ตอนที่ 612 ฉันมีคนรักแล้ว
ซ่งเฉิงยื่นมือมากุมมือหลิงอวี้จื้อ
“ต่อไปผมจะดูแลคุณเอง”
หลิงอวี้จื้ออึ้ง ถึงแม้จะซาบซึ้งใจ แต่ก็ไม่หวั่นไหวอีกแล้ว เธอชักมือออก ทำหน้าขอโทษขณะปฏิเสธ
“ซ่งเฉิงคะ ขอโทษนะ ฉันมีคนรักแล้ว”
คราวนี้ซ่งเฉิงประหลาดใจแล้ว วันที่เธอสลบไปเห็นได้ชัดว่าจะสารภาพรักกับเขา เพียงแต่ไม่ทันได้พูดเท่านั้น
ปีนี้นอกจากเพื่อนสนิทของหลิงอวี้จื้อไม่กี่คน ก็มีแต่เขาที่คอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ เธอตลอด เธอจะไปรักคนอื่นได้อย่างไร หลิงอวี้จื้อชอบเขา ไม่ใช่ความลับอะไรในวงการบันเทิง สองคนแค่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น
เขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าทำไมหลิงอวี้จื้อถึงปฏิเสธเขา คิดเชื่อมโยงกับลักษณะท่าทางของหลิงอวี้จื้อในช่วงนี้ เขาก็ยิ่งสงสัยขึ้นไปอีก ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอฟื้นขึ้นมาแล้วก็เปลี่ยนไปทันใด เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าปีนี้ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย
“สะดวกบอกผมไหมว่าคน ๆ นั้นคือใคร”
หลิงอวี้จื้อหัวเราะขมขื่นหนึ่งครั้ง
“หากฉันบอกคุณ ว่าคนนั้นเป็นคนยุคโบราณ คุณจะเชื่อไหม”
“อวี้จื้อ พูดล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะ”
“ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าคุณคงไม่เชื่อ ปีนี้ฉันสลบไป คุณรู้ไหมว่าฉันไปที่ไหนมา ฉันไปในสถานที่และช่วงเวลาที่แปลกหน้าแปลกตา ที่นั่นฉันพบผู้ชายคนหนึ่ง ฉันตกหลุมรักเขา แล้วยังแต่งงานกับเขาด้วย หากไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น ชีวิตนี้ฉันก็คงไม่กลับมาอีกแล้ว”
ซ่งเฉิงยื่นมืออกไปจับ ๆ หน้าผากของหลิงอวี้จื้อ มองหลิงอวี้จื้อด้วยความเป็นห่วง
“คุณรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรอยู่”
“คุณรู้สึกว่าฉันโรคจิตใช่มั้ย ช่างเถอะ ยังไงบอกไปคุณก็ไม่เชื่อ แต่เขาอยู่ในใจฉันแล้ว”
หลิงอวี้จื้อชี้ไปที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง
“เขาชื่อเซียวเหยี่ยน เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แคว้นเว่ยตะวันตก เรื่องราวของฉันกับเขายาวมาก คุณคงไม่สนใจฟังแน่ ซ่งเฉิง ขอโทษนะ ทั้งหมดนี้มันสายเกินไปแล้ว ฉันให้ใจเขาไปแล้ว”
“อวี้จื้อ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปพบจิตแพทย์”
ซ่งเฉิงรู้สึกว่าสภาพจิตใจของหลิงอวี้จื้อมีปัญหา ดังนั้นช่วงนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ เขาเป็นห่วงหลิงอวี้จื้อจริง ๆ
“ซ่งเฉิง ฉันปกติดีมาก”
“อวี้จื้อ คุณฟังผมนะ นั่นคือความฝัน คุณแค่ฝันไปเท่านั้น คุณจะคิดว่าความฝันเป็นเรื่องจริงไม่ได้ ระยะนี้คุณพักผ่อนให้ดี ๆ เถอะ หากออกจากฝันไม่ได้ พวกเราไปหาหมอกัน ดีไหม”
หลิงอวี้จื้อส่ายหน้า
“นั่นไม่ใช่ความฝันนะ”
ซ่งเฉิงกลัวว่าจะไปกระตุ้นหลิงอวี้จื้อเข้า จึงได้แต่พูดตามน้ำไป
