มังกรโลหิตพิโรธ
หานเซิ่นไม่สนใจ เขายังคงกวัดแกว่งมีดลมปราณใส่ศัตรูต่อไป ถึงส่วนใหญ่จะล้มเหลว แต่ก็มีบางส่วนที่ใกล้เคียงจะเป็นรูปร่าง
อาภามังกรของดราก้อนไนน์ไม่สามารถสัมผัสตัวของหานเซิ่นได้ มันทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ อาภามังกรส่องสว่างยิ่งกว่าเดิม และแสงในปีกของเขาก็เริ่มดูเป็นรูปธรรมขึ้นมา มันเหมือนกับหมอกเลือดที่บดบังท้องฟ้า
เกล็ดสีแดงปรากฏขึ้นทั่วร่างดราก้อนไนน์ และที่มือของเขาก็มีกรงเล็บมังกรสีแดงงอกออกมา ร่างของเขาใหญ่โตขึ้น 2 เท่า ทำให้ตอนนี้เขาสูงถึง 4 เมตร
หานเซิ่นมองไปที่ดราก้อนไนน์ ขณะที่ยังคงกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตเพื่อสร้างมีดเส้นไหมต่อไป ดราก้อนไนน์ไม่คิดแม้แต่จะหลบ เขาปล่อยให้พวกมันเข้ามาถูกตัวของเขา เพราะอาภามังกรโลหิตจะทำลายพวกมันก่อนที่จะสัมผัสกับเกล็ดของเขา
“ร่างซีโน่เจเนอิคของเจ้าดีจริงๆ” หานเซิ่นพูดอย่างมีมารยาท
ดราก้อนไนน์พูดเสียงแข็ง “ร่างมังกรซีโน่เจเนอิคไม่ใช่อะไรที่พิเศษสำหรับพวกเราดราก้อน แต่ทว่าร่างมังกรโลหิตของข้านั้นต่างออกไป ถึงจ้าจะเทเลพอร์ตไปมาได้ ตอนนี้ข้ากลายเป็นสิ่งที่เจ้าไม่มีหวังจะหนีไปได้อีก”
หานเซิ่นเริ่มจะจับสัมผัสสิ่งที่จำเป็นต้องทำได้แล้ว มีดเส้นไหมที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยพลังที่หนักแน่นและอ่อนโยนเริ่มมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็มีคือเรียนรู้จากดราก้อนไนน์อีกเล็กน้อยเพื่อทำให้พวกมันแข็งแกร่งเช่นเดียวกับอาภามังกร
ในขณะเดียวกันดราก้อนไนน์ก็ยกหอกขึ้นด้วยทั้ง 2 มือ และอาภามังกรของเขาก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วหอก ไม่นานหอกก็ตอบสนองราวกับว่ามันมีชีวิต มันกลายเป็นเหมือนกับมังกรโลหิตที่คำรามออกมาและแสงของมันก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตต่อไป มีดเส้นไหมของเขาตัดตามร่างของดราก้อนไนน์ซ้ำๆ แต่พวกมันไม่สามารถทำอะไรร่างกายของดราก้อนไนน์ได้
“น้องไนน์ดูเหมือนจะโกรธแล้วจริงๆ เขากำลังใช้มังกรโลหิตพิโรธ!” ดราก้อนเซเว่นพูดด้วยรอยยิ้ม
ดราก้อนฟิฟทีนพูด “ถ้านี่คือทั้งหมดที่พี่ไนน์ต้องทำเพื่อฆ่าหานเซิ่น เขาก็ควรรีบลงมือ การเสียเวลาพูดคุยเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์”
หานเซิ่นดูตรึงเครียด เขารู้ว่าหอกของดราก้อนไนน์ทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงเริ่มกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตอย่างรวดเร็วขึ้นไปอีก
“หานเซิ่น รับมังกรโลหิตพิโรธของข้า!”
พลังในร่างกายของดราก้อนไนน์เพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด ดราก้อนไนน์กระพือปีกมังกรสีแดงและหอกที่ดูเหมือนกับมอนสเตอร์ที่หิวกระหายก็พุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่นเพื่อกลืนกินเขา
หานเซิ่นกระพือปีกและเทเลพอร์ตออกไป 100 เมตร ซึ่งนี่เป็นระยะที่ไกลที่สุดแล้ว
แต่เมื่อหานเซิ่นถอยออกไป ร่างของมังกรโลหิตก็ระเบิดออก และอาภามังกรก็พุ่งออกไปรอบทิศทางราวกับดอกไม้ไฟ มันไม่เหมือนกับลูกศรที่ยิงออกไปลูกหนึ่งและจบ
อาภามังกรที่ระเบิดออกเป็นเหมือนกับลูกเห็บที่พุ่งออกไปรอบทิศทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ว่าหานเซิ่นจะเคลื่อนที่ไปทางไหน เขาก็ไม่สามารถหลบมันได้
อาภามังกรไม่ได้ระเบิดออกไปรอบๆอย่างมั่วๆ ถ้าหานเซิ่นถูกมันเข้าแม้แต่ครั้งเดียว ลำแสงอื่นๆก็จะพุ่งมาใส่เขา
ร่างกายของหานเซิ่นกลายเป็นเบาะสำหรับปักเข็ม ซึ่งแม้แต่ยอดฝีมือระดับดยุกก็ไม่สามารถหนีจากพลังที่ร้ายกาจแบบนั้นได้
ระยะสูงสุดในการเทเลพอร์ตคือ 100 เมตร ซึ่งหานเซิ่นรู้ว่านั่นไม่ไกลพอที่จะหนีจากรัศมีของมังกรโลหิตพิโรธได้
“ถ้าหนีไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนั้น”
หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตใส่อาภามังกรอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้วิชาใต้นภาอีกต่อไป ตอนนี้เขากำลังใช้วิชามีดเขี้ยวดาบ
มีดลมปราณสีม่วงกลายเป็นเขี้ยวพิษที่พุ่งเข้าไปปะทะกับอาภามังกร แต่ในวินาทีต่อมามันก็ถูกทำลาย และมังกรโลหิตพิโรธก็พุ่งเข้ามาหาหานเซิ่นต่อ
หานเซิ่นถอยไปพร้อมกับกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิต มีดลมปราณสีม่วงพุ่งเข้าไปปะทะกับอาภามังกรอีกครั้งหนึ่ง
พลังเขี้ยวแตกสลาย แต่ในครั้งนี้มันแตกสลายช้าลงกว่าเดิม มันช่วยชะลอความเร็วของมังกรโลหิตพิโรธไปได้มาก ทำให้หานเซิ่นมีเวลามากพอที่จะออกจากรัศมีของมัน
แต่มังกรโลหิตพิโรธเป็นเหมือนกับสิ่งที่มีชีวิต อาภามังกรกลายเป็นมังกรสีแดงที่พยายามจะกินหานเซิ่น และเมื่อหานเซิ่นหลบ มันก็จะระเบิดออก
“ดูสิว่าเจ้าจะเทเลพอร์ตได้สักกี่ครั้ง” ดราก้อนไนน์มองดูมังกรโลหิตพิโรธไล่ต้อนหานเซิ่น
หานเซิ่นใช้พลังเขี้ยวอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พวกมันแข็งกว่าปกติ เมื่อพลังทั้ง 2 ปะทะกัน มันก็ใช้เวลานานกว่าเดิมก่อนที่พลังเขี้ยวของหานเซิ่นจะแตกสลาย
ดราก้อนเซเว่นตกตะลึง “พลังเขี้ยวของเขาตอนนี้ดูแตกต่างไป”
“แตกต่างยังไง? ถึงเขาจะพยายามลอกเลียนแบบพี่ไนน์ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะใช้อาภามังกรโลหิตได้ดีเหมือนกับพี่ไนน์” ดราก้อนฟิฟทีนอย่างถือตัว
แต่ทว่าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่ดราก้อนฟิฟทีนคิด เมื่อหานเซิ่นใช้พลังเขี้ยวครั้งที่ 4 มีดลมปราณสีม่วงก็ยังถูกทำลายโดยมังกรโลหิตพิโรธ แต่ทว่ามันสามารถตัดเข้าไปในอาภามังกรได้เล็กน้อย
หานเซิ่นต้องการใช้พลังที่อ่อนและแข็งกับมีดเส้นไหม แต่มีดเส้นไหมเป็นเพียงแค่เส้นบางๆ มันแย่กว่าอาภามังกรของดราก้อนไนน์เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว
แต่เมื่อหานเซิ่นพยายามใช้มันกับวิชามีดเขี้ยวดาบ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างออกไป พลังที่อ่อนและแข็งประสานกับพลังเขี้ยวได้เป็นอย่างดี เมื่ออัดแน่นแล้วพลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าที่อาภามังกรจะสามารถทำได้
หลังจากที่ใส่ความอ่อนเข้าไป พลังเขี้ยวก็กลายเป็นพลังที่ทั้งอ่อนและแข็ง มันไม่ได้แตกสลายอีกต่อไป
ถ้ามันแข็งเกินไป มันก็จะแตกได้ง่าย แต่ถ้ามันอ่อนเกินไป มันก็จะงอ แต่พลังเขี้ยวสามารถใช้ประโยชน์จากทั้ง 2 อย่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้พลังในการฉีกขาดของมันรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
เขี้ยวพิษและอาภามังกรปะทะกันในอากาศ ในตอนแรกพลังเขี้ยวของหานเซิ่นเสียเปรียบ
แต่หลังจากที่หานเซิ่นกวัดแกว่งมีดขนนกโลหิตไปหลายครั้งๆ พลังเขี้ยวก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หลังจากฟันครั้งที่ 10 เขาก็สามารถต่อสู้กับอาภามังกรโลหิตพิโรธได้ตรงๆ