หนทาง
ราชินีชูร่าเดินเข้าไปหาแท่นบูชายัญและโค้งคำนับต่อหน้ามันจากใจจริง หลังจากนั้นเธอก็ดึงมีดออกมาและแทงไปที่บริเวณหัวของโลงศพ
มีดนั่นมีสีม่วง และดูเหมือนจะถูกหลอมขึ้นมาจากวัสดุที่แปลกประหลาด มันดูคล้ายคลึงกับเขาของเธอ แต่มันมีสีที่เข้มกว่า
โลงศพไม่มีรอยต่ออยู่ แต่มีดสามารถผ่านเข้าไปข้างในได้โดยไร้ซึ่งการต่อต้านใดๆ แต่ทว่าด้ามจับยังคงยืนออกมาข้างนอก
หลังจากนั้นทั้งโลงศพก็เริ่มจะสั่นไหวและเปิดออก
หานเซิ่นจับจ้องไปที่โลงศพอย่างตั้งใจ เมื่อโลงศพเปิดออก พลังที่น่ากลัวก็พุ่งเข้าไปหาราชินีชูร่ากับอวี้หมิงเอ๋อ พลังประหลาดนั้นพยายามจะดึงพวกเธอเข้าไปในโลงศพ
แม้ราชินีชูร่าจะถือเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมากในสหพันธ์ดวงดาว แต่เธอก็ไม่สามารถต่อต้านพลังนั้นได้
หานเซิ่นเคลื่อนไหวมือและตัดพลังนั้นจนขาด เขาดึงทั้งคู่กลับมา หลังจากนั้นโลงศพก็ปิดลงและกลับสู่สภาพเดิม แต่ทว่ามีดที่ปักบนโลงศพหายไปแล้ว
โลงศพเปิดออกเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น แต่ในเวลานั้นหานเซิ่นก็มองเห็นความมืดมิดภายในโลงศพ มันเป็นเหมือนกับหลุมดำ
ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อตกตะลึง พวกเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หานเซิ่นพยายามจะเปิดโลงศพอีกครั้ง แต่มันไม่ขยับเลยเหมือนเดิม ดังนั้นเขาจึงหันไปถามราชินีชูร่า “มีดของเธออยู่ไหนแล้ว?”
ราชินีชูร่ายิ้มแห้งๆออกมาและพูด “มีดถูกส่งกลับไปที่แท่นบูชายัญบนดาวหลักของชูร่า มีแค่กษัตริย์คนต่อไปของชูร่าเท่านั้นที่จะนำมันออกมาจากแท่นบูชายัญได้”
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเชื่อว่านั่นคือทั้งหมดที่เธอรู้ หานเซิ่นใช้พลังจับตัวราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็เทเลพอร์ตไปที่ปราสาทของราชินี
“เป็นราชินีที่ดีต่อไป แกล้งทำเป็นว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
หานเซิ่นมองไปที่ราชินีชูร่าและอวี้หมิงเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปพร้อมกับเป่าเอ๋อ
ราชินีชูร่าและลูกสาวถูกทิ้งให้ยืนนิ่งในความเงียบอย่างสับสน พวกเธอไม่อยากจะเชื่อว่ามีมนุษย์ที่น่ากลัวแบบนี้อยู่ด้วย ชะตากรรมของเผ่าพันธุ์ชูร่าอยู่ในกำมือของคนอื่นและเธอก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดมันได้
หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อกลับไปที่บ้าน สิ่งที่อยู่ภายในโลงศพชูร่านั้นเห็นได้ชัดว่ามันเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่มิติอื่น แต่หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันพาไปที่ไหนกันแน่
หานเซิ่นคาดเดาว่ามันนำไปสู่จักรวาลจีโน และพวกเขาคงจะเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ที่ถูกปกครองโดยเผ่าเดม่อน ถ้านั่นเป็นความจริง เรื่องทั้งหมดก็จะสมเหตุสมผล แต่หลุมดำดูไม่ปลอดภัยเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเส้นทางที่ไม่เสถียร ดังนั้นโอกาสรอดจากการเดินทางคงจะต่ำมากๆ
ชูร่าผู้ก่อตั้งเผ่าพันธุ์บอกเอาไว้ว่าให้เปิดโลงศพในตอนที่กำลังจะตายเท่านั้น นั่นหมายความว่าการเข้าเป็นอะไรที่อันตราย แต่ถ้านั่นเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่เผ่าพันธุ์เดม่อนจริงๆ มันก็ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอด
แต่ทั้งหมดนี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น บางทีมันอาจจะไม่ได้นำไปสู่จักรวาลจีโนด้วยซ้ำ
หานเซิ่นไม่มีแผนที่จะลองใช้มัน ถ้านั่นเป็นเส้นทางที่นำไปสู่เผ่าพันธุ์เดม่อนจริงๆ มันก็เป็นอะไรที่อันตรายยิ่งกว่าการกลับไปที่ทะเลโบราณหวนคืนซะอีก
หานเซิ่นคิดว่าอาชูร่าอาจจะยังไม่ตาย บางทีเหล่ากษัตริย์ของชูร่าก็ยังไม่ตายเช่นกัน พวกเขาแค่ถูกส่งไปที่มิติอื่น
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเคยเห็นคนบางคนที่ดูเหมือนกับเทพแห่งผลกรรม ในตอนนั้นหานเซิ่นคิดว่าเขาเป็นแค่คนที่หน้าเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นเส้นทางที่อยู่ในโลงศพชูร่า หานเซิ่นก็ไม่คิดแบบนั้นอีกต่อไป
ถ้าโลงศพชูร่าสามารถนำไปสู่จักรวาลจีโนได้จริงแล้วล่ะก็ พยุหะโลหิตก็อาจจะมีบางสิ่งที่เหมือนๆกัน
‘แมวเก้าชีวิตเข้าออกก็อตแซงชัวรี่ได้ตามใจชอบ และหลังจากที่เราได้รอยสักแมวเก้าชีวิตมา เราก็ทำแบบนั้นได้เหมือนกัน แมวเก้าชีวิตนั้นเกี่ยวข้องกับพยุหะโลหิต ดังนั้นถ้าชูร่ามีหนทางที่จะออกไป พยุหะโลหิตก็ควรจะมีเหมือนกัน’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
“พยุหะโลหิตควรจะมีสมาชิกอยู่หลายคน แต่เราแทบจะไม่เคยเจอพวกเขาเลย แค่เราเป็นผู้ฝึกวิชาโลหิตชีพจรรุ่นแรกและถ่ายทอดพละกำลังไปให้กับเสี่ยวฮวาและหลิงเอ๋อก็เป็นอะไรที่น่าประทับใจแล้ว ซึ่งพยุหะโลหิตทำแบบนี้มาหลายต่อหลายรุ่น ดังนั้นพวกเขาต้องแข็งแกร่งกว่ามาก”
แต่เมื่อหานเซิ่นคิดดูดีๆแล้ว เขาก็รู้สึกตัวว่าพวกเขาคงจะเป็นเหมือนกับพวกชูร่า พวกเขาอาจจะมีหนทางออกไปจากก็อตแซงชัวรี่ แต่มันไม่มีหนทางที่พวกเขาจะกลับเข้ามา
แน่นอนว่านี่เป็นแค่การคาดเดาของหานเซิ่น แต่ในเรื่องของจีโนฟลูอิดปริศนาภายในสุสานกษัตรย์ของชูร่านั้น หานเซิ่นก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
ตามธรรมเนียมแล้ว จีโนฟลูอิดเหล่านั้นจะใช้เพื่อเตรียมพร้อมเหล่ากษัตริย์ของชูร่าก่อนที่จะเข้าไปในโลงศพ แต่ทว่าหลังจากที่มนุษย์เข้าไปขโมยมัน มันก็แห้งเหือดไปตลอดการ
“เราจะติดต่อกับสมาชิกของพยุหะโลหิตเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง?” หานเซิ่นรู้สึกรำคาญที่ไม่สามารถหาสมาชิกของพยุหะโลหิตได้
“ไม่รู้ว่าคุณลี่จะยังคงอยู่ในโลงศพนั่นหรือเปล่า เขาเรียกตัวเองว่าเป็นผู้นำของพยุหะโลหิต ดังนั้นบางทีเราอาจจะถามเขาได้”
หานเซิ่นคิด แต่หลังจากที่คิดอย่างนั้นเขาก็รู้สึกตัวถึงเรื่องบางอย่าง ‘เดี๋ยวก่อนนะ นั่นมันก็เป็นโลงศพเหมือนกัน หรือว่าโลงศพนั่นจะเทเลพอร์ตออกไปจากก็อตแซงชัวรี่ได้ด้วยเช่นกัน?’
แต่การคิดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี่เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เขาจำเป็นต้องไปที่นั่นเพื่อดูด้วยตาตัวเอง แต่มันเป็นอะไรที่น่าแปลกเพราะโลงศพนั่นอยู่ในก็อตแซงชัวรี่ไม่ใช่สหพันธ์ดวงดาว
แต่ในตอนที่หานเซิ่นพบกับแมวเก้าชีวิตครั้งแรก มันกำลังนอนอยู่บนโลงศพนั้น หานเซิ่นจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นไปได้
“อย่าให้ฉันได้เจอแกอีกครั้ง ไอ้แมวเวร” หานเซิ่นคิดอย่างเกรี้ยวโกรธ