“ก็ได้ ไม่ใช่ความฝัน ตอนนี้คุณกลับมาแล้ว คุณมองผมหน่อย ผมคือซ่งเฉิง ที่นี่ไม่มีแคว้นเว่ยตะวันตก คุณไม่สามารถอยู่ในจินตนาการได้อีกแล้ว อวี้จื้อ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”
หลิงอวี้จื้อก็ไม่พูดอะไรอีก ขืนพูดต่อไป ไม่แน่ซ่งเฉิงอาจจะพาเธอไปส่งโรงพยาบาลบ้าก็ได้ ถึงเวลานั้นหมอก็จะวินิจฉัยว่าสภาพจิตใจเธอมีปัญหา ไม่มีใครเชื่อเธอ แบบนี้ไม่ใช่คนโรคจิตหรอกเหรอ เธอเพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาล ไม่อยากโยนตัวเองเข้าโรงพยาบาลอีก
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ฉันอยากกลับบ้าน”
“ผมจะส่งคุณกลับบ้าน”
ซ่งเฉิงก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาเป็นห่วงหลิงอวี้จื้อจริง ๆ คิดว่าหลิงอวี้จื้อล้มหัวกระแทก จึงทำให้เธอเกิดภาพหลอนแบบนี้ แม้แต่นิสัยก็เปลี่ยนไปแล้ว เขายังต้องหยุดงานช่วงนี้ไปอยู่เป็นเพื่อนหลิงอวี้จื้อ มิฉะนั้นเขาคงไม่วางใจ
หลายปีมานี้หลิงอวี้จื้ออาศัยความขยันของตัวเองซื้อบ้านพักตากอากาศพร้อมสวนหลังหนึ่งในชานเมือง
ซ่งเฉิงส่งเธอถึงในบ้านพักตากอากาศ มองบ้านพักตากอากาศตรงหน้า หลิงอวี้จื้อก็ยังคงมึนงง ถึงแม้เธอจะกลับมาแล้ว แต่ทั้งหัวใจยังคงอยู่ที่แคว้นเว่ยตะวันตก การกลับมาแบบนี้เหมือนตายทั้งเป็น เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไปตั้งนานแล้ว
ตอนที่ 613 ขอโทษนะ ซ่งเฉิง
“เข้าไปเถอะ ผมให้คนมาเก็บกวาดจนสะอาดแล้ว ช่วงนี้คุณดูแลรักษาตัวสักระยะ เรื่องงานยังไม่ต้องคิดก่อน สุขภาพสำคัญกว่า”
“อืม ซ่งเฉิง ขอบคุณนะคะ”
“ระหว่างเราไม่ต้องพูดขอบคุณหรอก อวี้จื้อ ผมได้แต่เสียดายที่ไม่ได้คบกับคุณเร็วกว่านี้”
น้ำเสียงของซ่งเฉิงแฝงความตำหนิตัวเอง เขาเสียดายจริง ๆ ถึงแม้หลิงอวี้จื้อไม่เคยพูดอะไร แต่เขารู้นานแล้วว่าหลิงอวี้จื้อชอบตนเอง เพียงแต่ไม่ได้เผยออกมาเท่านั้น
เขาเป็นเทพบุตรจอเงินชื่อดังตั้งแต่อายุยังน้อย เกิดในครอบครัวศิลปะการแสดง มีเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ประกอบกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและเทคนิคการแสดงที่ยอดเยี่ยม ทำให้มีสาว ๆ มาชอบเขานับไม่ถ้วน ถึงแม้ในวงการบันเทิง ดาราที่แอบรักเขาข้างเดียวจะมีมากมาย มีบางคนสารภาพรักกับเขาตรง ๆ แต่ก็ถูกปฏิเสธไปหมด
หลายปีมานี้ เขามีข่าวลือเรื่องแฟนสาวเยอะมาก แต่ไม่มีสักคนที่เขายอมรับจากปากของตัวเอง
ในใจเขามีเพียงคนเดียวที่ยากจะลืม เขาไม่มีทางมั่นใจว่าตนเองทิ้งความรักครั้งนั้นไปหรือยัง ถึงแม้จะรู้สึกดีกับหลิงอวี้จื้อ แต่ก็ไม่กล้าลองดูง่าย ๆ จนกระทั่งหลิงอวี้จื้อตกบันไดคราวนั้น หมอบอกเขาว่าหลิงอวี้จื้ออาจจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ เขาจึงได้ลนลานขึ้นมาจริง ๆ หลายปีมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับความรู้สึกภายในใจของตัวเอง ที่แท้เขาไม่ได้แค่ชอบหลิงอวี้จื้อ เธออยู่ในใจของเขามานานแล้ว เพียงแต่เขาไม่เคยรู้ตัวเท่านั้น
หลังจากหลิงอวี้จื้อสลบไปแล้ว คนที่ไม่เชื่อเรื่องภูตผีเทวดาอย่างเขาก็ไปอธิษฐานต่อหน้าพระโพธิสัตว์เป็นประจำ ขอเพียงหลิงอวี้จื้อฟื้นกลับมา เขายอมมีอายุขัยสั้นลงสิบปี บางทีอาจจะเป็นเพราะพระโพธิสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จริง หลิงอวี้จื้อที่หมอวินิจฉัยว่าฟื้นขึ้นมาไม่ได้แล้วกลับฟื้นขึ้นมาได้ เพียงแต่พอฟื้นขึ้นมาเธอกลับบอกว่าทุกอย่างสายเกินไปแล้ว
จู่ ๆ เธอก็ไม่ยอมรับเขาอีกแล้ว ผลลัพธ์แบบนี้ทำให้จิตใจซ่งเฉิงเป็นทุกข์มาก
หากเขามองเห็นหัวใจตัวเองชัดเจนเร็วขึ้นหน่อยตั้งแต่แรก ยอมรับหลิงอวี้จื้อเร็วขึ้นหน่อย เรื่องทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นใช่ไหม เธอคงไม่ดำดิ่งเข้าไปในมโนภาพของตัวเองจนถอนตัวไม่ขึ้น
คิดถึงอดีตของทั้งสองคน ซ่งเฉิงยังเคยเป็นคนที่เธออยากแต่งงานด้วยที่สุด และเป็นเทพบุตรคนในดวงใจของเธออีกด้วย ตอนนี้เขาก็ยังเป็นเทพบุตรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นเทพบุตรของเธออีกแล้ว
หลิงอวี้จื้อถอนหายใจเบา ๆ
“อาจจะเป็นเจตจำนงค์ของสวรรค์ล่ะมั้ง สุดท้ายพวกเราก็มีบุญได้พบกัน แต่ไม่มีวาสนาได้อยู่ด้วยกัน ขอโทษนะ ซ่งเฉิง”
“คุณไม่มีอะไรต้องขอโทษผม ไม่ต้องคิดเพ้อเจ้อแล้ว พักผ่อนให้ดีเถอะ”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า เธอเองก็ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก หากทำให้พวกเขามองเธอเป็นผู้ป่วยอีกจริง ๆ อย่างนั้นแผนของตัวเองก็ไม่มีทางทำได้จริงแล้ว
ซ่งเฉิงยังรู้สึกว่าสภาพจิตใจของหลิงอวี้จื้อมีปัญหา เพียงแต่ไม่กล้าไปพูดกระตุ้นหลิงอวี้จื้อ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะอยู่เคียงข้างหลิงอวี้จื้อ เมื่อก่อนหลิงอวี้จื้อคอยตามเขาตลอด ต่อไปให้เขาเป็นฝ่ายปกป้องหลิงอวี้จื้อเอง
เมื่อซ่งเฉิงไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็นั่งคนเดียวอยู่ตรงระเบียงกว้าง จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มีเสียงของอาเหมยดังมาจากอีกฝั่ง
“อวี้จื้อ เธอเปิดอีเมล์ดูสิ ฉันส่งต่อหนังให้เธอดูเรื่องหนึ่ง เป็นหนังของซ่งเฉิง เธอลองดูสิ!”
“ได้”
หลิงอวี้จื้อวางสาย เข้าไปในห้องทำงาน เปิดอีเมล์ คลิกดูหนังเรื่องนั้น บังเอิญมาก นั่นเป็นหนังแนวยุคโบราณ ซ่งเฉิงแสดงเป็นพระเอก เป็นองค์ชาย ส่วนตัวร้ายคนแรกเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เห็นคำว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวน้ำตาพรั่งพรูราวสายฝน
อาเหยี่ยน ข้าคิดถึงท่านแล้ว ทำอย่างไรดี
ข้าจะไปหาท่านได้อย่างไร ท่านยังรอข้าอยู่ที่เรือนหรือไม่
ข้าไม่อยู่แล้ว ท่านยังสบายดีอยู่หรือไม่
คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่หลิงอวี้จื้ออยากถามเซียวเหยี่ยน เพียงแต่เซียวเหยี่ยนไม่ได้ยิน และไม่มีทางได้ยิน สองคนอยู่กันต่างมิติเวลา ความคิดถึงก็ไม่มีทางส่งไปถึง