สยบคลาวด์บีสต์สีแดง
“เจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงจอมอวดดีนั่นหายไปไหนของมัน”
หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อมาที่ยอดเขาและรออยู่ที่นั่นมา 3 ชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของมัน เป่าเอ๋อกำลังเล่นกับคลาวด์บีสต์ตัวหนึ่งที่ดูคล้ายกับหมูอ้วน
ทันใดนั้นหมอกสีแดงก็ปรากฏขึ้นจากทะเลเมฆและมุ่งหน้าตรงมาทางพวกเขา ก่อนที่ก้อนเมฆสีแดงจะมาถึงยอดเขา มันก็สังเกตเห็นหานเซิ่น มันจึงบินวนรอบในท้องฟ้าและทิ้งควันที่สะกดเป็นคำว่า
“เจ้าโง่ เจ้ากลับมาแล้ว”
ดวงตาของหานเซิ่นกระตุก เขาใช้วิชาโลหิตชีพจรและเรียกปีกมังกรออกมา หลักจากนั้นเขาก็กระพือปีกและบินตรงเข้าไปหาคลาวด์บีสต์ตัวนั้น
เจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่หานเซิ่นจะได้กวัดแกว่งมีดเขี้ยวผีสิง มันก็หายตัวไปแล้ว แต่มันไม่ได้บินหนีออกไปไกล มันสะกดคำขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าโง่ แน่จริงก็มาจับข้าให้ได้สิ”
หานเซิ่นกระพือปีกและไล่ตามเจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงไป แต่ในจังหวะที่เขากำลังจะไปถึงตัวมัน เจ้าคลาวด์บีสต์ก็เร่งความเร็วขึ้นและสร้างระยะห่างระหว่างพวกเขาขึ้นใหม่ ก่อนที่จะเยาะเย้ยเขาอีกครั้ง
แต่หานเซิ่นดูไม่ได้โกรธอะไรกับเรื่องนั้น จริงๆแล้วเขายิ้มออกมา ซึ่งนั่นทำให้เจ้าคลาวด์บีสต์รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
มันพยายามจะบินหนีไป แต่มันไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ และมันเริ่มที่จะค่อยๆร่วงลงมาจากท้องฟ้าแทน
เป่าเอ๋อที่นั่งอยู่บนยอดเขาชี้น้ำเต้าในมือไปที่เจ้าคลาวด์บีสต์สีแดง วังวนที่มองไม่เห็นกำลังดูดเจ้าคลาวด์บีสต์ลงมาหามัน
เจ้าคลาวด์บีสต์ปล่อยควันสีแดงออกมาราวกับจรวด แต่ไม่ว่ามันจะใช้พลังมากสักแค่ไหน มันก็ยังคงถูกดูดเข้าไปหาน้ำเต้าของเป่าเอ๋ออยู่ดี
หานเซิ่นรู้สึกตกใจ มาร์ควิสปกติจะดิ้นรนและต้านทานได้เล็กน้อยก่อนที่จะถูกดูดเข้าไป แต่เจ้าตัวนี้กำลังเล่นชักกะเย่อกับน้ำเต้าอยู่ ยิ่งเวลาผ่านไปมันก็ถูกดึงเข้ามาใกล้น้ำเต้าขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นมันก็ระเบิดความเร็วออกมาและหนีออกไปได้พอสมควร
“เจ้าตัวนี้แตกต่างออกไปจริงๆ” หานเซิ่นรู้สึกชอบมัน
คลาวด์บีสต์สีแดงตัวนี้ไม่สามารถโจมตีได้ แต่ความเร็วของมันถือเป็นอะไรที่สุดยอด
เจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงต่อสู้กับแรงดูดของน้ำเต้าได้เป็นสิบนาที แต่สุดท้ายแล้วมันก็ถูกดูดเข้าไป เป่าเอ๋อปาดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะใช้พลังไปมากพอสมควร
“เป่าเอ๋อ อย่าย่อยมัน เก็บมันเอาไว้ให้ พ่ออยากได้มันมาเป็นสัตว์เลี้ยง” หานเซิ่นพูดกับเป่าเอ๋อ
“หนูเข้าใจ” เป่าเอ๋อพยักหน้า หลังจากนั้นเธอก็ตบหัวของน้ำเต้าและเจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงก็ออกมาจากน้ำเต้า
“แกจะยอมเชื่อฟังฉันไหม?” หานเซิ่นถาม
แต่ดูเหมือนเจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงจะไม่ต้องการ มันพยายามจะหนีไป แต่แรงดูดของน้ำเต้าก็ดูดมันกลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่ทำแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง เจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงก็ดูเหนื่อยล้า และเมื่อมันถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง มันก็เพียงแค่นอนนิ่งๆไม่เคลื่อนไหว
หานเซิ่นอุ้มเป่าเอ๋อและกระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน หลังจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา
“บินขึ้นเร็วเข้า! พาพวกเราไปทัวร์รอบยอดเมฆสายรุ้ง”
เจ้าคลาวด์บีสต์ยอมแพ้ต่อชะตากรรมและพาหานเซิ่นกับเป่าเอ๋อบินไปรอบๆ หานเซิ่นคิดว่ามันเชื่องจนน่าแปลกใจ แต่เมื่อพวกเขาอยู่บนท้องฟ้านั้นเจ้าคลาวด์บีสต์ก็พยายามจะหนีอีกครั้ง
แต่เป่าเอ๋อสามารถใช้น้ำเต้าดูดเจ้าคลาวด์บีสต์กลับมาได้อีกครั้ง
เมื่อเห็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็บอกให้เป่าเอ๋อยังไม่ต้องปล่อยมันออกมา เขามีแผนที่จะให้มันถูกขังอยู่ในนั้นสักพักจนกระทั่งมันสงบลง
เมื่อจับเจ้าคลาวด์บีสต์สีแดงได้แล้ว หานเซิ่นก็เดินทางกลับไปที่เกาะพร้อมกับเป่าเอ๋อ
ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน ผู้คนในปราสาทนภาก็จะพูดทักทายพวกเขา เป่าเอ๋อนั้นเป็นที่นิยมยิ่งกว่าหานเซิ่นซะอีก ซึ่งเธอคงจะเป็นคนที่เป็นที่นิยมที่สุดของปราสาทนภาในตอนนี้
ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เธอก็จะได้รับของขวัญจากทั้งผู้อาวุโสและศิษย์ของปราสาทนภา โดยเฉพาะผู้หญิงนั้นชื่นชอบเป่าเอ๋ออย่างมาก
แต่เนื่องจากตอนนี้เป่าเอ๋ออยู่ภายใต้การปกป้องของดรีมบีสต์ ผู้อาวุโสและผู้นำของปราสาทนภาจึงไม่พยายามจะแย่งเป่าเอ๋อไปเป็นของตัวเอง หานเซิ่นไม่รู้ว่าทำไมดรีมบีสต์ถึงต้องการจะช่วยเป่าเอ๋อ แต่หานเซิ่นสังเกตว่าเป่าเอ๋อเป็นมิตรกับมันอย่างมาก
ในอดีตเป่าเอ๋อใช้ขวดน้ำเต้าเพื่อป้อนให้กับม้าโพนี่สีแดง และพวกเขาก็ได้มารู้ทีหลังว่ามันเป็นมอนสเตอร์ขั้นสุดยอดที่ถูกเรียนว่าไนท์แมร์ หลังจากที่มันวิวัฒนาการไปสู่สหพันธ์ มันก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านของหานเซิ่นร่วมกับเป่าเอ๋อ
หานเซิ่นใช้เวลาแต่ละวันไปกับการฝึกวิชาจีโนและดูดซับวิญญาณแฟรี่หยกในสถานหยกขาว ทำให้วิชากายหยกของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและศาสตร์ตงเสวียนของเขาก็เช่นกัน มีเพียงแค่เรื่องราวของยีนเท่านั้นที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
‘ดูเหมือนว่าเรื่องราวของยีนจำต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมากเพื่อเพิ่มระดับขึ้น’ หานเซิ่นคิดอย่างเศร้าใจ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเพิ่มระดับวิชากายหยกก่อน
ทุกครั้งที่หานเซิ่นไปสถานหยกขาว เขาก็จะดูดซับวิญญาณแฟรี่หยกเข้าไป ซึ่งหลังจากทำอย่างนั้นไปสักพัก ในที่สุดเขาก็รู้สึกว่ากายหยกกำลังพัฒนา
‘ถ้ากายหยกพัฒนาเป็นระดับมาร์ควิสแล้ว เราจะใช้พลังความเย็นได้ไหมนะ?’ หานเซิ่นหวังว่าที่จะได้รับพลังความเย็นจากวิชากายหยก ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะได้พลังน้ำแข็ง เพราะมันจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์สำหรับเขาอย่างมาก
“ศิษย์น้องหาน เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” อวี้จิงขี่มังกรสีเขียวมาที่เกาะของหานเซิ่น เดี๋ยวนี้เขาดูร่ำรวยขึ้นทุกวันๆ
“ก็ไม่เลว ดูเหมือนว่าเจ้าจะสบายดีสินะ” หานเซิ่นสังเกตอวี้จิงขณะที่พูดขึ้นมา
อวี้จิงยิ้มและพูด “ข้าพอหาเงินได้บ้าง แต่ตอนนี้ข้ามีโอกาสที่จะหาเงินได้มากยิ่งกว่าเดิม เจ้าสนใจจะมาช่วยข้าไหม?”
“มันคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“ในอีกหนึ่งปี มันจะมีบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนปรากฏขึ้นมา เจ้ามีแผนที่จะเข้าแข่งกันด้วยไหม?” อวี้จิงมองหานเซิ่นด้วยความตื่นเต้น