ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King – ตอนที่ 774 : หลงเฉิ่งขวง

ตอนที่ 774 : หลงเฉิ่งขวง

ฉินหยุนรู้สึกหวั่นเกรงไม่น้อยหลังสัมผัสได้ ถึงออร่าของบรรดาเหล่ายอดยุทธ์ที่รวมตัวกันในลานกว้าง การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันถัดจากนี้ ทว่า ฉินหยุนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล เพราะตัวเขาจะไม่อาจเลื่อนระดับพลังได้ในช่วงไม่กี่วันถัดจากนี้เป็นแน่

ยอดยุทธ์ส่วนใหญ่ในที่นี้ พวกเขาที่เข้าแข่งขันระดับยอดยุทธ์ จะอยู่ระดับกลางหรือสูงกว่านั้น ยกตัวอย่าง เจี้ยนหนันหู่และเจี้ยนรั่วหยาน ทั้งสองต่างเป็นยอดยุทธ์ระดับกลาง

ฟ้ายังมืด หลายคนรวมตัวกันที่ลานกว้าง พวกเขารอคอยจนกระทั่งเช้าเพื่อการลงทะเบียนเข้าร่วมแข่งขัน ยอดยุทธ์ที่เลิศล้ำทั้งหลายของหลายแคว้นต่างมารวมตัวกันที่นี่

ด้วยฉินหยุนหายตัวไปหลายปี รูปลักษณ์ของเขาจึงเลือนหายจากความทรงจำผู้อื่น กระนั้น นามของฉินหยุนก็ยังเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้คน ทั้งยังมีการกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง

ไกลออกไป เจี้ยนรั่วหยาน เจี้ยนหนันหู่ เจี้ยนหมาง และคณะศิษย์ตระกูลเจี้ยนกำลังหัวเราะไปพลางพูดคุย

แต่แล้วผู้หนึ่งพลันร้องโพล่ง “ชายชุดสีครามผู้นั้นดูคล้ายฉินหยุน ก่อนหน้านี้ ข้าเคยพบเห็นเขาครั้งหนึ่งที่ทางเข้าพระราชวังเซียนยุทธภัณฑ์ เป็นเขาฝากความประทับใจไว้แก่ข้ามากนัก!”

เสียงของคนผู้นี้ค่อนข้างดัง ผู้คนใกล้เคียงล้วนได้ยิน เจี้ยนหนันหู่ เจี้ยนรั่วหยาน และบรรดาหัวกะทิจากแคว้นมหาดวงดาวล้วนมองไป พวกเขาส่วนใหญ่มีความประทับใจอันดีต่อฉินหยุน เวลานี้พวกเขาล้วนได้ยืนยันมั่นใจ ว่าอีกฝ่ายคือฉินหยุน

ฉินหยุนมาถึงแล้ว!

หากงานประลองยุทธ์ครั้งใหญ่เช่นนี้ไม่มีฉินหยุนเข้าร่วม ผู้คนรุ่นเดียวกันจะรู้สึกเสมือนสิ่งใดขาดหายไป อย่างไรแล้ว ฉินหยุนก็คือผู้มีพรสวรรค์สูงล้ำของแดนวิญญาณอ้างว้างเขตแดนนอก นี่ยังไม่กล่าวถึงความเลิศล้ำของเขาต่อวิถีจารึก

ทั่วทั้งลานกว้างกลับกลายเป็นเงียบงันครู่หนึ่ง ถัดจากนั้นจึงเกิดความอึกทึกครั้งใหญ่!

เจี้ยนหนันหู่ เจี้ยนรั่วหยาน รวมถึงเจี้ยนหมางเร่งรีบเข้ามาใกล้

“พี่หยุน นั่นท่านหรือ?” เจี้ยนรั่วหยานพบว่าเรื่องราวยากเกินเชื่อ นางกล่าวถามออกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดี

“ย่อมเป็นข้า” ฉินหยุนยิ้มบางตอบรับ จากนั้นจึงมองที่เจี้ยนหนันหู่

เจี้ยนหนันหู่ขมวดคิ้วกล่าว “ฉินหยุน เจ้ายังไม่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ นี่ช่างน่าผิดหวังนัก!”

ฉินหยุนกล่าว “ข้าติดอยู่ในช่องว่างกาลอวกาศ ทำให้ถูกรั้งเวลาหายไปหลายปี!”

เจี้ยนรั่วหยานกล่าว “พี่หยุน อย่างนั้นท่านควรรอจนกว่าจะเข้าสู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำก่อน!”

เจี้ยนหนันหู่กล่าว “ฉินหยุน แม้เจ้ายังไม่ก้าวถึงการเป็นยอดยุทธ์ กระนั้นเจ้าก็ยังแข็งแกร่ง! ลงทะเบียนเข้าร่วมเสีย แม้เจ้าไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอันใดนัก ก็ไม่มีผู้ใดคิดกล่าวเย้ยหยันเจ้า!”

เจี้ยนหมางเอ่ยคำ “ดีสุดหากเจ้าไม่เข้าร่วม!”

เพียงเจี้ยนหมางกล่าวคำจบ ออร่าอันเหนือล้ำพลันมาถึง อีกฝ่ายเป็นชายหล่อเหลาใบหน้ารูปหยก ดวงตานั้นมีแต่ความเย็นเยือกอหังการ เขามาพร้อมกลุ่มคนสวมใส่ชุดหรูหรา

ชายที่หล่อเหลาซึ่งสวมใส่ชุดสีขาวทองคำหรูหรา มันมีลวดลายมังกรปักเอาไว้อย่างงดงาม หมวกของอีกฝ่ายก็มีร่างมังกรสลักเอาไว้ พัดในมือก็พลิ้วไหวด้วยประกายแสงสีทองสาดส่องจากมังกรที่ปักไว้อย่างงดงาม ทั้งยังมีรองเท้าลวดลายมังกร ชายผู้นี้มีแต่มังกรประดับเต็มตัว ทั้งยังมีออร่ามังกรอันเลิศล้ำ

“นั่นคือหลงเฉิ่งขวง! เขาคือหลานของผู้นำตระกูลแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า ครอบครองร่างมังกร และมีสามวิญญาณยุทธ์! เป็นบุคคลที่น่าสะพรึงผู้หนึ่ง!” เจี้ยนรั่วหยานส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน

กลุ่มคนยังหนุ่มรอบกายหลงเฉิ่งขวง ออร่าของพวกเขาแทบไม่อ่อนด้อยไปกว่ากัน ชัดเจนว่าพวกเขาเหล่านี้คือผู้มากพรสวรรค์

“เจ้าหรือคือฉินหยุน?” หลงเฉิ่งขวงมองทางฉินหยุนจากระยะไกลพร้อมหัวเราะเบา “เจ้ายังไม่เข้าสู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ กระนั้นกลับกล้าเสนอหน้าโผล่ออกมา!”

“หากข้าเป็นเจ้า ข้าคงหลบซ่อนในถ้ำ คิดออกมาก็ต่อเมื่อก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ! และเจ้าคิดหรือว่านี่จะเหมือนเมื่อหลายปีก่อน ท่ามกลางผู้มากพรสวรรค์ทางยุทธ์เต๋าที่นี้ มันไม่มีที่ให้เจ้าได้ยืนหยัด!”

ผู้คนต่างทราบว่าหลงเฉิ่งขวงแข็งแกร่งเพียงใด กระทั่งเจี้ยนหนันหู่ยังต้องหวั่นเกรง!

เจี้ยนหนันหู่แค่นเสียงกล่าว “หลงเฉิ่งขวง ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง! ทว่าเจ้าที่เป็นยอดยุทธ์ระดับกลาง เหตุใดจึงอหังการอวดดีต่อฉินหยุนเพียงนี้?”

“ฉินหยุนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงสุด หากเป็นเจ้าที่มีการฝึกฝนทัดเทียม เจ้าจะมีแต่ถูกเขาสะกดข่มจนถูกเฉือนหั่นทั้งร่างเป็นชิ้นเนื้อ!”

หลงเฉิ่งขวงเผยเสียงหัวเราะดัง “เจี้ยนหนันหู่ เจ้าให้ค่ามันสูงเกินไปแล้ว! ไม่แปลกใจที่เจ้าพ่ายแพ้ต่อมันหลายครั้งครา หากเป็นข้า คิดเอาชนะมันใช้มือเดียวก็เกินพอ!”

ได้เห็นหลงเฉิ่งขวงอหังการอวดดีเป็นล้นพ้น เชี่ยวเย่ว์เหม่ยต้องกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ฉินหยุนรับรู้ได้ว่าหลงเฉิ่งขวงแข็งแกร่งเพียงใด ตั้งแต่ที่ครอบครองร่างเซียนอสูร สัมผัสของเขาแม่นยำมากล้ำ โดยเฉพาะยามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลอันตรายที่แข็งแกร่ง หลงเฉิ่งขวงผู้นี้ เห็นได้ชัดว่ายังเก็บงำพลังมากล้ำไว้ภายใน

“เสี่ยวหยุน ชายผู้นี้แปลกเกินไปแล้ว! ข้าคิดว่ามันและผู้คนรอบกายล้วนมาจากเขตแดนลึกล้ำ!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

เป็นศิษย์ของเขตแดนลึกล้ำ! เขตแดนลึกล้ำวิญญาณอ้างว้าง มันมีทรัพยากรและพลังที่หนาแน่นยิ่งกว่าหากเทียบกับเขตแดนนอก ทั้งยังรวมถึงวิธีการฝึกฝน พวกเขากล่าวว่าเหนือล้ำกว่าในทุกสัดส่วน และตอนนี้ ศิษย์ของเขตแดนลึกล้ำได้มายังที่นี่ ทั้งยังมาจากตระกูลหลง! ชัดเจนว่าขั้วอำนาจแห่งเขตแดนลึกล้ำ ได้ทำการสนับสนุนตระกูลหลงอยู่เบื้องหลัง

ฉินหยุนเมินเฉยหลงเฉิ่งขวง กระนั้น หลงเฉิ่งขวงและคณะคนของเขากลับปิดล้อมฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไว้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพยายามดึงฉินหยุนให้ไปจากที่ตรงนี้ กระนั้นชายหนุ่มชุดแดงกลับปลดปล่อยพลังกดดันมหาศาลรั้งนางไว้ แรงดังกล่าว มันถึงขั้นทำให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยต้องร้องออกมาเบา

“เจ้าทำบ้าอะไร?” ฉินหยุนกล่าวน้ำเสียงลุ่มลึก

“หลงเฉิ่งขวง ที่นี่คืออาณาเขตแห่งตระกูลเจี้ยน เจ้าอย่าได้คิดว่าจะลงมือตามใจชอบที่นี่ได้!” เจี้ยนหนันหู่ชักดาบของตนออก

“ข้าเพียงคิดอยากได้เห็น ว่าฉินหยุนที่ตำนานกล่าวขานผู้นั้นแข็งแกร่งเพียงใด!” หลงเฉิ่งขวงแค่นเสียงกล่าว จากนั้นจึงใช้พลังลับโจมตีใส่ศีรษะเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

นอกจากฉินหยุน หาได้มีผู้ใดสัมผัสถึงพลังนี้ได้ พลังงานเช่นนี้ไร้เสียง ทั้งยังอัดแน่นด้วยพลังชวนสะพรึง มันคือพลังที่ยากตรวจพบ ฉินหยุนเพียงตรวจพบความผันแปรผ่านทางพลังงานวิญญาณเก้าตะวัน

ฉินหยุนกลายเป็นมีโทสะ เพราะหลงเฉิ่งขวงคิดเล็งไปยังศีรษะของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย! เขารั้งเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับเข้าหาตน หลังจากที่พลังนั้นพลาดเป้า มันจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังศีรษะของฉินหยุน

พลังงานลึกลับประหลาดนี้ถึงขั้นหาเป้าหมายเป็นศีรษะผู้คนด้วยตนเองได้! ฉินหยุนหวั่นเกรง หลิงหยุนเอ๋อปลดปล่อยพลังแรงดึงดูดผ่านทางวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬเข้าดูดกลืนพลังลึกลับนั้น

ตู้ม!

พลังงานลับเกิดการบิดเบี้ยว มันหันเหลงใส่หัวไหล่ของฉินหยุนพร้อมระเบิดออก! แรงระเบิดส่งผลให้หมอกเลือดปรากฏ! หัวไหล่ของฉินหยุนปรากฏรูขนาดใหญ่จากแรงระเบิด!

ผู้คนยามได้เห็นล้วนตื่นตะลึง! ฉินหยุนผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ถึงขั้นได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวไหล่เช่นนี้! พวกเขาต่างมองที่เนื้อและโลหิตในหัวไหล่ของฉินหยุนพร้อมลอบหวาดกลัว เพราะที่ตรงนั้น มันปรากฏเส้นสายสีขาว มันคือพลังของร่างเซียนอสูรที่พร้อมฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย

“หลงเฉิ่งขวง จงหยุดที่ตรงนั้น!” เจี้ยนหนันหู่ตะโกนดัง เขาเร่งรีบทะยานร่างออกมา

ทันใดนี้ จักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนทั้งหลายต่างมาถึง

“ทุกคนจงหยุด ที่นี่เกิดเรื่องใดขึ้น?” ผู้ซึ่งกล่าวถาม เป็นครึ่งเซียนของตระกูลเจี้ยน

“หลงเฉิ่งขวงและคนของมันโจมตีใส่ฉินหยุน!” เจี้ยนหนันหู่กล่าวออกอย่างโกรธแค้น

ฉินหยุนเพียงยืนที่ตรงนั้น เป็นปราการปกป้องให้แก่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยที่ด้านหลัง สีหน้าของเขาเวลานี้ทั้งดำมืดและชวนให้หวาดกลัว แม้มีแผลใหญ่ที่หัวไหล่ กระนั้นคิ้วของเขากลับไม่กระตุกแม้เพียงนิด เป็นเขากำลังสะกดข่มโทสะอันล้นพ้นภายในใจ!

“ข้าหาได้ลงมือใดไม่ เป็นมันคิดลงมือแล้วพลาดทำตนเองบาดเจ็บ!” หลงเฉิ่งขวงยิ้มสงบกล่าวคำพร้อมโบกพัดในมือ

“พวกเราเองก็ไม่เห็นว่าหลงเฉิ่งขวงลงมือใด ผู้คนที่นี้เป็นพยาน อีกฝ่ายเพียงปิดล้อมเขาและกล่าวถามถึงเรื่องราวในเขตแดนอ้างว้างจันทราทมิฬ!”

“พวกเราไม่คิดว่าเขาคือผู้ลงมือโจมตี!”

หลายคนที่นี้เป็นพยานคนแล้วคนเล่า ว่าพวกเขาไม่พบเห็นหลงเฉิ่งขวงลงมือใด! พวกเขายังไม่อาจสัมผัสถึงออร่าใดได้ด้วย หัวไหล่ของฉินหยุนระเบิดเองอย่างกะทันหัน ทว่าในใจพวกเขาล้วนคิด ว่านั่นไม่ใช่เขาทำตนเองอย่างแน่นอน!

“ฉินหยุน ตระกูลหลงของข้ามีข้อพิพาทกับเจ้ามากมายนัก ข้าจะเป็นตัวแทนตระกูลหลงทำลายข้อพิพาทเหล่านั้นลงจนสิ้นเอง!”

หลงเฉิ่งขวงเผยใบหน้าลำพองพลางหัวเราะ “หากเจ้าคิดอยากลงมือต่อข้า เช่นนั้นจงลงทะเบียนการแข่งขัน พวกเราจะได้สะสางข้อพิพาทบนลานประลองยุทธ์!”

“เจ้าไม่มีค่าพอจะเป็นตัวแทนตระกูลหลงมาคลี่คลายข้อพิพาทกับข้า! มีแต่ทั้งตระกูลหลงถูกกวาดล้างจนสิ้น นั่นจึงเป็นการคลี่คลายข้อพิพาทของข้าได้!” ฉินหยุนกล่าวออกอย่างไม่หวั่นเกรงใด “หลงเฉิ่งขวง เจ้าอย่าได้ให้ค่าตนเองสูงเกินไปนัก!”

“ฉินหยุน ตัวเจ้าที่ยังไม่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ กระนั้นกลับอหังการอวดดีต่อหน้าข้าผู้นี้หรือ! เป็นเจ้าที่ไม่รู้จักประมาณตน!” หลงเฉิ่งขวงแค่นเสียง

“พวกเราไป”

ฉินหยุนดึงเชี่ยวเย่ว์เหม่ยคิดเดินจากไป ขณะฝีเท้าก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าว ชายชุดแดงพลันเข้าสกัดขาเขาเอาไว้คิดทำให้เขาต้องล้มลง

“นามเจ้าว่าอะไร?” ฉินหยุนที่ถูกสกัดขา เวลานี้หันศีรษะกลับมองชายชุดแดงพร้อมกล่าวถามเสียงเย็นเยือก

“เจ้ายังไม่มีค่าพอให้ทราบนามข้า! แล้วมองหาอะไร? จงไสหัวไป!” ชายชุดแดงแค่นเสียงกล่าวคำดัง

“นามของมันคืออวี้เสินเจิน!” เจี้ยนรั่วหยานรับชมด้วยโทสะมาตลอด กระนั้นนางทราบ ว่าฝ่ายนางไม่อาจลงมือที่นี้ได้

“ได้ ข้าจะจำนามมันเอาไว้!”

คนหนุ่มอีกจำนวนหนึ่งที่มาพร้อมหลงเฉิ่งขวงคิดถ่มน้ำลายใส่ฉินหยุน กระนั้น ฉินหยุนใช้ม่านพลังสกัดไว้ได้!

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยค่อนข้างสงบใจได้มาก เพราะนางทราบดี ด้วยตระกูลเจี้ยนที่นี่ อีกฝ่ายจะไม่มีทางกล้าลงมืออื่นใดอีก เพราะไม่เช่นนั้น พวกเขาจะถูกเขี่ยพ้นออกจากเกาะแห่งดาบ

เจี้ยนหมางไม่อาจมองเห็น กระนั้นเขาสัมผัสกระจ่างชัด ถึงเจตนาสังหารขวนสะพรึงของฉินหยุน เขากล่าวเสียงเบา “คนกลุ่มนี้คงมีชีวิตรอดได้ไม่นาน”

เจี้ยนรั่วหยานตามหลังคอยคุ้มกันให้

เจี้ยนหนันหู่มองที่หลงเฉิ่งขวงพร้อมแค่นเสียงกล่าว “หลงเฉิ่งขวง เจ้าเพียงกล้ารังแกผู้ที่ระดับการฝึกฝนต่ำกว่า หากมีความกล้า เช่นนั้นจงเข้ามารังแกข้า!”

“เจี้ยนหนันหู่เอ๋ย สวะเช่นเจ้าที่พ่ายแพ้ฉินหยุนหลายครั้งครา อย่าได้อวดดีต่อหน้าข้าแล้ว… ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลงเฉิ่งขวงหัวเราะดังก่อนจะเดินจากไป

ฉินหยุนมาถึง กระนั้น เขากลับถูกหยามเหยียดพร้อมฝากฝังความเกลียดชังครั้งใหญ่เอาไว้! เรื่องราวนี้แพร่กระจายรวดเร็วสู่ทั่วทั้งเกาะแห่งดาบ

เจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโฉ่ว รวมถึงผู้อาวุโสอีกหลายคนที่ได้ทราบเรื่อง พวกเขาต่างเร่งรีบมาพบฉินหยุนกันโดยทันที

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

Status: Ongoing
ถูกจัดฉาก! ถูกใส่ร้าย! กล่าวหาว่าฝึกฝนวิชายุทธ์ของปีศาจอันชั่วร้าย!
เหล่านี้ล้วนเป็นแผนการเขี่ยเขาทิ้งพ้นจากตำแหน่งที่ได้รับโดยกำเนิด
ก่อนจะแต่งตั้งจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ขึ้นโดยเหล่าข้าราชบริพารเฒ่า
อีกทั้งยังพรากเอาพรสวรรค์ที่เขามีแต่กำเนิดไปจนสิ้น! ฉินหยุน อดีตองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเทียนฉิน
เขาสืบทอดเคล็ดวิชายุทธ์ของโลกเก้าตะวัน มรดกเคล็ดวิชายุทธ์อันล้ำค่าคือคลังอาวุธของเขา
ทั้งเขายังคลั่งที่จะแกะสลักความลึกล้ำของโลกด้วยปลายนิ้ว กระทั่งว่ามีศัตรูรายล้อมและหญิงงามมากมาย
แต่ฉินหยุนก็ยังไม่พอใจ เขาต้องการไปให้เหนือยิ่งกว่าเก้าตะวันเพื่อเข้าสู่ความยิ่งใหญ่แห่งดาราจักร เพื่อให้ได้กลายเป็น ราชันเทพ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท