ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King – ตอนที่ 778 : ล้างสังหารหุ่นเชิด

ตอนที่ 778 : ล้างสังหารหุ่นเชิด

ตอนที่ 778 : ล้างสังหารหุ่นเชิด

ร่างกายของหุ่นเชิดวัชระแกร่งกล้า โดยเฉพาะที่ศีรษะ มันสามารถต้านรับการโจมตีของอุปกรณ์เต๋าได้ด้วยซ้ำ

กระนั้นตอนนี้ ฉินหยุนได้ระเบิดศีรษะของมันออกเป็นเสี่ยงด้วยนิ้วเพียงสอง!

ผู้คนจากเขตแดนลึกล้ำต่างนิ่งค้าง! พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้ ว่าเหตุใดฉินหยุน ผู้ซึ่งยังไม่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ กลับกลายเป็นมีพลังลึกล้ำชวนสะพรึงเช่นนี้ได้

สาเหตุว่าทําไมพวกเขาไม่ทราบเรื่องฉินหยุนก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ นั่นก็เพราะฉินหยุนฝึกฝนตะวันทมิฬ เขาไม่ได้ทําให้แก่นเต๋าลึกล้ำถือกําเนิดขึ้น

และแม้ศีรษะหุ่นเชิดวัชระจะแตกออกเป็นเสียงกระจัดกระจาย มันก็ยังไม่ได้ร่วงโรยที่เท่านี้ เพราะแก่นของมันไม่ได้อยู่ที่ศีรษะ ดังนั้นจึงยังสามารถโจมตีต่อ

ตอนนี้ ผู้คนของเขตแดนลึกล้ำจึงเข้าควบคุมหุ่นเชิดโดยตรง หุ่นเชิดพลันแปรเปลี่ยน สองหมัดโรมรันออกนับไม่ถ้วนเกิดเสียง “ตึง ตึง ตึง” ดังขึ้นรัวไม่หยุด มันประหนึ่งสายฟ้าอสนีบาตฟาดฟันออกซึ่งหน้า พลังหมัดแปรเปลี่ยนเปรียบดั่งสายฟ้าเข้าปกคลุมพื้นที่กว้าง

ฝูงชนที่รับชมต่างต้องยืนขึ้น ที่พวกเขาได้เห็นตอนนี้ คือสายฟ้าทองคําได้ปกคลุมพื้นที่ และคล้ายกับร่างของฉินหยุนได้ถูกทะลวงผ่านโดยหมัดพลังสายฟ้าทองคําจํานวนมหาศาล กระนั้นแล้ว เขาก็ยังยืนนิ่งที่เดิมเช่นก่อนหน้า และร่างกายหาได้ฉีกขาดอันใดไม่

“นั่นเป็นภาพติดตา!” ผู้หนึ่งร้องตะโกนขึ้น

หุ่นเชิดวัชระโจมตีเพียงแต่ภาพติดตาของฉินหยุน ส่วนฉินหยุนตัวจริงนั้นเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉินหยุนใช้งานก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์ เงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์พร้อมเลือนหายโดยหมดจดไปชั่วครู่

“ฉินหยุนอยู่บนฟ้า!”

คนหนึ่งเห็นร่างเงาปรากฏ อีกฝ่ายเผยตัวขึ้นบนฟากฟ้า และช่วงเวลานี้ ฉินหยุนได้ทะยานร่างลงอย่างดุดันจากฟากฟ้าเบื้องบน! ขณะเขาทะยานตัวลงมา หุ่นเชิดวัชระจึงต่อยหมัดขึ้นสู่ท้องฟ้า สายฟ้าอสนีบาตทองคํามวลหนาจึงทะลักขึ้นสูงคิดกลืนกินฉินหยุน

ตู้ม

ฉินหยุนสะบัดฝ่ามือ ทําการสะกดพลังอสนีบาตทองคํานั้นลง พลังฝ่ามือระเบิดออก เกิดเป็นสายลมกระโชกรุนแรงส่งเสียงร้องโหยหวนประหนึ่งมังกรโศกา

ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์

แม้เป็นเพียงห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ ทว่าด้วยกําลังของฉินหยุนตอนนี้ มันมากเกินพอที่จะทําลายล้างหุ่นเชิดวัชระจนสิ้น

ตู้ม

ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ได้เข้ากลืนกินอสนีบาตทองคํา ก่อนจะพุ่งตรงต่อเข้าหาร่างหุ่นเชิดวัชระ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขนาดทุกผู้คนที่ได้รับฟังต้องหูดับไปชั่วครู! ร่างหุ่นเชิดวัชระเกิดขึ้นซึ่งรอยปริแตกจํานวนมาก มันราวกับก้อนน้ำแข็งที่พร้อมแตกออกทุกเมื่อ

ตู้ม ตู้ม

ฉินหยุนลงมืออีกครั้งด้วยสองฝ่ามือ ทําการทําลายร่างหุ่นเชิดวัชระโดยสมบูรณ์ ร่างหุ่นเชิดวัชระกลับกลายเป็นผลึกแก้วสีทองประหนึ่งเม็ดข้าว พวกมันถูกสายลมรุนแรงที่ยังไม่สงบพัดพากระจัดกระจาย

ประกายแสงสีทองเหล่านี้ยามเคลื่อนผ่านดูงดงามยิ่ง กระนั้น หลายคนต่างอดไม่ได้ที่จะต้องเทียบเปรียบ ว่าประกายแสงสีทองเหล่านี้ มันไม่ต่างจากหมอกเลือดของมนุษย์ เพราะหากเป็นผู้คนถูกโจมตีรุนแรงเช่นนั้น ร่างคงระเบิดแตกสลายกลายเป็นละอองเลือด

ฉินหยุนชนะ เขาใช้พลังอันเหนือล้ำบดขยี้หุ่นเชิดวัชระไปได้ ฝูงชนต่างโห่ร้องตะโกนยินดี เจี้ยนสือเทียนถอนหายใจยาวโล่งอก กระทั่งเขายังต้องลอบตระหนกต่อกําลังของฉินหยุนในเวลานี้

หลงเฉิ่งขวง อวี้เสินเจิน และคณะอัจฉริยะจากเขตแดนลึกล้ำล้วนพูดกล่าวกันไม่ออก พวกเขาได้เพียงแต่กําหมัดเอาไว้แน่น

“หุ่นเชิดจากเขตแดนลึกล้ำได้แค่นี้หรือ? ขยะคล้ายยังมีค่าเสียกว่า!” เจี้ยนรั่วหยานกล่าวเย้ยหยันเสียงดัง

ขณะเจี้ยนสือเทียนคิดถอนม่านพลัง หุ่นเชิดวัชระอีกเก้าตัวพลันบุกโจมตีใส่ฉินหยุน ฝูงชนต่างโห่ร้องเสียงดัง แม้เก้าผู้เข้าแข่งขันถอนตัวไปแล้ว อีกฝ่ายกลับปล่อยหุ่นเชิดเอาไว้บนเวทีประลองยุทธ์ เห็นได้ชัดว่าเพื่อผนึกกําลังโจมตีใส่ฉินหยุนในตอนนี้!

“พวกเจ้าคิดทําอะไร?” เจี้ยนสือเทียนจับจ้องกลุ่มคนจากเขตแดนลึกล้ำพร้อมตะโกนกราดเกรี้ยว

“ข้าเสียการควบคุม… หุ่นเชิดเหล่านี้มีสติปัญญาของพวกมันเอง พวกมันเห็นฉินหยุนทําลายพรรคพวก ดังนั้นจึงละทิ้งการควบคุมของข้าและโจมตีใส่ฉินหยุน!” ชายชราจากเขตแดนลึกล้ำตะโกนดัง “เร่งรีบเปิดม่านพลัง!”

ผู้คนของเขตแดนลึกล้ำและตระกูลหลงต่างเผยยิ้มชั่วร้ายที่ใบหน้า เห็นเช่นนี้ ผู้คนย่อมทราบว่าเรื่องราวเป็นอีกฝ่ายจงใจกระทํา

หุ่นเชิดวัชระทั้งเก้าตัวบุกโจมตีใส่ฉินหยุน พวกมันเปรียบดังแสงสีทองวูบไหวเคลื่อนไปมาอย่างไร้รูปแบบ ทั้งยังรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าจนแทบไม่อาจเห็นร่าง

ตู้ม ตู้ม ตู้ม..

หุ่นเชิดวัชระทั้งเก้าพร้อมใจโจมตีฉินหยุนไม่หยุดพักราวคลุ้มคลั่ง และฉินหยุนไม่อาจต้านรับ เขาได้เพียงแต่ต้องหลบด้วยความยากลําบาก

หลงเฉิ่งขวงเวลานี้ค่อยเผยยิ้มโฉดชั่วกล่าวคํา “ฉินหยุนมันต้องตาย!”

คํากล่าวนี้ยิ่งกระจ่างชัด ผู้คนของเขตแดนลึกล้ำ คือผู้ควบคุมหุ่นเชิดให้บุกโจมตีใส่ฉินหยุนและฉินหยุนย่อมทราบเรื่องดี เขากระทั่งยินดีภายในใจด้วยซ้ำ

“หากจําไม่ผิด หุ่นเชิดวัชระพวกนี้ล้ำค่ามากกระมัง?” ฉินหยุนพลันทะยานร่างขึ้นฟ้า

หุ่นเชิดวัชระทั้งเก้าจึงกระโดดขึ้นตามติด

“หยุนเอ๋อ เอาเลย!” ฉินหยุนร้องตะโกน

หลิงหยุนเอ็อพลันปลดปล่อยแรงโน้มถ่วง ตัวหลิงหยุนเอ๋อเวลานี้ นางสามารถปลดปล่อยแรงโน้มถ่วงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้า แรงสะกดรุนแรงได้กดทับเข้าใส่บรรดาหุ่นเชิดวัชระ

ครืน!

หุ่นเชิดวัชระทั้งเก้าไม่คิดว่าจะมีพลังเช่นนี้ปรากฏ พวกมันถูกโจมตีโดยพลังแรงโน้มถ่วงจนร่างต้องร่วงหล่นแนบติดกับพื้น ฝูงชนต่างร้องตะโกนตระหนกตกใจ หุ่นเชิดวัชระทั้งเก้าบุกโจมตีฉินหยุนพร้อมกัน ตอนนี้ไม่เพียงแต่โจมตีพลาด พวกมันกระทั่งร่างร่วงหล่นกับพื้น!

ทันทีที่พวกมันร่างร่วงหล่นกับพื้น ฉินหยุนจึงใช้วิชายุทธ์โทเทมต้นไม้ ปลดปล่อยพลังลึกล้ำผ่านตะวันทมิฬ ควบแน่นเกิดขึ้นเป็นกรงเล็บพฤกษาจํานวนมากปรากฏจากพื้นเวที

ในพริบตา หุ่นเชิตวัชระทั้งเก้าจึงถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยรากไม้สีดํา แต่ละรากไม้ได้รัตพันรอบตัวพวกมันเอาไว้ประหนึ่งบอลลูกใหญ่

และทันใดนี้เอง กลุ่มก้อนพลังงานสีดําพลันฟุ้งกระจายจากร่างฉินหยุน สภาพของเขาตอนนี้ประหนึ่งเทพอสูร! พร้อมกันนี้ พื้นดินจึงเริ่มสั่นไหวขึ้นทีละน้อย! ฉินหยุนปลดปล่อยความสามารถเทวะแผ่นดินไหว ควบแน่นพลังปรากฏที่ในมือ จากนั้นจึงโจมตีเข้าใส่บอลรากไม้สีดําที่เบื้องล่าง!

ครืน!

เสียงดังสนั่นบังเกิดพร้อมแผ่นดินสะท้านสะเทือน แรงระเบิดแผ่ขยายจากพื้นเวทีประลองยุทธ์ รากไม้แตกออกเป็นเสี่ยง ระเบิดเอากลุ่มก้อนพลังงานสีดําพร้อมประกายแสงสีทองระยิบระยับปกคลุมทั่วทั้งลานประลองยุทธ์

เจี้ยนสือเทียนที่คิดถอนม่านพลังออก กระนั้นยามได้เห็นเรื่องราวไม่เป็นดังที่คิด เขาจึงหยุดมือ

ฝูงชนผู้รับชมด้านนอกเวทีประลองยุทธ์เพียงได้เห็น ว่าพื้นที่ภายในม่านพลัง มันมีแต่พลังงานสีดําฟุ้งกระจายพร้อมหมอกแสงสีทอง

ใบหน้าบรรดาผู้อาวุโสจากเขตแดนลึกล้ำกระตุกด้วยความปวดร้าวในหัวใจ พวกเขาทราบชัดเจนดี ถึงการเชื่อมต่อกับหุ่นเชิดวัชระที่ขาดหายไป หุ่นเชิดวัชระทั้งสิบตัวที่มีมูลค่าไม่อาจประเมินได้ ตอนนี้ทั้งหมดถูกฉินหยุนทําลายสิ้น

เมื่อใดพวกเขากลับสู่เขตแดนลึกล้ำ พวกเขาก็ไม่ทราบแล้วว่าควรรายงานต่อเบื้องบนอย่างไร! หลงเฉิ่งขวงและกลุ่มอัจฉริยะจากเขตแดนลึกล้ำล้วนกายแข็งที่อ เพราะแม้เป็นราชันยุทธ์ คิดทําลายหุ่นเชิดวัชระเหล่านั้นก็ไม่มีทางทําได้ง่าย

กลุ่มก้อนพลังงานสีดําที่เวทีประลองยุทธ์เริ่มกระจาย ผลึกแก้วสีทองราวเมล็ดข้าวได้ลอยฟุ้งในอากาศก่อนร่วงหล่นลงมาเชื่องช้า พวกมันราวกับสายฝนทองคําที่เคลื่อนคล้อยลงมาอย่างงดงามยิ่ง

หลังจากเจี้ยนสือเทียนปิดม่านพลังและขึ้นบนเวที เขาสัมผัสได้ถึงพลังสั่นไหว และยังมีพลังอีกประเภทหนึ่งที่อาจารย์จารึกย่อมคุ้นเคย

“นี่มัน… พลังแปรธาตุหรือ? นี่เขาถึงขั้นใช้พลังแปรธาตุต่อสู้ได้?”

“มันจะเป็นอักขระแปรธาตุที่ชวนสะพรึงเพียงใด? หรือเขาเชี่ยวชาญโทเทมแปรธาตุ?”

“เป็นไปได้ ฉินหยุนต้องมีโทเทมแปรธาตุในครอบครอง!”

“ไม่ว่าหุ่นเชิดวัชระแข็งแกร่งเพียงใด พวกมันก็ต้องอาศัยการเกื้อหนุนจากอักขระโทเทมภายในร่าง และฉินหยุนใช้งานพลังแปรธาตุผสานรวมกับพลังสั่นไหว ถ่ายเทพลังเข้าสู่ร่างหุ่นเชิด นี่จึงเป็นการทําลายอักขระโดยสมบูรณ์จากภายใน!”

“วิธีการใช้พลังที่ปราดเปรื่องนัก!”

ฉินหยุนย่อมไม่มีโทเทมแปรธาตุ ทว่าเขามีอักขระจันทราแปรธาตุ และยังแกะสลักอักขระเหล่านั้นไว้ในกระดูกเมื่อนานมาแล้ว เดิมเขาเพียงใช้เพื่อทําให้การสร้างอุปกรณ์ง่ายดายขึ้น เป็นเขาไม่คาดคิด ว่ามันจะส่งผลต่อหุ่นเชิดเหล่านี้จนกระทั่งทําลายพวกมันได้หมดสิ้น!

“ฉินหยุน เจ้าตัวบัดซบ จงนําหุ่นเชิดวัชระกลับคืนแก่พวกเรา!” ชายชราจากเขตแดนลึกล้ำกล่าวออกด้วยโทสะ

“เจ้าคิดว่ามีสิทธิ์อันชอบธรรมอันใดอย่างนั้นหรือ?” เจี้ยนสือเทียนแค่นเสียงดังขึ้น

ผู้คนของเขตแดนลึกล้ำพลันชะงักฝีปาก เพราะเมื่อครู่ เป็นพวกเขาลอบเร้นควบคุมหุ่นเชิดวัชระให้โจมตีใส่ฉินหยุน ทุกคนล้วนได้เห็นว่าฉินหยุนถูกปิดล้อม เป็นเขาป้องกันตนเองและสู้กลับจนทําลายหุ่นเชิดหมดสิ้น

หลงเฉิ่งขวงแค่นเสียงกล่าว “ไม่แปลกใจที่ฉินหยุนทําลายหุ่นเชิดวัชระเหล่านั้นได้ เป็นมันมีเล่ห์กลให้ใช้งานมากมาย! มันก็ได้แต่อาศัยพลังแปรธาตุจัดการพวกหุ่นเชิด!”

อวี้เสินเจินกัดฟันแน่น “ฉินหยุนทําพวกเราสูญเสียหุ่นเชิดวัชระอันล้ำค่าไปมาก ข้าต้องได้ฉีกกระชากร่างมั่นที่บนเวทีประลองยุทธ์!”

ฉินหยุนผ่านพ้นเข้าร่วมรอบถัดไป และคนที่ผ่านเข้ารอบ ก็มีน้อยกว่าห้าสิบ!

ฉินหยุนลงจากเวทีประลองยุทธ์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม อันที่จริงเมื่อครู่นี้ เขาทําลายหุ่นเชิดวัชระเพียงหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกแปด ได้ถูกส่งเข้าไปภายในไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวันเพื่อให้เหยาเพิ่งช่วยสลายจิตสํานึกที่ฝังในตัวพวกมัน

หรือก็คือ ภายหลังเขาค่อยดัดแปลงพวกมันสักเล็กน้อย หุ่นเชิดวัชระที่มูลค่านับไม่ถ้วนเหล่านี้จะกลายเป็นของเขา! สาเหตุที่เขายินดีจนเผยยิ้ม ก็เพราะเขาชื่นชอบยามที่ศัตรูส่งมอบของขวัญให้แก่เขาถึงที่

เจี้ยนสือเทียนตะโกนดัง “พรุ่งนี้พวกเราค่อยเริ่มงานหลัก นั่นจึงเป็นการประลองยุทธ์ระหว่างผู้เข้าแข่งขันระดับยอดยุทธ์!”

ฉินหยุนมองทางหยางเย่ว์ พบว่าดวงตาของนางเผยความยินดีและนับถือออกมา

เจี้ยนรั่วหยานก้าวเดินเข้ามาพร้อมยิ้มกล่าว “พี่หยุน เหมือนพวกเราจะไม่อาจใช้หลักการคิดทั่วไปกับท่านได้! ตัวท่านยังไม่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ กระนั้นกลับมีพลังอันเลิศล้ำได้เพียงนี้”

ตามปกติแล้ว ยามที่ผู้ใดก็ตามฝึกฝนแก่นเต้ลึกล้ำ และก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ผู้นั้นย่อมปลดปล่อยออร่าพลังลึกล้ำอ่อนจางออกมา ทว่าฉินหยุนไม่มีออร่าดังกล่าว ดังนั้นผู้คนจึงคิดว่าเขายังไม่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ มีแต่เสี้ยนหลิงหลงและอีกไม่กี่คนที่ทราบว่าเขาเลื่อนระดับพลังได้สําเร็จแล้ว ทั้งยังเป็นพลังเลิศล้ำเกินกว่าที่คาดคิดไว้เสียด้วย

“ฉินหยุน ไม่คิดว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงนี้! การแข่งขันวันรุ่งขึ้น จงอย่าได้พบข้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะทําให้เจ้าร้องไห้วิ่งกลับบ้าน!” เจี้ยนหนันหู่กล่าวพร้อมหัวเราะดังก่อนจะเดินจากไป

เฉินหยุนตามเปาเฉิงโฉ่งและคณะเข้าพักที่คฤหาสน์เซียนดาบ

วันรุ่งขึ้นมาถึงรวดเร็ว

วันนี้ฟ้ายังไม่สาง กระนั้นฉินหยุนกลับออกไปยังพื้นที่การแข่งขัน และรับชมบริเวณที่นั่งผู้ชมอันหนาแน่น เขาได้ทราบ ว่าผู้คนเหล่านี้เมื่อวานไม่ได้จากไปที่ใด เพียงแต่อยู่ที่นี่ เพราะหากพวกเขาออกไป วันนี้คิดเข้ามาอีกครั้ง ก็จําเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงลิบ

ฉินหยุนยืนข้างเวทีประลองยุทธ์ รับชมผู้เข้าแข่งขันอื่นที่มาถึง เจี้ยนรั่วหยาน และเจี้ยนหนั่นหูต่างก็มาถึงแต่เช้าตรู่ ทันทีที่พบเห็นฉินหยุน พวกเขาจึงเข้ามาสนทนาด้วย

“สุดท้ายนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่จะได้ต่อสู้กัน ดาบต้นกําเนิดของข้าหิวกระหายมายาวนานแล้ว เวลานี้แทบไม่อาจอดรนทนได้ไหว!” เจี้ยนหนันหู่นําดาบต้นกําเนิดของตนเองออกมา

ดาบต้นกําเนิดควบแน่นเกิดขึ้นจากแก่นเต๋าลึกล้ำ มันคืออุปกรณ์ลึกล้ำอันแข็งแกร่งที่ทัดเทียมอุปกรณ์เต๋า ในการแข่งขันเช่นนี้ที่ผู้เข้าร่วมไม่อาจใช้งานอาวุธ ผู้ฝึกตนดาบจึงเปรียบดังตัวตนที่แหกกฎเกณฑ์ ทว่าเรื่องนี้ไม่อาจว่ากล่าวอันใดได้

ฟ้าสาง ผู้คนต่างมาที่นี่

ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ยืนด้วยกัน เพื่อรอคอยการจับไข่มุกเลือกคู่ต่อสู้ และนี้ก็เป็นวิธีการซึ่งฉินหยุนชื่นชอบเป็นที่สุด เพราะเขาสามารถเลือกได้ว่าคู่ต่อสู้ของตนเองจะเป็นใคร

และได้เห็นเจี้ยนหนันหู่ที่กระเหี้ยนกระหายการต่อสู้ ฉินหยุนจึงตัดสินใจให้อีกฝ่ายได้สู้กับหลงเฉิ่งขวง!

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King

Status: Ongoing
ถูกจัดฉาก! ถูกใส่ร้าย! กล่าวหาว่าฝึกฝนวิชายุทธ์ของปีศาจอันชั่วร้าย!
เหล่านี้ล้วนเป็นแผนการเขี่ยเขาทิ้งพ้นจากตำแหน่งที่ได้รับโดยกำเนิด
ก่อนจะแต่งตั้งจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ขึ้นโดยเหล่าข้าราชบริพารเฒ่า
อีกทั้งยังพรากเอาพรสวรรค์ที่เขามีแต่กำเนิดไปจนสิ้น! ฉินหยุน อดีตองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเทียนฉิน
เขาสืบทอดเคล็ดวิชายุทธ์ของโลกเก้าตะวัน มรดกเคล็ดวิชายุทธ์อันล้ำค่าคือคลังอาวุธของเขา
ทั้งเขายังคลั่งที่จะแกะสลักความลึกล้ำของโลกด้วยปลายนิ้ว กระทั่งว่ามีศัตรูรายล้อมและหญิงงามมากมาย
แต่ฉินหยุนก็ยังไม่พอใจ เขาต้องการไปให้เหนือยิ่งกว่าเก้าตะวันเพื่อเข้าสู่ความยิ่งใหญ่แห่งดาราจักร เพื่อให้ได้กลายเป็น ราชันเทพ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท