ตั้งท้องจากการลูบ?
น้ำแข็งค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วมีดขนนกโลหิต และมันก็ดูเหมือนกับว่าทุกสิ่งในภาชนะกำลังจะถูกแช่แข็ง มันแตกแขนงออกไปราวกับเป็นเส้นเลือด
‘อวี้ซ่านซินคงจะเป็นครึ่งเทพสินะ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาจะแช่แข็งสูญญากาศแบบนั้นได้’ หานเซิ่นประหลาดใจ
น้ำแข็งแพร่กระจายภายในภาชนะและแช่แข็งแม้แต่ช่องว่ายภายในนั้น สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ถูกแช่แข็งทั้งหมด ทำให้ดูเหมือนกับลูกคริสตัลน้ำแข็งที่สมบูรณ์แบบ
ภาชนะสัมบูรณ์เรืองแสงออกมา และบางสิ่งดูเหมือนจะกำลังเคลื่อนไหวภายในน้ำแข็ง มันกำลังต่อต้านพลังอันหนาวเย็นเอาไว้
โชคดีที่ภาชนะสัมบูรณ์เป็นสมบัติระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นถึงแม้พลังของอวี้ซ่านซินจะทรงพลัง แต่ความหนาวเย็นก็ไม่ได้รั่วไหลออกมาจากภาชนะ
อวี้ซ่านซินดึงมือของเขาออกมา ขณะที่สีหน้าของเขายังคงดูเหมือนปกติ มือของเขาไม่มีร่องรอยของความหนาวเย็นอยู่เลย
“งานของข้าเสร็จแล้ว ไปกันเถอะเฒ่าหวัง”
อวี้ซ่านซินพูด เมื่อเขาเดินผ่านหานเซิ่น อวี้ซ่านซินก็พูดออกมาเบาๆ
“ทำไมเจ้ายังมัวยืนนิ่งอยู่ที่นี่อีก? อย่ารบกวนการทำงานของพวกเขา”
หานเซิ่นจึงเดินตามอวี้ซ่านซินออกไป
นักวิจัยในสวนวิถีนภากลับไปทำงานของตัวเอง บางคนเห็นหานเซิ่นเดินตามอวี้ซ่านซินออกไป แต่ไม่มีใครคิดจะหยุดเขาเอาไว้
“มิสเตอร์อวี้มีความบาดหมางกับหัวหน้าฝ่ายวิจัยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอย่างสงสัย
“เรียกข้าว่าอวี้ซ่านซิน” อวี้ซ่านซินอุ้มเฒ่าหวังขึ้นมาขณะที่เดินออกไป
“พวกเราไม่ได้มีความบาดหมางอะไรกัน ข้าแค่ไม่ชอบวิธีที่พวกเขาทำ”
“พวกเขาทำอะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอีกครั้ง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสารสกัดไชลด์คอมไบน์ทำขึ้นมาจากอะไร?” อวี้ซ่านซินมองไปที่ขวดยาในมือของหานเซิ่นและถามขึ้นมา
“ข้าไม่รู้ จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อของสิ่งนี่” หานเซิ่นพูด
“สารสกัดไชลด์คอมไบน์นั้นใช้ซีโน่เจเนอิคทารกที่ยังไม่เกิดนับพันเป็นวัตถุดิบ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญหาเช่นเดียวกับข้าและเจ้า” อวี้ซ่านซินมองหานเซิ่นและยิ้ม
หานเซิ่นยกสารสกัดไชลด์คอมไบน์ขึ้นมาเพื่อจะมองดูชัดๆ
“วัตถุดิบพวกนี้มาจากไหน?”
“พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสมาชิกของสวนวิถีนภาจับตัวมา พวกเขาจะทำการทดสองกับพวกมัน เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนั้น?”
อวี้ซ่านซินถาม เขาสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก ซึ่งทำให้เขารู้สึกสนใจ
“ข้าเป็นคนบาปด้วยมือที่เปื้อนเลือด ข้าคงจะไปตัดสินพวกเขาไม่ได้” หานเซิ่นส่ายหัวของเขา
อวี้ซ่านซินหัวเราะ เขาตบไหล่ของหานเซิ่นและพูด “นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าเกลียดชังคนแบบนั้น แต่พวกเขาก็เป็นคนที่ทำให้ปราสาทนภาแข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้ ข้าแค่ไม่ชอบมัน แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ข้าเป็นแค่คนไร้ความสำคัญของที่นี่เท่านั้น”
หลังจากนั้นอวี้ซ่านซินก็จากไปขณะที่อุ้มเฒ่าหวังอยู่ เขาหายตัวไปในหมู่เกาะลอยฟ้าสักแห่ง
“ทำไมเขาถึงบอกเรื่องนั้นกับข้า?”
