ขณะที่หลินฮวงกับอีกสองกำลังเข้าใกล้ใจกลางป่าทึบ เวอชุโอโซก็พูดขึ้นมา
“หยุด!’
หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนหยุดชะงักทันทีและรีบตรวจสอบสภาพแวดล้อมด้วยจิตเทวะ แต่ทว่าก็ไม่พบอะไรผิดปกติ อย่างไรก็ตาม หลินฮวงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ขณะที่จิ่วเจี้ยนมองเวอชุโอโซด้วยสีหน้าสับสน
“มีอะไร?”เขาถามอย่างสับสน
“มีค่ายกลลวงตาด้านหน้า”เวอชุโอโซพึมพำ
จิ่วเจี้ยนลดหัวลงและตรวจสอบพื้นที่ตรงหน้าพวกเขาอย่างระมัดระวัง ทั้งหมดที่เขาเห็นยังเป็นป่าทุบกว้างใหญ่ เขาไม่พบอะไรผิดปกติเลย
อีกครั้ง เขาใช้จิตเทวะเพื่อสแกนพื้นที่ และผลก็เหมือนเดิม เขายังไม่พบอะไร
“ข้าไม่เห็นอะไรเลย!”จิ่วเจี้ยนอดบ่นไม่ได้
ในขณะเดียวกัน โครงร่างของค่ายกลก็ค่อย ๆ ปรากฏต่อหน้าหลินฮซง
เขาไม่เคยศึกษาค่ายกลมาก่อน แต่เขาบ่มเพาะอักขระเต๋าเวทย์ ซึ่งมีระบบคล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ ภายใต้การสั่งสอนของเจ้าแดง เขาจึงชินกับค่ายกลรบจำนวนมากมาก่อน เขายังมีความรู้ทั่วไปและทฤษฏีเกี่ยวกับค่ายกล
ทันทีที่เวอชุโอโซเตือน หลินฮวงก็เปิดใช้วิชาเนตรและเห็นค่ายกลขนาดมหึมานี้
มันใหญ่มาก มันเป็นค่ายกลซับซ้อนที่ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยกิโลเมตร อำพรางทั้งพื้นที่ให้เหมืองป่าทึบ
แม้หลินฮวงจะไม่เข้าใจว่ามันมีหน้าที่อะไรที่นี่ แต่ด้วยความซับซ้อนระดับนี้ เขาจึงรู้ว่ามันไม่ใช่แค่ภาพลวงตาธรรมดา มันน่าจะมีความสามารถอื่นด้วย
“มีทางจัดการกับมันไหม?”หลินฮวงหันไปมองเวอชุโอโซ
แม้จะถามแบบนี้ เขาเองก็ลอบคิดแผนขึ้นมาแล้ว
เวอชุโอโซเงียบไปสักพัก”ข้าไม่มั่นใจ แต่สามารถลองดูได้”
“อย่าพูดแบบนั้นสิ”จิ่วเจี้ยนวิตกตอนได้ยิน
แต่ทว่า หลินฮวงสงบมาก เขามีแผนแล้ว ถ้าเวอชุโอโซไม่สามารถจัดการกับค่ายกลนี้ได้ เขาจะเรียกร่างแยกจิตสำนึกของเจ้าแดงเข้าตัวเขาและให้นางจัดการค่ายกลแทน
ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะป้องกันเวอชุโอโซกับจิ่วเจี้ยนจากการพบสิ่งผิดปกติยังไง เวอชุโอโซก็ลงมือ
หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนเห็นเวอชุโอโซประสานมือ และวินาทีต่อมา ร่างแยกของเวอชุโอโซสามร่างก็ปรากฏ
ร่างแยกทั้งสองเปลี่ยนเป็นหลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนทันที
หลังจากนั้น ร่างแยกทั้งสามก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน ก่อนจะได้บินไปไกล พวกมันก็พลันหายไปในอากาศธาตุตรงหน้าทั้งสาม
หลังปลดปล่อยร่างแยก เวอชุโอโซก็นั่งลงอย่างสงบ”รอไปก่อน ถ้านี่ไม่ได้ผล เราจะหาทางออกอื่น”
หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากรออย่างอดทน
หลังผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ตอนหลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนรู้สึกว่าความพยายามลบค่ายกลนั้นล้มเหลว ป่าทึบไม่ไกลจากพวกเขาพลันเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ
วินาทีต่อมา ทั้งป่าก็สลายหายไป เผยรูปลักษณ์แท้จริง
ตอนทั้งสามเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ตกใจจนพูดไม่ออก และรีบลุกขึ้นยืน
“นี่……ป่านิพพาน?!”จิ่วเจี้ยนเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เขาถามอย่างไม่มั่นใจ
ความเงียบของหลินฮวงกับเวอชุโอโซถือเป็นการตอบรับ
‘ทั้งหมดนี้คือต้นไม้นิพพาน….เขามีพวกมันได้ไง?!”จิ่วเจี้ยนสงสัย
เขาหยิบยกเรื่องนี้มาเพราะมันไม่ได้มีต้นนิพพานแค่หนึ่ง แต่กลับมีนับร้อย
ต้นไม้เหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้ในหุบเหวเท่านั้นและต่อให้เป็นที่นั่น พวกมันก็ยังหายาก
ต้นนิพพานกลายพันธุ์คือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากท่ามกลางเทพสวรรค์ ไม่เพียงจะครอบครองพลังลำดับเทพชีวิตและความตาย แต่ส่วนน้อยยังสามารถเข้าใจมิติกับเวลา แม้กระทั่งยอดฝีมือกึ่งจ้าวเทวะก็ยังเคารพพวกมัน
แต่ทว่า ต่อหน้าต่อตาพวกเขามีต้นนิพพานกว่าสามร้อยต้น และทั้งหมดก็กลายพันธุ์
สิ่งที่ยิ่งพิเศษคือต้นนิพพานทั้งหมดดูเหมือนจะเสียจิตสำนึก หลงเหลือแค่เปลือกเปล่า
“พวกมันต้องโดนสร้างด้วยผนึกเจ้าปราสาท”นี่คือความเป็นไปได้เดียวที่เวอชุโอโซสามารถคิดได้
แม้เก้าเถาวัลย์จะมีแค่ชิ้นส่วนผนึกเจ้าปราสาทและไม่สามารถหลอมอะไรได้ เขาก็อาจใช้เทคนิคอื่และพบวิธีใช้ชิ้นส่วน นั่นอาจทำให้เขาสร้างต้นนิพพานเหล่านี้ได้
สิ่งที่เวอชุโอโซมั่นใจมากคือไม่ว่าเก้าเถาวัลย์จะใช้วิธีไหน เขาก็ต้องจ่ายราคาสูงเพื่อสร้างต้นนิพพานมากขนาดนี้
“เขาต้องใช้ค่ายกลลวงตาเพื่อปกปิดพื้นที่นี้เพราะกังวลว่าคนจะเห็นต้นนิพพานเหล่านี้”จิ่วเจี้ยนดูสับสน”แต่เขามีจุดประสงค์อะไรถึงปลูกต้นนิพพานมากขนาดนี้ไว้ในที่เดียว?”
เขาไม่สามารถเข้าใจการกระทำของเก้าเถาวัลย์ได้เลย
หลินฮวงเองก็ไม่มั่นใจเช่นกัน
ท่ามกลางมอนสเตอร์ของเขา เจ้าแดงคือตัวเดียวที่เป็นมอนสเตอร์เถาวัลย์ตั้งแต่ต้น นางมีความสามารถปรสิตและสามารถควบคุมมอนสเตอร์ตัวอื่นให้สู้เพื่อนางผ่านการใช้ปรสิต แต่ทว่า มันไม่ดูเหมือนว่าเก้าเถาวัลย์กำลังสร้างหุ่นเชิด นอกจากนี้ ต้นนิพพานเองยังไม่ใช่มอนสเตอร์ที่เกิดมาเพื่อสู้ ถ้าเก้าเถาวัลย์แค่อยากหุ่นเชิดต่อสู้ เขาต้องเลือกตัวอื่น
“ไม่ใช่ว่าเจ้าสองเองก็รู้ว่าต้นนิพพานมีคุณลักษณะพิเศษมากอยู่หรือ?”เวอชุโอโซพูดขึ้นหลังพิจารณา
หลินฮวงกับจิ่วเจี้ยนมองเวอชุโอโซ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาองรู้เกี่ยวกับต้นนิพพานน้อยมาก
เวอชุโอโซเหลือบมองทั้งสอง”ต้นนิพพานจะโตขึ้นใกล้น้ำพุมรณะหรือบริเวณนั้นเท่านั้น รากพวกมันจะเชื่อมต่อกับน้ำพุมรณะไปตลอด ต่อให้ย้ายไปยังมิติเวลาอื่น แต่ในระดับจิตวิญญาณ รากพวกมันยังเชื่อมต่อกับน้ำพุมรณะ ตอนพวกมันตาย พวกมันจะกลับไปน้ำพุเช่นกัน
“เหมือนกับต้นนิพพานสามร้อยต้นที่นี่ พวกมันดูเหมือนจะถูกปลูกที่นี่ แต่จริงๆแล้ว พวกมันยังเชื่อมต่อกับน้ำพุ พวกมันสามารถได้รับแหล่งทรัพยากรไร้สิ้นสุดที่จำเป็นสำหรับการเติบโตจากมัน”
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด เก้าเถาวัลย์ต้องใช้ต้นนิพพานเหล่านี้เพื่อรับสารอาหารจากน้ำพุมรณะ”เวอชุโอโซเปล่งความคิด
“เป็นไปได้ด้วยเหรอที่จะได้รับทรัพยากรบ่มเพาะจากน้ำพุมรณะ?”หลินฮวงอดพึมพำไม่ได้
สำหรับเขาแล้ว มันน่าเหลือเชื่อ น้ะนเป็นเพราะ จากที่เขาเข้าใจ น้ำพุมรณะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ในหุบเหว แม้กระทั่งยอดฝีมือจ้าวเทวะก็ยังไม่เต็มใจให้มันปนเปื้อน เหตุผลเพราะถ้าพวกเขาไม่ระวัง พวกเขาอาจปนเปื้อนและกลายพันธุ์ หรืออาจคลุ้มคลั่ง
“ในทางทฤษฏี ตราบเท่าที่ใช้อุปกรณ์กรองสิ่งปนเปื้อนออกอย่างเหมาะสม มันควรทำได้”เวอชุโอโซพูดและเงยหน้ามองต้นนิพพานใกล้ๆ”ต้นนิพพานเหล่านี้คือตัวกรองที่สมบูรณ์แบบ!”
“ซึ่งหมายความว่า เรารวยแล้ว!”ดวงตาของจิ่วเจี้ยนเป็นประกาย
เขายังเริ่มจินตนาการว่าตัวเองได้รับทรัพยากรบ่มเพาะทุกชนิดจากน้ำพุมรณะผ่านต้นนิพพาน
“ข้าคิดว่ามันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิด”
ทันทีที่จิ้วเจี้ยนพูดจบ หลินฮวงก็สังเกตเห็นว่าต้นนิพพาตตรงหน้าพวกเขาเริ่มปล่อยแสงสีฟ้าหมอกออกมา