Super God Gene – ตอนที่ 2486
เมื่อเลอตู้เห็นเดม่อนระดับเทพเจ้าตรงเข้ามา เขาก็เตรียมตัวจะต่อสู้
“ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้มาร้าย ข้าแค่อยากจะพูดคุยกับอาจารย์หานเท่านั้น” เดม่อนระดับเทพเจ้าตะโกนพร้อมกับยกมือขึ้นเหนือหัว
“เจ้ากำลังพูดอะไรของเจ้า?” หานเซิ่นมองเดม่อนระดับเทพเจ้าคนนั้นด้วยความสับสน
“ชื่อของข้าคือโมโดโร” เดม่อนระดับเทพเจ้าพูดอย่างมีมารยาท
“ข้าเป็นหนึ่งในองครักษ์ของอัลฟ่า ข้ามาที่นี่เพื่อพบกับอาจารย์หาน ข้าอยากจะเชิญอาจารย์หานไปที่เผ่าเดม่อนในฐานะแขกคนหนึ่ง”
หานเซิ่นประหลาดใจ โมโดโรเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับมีมารยาทราวกับว่าพวกเขาทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน เสียงของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความเคารพ มันดูไม่เหมือนกับท่าทางที่ระดับเทพเจ้าจะพูดกับสิ่งมีชีวิตระดับราชันเลยแม้แต่นิดเดียว
“อาจารย์หานอย่าได้กังวล พวกเราเดม่อนไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไร ถ้าอาจารย์หานยินดีที่จะไปเยี่ยมเยียนพวกเรา พวกเราก็จะรับประกันความปลอดภัยของอาจารย์หานเอง มันจะไม่มีใครกล้ามารบกวนอาจารย์หาน” โมโดโรพูดอย่างมีมารยาท
“ข้าจะทำอะไรให้เจ้าและคนของเจ้าได้?” หานเซิ่นถามโมโดโร ถึงแม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายมาด้วยเรื่องอะไร
โมโดโรยังคงพูดอย่างมีมารยาท “ถ้าอาจารย์หานไม่รังเกียจ ผู้นำของพวกเราอยากจะเชิญอาจารย์หานไปอวยพรให้กับเขา ถ้าอาจารย์หานยินดีที่จะทำให้ พวกเราเดม่อนทุกคนก็จะซาบซึ่งอย่างมาก”
“มอบพร?” หานเซิ่นแปลกใจ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่าจริงๆแล้วโมโดโรกำลังหมายถึงอะไร หานเซิ่นหลี่ตาและพูด
“นี่พวกเจ้าไม่กลัวว่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะมาตามล่าหรือยังไง?”
โมโดโรพูดอย่างจริงจัง “บอกตามตรง พวกเราต่อสู้กับกองกำลังของเอ็กซ์ตรีมคิงไม่ได้ แต่พวกเรามีหนทางที่พาอาจารย์หานเดินทางโดยที่ไม่ดึงดูดความสนใจของเอ็กซ์ตรีมคิง ถึงแม้ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะมาตามหาตัวอาจารย์หาน พวกเขาก็จะหาตัวอาจารย์หานไม่เจอ”
“ข้าเข้าใจแล้ว แต่ข้ากลัวว่าการมอบพรแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้พลังมหาศาล ข้าจะมอบพรให้กับคนอื่นไม่ได้ไปอีกสักพัก ข้าเกรงว่าคงจะช่วยผู้นำของเจ้าไม่ได้” หานเซิ่นพูด
การใช้พลังอาณาเขตของโลหิตชีพจรนั้นใช้พลังมากจริงๆ แต่หานเซิ่นพูดให้มันดูแย่กว่าที่เป็น เขาแค่พยายามจะปฏิเสธโมโดโรแบบอ้อมๆ
“นั่นไม่เป็นไร” โมโดโรพูด
“การมอบพรจะถูกเร่งไม่ได้ ถ้าอาจารย์หานไม่รังเกียจ ข้าจะขอร่วมเดินทางเพื่อคอยอารักขาอาจารย์หาน”
“ขอบคุณเจ้ามาก แต่ตอนนี้ข้ามีเรื่องอื่นที่จำเป็นต้องไปทำ ข้าคงจะให้เจ้าร่วมเดินทางไปกับข้าไม่ได้” หานเซิ่นพูด
ถ้าหานเซิ่นไปเยือนเผ่าเดม่อน มันไม่มีอะไรที่รับประกันว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับหานเซิ่นด้วยความเคารพอย่างที่ทำอยู่ในตอนนี้
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่บังคับอาจารย์หาน แต่ถ้าอาจารย์หานต้องการอะไร เชิญเรียกหาพวกเราได้ทุกเมื่อ ประตูของเผ่าเดม่อนนั้นเปิดต้อนรับอาจารย์หานอยู่เสมอ” โมโดโรพูดกับหานเซิ่นและจากไป
หานเซิ่นไม่คิดว่าโมโดโรจะยอมจากไปง่ายๆแบบนั้น แต่เขายังคงระแวงว่ามันอาจจะเป็นเพราะตอนนี้เขามีเลอตู้อยู่ด้วย ถ้าเลอตู้ไม่อยู่ที่นี่แล้ว มันก็โอกาสที่โมโดโรจะลักพาตัวเขากลับไปที่เผ่าเดม่อนด้วยการใช้กำลัง
หานเซิ่นและเลอตู้เดินทางกันต่อไป พวกเขาได้พบกับยอดฝีมือระดับราชันและครึ่งเทพอีกหลายคนตลอดการเดินทาง พวกเขามีมารยาทกับหานเซิ่นยิ่งกว่าโมโดโรซะอีก คนส่วนใหญ่มาด้วยจุดประสงค์เดียวกับโมโดโร พวกเขาต้องการจะเชิญหานเซิ่นกลับไปที่เผ่าพันธุ์ของพวกเขา มันไม่มีใครกล้าใช้กำลังพาตัวเขาไป เนื่องจากเลอตู้ยังคงอยู่ข้างกายเขา
“ทุกคนรู้จักเจ้าในฐานะอาจารย์หาน” เลอตู้พูดอย่างเรียบๆ
“ชีวิตของเจ้าคงจะง่ายขึ้นมากในตอนนี้”
หานเซิ่นยิ้ม “อัจฉริยะอย่างข้าควรจะถูกเรียกว่าอาจารย์ตั้งแต่แรกแล้ว”
เลอตู้เมินเฉยต่อคำพูดของหานเซิ่น เขาไม่ได้สนใจการพูดชมตัวเองของหานเซิ่น
“เจ้านี่เป็นคนที่น่าเบื่อจริงๆ ในเวลาแบบนี้เจ้าและข้าควรจะพูดคุยกัน” หานเซิ่นพูดกับเลอตู้
“เจ้าต้องการให้ข้าพูดชมเจ้าด้วยหรือยังไง?” เลอตู้ถามอย่างไร้ความรู้สึก
“เจ้าควรจะพูดว่า ‘หานเซิ่น เจ้าเป็นอัจฉริยะที่สุดในรอบหนึ่งพันปี’” หานเซิ่นพูด
“โอเค” เลอตู้พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก
ยูนิคอร์นเทียนเซียเป็นซีโน่เจเนอิคท้องถิ่นของระบบเทียนเซีย มันสามารถพาพวกเขากลับไปยังบริเวณเมฆสีฟ้าได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร แต่หานเซิ่นยังไม่สามารถระบุตำแหน่งของวาฬขาวได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเริ่มสำรวจรอบๆ
“เป่าเอ๋อและคนอื่นไปอยู่ที่ไหนกัน?” หานเซิ่นรู้สึกกังวล เขากลัวว่ามันอาจจะเกิดอุบัติเหตุบางอย่างขึ้น
แต่ด้วยพลังของวาฬขาวและนกแดงน้อย ถึงแม้สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าจะมาโจมตีพวกเขา พวกเขาก็ควรจะสามารถหนีเอาตัวรอดได้
ในตอนนี้วาฬขาวกำลังจอดอยู่ในทะเลเมฆสีเขียว ฟินิกซ์เพลิงบินออกมาจากวาฬขาวเพื่อต่อสู้กับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิง คนๆนั้นก็คือเป่าฉิน ทั้ง 2 ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง เปลวไฟแผดเผาไปทุกหนทุกแห่งและเสียงดนตรีของพิณก็ทลายท้องฟ้า
