Super God Gene – ตอนที่ 2423
สีหน้าของไนท์วินด์ดูแปลกมากๆ และเขาก็นำวิดีโอที่ถ่ายเอาไว้กลับมาด้วย
เมื่อวิดีโอถูกเล่น หานเซิ่นก็เข้าใจสีหน้าที่แปลกของไนท์วินด์
วิดีโอเริ่มต้นด้วยการแสดงเส้นทางหิน ซึ่งคงจะต้องเป็นถนนที่พวกเขาขุดพบ
หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกเขาเลือกตำแหน่งที่จะเริ่มขุดกันยังไง แต่มันเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่การขุดแบบสุ่มๆ ด้วยเหตุผลบางอย่างพวกเขารู้ว่าควรจะเริ่มขุดจากตำแหน่งไหน
เผ่าเฮลล์ควบคุมการขุดในวงกว้าง แต่เมื่อคุณหญิงมิร์เรอร์และคนของเธอมาถึง พวกเขาก็ลดขอบเขตการขุดลงจนเหลือเพียงแค่ 3 จุดเท่านั้น และจุดที่อยู่ตรงกลางก็คือจุดที่พวกเขาเริ่มขุดเป็นจุดแรก
ขณะที่วิดีโอดำเนินต่อไป มันก็เผยให้เห็นเส้นทางหินที่แยกออกอย่างซับซ้อนจนกระทั่งเส้นทางหินเปิดออกและเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่ ที่นั่นหานเซิ่นพบสิ่งที่ดูเหมือนกับตุ๊กตาที่คุณหญิงมิร์เรอร์พูดถึง
รูปปั้นนั้นมีความสูงสิบเมตรและมีสีดำสนิททั้งตัว มันมีเนื้อเดียวกันกับหินที่อยู่รอบๆ
มันเป็นรูปปั้นของผู้ชายที่กำลังนั่งขัดสมาธิ แขนของเขาไขว้กันในรูปตัวX ดวงตาของชายคนเป็นเหมือนที่คุณหญิงมิร์เรอร์บอก มันมี 2 รูม่านตาในดวงตาแต่ละดวงและพวกมันก็เป็นสีแดง
ด้านหลังของรูปปั้นยังมีแขนและมืออีกจำนวนมาก พวกมันก่อตัวร่วมกันเป็นรูปร่างของดวงประทีป ซึ่งทุกมือมีดวงตาสีแดงที่มี 2 รูม่านตา
การมองไปที่รูปปั้นนั้นทำให้รู้สึกราวกับว่าดวงตาประหลาดนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองออกมาจากหน้าจอ หานเซิ่นแค่มองพวกมันผ่านวิดีโอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ขนลุกขึ้นมา คุณหญิงมิร์เรอร์และไนท์วินด์เองก็รู้สึกหนาวเช่นกัน
วิดีโอนั้นไม่ได้จับภาพที่รูปปั้นเป็นเวลานานนัก มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและเผยให้เห็นบางสิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า
เหนือรูปปั้นเส้นทางหินนั้นหายเข้าไปในถ้ำๆหนึ่ง มันเป็นรูหยาบๆที่ดูเหมือนจะถูกขุดด้วยมือเปล่าหรือกรงเล็บ
กำแพงของอุโมงค์หินนั้นแปดเปื้อนไปด้วยเลือด ร่องรอยของกรงเล็บสลักลึกเข้าไปในผิวของอุโมงค์ ขณะที่วิดีโอดำเนินต่อไป เลือดก็เผยออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
เลือดค่อยๆย้อมทุกส่วนของผิวอุโมงค์จนเปลี่ยนเป็นถ้ำสีแดงดำ ภาพที่เห็นนั้นทำให้หานเซิ่นรู้สึกขนลุก
“ถ้ำนั้นคงจะไม่ได้ถูกขุดด้วยมือหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
ถึงแม้เอ็กซ์ตรีมคิงจะไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคนงานมากนัก แต่พวกเขาก็รับสมัครแค่คนที่เป็นระดับมาร์ควิสเป็นอย่างน้อย ผู้คนเหล่านั้นถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งในเผ่าพันธุ์ของตัวเอง อาวุธของพวกเขาอาจจะไม่ใช่สมบัติในตำนาน แต่พวกมันก็ควรจะเป็นอะไรที่พอใช้ได้ และถึงพวกเขาจะไม่ได้เอาเครื่องมือของตัวเองมา ทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะมอบสมบัติซีโน่เจเนอิคให้กับพวกเขา พวกเขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้มือของตัวเองเพื่อขุดอุโมงค์นั้น
แต่เมื่อดูจากเลือดและรอยขีดข่วนที่ถูกทิ้งเอาไว้ มันก็เห็นได้ชัดว่าอุโมงค์นั้นเป็นผลงานจากการขุดด้วยเล็บและมือเปล่า มันไม่ได้ถูดขุดด้วยเครื่องมือปกติ
คุณหญิงมิร์เรอร์และไนท์วินด์มองดูวิดีโอด้วยสายตาที่งุนงง พวกเขาไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น
แต่หานเซิ่นรู้ว่ามันเป็นความจริงโดยที่ไม่ต้องฟังคำยืนยันจากพวกเขา หานเซิ่นมองดูวิดีโอต่อไปอีก และไม่นานเขาก็ได้เห็นศพของมาร์ควิสที่มีหัวเป็นวัวคนหนึ่ง
แทนที่จะเป็นมือ มันมีแค่ก้อนเนื้อเละๆอยู่ที่ปลายแขนของชายคนนั้น ส่วนหนึ่งของกระดูกยื่นออกมาจากเนื้อหนังที่ถูกขูดจนเละ
เมื่อได้เห็นภาพนั้น หานเซิ่นก็ไม่สามารถหยุดจิตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ชายหัววัวนั้นคงจะขุดอย่างบ้าคลั่งด้วยมือเปล่าๆจนนิ้วได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงขุดต่อไปจนมือของเขาไม่มีเหลือ สุดท้ายเขาก็เสียชีวิตไป
วิดีโอไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ภาพที่น่าสยดสยองถูกเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า หานเซิ่นเห็นซากศพกระจัดกระจายอยู่ตลอดอุโมงค์นั้น
พวกเขาอยู่ในท่าทางที่เหมือนๆกัน ตัวของพวกเขาเอนไปด้านหน้าเพื่อจะใช้มือของตัวเองขุดกำแพง บางคนนั้นขาดไปแค่ฝ่ามือ ขณะที่บางคนนั้นหายไปทั้งแขน
ถึงแม้จะตายไปแล้ว พวกเขาก็ยังคงอยู่ในท่าขุด ใบหน้าของพวกเขาดูเหมือนกับว่าพวกเขาตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ แต่ลึกๆในใบหน้าที่ดูตื่นเต้นนั้นมีร่องรอยของความหวาดกลัวอยู่ด้วย มันเป็นความหวาดกลัวที่ฝังลึกในกระดูกของพวกเขา
ดวงตาของคนงานที่ตายไปทุกคนเปิดอยู่และเผยให้เห็นรูม่านตาคู่สีแดง
เส้นทางหินนั้นไม่ใช่แค่เส้นทางอีกต่อไป มันเป็นเหมือนกับสุสานที่ขุดเป็นทางเต็มไปด้วยเลือด ดยุกและมาร์ควิสมากมายตายในเส้นทางหินนั่น และยิ่งลึกเข้าไปมากเท่าไหร่ ภาพที่ได้เห็นก็เลวร้ายขึ้นเท่านั้น
วิดีโอปิดท้ายด้วยภาพของประตูหินบานหนึ่ง เป็นอย่างที่ไนท์วินด์บอก มันเป็นประตูที่ดูเหมือนกับทางเข้าสู่เมืองขนาดใหญ่ ทั้ง 2 ด้านของประตูนั้นเป็นสีแดงราวกับว่าพวกมันป้ายด้วยเลือด มันมีรอยครึ่งวงกลมมากมายบนบานประตูที่ถูกทิ้งเอาไว้
ประตูนั้นสูงสิบเมตร และเนื่องจากอุโมงค์ขุดมาตรงกับประตูพอดี มันจึงมีเพียงแค่หินที่ล้อมบานประตูอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นสิ่งที่อยู่ประตูนั่น
แต่สิ่งที่อยู่หน้าประตูทำให้หานเซิ่นรู้สึกหนาว
คนงานที่เสียชีวิตมากมายมารวมกันอยู่หน้าประตูเหมือนกับว่าพวกเขาพยายามจะหนีจากขุมนรก แขนของพวกเขายื่นออกไปข้างหน้าราวกับพยายามจะคว้าความอยู่รอดที่ไม่มีอยู่จริง เล็บของพวกเขาถูกทำลายและเลือดจากมือของพวกเขานั้นย้อมสีของประตู แต่มันไม่มีใครที่สามารถเปิดประตูเข้าไปข้างในได้
คุณงานที่รอดมาได้ทุกคนมาตายอยู่ที่หน้าประตูนี้ เลือดของพวกเขานองตรงหน้าประตูราวกับเป็นทางเข้าสู่ขุมนรก
ใบหน้าของไนท์วินด์ดูแย่ “พวกเขาตายกันหมดทุกคน ไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว พวกเขาทุกคนเป็นบ้าและเอาแต่ขุดอย่างไม่มีหยุด หินพวกนั้นมันแข็งมากๆ และถึงจะใช้เครื่องมือมันก็เป็นเรื่องยากที่จะขุดพวกมัน แต่พวกเขาใช้เล็บมือของตัวเองเพื่อขุด พวกเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหินถูกสัมผัสด้วยเลือด มันก็เหมือนกับว่าหินอ่อนลงไปและช่วยให้พวกเขาขุดมันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บอยู่ดี พวกเขาขุดต่อไปจนกระทั่งพวกเขาเสียชีวิต”
เสียงของไนท์วินด์สั่นไหว ถึงแม้เขาจะเป็นระดับเทพเจ้า แต่สิ่งที่เขาเพิ่งจะได้เห็นก็ยังคงเป็นเหมือนกับฝันร้ายอยู่ดี
“สถานที่แห่งนี้มันต้องสาป” หานเซิ่นรู้สึกแย่ เขาอยากจะพาเป่าเอ๋อหนีออกไปจากที่นี่
ถึงแม้พวกเขาจะพานกแดงน้อยมาด้วย แต่มันมีบางสิ่งผิดปกติกับที่แห่งนี้ แม้แต่คุณหญิงมิร์เรอร์ที่เป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่แข็งแกร่งก็ยังได้รับผลกระทบ ดังนั้นมันจึงมีโอกาสที่นกแดงน้อยจะไม่รอดเช่นกัน
“หนี! พวกเราต้องรีบหนี! พวกเราจะอยู่ในที่ที่เลวร้ายแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว”
หานเซิ่นตัดสินใจ เขาต้องการจะออกไปจากที่นี่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ถึงแม้คุณหญิงมิร์เรอร์จะพยายามหยุดเขา เขาก็จะไปจากที่นี่
“ดวงตาของเจ้า!” จู่ๆคุณหญิงมิร์เรอร์ก็พูดขึ้นมาขณะที่มองไปในดวงตาของหานเซิ่น ความกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของข้า?” หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขารู้ว่านี่มันแย่แล้ว
โดยไม่ลังเลหานเซิ่นสะบัดมือเรียกกระจกน้ำเพื่อส่องดูตัวเอง
ในจังหวะนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกว่าความกลัวฝังลึกในกระดูกของเขา ดวงตาดำของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และยิ่งไปกว่านั้นรอยแยกวิ่งฝ่ากลางรูม่านตาทั้ง 2 ของเขา รูม่านตาวงกลมกลายเป็นรูปของน้ำเต้า และพวกมันก็ค่อยๆแยกออกจากกัน