ทั้งฐานทัพถูกปกคลุมด้วยไนท์โกสต์จำนวนมาก หานเซิ่นและไผ่เดียวดายตกอยู่ในวงล้อม ถ้าพวกเขาต้องการจะหนีออกไป พวกเขาก็ต้องต่อสู้และตีฝ่าฝูงไนท์โกสต์ไปเท่านั้น
แต่รอบๆพวกเขามีไนท์โกสต์อยู่หลายพันคน แถมมากกว่าหนึ่งพันคนยังเป็นระดับดยุก หานเซิ่นและไผ่เดียวดายเพิ่งจะกลายเป็นมาร์ควิสได้ไม่นาน และพวกเขาก็กำลังแบกคนบาดเจ็บอยู่ด้วย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะหนีออกไปได้
หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นไปมองพวกไนท์โกสต์ที่กำลังมองลงมาที่พวกเขาราวกับเสือที่หิวกระหาย หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมามองดยุกสลีปเลสส์ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
“ดยุกสลีปเลสส์ นี่เจ้ารู้ตัวไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไนท์โกสต์ทรยศปราสาทนภา?”
“ฮ่าๆ! ยังไงซะพวกเราจะไปเข้าร่วมกับเผ่าเดม่อนอยู่แล้ว” ดยุกสลีปเลสส์เย้ยหยัน
“ถ้าอย่างนั้นมันก็สมเหตุสมผลที่มาร์ควิสข่านมาอยู่ที่นี่ พวกเจ้าวางแผนที่จะทรยศปราสาทนภามานานแล้วสินะ!”
หานเซิ่นหันไปมองข่านและพูดต่อ “แต่ข้าไม่เข้าใจ ถ้าพวกเจ้ามีแผนที่จะเข้าร่วมกับเผ่าเดม่อนแล้ว ทำไมถึงต้องลากพวกเราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะ?”
ดยุกสลีปเลสส์พูด “นั่นมันก็แค่อุบัติเหตุ พวกเรามีแผนที่จะใช้สิ่งมีชีวิตพวกนี้เพื่อเปลี่ยนนักรบของพวกเราให้กลายเป็นระดับดยุก หลังจากนั้นพวกเราก็จะมีกองกำลังเพื่อตีฝ่าการป้องกันของปราสาทนภา แต่พวกเราไม่ได้คาดคิดว่าหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่จับตัวมาจะหนีออกไปได้และดึงความสนใจจากทางปราสาทมาที่นี่”
“แต่ด้วยพลังที่พวกเจ้ามี พวกเจ้าก็น่าจะฆ่าชายคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรหนิ” หานเซิ่นหันไปมองชายที่ได้รับบาดเจ็บ
ดยุกสลีปเลสส์ไม่ตอบอะไร แต่ชายคนนั้นหัวเราะออกมาและพูด
“ข้าควบคุมชีวิตของสิ่งมีชีวิตพวกนั้น นางต้องการจะฆ่าข้า แต่นางไม่อยากให้สิ่งมีชีวิตตัวอื่นตายไปด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้ายังมีชีวิตอยู่”
“ข้าบอกให้เจ้ายอมตัดใจจากสิ่งมีชีวิตพวกนั้นแล้วยังไง! ข้าพยายามบอกให้เจ้าฆ่าเขาและไปที่เผ่าเดม่อน ถ้าเจ้ายอมฟังที่ข้าพูด เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น” ข่านพูดกับดยุกสลีปเลสส์
“ถ้าไม่มีสิ่งมีชีวิตพวกนั้น คนของข้าก็จะไม่กลายเป็นดยุก ใครจะรู้ว่าผู้คนของข้าต้องเสียชีวิตมากมายเท่าไหร่เพื่อฝ่าการป้องกันออกไป” ดยุกสลีปเลสส์พูด
“ด้วยเหตุนั้นเจ้าจึงวางแผนทั้งหมดนี้ขึ้นมา? ทั้งหมดก็เพื่อให้พวกเราเป็นคนฆ่าเขาอย่างนั้นใช่ไหม?” ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้รู้ความจริงของเรื่องทั้งหมด
“มันก็ทำนองนั้น แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าพวกเจ้าทั้ง 2 จะมาที่นี่ด้วยกัน”
ดยุกสลีปเลสส์พูดต่อ “แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้ว เนื่องจากมันมาถึงจุดนี้ พวกเราจะถอยกลับไม่ได้อีก พวกเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่”
หลังจากนั้นดยุกสลีปเลสส์ก็กรีดร้องออกมา ฝูงไนท์โกสต์กระพือปีกและบินลงมาพร้อมๆกัน ราวกับฝูงปีศาจ
พละกำลังและความเร็วของไนท์โกสต์ในยามค่ำคืนเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาเก่งกาจในการต่อสู้ นอกจากนั้นพวกเขายังมีจิตใจที่แข็งแกร่ง นั่นทำให้ไนท์โกสต์ระดับดยุกเป็นภัยร้ายแรง
เป่าเอ๋อกำลังนั่งอยู่บนไหล่ของหานเซิ่นและมองดูการต่อสู้ด้วยความสนใจ
แทนที่จะเข้ามาร่วมต่อสู้ ข่านเพียงแค่มองดูหานเซิ่นจากระยะไกล
“หานเซิ่น เจ้าเป็นคนที่เอาชนะชารอนได้ ข้าจึงอยากจะฆ่าเจ้าด้วยมือตัวเอง แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าเจ้าจะมาที่นี่ นั่นเป็นอะไรที่น่าผิดหวัง”
“น่าผิดหวังอะไร?” หานเซิ่นกระพือปีกและเทเลพอร์ตมาตรงหน้าของข่าน หลังจากนั้นเขาก็ฟันใส่ข่านด้วยมีดเขี้ยวผีสิง
เคร๊ง!
ข่านยกมีดของตัวเองขึ้นมาป้องกัน แรงปะทะกันทำให้พวกเขาทั้งคู่กระเด็นออกไป แต่หานเซิ่นถูกเข้าล้อมด้วยฝูงไนท์โกสต์ในทันที มันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างมาก
“มันน่าผิดหวังที่เจ้าต้องมาตายอยู่ที่นี่ ทำให้ข้าสูญเสียโอกาสที่จะได้ฆ่าเจ้าแบบตัวต่อตัว มันน่าเสียดายที่คนอย่างเจ้าและไผ่เดียวดายต้องมาตายแบบนี้” ข่านถอนหายใจ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะไม่ผิดหวัง พวกเราจะต่อสู้กัน” หานเซิ่นพูด
“ข้าไม่เห็นหนทางที่พวกเจ้าจะรอดไปได้ ไนท์โกสต์นั้นแข็งแกร่งในความมืด ถึงแม้เจ้าและไผ่เดียวดายจะมีกองทัพร่างโคลนของตัวเอง พวกเจ้าก็จะถูกบดขยี้อยู่ดี” ข่านพูด
“นั่นก็ไม่แน่เสมอไป” หานเซิ่นเทเลพอร์ตหนีจากการโจมตีของพวกไนท์โกสต์ หลังจากนั้นเขาก็พูดกับดยุกสลีปเลสส์
“ดยุกสลีปเลสส์ มันยังมีเวลาให้เจ้าได้กลับใจ ไนท์โกสต์ยังจะได้รับอภัยโทษให้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ถ้าเจ้ายังเลือกเส้นทางนี้ ไนท์โกสต์ทั้งหมดจะถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น เจ้าต้องการให้ลูกสาวและไนท์โกสต์คนอื่นๆตายไปพร้อมกับเจ้าอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าเลือกที่จะตายดีกว่าต้องตกเป็นเชลยของปราสาทนภาตลอดไป ใครก็ตามที่มาขัดขวางอิสรภาพของพวกเราจะต้องตาย”
ดยุกสลีปเลสส์พูดพร้อมกับกระพือปีกและพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น
หานเซิ่นกระทืบเท้าเพื่อปลดปล่อยคลื่นกระแทกออกไป แต่ไนท์โกสต์รอบๆตัวเขาไม่ได้กลายเป็นหิน นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ
“อย่าเสียแรงเปล่าเลย อย่างเดียวที่จะเอาชนะไนท์โกสต์ได้คือแสงสว่าง ของแบบนั้นไม่มีผลกับพวกเขาหรอก! ร่างกายของพวกเขาไม่ได้ทำมาจากเนื้อหนัง ดังนั้นพวกเขาจะไม่กลายเป็นหิน!” ข่านยิ้มออกมา
ถ้าไนท์โกสต์ไม่ได้แข็งแกร่ง ทางเดม่อนก็คงจะไม่พยายามรับพวกเขาไปเป็นพวกเดียวกัน
หานเซิ่นขมวดคิ้ว การรับมือกับพวกไนท์โกสต์นั้นยากกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้
สถานการณ์ของไผ่เดียวดายและชายที่ได้รับบาดเจ็บก็ดูไม่สู้ดีเช่นกัน พวกเขายังพอเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้ พวกเขาก็จะต้องตายในที่สุด
“เข้ามาหาข้า!” หานเซิ่นตะโกนบอกไผ่เดียวดายและชายที่บาดเจ็บ
ดยุกสลีปเลสส์กรีดร้องออกมาและพุ่งเข้าใส่หานเซิ่นอีกครั้ง แต่หานเซิ่นเทเลพอร์ตหนีไปได้ก่อน
หลังจากนั้นทั้ง 3 คนก็ยืนเอาหลังชนกัน ขณะที่พวกไนท์โกสต์เข้ามาโจมตีพวกเขาจากทุกทิศทาง ไผ่เดียวดายและชายที่ได้รับบาดเจ็บเตรียมตัวจะโต้กลับ แต่หานเซิ่นหยุดพวกเขาเอาไว้ ทันใดนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็เรืองแสงสีฟ้าออกมาและปกคลุมพวกเขาทั้ง 3 คนเอาไว้
แสงสีฟ้านั้นกลายเป็นเหมือนกับเปลือกไข่โปร่งใสที่ครอบคลุมพวกเขาเอาไว้
ลมปราณที่ทรงพลังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทางและชนเข้ากับเปลือกไข่เรืองแสงของหานเซิ่น แต่กรงเล็บลมปราณเหล่านั้นไม่สามารถทะลวงโล่โปร่งใสเข้ามาได้