Super God Gene – ตอนที่ 2110

ตอนที่ 2110

Super God Gene – ตอนที่ 2110
หานเซิ่นนั่งอยู่บนยานอวกาศขณะที่เดินทางกลับปราสาทนภา แต่ทันใดนั้นจู่ๆหานเซิ่นก็ถูกครอบงำด้วยความรู้สึกตื่นกลัวและความกังวล

หานเซิ่นรีบเรียกใบเสมาออกมาเพื่อปกป้องตัวเองในทันที หลังจากนั้นมันก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดูดกลืนด้วยพลังที่น่ากลัวอย่างกะทันหัน

ใบเสมาราชาแมลงปีศาจเริ่มส่งเสียงแตกร้าวออกมาเหมือนกับแก้วที่กำลังจะแตก ซึ่งนั่นบอกให้หานเซิ่นรู้ว่าในที่สุดโล่ป้องกันของเขาก็เผชิญหน้ากับพลังที่ทัดเทียม

‘ใครกันที่ต้องการจะฆ่าเรา?’ หานเซิ่นคิด เขารีบใช้วิชาโลหิตชีพจรและเปิดประตูมิติเพื่อกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ เขาจะปลอดภัยในนั้น

พลังที่กำลังเผชิญอยู่นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต่อกรได้ และถึงแม้ใบเสมาราชาแมลงปีศาจจะต้านทานมันได้ แต่หานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าการโจมตีเข้ามาจากทิศทางไหนอยู่ดี ซึ่งถ้าคนที่พยายามจะฆ่าเขาเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้าล่ะก็ ใบเสมาราชาแมลงปีศาจก็จะช่วยอะไรเขาไม่ได้

ด้วยอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านในตัว หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าแสงนั่นยาวนานชั่วนิรันดร์ ทั้งที่ในความจริงแล้วการโจมตีใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที

ข่าวเรื่องที่แสงอันน่ากลัวทำลายล้างยานอวกาศของหานเซิ่นกลายเป็นเรื่องใหญ่โตในจักรวาลจีโน มันไม่เหลือแม้แต่ผุยผงในอวกาศ และหานเซิ่นก็หายไปอย่างไม่เหลือซาก

ทั้งปราสาทนภาและแนร์โรว์มูนต่างก็โกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องการจะหาให้ได้ว่าการโจมตีนั้นมาจากไหนกันแน่

ความสัมพันธ์ระหว่างปราสาทนภาและเฟเธอร์ตึงเคียด เนื่องจากเฟเธอร์เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง แต่แน่นอนว่ามีโอกาสที่ฝ่ายอื่นพยายามจะใส่ร้ายเผ่าเฟเธอร์ที่น่าสงสัยอยู่แล้ว แต่นั่นไม่สิ่งที่ทุกคนจะคำนึงถึง

และเนื่องจากยานอวกาศถูกทำลายล้างโดยสมบูรณ์ คนส่วนใหญ่จึงเชื่อว่าหานเซิ่นถูกฆ่าตายไป พวกเขาไม่คิดว่าหานเซิ่นจะรอดจากการโจมตีแบบนั้นได้

ปราสาทนภาและแนร์โรว์มูนได้รวมมือกันเพื่อสืบหาว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่มันไม่มีเบาะแสอะไรหลงเหลืออยู่เลย พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครกันแน่ที่เป็นคนใช้พลังนั้น

พวกเขารู้แค่ว่าพลังที่ทำลายยานอวกาศของหานเซิ่นถูกปลดปล่อยโดยยอดฝีมือระดับครึ่งเทพหรือไม่ก็เทพเจ้า

พวกเขาไม่เจอร่องรอยหรือเบาะแสอะไรเลย แต่อย่างน้อยนั่นก็ทำให้พวกเขารู้ว่าคนหรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้มีความคิดรอบคอบ ถึงไม่ทิ้งหลักฐานอะไรเอาไว้เลย

แน่นอนว่าหานเซิ่นกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ได้ทัน เขาไม่รู้ว่าศัตรูยังเฝ้าอยู่ที่นั่นไหม ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รีบเดินทางกลับไปในทันที เขาพักอยู่ที่บ้านสักพัก ก่อนที่จะกลับไปสู่จักรวาลจีโนอีกครั้ง

แต่เมื่อหานเซิ่นกลับไป เขาก็สวมใส่ชุดเกราะวิญญาณบุดด้าทองคำ 4 หน้า 8 แขน และเขาก็ซ่อนพลังชีวิตของตัวเองไว้ด้วย ดังนั้นมันจะไม่มีใครบอกได้ว่าเขาคือหานเซิ่น

ทันทีที่หานเซิ่นปรากฏในอวกาศ เขาก็รีบสแกนบริเวณรอบๆ เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง นั่นก็ทำให้เขาโล่งใจอย่างมาก และหลังจากที่ระบุดวงดาวที่อยู่ใกล้ที่สุดได้แล้ว หานเซิ่นก็บินตรงไปที่นั่น

เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่ค่อยมียานอวกาศผ่านมาในบริเวณแถวๆนี้

โชคดีที่มันยังมีดวงดาวใกล้ๆ แต่เนื่องจากมันเป็นดวงดาวขนาดเล็ก มันจึงไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่ ในจักรวาลจีโนดาวแบบนี้จะถูกมองเป็นเหมือนกับสถานีอวกาศซะมากกว่า มันไม่มียานอวกาศเดินทางไปที่ปราสาทนภาด้วยซ้ำ

หานเซิ่นจองตั๋วไปที่ระบบไฟร์โลตัส โดยหวังว่าที่นั่นจะมียานอวกาศไปที่ปราสาทนภา

ระบบไฟร์โลตัสเป็นเขตแดนของเทาซันด์เทรเชอร์ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่กลุ่มเดียวกับหวันเค่อมหาสมบัติที่รับตัวสเตย์อัพเลทไป ระบบไฟร์โลตัสเป็นแค่พรมแดนที่เทาซันด์เทรเชอร์ครอบครองอยู่

เมื่อหานเซิ่นไปถึงที่ระบบไฟร์โลตัส เขาก็เริ่มมองหายานอวกาศอีกลำที่จะพาเขากลับไปที่ปราสาทนภา แต่ทันใดนั้นมันก็มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในอวกาศ

ความว่างเปล่าของอวกาศถูกเปิดออกราวกับผ้าม่านคู่หนึ่ง และเผยให้เห็นม้วนกระดาษที่ห้อยอยู่

มันเป็นอะไรที่ฉีกกดของฟิสิกส์ จู่ๆม้วนกระดาษก็ปรากฏขึ้นให้เห็นได้จากทุกดวงดาวในจักรวาลจีโน ขณะที่มันค่อยๆคายออก รายชื่อก็ปรากฏให้เห็นบนหน้ากระดาษนั้น

รายชื่อเหล่านั้นกำลังเรืองแสงออกมา แม้แต่คนที่อยู่ห่างออกไปหลายล้านปีแสงก็สามารถเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจน รายชื่อของยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์ต่างๆทั่วจักรวาลถูกจดเอาไว้ในนั้น หลายชื่อที่อยู่บนนั้นถูกจดเอาไว้เมื่อหลายศตวรรษก่อน แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นที่รู้จักทั่วทั้งจักรวาล

ม้วนกระดาษค่อยๆคายออกและชื่อต่างๆก็เผยออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ จากระดับราชันไปถึงระดับบารอน มันมีรายชื่ออย่างน้อยหนึ่งหมื่นชื่อถูกจดเอาไว้ในทุกๆระดับ ทุกชื่อคือที่สุดของแต่ละระดับเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน มันถือเป็นเกียรติสูงสุดที่จะได้สลักชื่อเอาไว้บนนั้น

ราชันอันดับที่หนึ่ง : จางเสวียนเต้า(เผ่านภา)

ราชันอันดับที่สอง : ดราก้อนวัน(เผ่าดราก้อน)

เมื่อม้วนกระดาษคายออกอย่างสมบูรณ์ รายชื่อทั้งหมดก็ส่องสว่างราวกับว่าพวกมันจะเป็นแบบนั้นไปตลอดกาล พวกมันสว่างไสวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

ตูม!

อวกาศเริ่มสั่นไหวและบนหน้ากระดาษก็ว่างเปล่าไป ก่อนที่จะมีตัวอักษรปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

ราชันอันดับที่หนึ่ง : จางเสวียนเต้า(เผ่านภา)

เงาของคนๆหนึ่งปรากฏขึ้นบนผิวของบัญชีทองแดง เงานั้นเป็นรูปร่างของชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนกับเทวดา มันชัดเจนและละเอียดขึ้นเรื่อยๆ

นี่ก็คือชายที่เอาชนะทุกคนเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุด

หานเซิ่นเกือบจะสำลักออกมาด้วยความประหลาดใจ คนที่ได้รับอันดับที่หนึ่งชื่อจางเสวียนเต้า ซึ่งเขาก็คือผู้นำของปราสาทนภา หลังจากนั้นบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนก็เริ่มแสดงประวัติการต่อสู้ของเขา ตอนนี้ทุกคนสามารถชื่นชมการต่อสู้อันกล้าหาญของเขา

หลังจากนั้นมันก็เริ่มแสดงของราชันลำดับต่อไป แต่เมื่อถึงราชันอันดับที่สิบ มันก็ไม่ได้แสดงราชันคนอื่นไปมากกว่านั้น และมันก็หันไปแสดงชื่อของดยุกอันดับที่หนึ่งแทน

อันดับหนึ่งถึงสิบของทุกระดับถูกแสดงบนบัญชีทองแดง การต่อสู้ของพวกเขาทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้น แม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจในการต่อสู้ก็รู้สึกเหมือนๆกัน

Super God Gene

Super God Gene

Status: Ongoing
 ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม”

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท