ตอนที่ 1619 เลื่อนเป็นขั้นแปด
หลังเก็บตราตัวตนราชันย์ไป หลินฮวงก็แตะเบิดหน้าสื่อสาร
ไม่ช้า เขาก็เห็นสายโทรสองสาย หนึ่งมาจากหลินซินเมื่อครึ่งเดือนก่อน อีกหนึ่งเป็นตอนสิบแปดวันก่อน มันมาจากดาบ12
เขาไม่โทรกลับทันที เขากลับเปิดหน้าข้อความและตรวจสอบก่อน
ตามคาด เขาเห็นข้อความที่หลินชินกับดาบ12ส่งมา ยังมีข้อความจากใต้สวรรค์ รวมถึงหมายเลขแปลก
ด้วยความอยากรู้ เขาแตะข้อความของหลินชินก่อน
หลังอ่านข้อความ เขาถึงถอนหายใจโล่งอก
เดิม เขาคิดว่าที่หลินซินโทรหาเขาอาจเพราะมีเรื่องด่วน มันกลายเป็นว่านางกําลังเข้าสมรภูมิมังกรหุบเหวกับเสี่ยวโม่และคนอื่นและอยากแจ้งเขาไว้ก่อน
จากนั้นหลินฮวงก็แตะข้อความของดาบ12
มันไม่ใช่เรื่องด่วนเช่นกัน ดาบ12แค่แจ้งเขาว่าเขาได้จัดงานทุกอย่างให้พวกดาบ1แล้วดาบ12ยังบอกว่าเขาได้ส่งมอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับพันธมิตรดาบให้ดาบ 1 และเขาจะเป็นผู้ช่วยดาบ1แทน
หลินฮวงคาดไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิด
จากความทรงจําของจอมเทพ เขาตระหนักว่าดาบ1กับดาบ10นั้นซับซ้อนกว่ามากเมื่อเทียบกับทาสดาบคนอื่นนอกจากการปกป้องจอมดาบพวกเขายังมีส่วนในการต่อสู้ รวมถึงการบริหารและประสานงานกับทาสดาบคนอื่นทั้งหมดรวมอยู่ในขอบเขตการทํางานของพวกเขาโดยธรรมชาติดาบ8คือข้อยกเว้น
สําหรับทาสดาบหลังดาบ 11ไป พวกเขามีหน้าที่แค่ต่อสู้
ก่อนหน้าหลินฮวงได้มอบหมายให้ดาบ12รับผิดชอบพันธมิตรดาบขระที่เขากําลังฝึก ย้อนกลับไปตอนนั้น อู่ห่าวกับดาบ12มีอํานาจสูงสุดในหมู่ทาสดาบ ดาบ12ไม่มีประสบการณ์การทํางานด้านนี้ เขาจึงปวดหัวมากกับงานที่เกิดความสามารถเขา แต่ในเมื่อจอมดาบขอ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทํางาน
ตอนนี้ที่พวกดาบ1มา เขาจึงมีความสุขมาก
หลังอ่านข้อความของดาบ12 หลินฮวงก็คิดเกี่ยวกับมันและตัดสินใจส่งการตอบ ให้เขา
หลังจากนั้น เขาก็มองข้อความบนสุด ซึ่งมาจากใต้สวรรค์ เขาข้ามมันไปก่อนและเปิดข้อความจากหมายเลขไม่คุ้นตา
อุปกรณ์สื่อสารที่เขามีแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือบนโลกที่แทบจะไม่มีข้อความใดที่เกี่ยวกับโฆษณา
ตอนหลินฮวงเห็นหมายเลขของคนแปลกหน้า ชื่อหนึ่งก็แวบเข้าหัวเขาทันที หยางหลิง-แต่ทว่าในความคิดที่สอง เขาก็จําได้ว่าหยางหลิงตายไปแล้ว
เขาเปิดข้อความ
หลังดูข้อความ เขาก็มั่นใจแล้วว่าผู้ส่งไม่ใช่หยางหลิงแต่เป็นดาบ1
หมายเลขแปลกหน้านี้คืออุปกรณ์สื่อสารใหม่ของดาบ1ในมหาพิภพ
ดาบ1ไม่ใช่คนเดียว ในความเป็นจริง ดาบ1-10ล้วนมีอุปกรณ์สื่อสารใหม่กัน
ดาบ1ส่งข้อความมาเพื่ออัปเดทสถานการณ์ปัจจุบันให้หลินฮวง
เขากับผู้พิทักษ์จอมดาบคนอื่นได้เข้ามาบริหารพันธมิตรดาบแล้ว ดาบ12เองก็ยังเป็นสมาชิกของกลุ่มบริหาร แต่ไม่มีอํานาจแท้จริงอีกต่อไ
ดาบ1ให้คําอธิบายสั้นๆถึงแผนพัฒนาในอนาคตที่เขาร่างให้พันธมิตรดาบ
นอกจากนั้น +เขายังระบุกับหลินฮวงว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาออกมา ดาบ1 จะมาคุ้มกันเขาตลอดเวลา
หลินฮวงพูดไม่ออกพออ่าน แต่ก็ไม่ปฏิเสธโดยตรง เขารู้ว่าดาบ1หมายความว่าไง
หลังอ่านข้อความยาวเหยียดของดาบ1 หลินฮวงก็ขบคิดก่อนตอบกลับ
เขาเสนอให้เลื่อนดาบ11กับดาบ12ให้กลายเป็นผู้พิทักษ์จอมดาบ
เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือศักดิ์ศรีท่ามกลางทาสดาบ ทั้งคู่ถือว่ามีคุณสมบัติ
ดาบ1ตอบกลับแทนทันทีหลังข้อความถูกส่ง
“ข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้ ท่านจอมดาบไม่ต้องห่วง”
หลังจากนั้นหลินฮวงก็ไปดูข้อความจากใต้สวรรค์
มันส่งมาเมื่อวาน
พอเปิดอ่าน เขาก็เห็นแค่ประโยคสั้นๆสองประโยค
“ข้าจะทําการสร้างเอกภาพในอีกสิบวัน ถ้าเจ้าอยากเห็นพิธี เจ้าก็มาดูได้”
ข้อความมาพร้อมแผนที่ดวงดาวที่แนบพิกัดไว้
มันต้องพูดว่าใต้สวรรค์นั้นไว้ใจหลินฮวงมาก
กระบวนการสร้างเอกภาพของเทพสวรรค์เพื่อกลายเป็นจ้าวเทวะนั้นเสี่ยงมาก ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจทําให้ถึงคราวเคราะห์
ภายใต้สถานการณ์ปกติ คนเราจะเชิญแค่เพื่อนสนิทสุดเพื่อเป็นสักขีพยานในพิธีสร้างเอกภาพ
นอกจากนี้ พิกัดของพิธียังเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
นี่เพื่อป้องกันการรบกวนใดๆตอนทําการสร้างเอกภาพ
ต้องรู้ว่าถ้าการสร้างล้มเหลว ผลกระทบที่เบาสุดคือจะล้มเหลวในการสร้างผนึกเต๋และไม่อาจเป็นจ้าวเทวะไปได้ตลอดชีวิต สถานการณ์ที่เลวร้ายสุดคือผนึกเต๋แตก และพวกเขาจะสลายเป็นขี้เถ้าทันที
หลินฮวงรู้ว่าหนึ่งในเหตุผลที่ใต้สวรรค์เชิญเขาเพราะเขาไว้ใจหลินฮวง อีกเหตุผลคือเขาหวังกับหลินฮวงไว้สูง เขาจึงมอบโอกาสให้หลินฮวงได้เห็นพิธีกับตา
เหนือสิ่งอื่นใด เขามั่นใจว่าหลินฮวงต้องเลื่อนเป็นจ้าวเทวะในอนาคตแน่ เช่นนั้นห ลินฮวงจึงต้องผ่านกระบวนการสร้างเอกภาพเช่นกัน
“เขาส่งมาเมื่อวาน งั้นก็ยังเหลืออีกเก้าวัน” หลินฮวงตรวจสอบวันที่และตอบกลับ
“ข้าจะไปแน่ใข้าขอให้เจ้าประสบความสําเร็จในการสร้างเอกภาพและกลายเป็นจ้าวเทวะ!”
ใต้สวรรค์ตอบกลับทันทีหลังหลินฮวงตอบ
“ขอบคุณ!”
หลังปิดหน้าสื่อสาร หลินฮวงก็ตรวจตราราชันย์ด้วยจิตเทวะเพื่อตรวจสอบจํานวนเขตแดนเทพในนั้น จากนั้นก็คํานวณเวลา
“ควรจะมีเวลาพอ”เขาคิด จากนั้นก็ตั้งเวลาบนอุปกรณ์สื่อสาร
หลังจากนั้น เขาก็ไม่เสียเวลาอีกและรีบกลับไปวังจอมเทพ
หลังเข้าวัง เขาปรับเวลาเป็นหมื่นเท่าของโลกภายนอก จากนั้นก็นําเอาเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะทั้งหมดออกมา
เวลาผ่านพ้นไปในวังจอมเทพ
ตามที่หลินฮวงคาดไว้ การหลอมเขตแดนเทพทั้งหมดประสบความสําเร็จ
มันไม่สําคัญว่ามันคือเขตแดนเทพของเผ่าแมลงหรืออันที่ปนเปื้อนด้วยพลังหุบเหว มันไม่ขัดต่อกระบวนการหลอมของเขาเลย
การปิดประตูบ่มเพาะรอบนี้กินเวลากว่าแปดหมื่นห้าพันวัน
ระหว่างนี้ เขาหลอมเขตแดนเทพถึงจ้าวเทวะไปได้ทั้งสิ้น
ระดับพลังของเขาเลื่อนจากเทพสวรรค์ขั้นห้าเป็นขั้นแปด
พอสัมผัสได้ถึงจํานวนห่วงโซ่ลําดับเทพที่เขาสามารถหยิบยืมได้พุ่งทะยานเป็น12800 หลินฮวงก็รู้สึกว่าเขาอาจมีความสามารถพอจะท้าทายจ้าวเทวะแล้ว
เขาเลิกคิ้วหลังมองเวลาบนอุปกรณ์สื่อสาร
“โลกภายนอกผ่านมาแล้วชวันครึ่ง”
นี่ไม่มากเกินไปกว่าที่คาดไว้ บางทีอาจน้อยกว่าด้วยซ้ํา
หลินฮวงยืนขึ้นทันทีและใช้เวลาสักพักเพื่อทําความคุ้นเคยกับพลังที่เพิ่มขึ้น และเปิดประตูของวังจอมเทพ
เนื่องจากเขารับปากกับใต้สวรรค์แล้วว่าจะไปร่วมพิธี เขาจึงไม่คิดผิดคําสัญญา
ยิ่งไปกว่านั้นการได้ดูใต้สวรรค์สร้างเอกภาพก็ยังเป็นประโยชน์ต่อเขา
ในอนาคต เขาต้องทําแบบเดียวกันเพื่อกลายเป็นจ้าวเทวะ การดูกระบวนการของคนอื่นถือได้ว่าเป็นใบเบิกทาง
หลินฮวงไม่เสียเวลาสักนิดและย้ายออกวังจอมเทพ ระหว่างทาง เขาเปิดใช้ประตูมิติและตั้งพิกัด