แทนที่จะไล่ล่าหานเซิ่น เป่าฉินกลับมาตามหาฟางชิงอวี่แทน ถึงวาฬขาวจะมีพลังป้องกันที่สูง แต่มันไม่สามารถสะท้อนพลังเสียงได้
เป่าฉินใช้พิณโจมตีใส่วาฬขาวเพื่อบังคับให้พวกเขาทุกคนออกมา
ด้วยเหตุนั้นนกแดงน้อยจึงต้องกลายร่างเป็นฟินิกซ์เพลิงเพื่อต่อสู้กับเป่าฉิน การต่อสู้นั้นรุนแรงถึงขนาดที่ดินแดนรอบๆถูกทำลายเป็นวงกว้าง
เป่าฉินได้นำเอ็กซ์ตรีมคิงระดับราชันและครึ่งเทพคนอื่นมาด้วย และตอนนี้พวกเขาก็ล้อมวาฬขาวเอาไว้ โชคดีที่วาฬขาวมีพลังป้องกันที่สูงและระบบอาวุธของมันก็สุดยอด
ในตอนแรกเอ็กซ์ตรีมคิงระดับราชันและครึ่งเทพไม่สามารถทำอะไรวาฬขาวได้ การโจมตีของพวกเขาไม่สามารถเจาะทะลวงการป้องกันของมันได้
แต่เอ็กซ์ตรีมคิงครึ่งเทพคนหนึ่งสามารถเคลื่อนที่ผ่านของแข็งได้ เขาลอยผ่านเปลือกนอกของวาฬขาวเข้ามาข้างใน และเขาก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าจริงๆแล้ววาฬขาวเป็นยานรบ
เป่าเอ๋อกำลังขับวาฬขาวต่อสู้กับเหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงระดับราชันและครึ่งเทพอย่างร่าเริง หนิงเยวี่ยมุดไปใต้โต๊ะและใช้มือกุมหัวตัวเอง เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำๆ “อย่าฆ่าฉัน…อย่าฆ่าฉัน…”
ฟางชิงอวี่และโจรสลัดคนอื่นๆไม่สามารถช่วยอะไรได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตะโกนเชียร์เป่าเอ๋อจากด้านหลัง
“กัปตันเป่าเอ๋อสุดยอดที่สุด!”
“กัปตันน้อยแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล”
“กล้าดียังไงมาโจมตีกัปตันน้อยเป่าเอ๋อที่งดงามของพวกเรา พวกแกทุกคนจะต้องตาย!”
“กัปตันน้อยสู้ๆ กัปตันน้อยต้องทำได้!”
ขณะที่พวกเขาส่งเสียงเชียร์อยู่นั้น จู่ๆเอ็กซ์ตรีมคิงชายคนนั้นก็เข้ามาในวาฬขาว เขาเคลื่อนที่ผ่านกำแพงตรงเข้ามาที่ห้องควบคุม
“ฟางชิงอวี่ เจ้าอยู่นี่นี่เอง!” เมื่อจีเค่อเห็นฟางชิงอวี่ สายตาของเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ความสนใจของเขาถูกดึงไปยังเป่าเอ๋อที่กำลังขับเครื่องจักรนี่อยู่
“นั่นมันลูกสาวของหานเซิ่นไม่ใช่หรอ? นี่พวกเจ้าร่วมมือกันหรอเนี่ย?”
จีเค่อรู้สึกตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาดูโกรธและปลดปล่อยอาณาเขตแห่งราชันออกมา มันปกคลุมทั้งห้องควบคุม
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เมื่อสัมผัสกับอาณาเขตนั่น เหล่าโจรสลัดและฟางชิงอวี่ก็ถูกกดลงไปกับพื้นราวกับเหล็กที่ถูกแม่เหล็กดูด
“ฮะ?” จีเค่อดูสับสนเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเป่าเอ๋อยังคงขับวาฬขาวเพื่อต่อสู้กับคนของเอ็กซ์ตรีมคิงต่อไป เธอไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากอาณาเขตของเขา