวังว่าพวกมาร์ควิสที่เหลือจะหาเราไม่เจอ” แต่หานเซิ่นรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่สงบสติได้แล้ว เขาก็ใช้สมาธิไปกับการรักษาตัวเอง
มาร์ควิสเสือขาวและคนอื่นๆยังคงรออยู่ด้านนอกของรูปปั้น แต่หลังจากผ่านไปสักพักมันก็ยังไม่มีวี่แววว่าชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนจะกลับออกมา จนในที่สุดพวกเขาก็พบว่าการหายไปของทั้ง 2 เป็นอะไรที่แปลก
พวกเขารู้ถึงพลังของดราก้อนเธอร์ทีนและชารอนดี ถ้าพวกเขาทั้ง 2 คนร่วมมือกัน การฆ่าดยุกคนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ตอนนี้พวกเขาหายเข้าไปในรูปปั้นสีเงินเป็นเวลานาน และมันก็ไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะกลับออกมา มันทำให้เหล่ามาร์ควาที่รออยู่ด้านนอกเริ่มจะรู้สึกกังวล
มาร์ควิสเสือขาวใช้พลังเสียงตะโกนเข้าไปภายในรูปปั้น แต่มันไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา
“มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างนั้นหรอ?” มาร์ควิสนกโลหิตดูกังวล
“ข้าไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น หานเซิ่นเป็นแค่เอิร์ลคนหนึ่ง เขาไม่มีทางเอาชนะชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนได้” มาร์ควิสเสือขาวก็ดูกังวลเช่นกัน แต่เขาไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น
“พวกเราควรจะเข้าไปดูไหม?” มาร์ควิสนกโลหิตถามอย่างลังเล
“พวกเราควรจะรออยู่ที่นี่” มาร์ควิสเสือขาวพูดอย่างมั่นใจ
ถ้าชารอนและดราก้อนเธอร์ทีนยังปลอดภัย พวกเขาก็จะลากตัวหานเซิ่นออกมา แต่ถ้ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา การเข้าไปข้างในก็ไม่ต่างอะไรไปจากการฆ่าตัวตาย
หานเซิ่นยังคงพยายามรักษาตัวเอง เขาทั้งบาดเจ็บหนักและทั้งเหนื่อยล้า มันต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่เขาจะฟื้นตัว
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างคลืบคลานเข้ามา หัวใจของเขาเต้นรัว และเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นแมลงแก้วเงินกำลังคลานเข้ามาทางเขา มันจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีเงินของมัน