บทที่ 58ให้อภัยไม่ได้
หลานชิ่งตกใจที่เห็นเจียงสื้อสื้อเป็นแบบนี้ แต่พอคิดไปคิดมา ตอนนี้เธอไม่มีอะไรเลย แต่ตัวเองเป็นคุณหนูของตระกูลหลาน เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำให้ใหญ่ที่นี่ต่อหน้าเธอ
แล้วหลานชิ่งก็พูดหนักกว่าเดิม เธอชี้ไปที่เสี่ยวเป่าแล้วพูดว่า “มันนี่แหละ! หรือว่าไม่ใช่? เจียงสื้อสื้อเธอเองก็ไม่ได้สูงส่งอะไร ลูกชายเธอคงไม่ได้ดีไปถึงไหนหรอก”
พอพูดจบ เสื้อเปี๊ยะดังขึ้นมา ความเจ้บแสบที่แก้มซ้ายของหลานชิ่งรามไปทั่วหน้า เธอมองเจียงสื้อสื้อด้วยความตกใจ
คนรอบๆ นั้นก็ตกใจไปด้วย คาดไม่ถึงว่าเจียงสื้อสื้อจะกล้าตบเธอต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้
“เจียงสื้อสื้อ เธอกล้าตบฉันหรอ? ทำไม? ที่ฉันพูดมันผิดรึไง? ลูกชายเธอมันลูกไม่มีพ่อ!”
สามีของหลานชิ่งเห็นแฟนตัวเองโดนตบก็รู้สึกเป็นห่วง ก็เลยเรียกให้ผู้ช่วยไปเรียนผู้อำนวยการมา
พอผู้อำนวยการมาถึง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้นว่า “ผู้อำนวยการครับ ผู้ปกครองคนนี้มีปัญหา ผมกลัวว่าลูกเธอจะเป็นเหมือนเธอ ผมอยากให้ไล่ลูกเธอออกไปเลยครับ ไม่งั้นลูกผมก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย”
“ใช่ค่ะผู้อำนวยการ ฉันแค่มีปัญหากับเธอเล็กน้อย ผู้ปกครองคนนี้ก็ลงมือกับฉันเลยค่ะ”
คนรอบๆ ตัวอยากจะเข้าห้องหลานชิ่ง ก็ช่วยกันพูดไปด้วย ว่าเจียงสื้อสื้อรังแกเธอ
ผู้อำนวยการรู้ว่าหลานชิ่งเป็นใคร แต่พอเขามองมาที่เสี่ยวเป่าเขาตกใจหนักกว่าเดิมอีก คนพวกนั้นไม่รู้ว่านี่เป็นชายน้อยของตระกูลจิ้น แต่ผู้อำนวยการรู้นะ ใครจะกล้าไล่ออก!
“ขอโทษทีนะครับ เราไม่สามารถไล่เด็กออกไปได้ ถ้ามีปัญหาอะไรเรามาคุยกันดีๆ ได้ไหมครับ?”
ผู้อำนวยการเห็นสีหน้าของเสี่ยวเป่าไม่ค่อยดี คุณชายน้อยนี่ไม่เป็นไรใช่ไหมเนี่ย ไม่งั้นเขาจะพูดยังไงกับตระกูลจิ้น หลานชิ่งเห็นเช่นนี้แล้วรู้สึกโกรธมาก ก็แค่ไล่เด็กออกไป เธอไม่เชื่อหรอกว่าตัวเองทำไม่ได้
แล้วหลานชิ่งก็เอ่ยปากขู่ว่า “ผู้อำนวยการคะ ถ้าไม่ไล่ลูกของเธอออก คุณเชื่อไหมว่าฉันมีวิธีทำให้คุณตกงานเป็นหมื่นวิธี”
เธอไม่ยอม ไม่ว่ายังไงวันนี้เจียงสื้อสื้อก็ต้องชดใช้คืน เธอกล้าดียังไงมาลงไม้ลงมือกับตัวเอง
“ไหนใครกล้าทำ?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา
ทุกคนมองไปทางนั้น จิ้นเฟิงเฉินเดินมาเหมือนราชาผู้ทรงอิทธิพล เขาดุน่าเกรงขามจนทุกคนต้องแหวกทางเดินออกมาให้เขา
ผู้อำนวยการเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่เคารพว่า “คุณจิ้น”
คุณจิ้น? ทุกคนตกใจตาค้าง หรือว่านี่ก็คือ………..
“หรือว่านี่จะเป็นจิ้นเฟิงเฉินประธานของจิ้นกรุ๊ป? เขาหล่อมากเลย เหมือนที่เรื่องลือกันเลย”
“เขามาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
“สงสัยชายน้อยของตระกูลจิ้นเรียนอยู่ที่นี่รึเปล่า ไม่รู้ว่าเป็นเด็กคนไหนเหมือนกัน รู้จักกับลูกสาวฉันไหมนะ ถ้ารู้จักกันก็…………….”
“เลิกคิดได้แล้ว ตระกูลจิ้นไม่ใช่ตระกูลที่เราเอื้อมถึงหรอกนะ”
เสี่ยวเป่าเห็นแดดดี้ตัวเองเดินมา เขาก็รีบวิ่งเข้าไปกอดพร้อมพูดด้วยความน่าสงสารว่า “แดดดี้ มีคุณอาใจร้ายคุณป้าใจร้าย เขากำลังรังแกหม่ามี๊แล้วจะไล่ผมออกด้วยครับ”
สีหน้าของเสี่ยวเป่าเหมือนกำลังพูดว่า จัดการคนพวกนี้เลย
หลานชิ่งยังงงอยู่ พอได้ยินเสี่ยวเป่าเรียกแดดดี้แล้ว เธอก็อึ้งไปเลย
นี่ไม่ใช่ลูกชายของเจียงสื้อสื้อหรอ? ทำไมถึงเรียกจิ้นเฟิงเฉินว่าแดดดี้? นี่มันเรื่องอะไรกัน?
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินเริ่มไม่ดี เขาพูดอย่างไม่เร่งรีบว่า “ได้ข่าวว่าพวกเธอจะไล่ลูกผมออกหรอครับ?”
สามีของหลานชิ่งไหวตัวทัน เขาตกใจจนจะเป็นลมอยู่แล้ว ก็รีบพูดขอโทษ “คุณจิ้นขอโทษจริงๆ นะครับ พวกผมมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณ พวกเราคิดว่า…….”
สามีของหลานชิ่งก็รีบขอโทษเสี่ยวเป่า
“คุณชายน้อยครับ ขอโทษด้วยนะที่เมื่อกี้ทำให้ตกใจ”
เสี่ยวเป่าดึงเจียงสื้อสื้อไว้ แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
คนที่รังแกหม่ามี๊เป็นคนไม่ดีทั้งนั้น ให้อภัยไม่ได้!
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้สนใจ แต่พูดกับผู้อำนวยการโดยตรงว่า “ผมไม่อยากเห็นคนพวกนี้ในกิจกรรมของวันนี้”
สามีของหลานชิ่งตกใจมาก
พอได้รับคำสั่ง ผู้อำนวยการไม่รอช้า แล้วกันไปพูดกับสามีของหลานชิ่งว่า “ขอโทษด้วยนะครับ คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงครับ เชิญพวกคุณออกจากที่นี่ได้เลยครับ”
หลานชิ่งกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่าง แต่พอสบตากับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว สายตาที่ดูเย็นชาและดุร้ายนั้นทำให้เธอตกใจจนพูดไม่ออก
ลูกของหลานชิ่งได้ยินที่ผู้อำนวยการพูดก็ร้องไห้ขึ้นมา
“ไม่เอานะหม่ามี๊ ผมไม่อยากไป หนูยังไม่ได้แสดงเลย”
สีหน้าสามีของหลานชิ่งไม่ค่อยดีนัก เขารู้ว่าไม่ว่าจะพูดอะไรไปตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว จิ้นเฟิงเฉินอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้แค่ไล่พวกเธอออกไป ไม่แน่สักพักก็จะลามไปที่บริษัทของตน
ลูกชายของหลานชิ่งยิ่งร้องยิ่งเสียงดัง แถมยังนอนลงงอแงกับพื้น
“แดดดี้ ผมไม่อยากกลับไป ผมอยากเล่นกับเพื่อนที่นี่”
สามีของหลานชิ่งไม่รู้ควรทำยังไง ก็เลยพาลูกตัวเองไปให้ได้ ทั้งสามคนก็ออกจากที่นี่ไปอย่างรันทด
คนรอบๆ นั้นก็มึนงงไปหมด ใครจะไปรู้ว่าลูกไม่มีพ่อที่หลานชิ่งพูดถึงเป็นลูกของจิ้นเฟิงเฉิน ตอนนี้ทุกคนเริ่มร้อนตัว คนที่ช่วยหลานชิ่งว่าเจียงสื้อสื้อตอนนั้น ก็หวังว่าจิ้นเฟิงเฉินจะไม่เอาเรื่องพวกเขา
เจียงสื้อสื้อสะใจมาก มีคนหนุนหลังมันดีแบบนี้นี่เอง
พอเดินออกจากโรงเรียนไป สีหน้าของหลานชิ่งไม่ค่อยดีนัก นี่มันอะไรกัน? เจียงสื้อสื้อ ไปรู้จักกับจิ้นเฟิงเฉินได้ไง?
“หม่ามี๊” ลูกชายของหลานชิ่งยังคงร้องไห้หนักมาก
“ห้ามร้อง ก็แค่กิจกรรมโง่ๆ เอง! อย่าเข้าร่วมอะไรนักหนา” หลานชิ่งดุลูกตัวเอง
ไม่ว่ายังไง เจียงสื้อสื้อ วันนี้เธอทำให้ฉันเสียหน้า วันนั้นฉันต้องเอาคืนแน่ๆ
…………………….
ณ โรงเรียน เรื่องที่เกิดเมื่อกี้ก็ผ่านไปไวมาก การแสดงเริ่มขึ้นแล้ว
เจียงสื้อสื้อเลิกคิดเรื่องที่ไม่ดี แล้วก็นั่งดูการแสดงอย่างตั้งใจ รอขึ้นแสดง
สุดท้ายก็ถึงการแสดงของพวกเขา เขาสามคนเดินขึ้นเวทีไป คนข้างล่างก็เริ่มพูดกันใหญ่ เพราะว่าทั้งสามคนนั้นสะดุดตามาก เสี่ยวเป่าดูน่ารักสดใส
การแสดงเริ่มขึ้น…………จนมาถึงสุดท้ายของเรื่อง ความน่ารักของหนูน้อยหมวกแดงทำ
ให้หมาป่ากลายมาเป็นคนดี แล้วทั้งสามคนก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ถึงแม้ว่านิทานจะไม่ได้เล่นใหญ่เล่นโต แต่รอยยิ้มบนหน้าเสี่ยวเป่า ใบหน้าอันหล่อเหลาของจิ้นเฟิงเฉิน ภาพพวกนี้มันทำให้เจียงสื้อสื้อจำไม่ลืม
หลังจากที่การแสดงจบลง คุณครูก็มีกิจกรรมให้ผู้ปกครองกับเด็กๆ เข้าร่วมด้วยกัน
เล่นไปสักพัก ผู้อำนวยการก็ประกาศการแสดงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
“การแสดงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศก็คือ นิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดง ยินดีกับจิ้นเป่ยเฉินและผู้ปกครองด้วยนะครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้น เด็กๆ มองไปที่เสี่ยวเป่าด้วยความอิจฉา
เสี่ยวเป่าดีใจแล้วโดดลงมาจากเก้าอี้
“แดดดี้ หม่ามี๊ พวกเราได้ที่หนึ่งเย้”
เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว เสี่ยวเป่าของพวกเราเก่งที่สุดเลยค่ะ”
รางวัลที่คุณครูให้คือตุ๊กตาตัวใหญ่ ใหญ่กว่าเสี่ยวเป่าอีก เจ้าตัวน้อยชอบมาก