“เป็นไปไม่ได้!”
เสียงกรีดร้องด้วยความโกรธดังจากเถาวัลย์ที่กำลังงอก ภายในชั่วพริบตา พวกมันก็ก่อตัวเป็นเก้าเถาวัลย์ในร่างเกราะเงินอีกครั้ง ภายใต้หมวก ตอนนี้ดวงตาของเขาเป็นสีแดงสด
“โล่ยักษ์นั่นที่ข้าสร้างประกอบไปด้วยพลังลำดับเทพถึง 18 ชั้น ด้วยจำนวนพลังลำดับเทพที่เจ้าเชี่ยวชาญ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะทำลายมัน!”
เก้าเถาวัลย์พูดแบบนี้เพราะเขาไม่สามารถคิดได้เลยว่าหลินฮวงสามารถปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังแบบนั้นได้ไง
แม้เขาจะไม่มีทางรู้ระดับพลังแท้จริงของหลินฮวง จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซ เขาก็พอเดาได้ว่าพลังลำดับเทพที่ทั้งสามใช้ได้มีมากน้อยแค่ไหน
เขายังรู้ว่าจิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซสามารถฆ่าเขาได้ก่อนหน้าเพราะพวกเขาใช้ไพ่ตายพิเศษของตน ดังนั้น พวกมันจึงไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของพลังติดตัว
แต่ทว่า หลินฮวงที่อยู่ตรงหน้าเขาแค่เพิ่มระดับพลังแต่กลับททำลายการป้องกันเขาได้ง่าย ๆ
สำหรับเก้าเถาวัลย์ นี่เป็นไปไม่ได้
นั่นเพราะ นางทฤษฏี เทคนิคยกระดับพลังเช่นนี้จะทำได้แค่เพิ่มพลังกับความหนาแน่นของพลังเทวะ มันไม่สามารถมอบความเข้าใจหรือพลังลำดับเทพเพิ่มเติมได้
ถ้าบุคคลเข้าใจแค่ห่วงโซ่ลำดับเทพหนึ่ง ต่อให้พวกเขาสามารถยกระดับพลังจากเทพสวรรค์ขั้นหนึ่งเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้าได้ พวกเขาก็จะยังใช้ได้แค่หนึ่ง จำนวนห่วงโซ่ลำดับเทพจะไม่เพิ่ม
แต่ทว่า ตัดสินจากการโจมตีของหลินฮวง เขาไม่ได้ยกแค่ระดับพลังของเขา จำนวนห่วงโซ่ลำดับเทพที่เขาใช้ได้ก็ยังเพิ่มด้วย
“ในทางทฤษฏี มันก็เป็นแบบที่เจ้าว่า”หลินฮวงตอบ “แต่นั่นขึ้นอยู่กับความรู้แสนตื้นเขินของเจ้า’
ความเข้าใจห่วงโซ่ลำดับเทพของหลินฮวงไม่ได้มาจากหลายห่วงโซ่ลำดับเทพที่เขาเข้าใจ อันที่จริงมันขึ้นอยู่กับว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาจะรับได้ไหมต่างหาก เพราะเขาสามารถหยิบยืมห่วงโซ่ลำดับเทพจากทาสดาบทั้งหมดของเขาได้
ตอนเขายังเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นเก้า เขาสามารถรองรับได้มากสุด 13 ห่วงโซ่ลำดับเทพ(12 ห่วงโซ่ลำดับเทพรวมถึงกฏสวรรค์เต๋าดาบ) ตอนนี้ที่เขาเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ขั้นหนึ่ง จำนวนนี้จึงเพิ่มเป็นสามเท่า
ตามจำนวนอย่างเดียว นี่มากกว่าที่เก้าเถาวัลย์เชี่ยวชาญถึงสองเท่าแล้ว
การรวมพลังลำดับเททพเช่นนี้ไม่ใช่สมการบวกลบง่าย ๆ
ทุกครั้งที่เพิ่มพลังลำดับเทพลงไป มันจะสามารถกลบจุดบอดในส่วนอื่นได้อย่างง่ายดาย
“จำนวนห่วงโซ่ลำดับเพที่ข้าเชี่ยวชาญนั้นมากเกินกว่าที่เจ้าจะคิดได้!”
หลินฮวงยิ้มให้เก้าเถาวัลย์ ผู้ที่สร้างโล่เถาวัลย์อย่างบ้าคลั่ง
เขารู้ว่าศัตรูของเขากำลังซื้อเวลาเพื่อสร้างโล่เพิ่ม นอกจากนี้ ครั้งนี้ โล่ยักษ์นั้นต่างจากรอบก่อนมาก พวกมันฝังลงพื้นและดูเหมือนจะเป็นเทคนิคสะท้อน
นี่ไม่ทำให้หลินฮวงคิดมากเลย เขารอจนกระทั่งเก้าเถาวัลย์สร้างโล่ร้อยชั้นจนเสร็จ จากนั้นถึงถาม”เสร็จยัง?”
หลินฮซงพุ่งไปพร้อมดาบของเขาอีกครั้งทันทีที่พูดจบ
กระบวนท่านี้ยังเป็นการแทง แต่มันต่างจากการโจมตีก่อนหน้าอย่างสมบูรณ์
คลื่นดาบพุ่งออกไปข้างหน้า แต่นุ่มนวล มันเจาะทะลุผ่านโล่ขนาดมหึมาร้อยชั้นง่าย ๆ เหมือนเจาะเต้าหู้
มันไม่ส่งเสียงดังหรือคลื่นพลังที่ปะทุ มันกลับทิ้งรูขนาดเล็กเสียยิ่งกว่านิ้วโป้งไว้บนโล่ทุกชั้น
ตอนคลื่นดาบเจาะทะลุผ่านโล่ร้อยชั้นจนหมดและเจาะกึ่งกลางระหว่างคิ้วของเก้าเถาวัลย์ โล่ทั้งหมดกลับไม่สลาย พวกมันกลับยังตั้งอยู่กับที่
อึดใจต่อมา ตอนกลิ่นอายของเก้าเถาวัลย์สลายไอย่างสมบูรณ์ โล่ยักษ์ทั้งหมดจึงค่อยๆหายไปเมื่อแหล่งพลังเทวะหายไป
พอเห็นอย่างนั้น จิ่วเจี้ยนก็อดดอุทานไม่ได้”การโจมตีนั้นของเขาได้ยืนอยู่บนเส้นแบ่งของเต๋าสวรรค์แล้ว”
กฏสวรรค์เต๋าดาบมีสามระดับ ดาบสวรรค์ แก่นสวรรค์ และเต๋าสวรรค์
ผู้บ่มเพาะดาบระดับเทพสวรรค์ทุกคนที่ก้าวข้ามขอบเขตของเต๋าสวรรค์จะถือเป็นเทพสวรรค์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด แค่ห่วงโซ่ลำดับเทพเดียวก็จะทำให้การโจมตีของพวกเขาเทียบได้กับพลังลำดับเทพกว่าสิบชนิดผสานกัน
นี่คือพลังของผู้บ่มเพาะดาบและกระบี่
แต่ททว่า เวอชุโอโซสังเกตเห็นสิ่งอื่น”วิธีที่เขาผสานและใช้พลังลำดับเทพต่างๆดูไม่เหมือนว่าเขาเพิ่งเชี่ยวชาญพวกมันเลย”
“ข้ายังรู้สึกด้วยว่าเขายังไม่ได้เอาจริง”
รูม่านตาของจิ่วเจี้ยนหดลงเล็กน้อย เขาเหลือบมองเวอชุโอโซ จากนั้นก็จับจ้องหลินฮวงอีกครั้ง
ถึงแม้เก้าเถาวัลย์จะยังคืนชีพไดด้หลังโดนฆ่าสามครั้งติด หลินฮวงก็ไม่ตื่นตระหนกเลย เขากลับรอให้เก้าเถาวัลย์สร้างร่างใหม่อย่างอดทน
หลินฮวงดูไม่สนใจเลยว่าเก้าเถาวัลย์จะใช้ลูกไม้แบบไหนออกมา ไม่ว่ายังไง เขาก็จะสะกดอีกฝ่ายได้ด้วยพลังที่เหนือกว่า
“ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงรักษาสภาวะนี้ไม่ได้นานสินะ?”เก้าเถาวัลย์ริเริ่มชวนคุยหลังสร้างร่างใหม่เสร็จ”แต่ทว่า ไม่ว่าเจ้าจะฆ่าข้าอีกกี่ครั้ง มันก็เปล่าประโยชน์ เพราะข้าจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ งหมดที่ข้าต้องทำคือถ่วงเวลาจนกว่าสภาวะนี้ของเจ้าจะหมด ไม่ช้าก็เร็ว พวกเจ้าสามคนจะกลายเป็นถ้วยรางวัลของข้า!”
“โอ้ จริงเหรอ?”มีความเยาะเย้ยในน้ำเสียงของหลินฮวง”ต่อให้วิชาตายแทนของเจ้าจะเชื่อมต่อกับต้นนิพพานทั้งหมดที่นี่จริง เจ้าก็จะตายและคืนชีพได้แค่ 300 ครั้งเท่านั้น”
“ต่อให้เจ้านับเวลาที่ข้ารอเจ้าคืนชีพและให้เจ้าตั้งการป้องกัน ข้าก็ต้องใช้เวลาแค่ 3-5 วินาทีเพื่อฆ่าเจ้าแต่ละครั้ง ต่อให้ข้าคำนวณมันเป็น 5 วินาทีต่อการคืนชีพ ข้าก็ต้องใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเพื่อฆ่าเจ้าสามร้อยครั้ง”
“นอกจากนี้ ข้าสามารถคงสภาวะนี้ได้นานกว่าครึ่งชั่วโมง”
ครั้งแรกที่หลินฮวงฆ่าเก้าเถาวัลย์ก่อนหน้า การแจ้งเตือนของเสี่ยวเฮยเด้งขึ้น บอกว่าเขาได้รับชิ้นส่วนการ์ดต้นนิพพาต เขาสับสนไปชั่วขณะแต่ก็ตระหนักทันทีว่าเก้าเถาวัลย์กำลังใช้เทคนิคตัวตายตัวแทน นอกจากนี้ มันยังเชื่อมต่อกับต้นนิพพาต
หลินฮวงไม่คิดเปิดเผยความลับของเก้าเถาวัลย์ก่อนห้านี้เพรามันไม่จำเป็น แต่ทว่า ตอนเก้าเถาวัลย์ยังแกล้งว่าตัวเองเป็นอมตะ หลินฮวงจึงทนไม่ได้อีก ดังนั้น เขาจึงเลือกเปิดเผยความจริง
เก้าเถาวัลย์เงียบสนิททันทีที่หลินฮวงพุด
เขาไม่คิดเลยว่าหลินฮวงจะมองวิชาของเขาออก
เวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนที่ดูอยู่ด้านข้างพลันเข้าใจขึ้นมา
ในความเป็นจริง เวอชุโอโซได้คาดการณ์ถึงความเป็นไปได้นี้ไว้อยู่แล้วตอนเห็นว่าไพ่ตายของเขาฆ่าเก้าเถาวัลย์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม วิชาเช่นนี้หายากมาก ไม่ใช่แค่นั้น วิชาตัวตายตัวแทนแทบทั้งหมดของเก้าเถาวัลย์นั้นแตกต่าง ดังนั้น เวอชุโอโซจึงไม่มั่นใจ
เขาเพิ่งยืนยันการคาดการณ์ก่อนหน้าได้ตอนหลินฮวงเปิดเผย
ในทางกลับกัน จิ่วเจี้ยนไม่รู้เรื่องนี้มาตลอด เขาไม่ได้พิจารณาว่าเก้าเถาวัลย์อาจใช้วิชาตัวตายตัวแทนเช่นกัน แต่ทว่า แม้เขาจะไม่เคยเจอกับความสามารถประเภทนี้ เขาก็เคยได้ยินมา เมื่อหลินฮวงเปิดเผยความจริง เขาถึงเข้าใจ
ตอนเก้าเถาวัลย์เห็นว่าความลับของตัวเองโดนเปิดดเผย ความมั่นใจของมันก็ลดฮวบ
เดิม มันคิดว่ามันจะสามารถขู่ทั้งสามและให้ทั้งสามถอยไปได้
แต่มันไม่คิดว่าหลินฮวงจะเปิดโปงมันทันที
วิชาที่น่ากลัวอย่างตัวตายตัวแทนเองก็มีขีดจำกัด
ในความเป็นจริง มันไม่ได้เชื่อมต่อกับต้นนิพพานทั้งหมดสามร้อยต้น ด้วยพลังปัจจุบันของมัน มันเชื่อมต่อได้มากสุดแค่ 11 ต้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง รวมถึงชีวิตตัวมันเอง มันมีแค่สิบสองชีวิต
ปัจจุบัน มันโดนหลินฮวง จิ่วเจี้ยนกับเวอชุโอโซฆ่าไปห้าชีวิตแล้ว
ด้วยความเร็วที่หลินฮวงฆ่ามัน เก้าเถาวัลย์รู้สึกว่ามันจะตายจริงในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีหลังจากนี้ถ้าเกิดยังสู้กัน
ความคิดทุกประเภทแวบผ่านหัวของเก้าเถาวัลย์ หลังชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้าย มันก็เลือกจำนน
“เอาแบบนี้เป็นไง-เรามาประนีประนอมกัน พวกเจ้าอยากได้ผนึกเจ้าประสาท ข้าสามารถมอบให้พวกเจ้าได้และยังจะปลดปล่อยพวกเจ้าจากเขตแดนเทพของข้าอีกด้วย แต่ทว่า เป็นการแลกเปลี่ยน พวกเจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้โจมตีข้าอีกในอนาคต1ตอนพวกเจ้าได้รับผนึกเจ้าปราสาทไป เจ้ายังไม่สามารถกำจัดการดำรงอยู่ของข้าไปได้เช่นกัน”
นั่นคือเงื่อนไข
แม้กระทั่งเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนก็ยังหวั่นไหวกับข้อเสนอ
แต่ทว่า หลินฮวงกลับปฏิเสธ โดยไม่ลังเล เขาสับดาบในมือลง
“หลังเราฆ่าเจ้า เราจะได้รับผนึกเจ้าปราสาท!”