Super God Gene – ตอนที่ 2554

ตอนที่ 2554

Super God Gene – ตอนที่ 2554
ตอนที่ 2554 วินด์สตริง

เนื่องจากราชันในคอร์แอเรียได้อัดวิดีโอและถ่ายทอดออกไป ยอดฝีมือทั่วจักรวาลจึงได้ดูสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้น หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่จันทราสวรรค์พูด สายตาที่เกรี้ยวโกรธก็จับจ้องไปที่หานเซิ่น คนหนุ่มนับไม่ถ้วนต้องการจะเอาชนะหานเซิ่นเพื่อช่วยสาวงามทั้ง 2 คน

แน่นอนว่าคนหนุ่มที่คิดแบบนั้นส่วนใหญ่ไม่มีระดับที่สูงพอที่จะเข้าไปในคอร์แอเรีย ส่วนเหล่าราชันที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายในคอร์แอเรียนั้นไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวใดๆ

“เป็นความจริงอย่างนั้นหรอ?” ออทัมน์วินด์ถามด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของเขาดูเป็นประกาย

“ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า อย่างนั้นเจ้าจะถามข้าทำไม?” จันทราสวรรค์ยิ้ม

“ข้าเชื่อเจ้า” ออทัมน์วินด์พยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็หันมามองที่หานเซิ่น

“เจ้าจะประลองกับข้าได้ไหม? ไม่ต้องกังวล ข้าแค่จะเอาชนะเจ้าตามคำขอของนาง ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”

‘หมอนี่มั่นใจในตัวเองจริงๆ’ หานเซิ่นคิดและอั้นหัวเราะเอาไว้ เขามองไปที่ออทัมน์วินด์และพูด

“ข้าจะประลองกับเจ้าก็ได้ ถ้าเจ้าชนะ เจ้าจะได้เห็นหน้าพวกนาง แต่ถ้าข้าชนะ ข้าจะได้อะไร?”

“ที่เจ้าพูดมันก็ถูก” ออทัมน์วินด์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขาพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?”

หานเซิ่นประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าออทัมน์วินด์จะพูดออกมาแบบนั้น เขามองไปที่ออทัมน์วินด์และคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ตลกดี

หานเซิ่นเงียบไปชั่วครู่และพูด “ถ้าเจ้าแพ้ ทำไมเจ้าไม่มาลากรถม้าเหมือนกับเขาล่ะ?”

“เอาแบบนั้นก็ได้” ออทัมน์วินด์ไม่แม้แต่จะคิดก่อนที่เขาจะตอบตกลง เขาคงจะไม่ได้คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

หานเซิ่นยืนขึ้นและเดินลงมาจากรถม้า เขามายืนอยู่ห่างออกไปจากออทัมน์วินด์สิบเมตร

ออทัมน์วินด์มองหานเซิ่นและพูด “ใช้การโจมตีแบบไหนก็ได้ที่เจ้าต้องการ ถ้าเจ้าทำร้ายข้าได้ เจ้าก็เป็นฝ่ายชนะ”

‘หมอนี่พูดเรื่องบ้ามากกว่าที่เราทำเสียอีก’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองไปที่ออทัมน์วินด์ เขามีคันธนูอยู่บนหลังและมันทำให้หานเซิ่นพูดขึ้นว่า

“ข้าขอยืนคันธนูของเจ้าหน่อย ข้าจะยิงธนูใส่เจ้า ถ้าเจ้าหลบลูกธนูของข้าไม่ได้ เจ้าก็เป็นจะฝ่ายพ่ายแพ้”

“ว้าว เขาน่าไม่อายซะจริง! เขาต้องรู้ว่าธนูของออทัมน์วินด์นั้นคือวินด์สตริงที่เป็นสมบัติระดับเทพเจ้าของเผ่าไอจิ เขาต้องการจะหลอกเอาสมบัติไปจากออทัมน์วินด์”

“ใครจะกล้าทำเรื่องแบบนั้น? นี่เขาคิดว่าออทัมน์วินด์โง่หรือยังไงกัน?”

“น้อยคนนักที่จะยินดีมอบสมบัติระดับเทพเจ้าให้กับคนอื่น ถึงแม้พวกเขาจะทำ พวกเขาก็จะไม่ส่งมันให้กับศัตรูคนหนึ่ง”

ขณะที่ทุกคนกำลังบ่น ออทัมน์วินด์ก็หยิบคันธนูกับซองลูกธนูออกจากด้านหลังและโยนพวกมันให้กับหานเซิ่น เหล่าราชันรอบๆนั้นอึ้งไป

“นี่เขายอมให้หานเซิ่นยืนมันจริงๆหรอเนี่ย”

“นี่หานเซิ่นจะใช้ธนูของออทัมน์วินด์จริงๆอย่างนั้นหรอ”

“เชิญลงมือ ยิงใส่ข้าจนกว่าเจ้าจะพอใจ” ออทัมน์วินด์ดูขาดความกระตือรือร้น เขาพูดกับหานเซิ่นอย่างสบายจิตสบายใจ

หานเซิ่นรับคันธนูและซองลูกธนูมา เขาสังเกตว่าในซองลูกธนูมีลูกธนูอยู่สิบลูก เขาพูดกับออทัมน์วินด์

“มันมีลูกธนูอยู่สิบลูก ข้าจะยิงใส่เจ้าสิบครั้ง ถ้าข้าพลาดทั้งหมด ก็ถือว่าข้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”

ออทัมน์วินด์พยักหน้าและพูด “เอาตามนั้น ถ้าเจ้ายิงถูกร่างกายของข้าแม้แต่ลูกเดียว ก็ถือว่าข้าเป็นฝ่ายแพ้”

หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันความสนใจไปที่คันธนูของออทัมน์วินด์

คันธนูนั้นดูธรรมดามากๆ และดูเหมือนว่ามันจะถูกทำขึ้นมาจากเถาวัลย์แก่ๆ มันดูเหมือนกับธนูยาวที่ล้าสมัย สายของมันกึ่งโปร่งใสและบางราวกับเส้นผม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นสายที่แน่นมากๆ หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันทำมาจากวัสดุแบบไหนกันแน่

ในจังหวะที่หานเซิ่นจับคันธนู สีหน้าของออทัมน์วินด์ก็ดูจริงจังขึ้นมา นั่นเพราะว่าเขาสามารถบอกได้ว่าหานเซิ่นเชี่ยวชาญในการใช้ธนู เขาเชื่อว่าหานเซิ่นต้องเป็นนักธนูที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ทว่าออทัมน์วินด์ไม่ได้มอบคันธนูของเขาให้กับหานเซิ่นเพราะเขานั้นโง่เขลา

ความจริงแล้วออทัมน์วินด์เป็นคนที่ฉลาด มันมีผู้คนไม่มากนักที่จะใช้วินด์สตริงได้ มันถือเป็นหนึ่งในสมบัติลับของเผ่าไอจิ และมีเพียงแค่คนที่มีสายเลือดของไอจิเท่านั้นที่จะใช้มันได้

วินด์สตริงเป็นอาวุธที่มีจิตวิญญาณ และออทัมน์วินด์ก็ได้รับการยินยอมจากมันเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ใครบางคนจะเอามันไปจากเขา คนๆนั้นก็จะไม่สามารถใช้มันได้ ความพยายามของหานเซิ่นที่จะใช้ธนูนั้นเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ วินด์สตริงจะไม่ช่วยเหลือเขา และเขาก็อาจจะถูกมันทำร้ายอีกด้วย

ที่ออทัมน์วินด์มีมารยาทนั้นเป็นเพราะเขาต้องการให้กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ประทับใจในบุคลิกภาพของเขา ถ้าหานเซิ่นใช้วินด์สตริงยิงใส่เขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องหลบด้วยซ้ำ หานเซิ่นจะพลาดและถูกทำร้ายโดยวินด์สตริงด้วยตัวเขาเอง

ในตอนที่เขาเห็นถึงความคล่องตัวของหานเซิ่นในตอนที่จับคันธนู ออทัมน์วินด์ก็รู้สึกตัวว่าหานเซิ่นต้องเชี่ยวชาญในการยิงธนู แต่ยอดฝีมือแบบนั้นก็ควรจะรู้อะไรเกี่ยวกับวินด์สตริงบ้าง นั่นทำให้เขาสงสัยว่าทำไมหานเซิ่นถึงได้เลือกขอยืนมันไป

หานเซิ่นลูบคันธนู หลังจากนั้นเขาก็จับสายธนูด้วย 2 นิ้วและพยายามจะดึงมัน ขณะที่ทุกสายตามองมาที่คันธนู สายธนูกึ่งโปร่งแสงนั้นไม่ขยับเขยื้อน

Pfff!

เหล่าราชันและขุนนางที่ดูอยู่เกือบจะพ่นอะไรก็ตามที่อยู่ในปากออกมา

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน หานเซิ่นก็ยังไม่สามารถขยับสายธนูได้ มันไม่มีความจำเป็นต้องประลอง เพราะหานเซิ่นยังไม่สามารถยิงธนูลูกหนึ่งออกไปได้ด้วยซ้ำ

“หานเซิ่นไร้เดียงสาเกินไป นี่เขาคิดจริงๆหรือว่าออทัมน์วินด์จะให้เขายืมธนูด้วยความหวังดี? นี่มันคือวินด์สตริงของเผ่าไอจิ คนที่ไม่มีสายเลือดของไอจินั้นไม่มีทางใช้มันได้”

“ใช่แล้ว นี่ข้าลืมไปได้ยังไง? นั่นมันวินด์สตริง ในตอนที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนสุดท้ายของเผ่าไอจิเสียชีวิตไป พวกเขาก็ไม่มียอดฝีมือระดับเทพตั้งแต่เวลานั้นมา เผ่าโบน่าโจมตีเผ่าไอจิและขโมยวินด์สตริงมาจากพวกเขา หลังจากนั้นกษัตริย์ของเผ่าโบน่าก็พยายามจะโชว์วินด์สตริงที่งานเลี้ยงฉลอง เขามอบธนูให้กับขุนพลที่เชี่ยวชาญการใช้ธนูเพื่อนำไปแสดงการยิงธนูให้คนอื่นได้ดู แต่ขุนพลคนนั้นถึงแม้จะพยายามใช้ทุกวิถีทาง เขาก็ดึงสายของวินด์สตริงไม่ได้”

“เมื่อกษัตริย์ของโบน่าเห็นแบบนั้น เขาก็ได้สั่งให้ขุนพลอีกคนไปช่วยอีกแรง คนหนึ่งจับคันธนูเอาไว้ขณะที่อีกคนดึงสายธนู พวกเขาดึงสายของวินด์สตริงได้สำเร็จ แต่หลังจากที่พวกเขาดึงสายธนู คันธนูก็มีชีวิตขึ้นมา วินด์สตริงเริ่มจะเคลื่อนไหวด้วยตัวมันเอง และสายธนูก็ตัดหัวของขุนพลทั้ง 2 คนนั้น ตั้งแต่นั้นมาทุกคนที่พยายามใช้มันก็จะถูกทำร้ายโดยคันธนู มันจึงถูกกล่าวว่าเป็นสิ่งของที่นำมาซึ่งเคราะห์ร้าย สุดท้ายแล้ววินด์สตริงก็กลับคืนไปสู่เจ้าของที่ถูกต้องของมัน ยอดฝีมือเผ่าไอจิที่ได้รับวินด์สตริงไปนั้นได้ใช้มันฆ่ายอดฝีมือมากมายและกลายเป็นระดับเทพเจ้าในที่สุด เขาทำให้เผ่าไอจิกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยเหตุนั้นชื่อของวินด์สตริงจึงมีชื่อเสียงไปทั่วจักรวาล แต่นอกจากเผ่าไอจิแล้ว มันก็ไม่มีใครคนไหนที่กล้าใช้วินด์สตริง”

“ไม่แปลกใจเลยที่ออทัมน์วินด์รีบมอบคันธนูให้กับหานเซิ่นแบบนั้น มันคือวินด์สตริงจริงๆ”

Super God Gene

Super God Gene

Status: Ongoing
 ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม”

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท