Super God Gene – ตอนที่ 2780
“มีบางสิ่งผิดปกติ มันเป็นไปได้ยังไงที่พวกเราเดินทางมาถึงขนาดนี้ แต่พวกเรากลับไม่เจอฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นเลยสักคน?” เซี่ยชิงขมวดคิ้วและลดเสียงเพื่อพูดกับหานเซิ่น
หานเซิ่นก็เอะใจในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ไวโอเล็ตเป็นเพียงฟลาวเวอร์ก็อตคนเดียวที่พวกเขาเห็นตลอดการเดินทาง ตั้งแต่ที่เข้ามาในสเปชการ์เด้น พวกเขายังไม่เห็นฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นเลยสักคน นี่คือที่อยู่อาศัยของฟลาวเวอร์ก็อต ดังนั้นถึงมันจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาก็ควรจะได้พบกับสมาชิกคนอื่นของเผ่าพันธุ์ฟลาวเวอร์ก็อตบ้าง
คนอื่นก็ดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกัน พวกเขาตามไวโอเล็ตไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่พวกเขาบินลึกเข้าไปในสเปชการ์เด้น แต่พวกเขาไม่เจออันตรายใดๆที่อยู่รอบๆ
มันไม่ได้ร่องรอยการต่อสู้เช่นกัน ดูเหมือนกับว่าจริงๆแล้วมันไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
แต่ในตอนที่พวกเขาไปถึงทุ่งดอกไม้ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา สิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ทำให้พวกเขาอึ้งไป
พวกเขาเห็นผู้ชายและผู้หญิงมากมายจมอยู่ในพื้นดิน มีเพียงแค่หัวของพวกเขาครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่โผล่ขึ้นมาจากพื้น พวกเขาแต่ละคนมีดอกไม้อยู่บนหัวของตัวเอง บางคนเป็นดอกโบตั๋น ขณะที่บางคนเป็นดอกเบญจมาศ ดอกไม้ของแต่ละคนเป็นเอกลักษณ์ และพวกมันทั้งหมดดูเหมือนกับว่ากำลังเบิกบาน
เห็นได้ชัดว่าพวกคนที่จมอยู่ในดินนั้นคือสมาชิกของเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต
“ไวโอเล็ต นี่คืออะไร?” ไป๋ว่านเจี้ยถามไวโอเล็ต
เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่จมดินอยู่นั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาถูกฝังดินราวกับพืชผัก นอกจากนั้นพลังชีวิตของพวกเขาดูเหมือนจะอ่อนลงไปเรื่อยๆ
“ข้าจะไม่โกหกต่อองค์ชาย ฟลาวเวอร์ก็อตทั้งหมดยกเว้นข้าอยู่ที่นี่”
ไวโอเล็ตพูดขณะที่ชี้ไปที่หัวของเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่โผล่มาจากพื้นครึ่งหนึ่ง
ไป๋ว่านเจี้ยไม่ได้ถามว่าเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตตกอยู่ในสถานการณ์ที่ประหลาดแบบนั้นได้ยังไง แต่เขาถามอย่างอื่นแทน
“ก่อนที่เจ้าจะออกไปจากสเปชการ์เด้น พวกเขาก็ถูกฝังเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
“องค์ชายเป็นคนฉลาด” ไวโอเล็ตพยักหน้าและยอมรับว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นในตอนที่เจ้าบอกว่าเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตต้องการจะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง มันเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นสินะ? ที่เจ้าทำทั้งหมดก็เพื่อล่อพวกเรามาที่นี่ใช่หรือไม่?” ไป๋ว่านเจี้ยถามขณะที่จ้องไปที่ไวโอเล็ต
“ใช่” ไวโอเล็ตพยักหน้าอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดจะบิดบังอะไรอีกต่อไป
ไวโอเล็ตและไป๋ว่านเจี้ยจ้องหน้ากัน ไวโลเอ็ตพูดขึ้นมา
“ถึงแม้ข้าจะโกหกเกี่ยวกับเรื่องที่บอกว่าเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตต้องการจะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่ข้าตั้งใจจะมอบรางวัลที่ให้สัญญาอย่างแท้จริง ถ้าใครช่วยผู้คนของข้าได้ พวกเรายินดีจะมอบครึ่งหนึ่งของสเปชการ์เด้นให้กับคนๆนั้น”
“นั่นเป็นความจริงใช่ไหม?” ดวงตาของทุกคนเป็นประกายขึ้นมา
“พวกเจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตแล้ว พวกเจ้าคิดว่าพวกเราจะผิดสัญญาที่ให้เอาไว้ได้อย่างนั้นหรอ?” ไวโอเล็ตพูด
“เกิดอะไรขึ้นกับฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่น? ตอนนี้เจ้าควรอธิบายให้พวกเราฟังได้แล้ว”
ไป๋ว่านเจี้ยพูดขณะที่มองไปที่หัวของเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่โผล่ขึ้นมาจากทุ่งดอกไม้
สถานการณ์ที่พวกเขาได้เห็นเป็นอะไรที่ยากจะเข้าใจ เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตถูกฝังอยู่ในพื้นดินเป็นล้านคน ดอกไม้ขนาดเล็กที่งอกขึ้นมาจากหัวแต่ละหัวทำให้มันดูเหมือนกับทุ่งดอกไม้ที่งดงาม
แต่ไม่สำคัญว่ามันจะงดงามสักแค่ไหน พวกเขาก็ถูกฝังอยู่ในดินจนเกือบจะมิดหัว ซึ่งทำให้มันเป็นภาพที่น่าวิตกกังวล
ไวโอเล็ตไม่ได้ปกปิดข้อมูลอีกต่อไป เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ทุกคนได้ฟังไวโอเล็ตอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตนั้นถนัดเรื่องการทำสวน และพวกเขาก็ค้นพบสเปชการ์เด้นเมื่อนานมาแล้ว มันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการปลูกพืชซีโน่เจเนอิคนาๆชนิด พวกเขาคิดว่าตัวเองโชคดีที่ค้นพบสถานที่ที่วิเศษแบบนี้ แต่ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็พบว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคสเปชนี้
อยู่มาวันหนึ่งผู้นำของฟลาวเวอร์ก็อตก็ฝังตัวเองในทุ่งดอกไม้เหมือนอย่างที่หานเซิ่นและคนอื่นกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้
เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตไม่รู้ว่าทำไมผู้นำของพวกเขาถึงทำอะไรแบบนั้น แต่ที่สุดแล้วพวกเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาพบว่าจำเป็นต้องตอบสนองต่อความต้องการของสเปชการ์เด้นนี้ เป็นครั้งคราวพวกเขาต้องนำเครื่องสังเวยมาให้กับสเปชการ์เด้น แบบนั้นสเปชการ์เด้นก็จะไม่ครอบงำจิตใจของพวกเขา ตราบใดที่ความต้องการของสเปชการ์เด้นได้รับการตอบสนอง มันก็จะบังคับให้คนของฟลาวเวอร์ก็อตฝังตัวเอง
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป สเปชการ์เด้นก็ดูเหมือนจะหิวกระหายมากขึ้นเรื่อยๆ สองเดือนก่อนเครื่องสังเวยที่พวกเราฝังลงในทุ่งดอกไม้นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของมัน ซึ่งทำให้จู่ๆผู้นำของฟลาวเวอร์ก็อตคนปัจจุบันและคนอื่นๆขุดรูลงไปในพื้นดินและฝังตัวเอง
นอกจากไวโอเล็ตแล้ว ตอนนี้ฟลาวเวอร์ก็อตทุกคนถูกฝังอยู่ที่นี่
“ทำไมเจ้าถึงไม่ฝังตัวเองเหมือนกับคนอื่นๆ?”
ระดับเทพเจ้าจากเผ่าพันธุ์เล็กๆถามขึ้นมาขณะที่มองไปที่ไวโอเล็ตด้วยความสงสัย เขาไม่เชื่อเรื่องราวที่ไวโอเล็ตเล่า
“ข้าไม่รู้ว่าทำไมถึงมีเพียงแค่ข้าคนเดียวที่ไม่เป็นอะไร ข้าไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆ และข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าขอให้พวกเจ้าช่วย พวกเราจะไม่มีวันกลับคำพูดของตัวเอง” ไวโอเล็ตพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“เจ้าลองพยายามขุดพวกเขาขึ้นมาหรือยังไง?” ระดับราชันคนหนึ่งถาม
นั่นเป็นคำถามที่ดูไร้ประโยชน์ เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตถูกฝังอยู่ที่นี่มาสักพักหนึ่งแล้ว ไวโอเล็ตคงจะพยายามทุกวิถีทาง และที่ไวโอเล็ตติดต่อขอความช่วยเหลือจากระดับเทพเจ้าจากภายนอก นั่นก็คงเป็นเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ข้าขุดพวกเขาขึ้นมาไม่ได้ ดินนี่อาจจะดูเหมือนดินปกติทั่วไป แต่มันแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ” ไวโอเล็ตตอบ
เมื่อได้ยินแบบนั้นยอดฝีมือหลายคนที่มาก็ก้มลงไปเพื่อคว้าดินขึ้นมาจากพื้น แต่ไม่นานดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง ทั้งระดับราชันและแม้แต่ระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถขุดดินขึ้นมาได้
“นี่มันเป็นดินแบบไหนกัน? ทำไมมันถึงได้แข็งขนาดนี้?” ระดับราชันคนหนึ่งถามด้วยความตกใจ
“ข้าไม่รู้ ในตอนที่พวกเขาขุดรูเพื่อฝังตัวเอง มันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ในตอนที่ข้าพยายามจะขุดพวกเขาขึ้นมา ข้าขุดแม้แต่เศษเสี้ยวของดินขึ้นมาจากพื้นไม่ได้ด้วยซ้ำ…” ไวโอเล็ตอธิบาย
เหล่ายอดฝีมือลองทดสอบอีกหลายครั้ง แต่ความพยามแต่ละครั้งจบลงด้วยความล้มเหลว พวกเขาไม่สามารถขุดเอาดินขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ
เหล่ายอดฝีมือพยายามคิดวิธีต่างๆเพื่อขุดเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ไม่ได้ผล
หนึ่งในยอดฝีมือระดับเทพเจ้าลองพยายามจะดึงหัวของฟลาวเวอร์ก็อตคนหนึ่ง แต่ถึงเขาจะดึงแรงจนคอของฟลาวเวอร์ก็อตคนนั้นขาด ฟลาวเวอร์ก็อตคนนั้นก็ยังไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว
เหล่ายอดฝีมือนั้นมาที่นี่เพื่อช่วยเหล่าฟลาวเวอร์ก็อต ดังนั้นยอดฝีมือคนนั้นจึงหยุดพยายามดึงหัวของฟลาวเวอร์ก็อตขึ้นมา
“ซานมู่ เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้?” เซี่ยชิงหันมาถามหานเซิ่น เขาไม่รู้ว่าควรจะคิดยังไงกับสถานการณ์นี้
“ถ้าจะให้พูด มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าขนลุก” หานเซิ่นหลี่ตาลงเล็กน้อยขณะที่พูด เขากำลังมองไปที่เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่ถูกฝังอยู่ในพื้นดิน ดูเหมือนเขาจะสังเกตได้ถึงบางสิ่ง
“แปลกจริงๆ มันเกือบจะเหมือนกับว่าทั้งสเปชการ์เด้นปลดปล่อยพลังชีวิตออกมา… หรือว่าจริงๆแล้วสเปชการ์เด้นคือสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์”
ในตอนที่หานเซิ่นนึกเรื่องนั้นขึ้นมาได้ มันก็เป็นบางสิ่งที่แม้แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อ