หานเซิ่นมองไปที่สารสกัดไชลด์คอมไบน์ในมือและถอนหายใจออกมา เขาไม่ใช่คนที่มีคุณธรรมสูงส่งอะไร และเขาก็ฆ่าชีวิตมามากมาย แต่หลังจากที่อวี้ซ่านซินพูดเกี่ยวกับวัตถุดิบของยาขวดนี้ เขาก็ไม่คิดว่าจะบังคับตัวเองให้ดื่มมันเข้าไปได้
‘ช่างเถอะ เราแค่ต้องมอบมันให้กับคนอื่น’ หานเซิ่นเก็บสารสกัดไชลด์คอมไบน์เข้าไปในกระเป๋าและเดินทางไปยังเขตบริการสาธารณ
หานเซิ่นต้องการรู้เกี่ยวกับกฎของปราสาทนภา ถ้าเขาต้องการพาเป่าเอ๋อมาที่นี่อย่างถูกต้อง เขาจำเป็นต้องไปที่เขตบริการสาธารณ หานเซิ่นถามพนักงานที่นั่นว่าเขาจะนำครอบครัวมาที่ปราสาทนภาได้ยังไง และปรากฏว่าขั้นตอนของมันง่ายกว่าที่หานเซิ่นคาดคิด
การเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ของหานเซิ่นมีประโยชน์ต่างๆมากมาย ด้วยฐานะอาจารย์ เขาสามารถเชิญครอบครัวมาอยู่ที่นี่ร่วมกับเขาได้
แต่ที่น่ารำคาญก็คือถ้าหานเซิ่นบอกว่าเป่าเอ๋อเป็นลูกสาวของเขา พวกเขาก็จะทำการทดสอบดีเอ็นเอ
‘ดูเหมือนว่าเรายังพาเป่าเอ๋อมาที่ปราสาทนภาไม่ได้’ หานเซิ่นรู้สึกหดหู่
หนทางเดียวของหานเซิ่นก็คือทำประโยชน์ต่อปราสาทนภามากกว่านี้เพื่อเลื่อนไปขั้นที่สูงกว่า แบบนั้นเขาก็อาจจะขออนุญาตจากผู้นำปราสาทนภาได้ แต่การพยายามทำแบบนั้นดูไม่น่าจะเป็นไปได้
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ทำให้หานเซิ่นเกิดสงสัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของเป่าเอ๋อขึ้นมา เขาให้บับเบิลลอกเลียนแบบเขาและนอนอยู่ในห้อง ขณะที่เขากลับเข้าไปในสหพันธ์เพื่อหาเป่าเอ๋อ เขาเกือบที่จะซื้อดาวทั้งดวงเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการทดสอบดีเอ็นเอ เขาต้องการจะดูว่ายีนของเธอจะดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตไหนหรือเปล่า
เครื่องมือสำหรับการทดสอบดีเอ็นเอของสหพันธ์ค่อนข้างทันสมัย แต่เป่าเอ๋อออกมาจากน้ำเต้า ดังนั้นมันจึงไม่มีใครรู้ว่ายีนของเธอเป็นแบบไหนกันแน่
หานเซิ่นเดินไปตรงหน้าเครื่องทดสอบยีนและวางเส้นผมของเป่าเอ๋อลงไป
ไม่นานหลังจากนั้นผลการทดสอบก็อออกมา ผลทดสอบถูกปริ้นลงบนแผ่นกระดาษ และสิ่งที่หานเซิ่นเห็นก็ทำให้ดวงตาของเขาเบิกว้าง
ผลทดสอบดีเอ็นเอบอกว่าเขาและเป่าเอ๋อเป็นพ่อลูกกัน
“เครื่องจักรนี่มันเสียแล้วหรือยังไงกัน? นี่ข้าเพิ่งจะซื้อมันมาเองนะ ใครกันที่เป็นผู้ผลิตของห่วยๆแบบนี้? อ้า ฉันเข้าใจแล้ว ข้าคือกลุ่มสตาร์รี่นี่เอง ข้าจะไปบ่นกับหนิงเยวี่ยทีหลัง”
หานเซิ่นไม่เชื่อผลการทดสอบ ดังนั้นเขาจึงทำการทดสอบอีกครั้งกับเครื่องทดสอบดีเอ็นเออีกเครื่อง แต่ผลที่ออกมาก็เกือบที่จะทำให้ลูกตาของเขาหลุดออกมา ผลการทดสอบในทุกครั้งเหมือนกันหมด ซึ่งทุกเครื่องต่างบอกว่าเขาและเป่าเอ๋อเป็นพ่อลูกกัน
“นี่เป็นไปไม่ได้” หานเซิ่นสาบานว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับน้ำเต้ามาก่อน ดังนั้นเขากับเป่าเอ๋อจะมีความสัมพันธ์ทางยีนต่อกันได้ยังไง?
หานเซิ่นอ่านรายงานอย่างละเอียดและพบว่ายีนของเป่าเอ๋อเหมือนกับของเขา 99.99 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นนอกซะจากพวกเขาจะเป็นพ่อลูกกันแล้ว มันก็ไม่มีคำอธิบายอย่างอื่น
“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?” หานเซิ่นมองเป่าเอ๋อที่ดูไร้เดียงสาและไม่รู้เรื่องอะไร
“น้ำเต้าตั้งท้องจากการลูบคำอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นจำได้ว่าหลังจากที่เขาเก็บน้ำเต้ามา เขาก็เล่นกับมันอยู่บ่อยๆ เขาไม่สามารถคิดหาคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้หานเซิ่นต้องยอมรับว่าเป่าเอ๋อเป็นลูกสาวของเขาจริงๆ
หานเซิ่นรีบทำลายผลการทดสอบทั้งหมดและอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมาบนไหล่
“เป่าเอ๋ออย่าไปบอกแม่นะว่าพวกเรามาที่นี่”