บทที่ 96 ทำลายมือตัวเองหนึ่งข้าง
หลังจากจิ้นเฟิงเฉินเดินออกจากห้องไป ก็เห็นจิ้นเฟิงเหรารออยู่ที่ระเบียงทางเดิน
“พี่ พี่สะใภ้เป็นอย่างไรบ้าง?”จิ้นเฟิงเหราเดินมาด้านหน้าพร้อมเอ่ยปากถาม
“ไม่เป็นอะไรแล้ว” เขามองไปที่จิ้นเฟิงเหราแล้วถามว่า : “เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้อย่างไร?”
ธรรมชาติของคำนี้ก็คือถามว่าเหตุใดเจียงสื้อสื้อจึงตกลงไปในทะเล
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินมืดมนลงเล็กน้อย จิ้นเฟิงเหราเล่าสิ่งที่ตนเองรู้ให้ฟังอย่างละเอียด
“เดิมทีฉันกำลังจะกลับไปที่ห้องพักเพื่อพักผ่อน ฉันได้ยินเสียงพี่สะใภ้ทันทีที่เดินไปถึงชั้นสองของดาดฟ้า เดินไปดูก็เห็นว่าเธอมีปากเสียงกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้น……ดูเหมือนว่าจะเจตนาก่อกวนเธอ พี่สะใภ้พูดว่าอย่ามาแตะต้องเธอ ผู้ชายคนนั้นยังได้คืบเอาศอก จากนั้นพี่สะใภ้ก็ต่อสู้ขัดขืน เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงไม่มั่นคงจึงตกลงไปในทะเล”
พอได้ยิน สีหน้าจิ้นเฟิงเฉินยิ่งเศร้าหมองลงไปอีก แท้จริงเป็นเช่นนี้ เขาก็บอกไปว่าเจียงสื้อสื้อตกลงไปในน้ำเพราะเหตุใด
เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น : “คนล่ะ?”
แม้คำจะดูสั้นๆง่ายๆ ก็ฟังออกว่าแฝงไปด้วยความโกรธมหาศาล จิ้นเฟิงเหราเข้าใจ ชายคนนี้โชคร้าย ก็จะต้องโทษตัวเขาเอง ก่อกวนใครไม่ว่า อยู่ๆไปก่อกวนพี่สะใภ้ของตน นี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอ?
“จับได้แล้ว อยู่ห้องข้างบนนะ! พี่คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ!”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็ตามจิ้นเฟิงเหรามาที่ห้องด้านบน
ในห้อง หลี่มู่ถูกบอดี้การ์ดสองคนเฝ้าดูอยู่ สีหน้าของเขาซีดเผือด มองเห็นได้อย่างเลือนราง ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
เวลานี้ ประตูห้องได้ถูกเปิดออก
จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามา กลิ่นอายความมืดครึ้มแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว เหมือนกับเป็นราชา ฉับพลัน ความรู้สึกบีบคั้นของพลังอำนาจก็แพร่กระจายไปทั่วห้อง.
น่ากลัว กระวนกระวายใจ ความรู้สึกผิดต่างๆท่วมท้นอยู่ในใจของหลี่มู่ เข่าคลานเข่าเข้าไปเหมือนกับหมา พยายามดึงฉุดรั้งขากางเกงจิ้นเฟิงเฉินไว้เพื่อขอให้ยกโทษให้ : “คุณจิ้น ขอร้องท่านให้ปล่อยฉันเถอะ! ฉันดื่มจนเมาเลยหน้ามืดไปชั่วขณะ จริงๆฉันจะทำกับเธออย่างนั้นได้อย่างไรกัน? ตัวเธอเองไม่ระวังจึงตกลงไปในน้ำ คุณจิ้น ท่านปล่อยฉันและครอบครัวฉันไปเถอะ!”
ตระกูลหลี่อยู่เมือง A แม้ว่าฐานะจะนับว่าไม่สูงศักดิ์นัก แต่ก็เป็นครอบครอบที่มีเงิน หากว่าจิ้นเฟิงเฉินจะไต่สวนเรื่องนี้จริงๆ วงศ์ตระกูลหลี่ต้องจบสิ้นลงอย่างแน่นอน
จิ้นเฟิงเฉินดึงขาของเขาออกไป เขาเหยียบลงบนมือของหลี่มู่ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “หน้ามืดหรอ? ฉันเห็นคุณก็สนุกอยู่ เธอบอกว่าอย่ามาแตะต้องเธอ คุณไม่ได้ยินหรอ?”
“ใช่! พี่สะใภ้ฉันต่อสู้อย่างนั้นคุณตาบอดหรอ! ไม่เห็นราวบันไดด้านหลังนั่นหรอ? ไม่รู้ว่าด้านล่างนั่นเป็นทะเลหรอ?”
ความเจ็บปวดจากหลังมือของตนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว สีหน้าของหลี่มู่บูดเบี้ยว แต่ทว่าไม่กล้าร้องออกมา ทำได้แค่อดทนแล้วพูดว่า : “คุณจิ้น คุณชายรอง ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
จิ้นเฟิงเฉินยกเท้าขึ้น แล้วถีบคนด้านข้างโดยตรง
“พูดซิ! คุณจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร?”
หลี่มู่กลิ้งอยู่บนพื้นสองรอบแล้วคลานกลับมา คุกเข่ายอมรับผิดไปทางจิ้นเฟิงเฉินอย่างไม่ขาด
คุณจิ้น ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอเพียงแต่ท่านปล่อยครอบครัวของฉันไป คุณจะตีฉันด่าฉัน ต้องการให้ฉันมอบอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนได้หมด ขอร้องท่านล่ะ”
ในใจของหลี่มู่เข้าใจ ว่าทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่พอใจ เวลานี้เป็นธรรมดาที่จะต้องให้เขาคลายความโกรธลง หากว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองก็ได้ แต่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถให้ไปพัวพันกับคนในครอบครัวตัวเองได้!
จิ้นเฟิงเฉินเม้มปาก พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า : “แลกได้ทุกสิ่งทุกอย่างงั้นหรอ?”
หลี่มู่พยักหน้า มองจิ้นเฟิงเฉินด้วยสีหน้าไม่สบายใจ จู่ๆเขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ หยุดไปชั่วขณะ แค่ได้ยินเสียงเบาๆของผู้ชายทอดออกมา
“งั้นทำลายมือตัวคุณเองหนึ่งข้าง แล้วฉันจะปล่อยคุณไป”
ทำลายมือตัวเองหนึ่งข้าง?
หลี่มู่ตกใจ ฉับพลันสีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนไป เข้ารู้ดีว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ล้อเล่น
“คุณ……คุณจิ้น” หลี่มู่กลืนน้ำลาย ในใจหวาดกลัวที่สุด
จิ้นเฟิงเหราก็พูดอยู่ข้างๆว่า : “ยังนิ่งทำอะไรอยู่ล่ะ? ลงมือเร็วเข้า หรือจะให้ฉันทำเอง เพื่อเตือนความจำให้คุณ จะได้รู้ว่าคนไหนควรก่อกวนคนไหนไม่ควรก่อกวน?”
พูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็เริ่มพับแขนเสื้อ ถ้าหากเขาลงมือทำ คาดว่าการทำลายมือหนึ่งข้างแบบนั้นมันช่างง่ายดาย
หลี่มู่กลัวจนหน้าซีดไปหมด เขาขอความเมตตาต่อ : “คุณจิ้น คุณชายรอง ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปหาคุณเจียง เป็นเพราะมีคนบอกฉันว่า เตรียมผู้หญิงไว้ให้ฉันหนึ่งคน อยู่บนดาดฟ้าชั้นสอง……ดังนั้นฉันจึงเข้าไปหาคุณเจียง คุณจิ้น ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ปล่อยฉันไปเถอะ!”
แท้ที่จริงซูซินหรุ่ยบอกแบบนี้กับหลี่มู่ เขามาถึงดาดฟ้าชั้นสองก็พบกับเจียงสื้อสื้อ
เพราะว่าตระกูลหลานกำลังโด่งดังขนาดนี้ ในงานเลี้ยงใครจะไม่รู้จักเจียงสื้อสื้อล่ะ! หลี่มู่ก็ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ซูซินหรุ่ยบอกจะเป็นเธอ เดิมทีเจียงสื้อสื้อก็รูปร่างหน้าตาสะสวย หลี่มู่คนนี้ธรรมดาก็มักมากในกาม บวกกับเวลานั้นดื่มเหล้าไปไม่น้อยอีก ดังนั้นเดิมทีก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้นก็เลย……
ตอนนี้คิดๆดู ในใจหลี่มู่เสียใจอย่างมาก
ทำลายแขน นั่นต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก!
ไม่มีมือแล้วเขาจะอยู่ในสังคมชั้นสูงนี้ได้อย่างไร คุณชายตระกูลหลี่ผู้สง่าผ่าเผยเขาไม่กลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนหรอ
สีหน้าจิ้นเฟิงเฉินเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที เขาถามอย่างโกรธๆว่า : “คือใคร?”
พวกเขาคิดว่าเดิมทีเรื่องนี้เป็นแค่อารมณ์ตัณหาของหลี่มู่เท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
แท้ที่จริงเป็นใคร? ที่ต้องการจะลงมือกับเจียงสื้อสื้อ
“ยังไม่รีบพูดอีก ถ้าไม่พูดอะไรอีกคุณก็รอคนมาเก็บศพคุณเถอะ!”
จากในใจของหลี่มู่ส่งไปที่ลำคอ เวลานี้ เขาไม่สามารถปกป้องผู้อื่นได้อีกต่อไป เขาจึงรีบตอบว่า : “คือซูซินหรุ่ย ทั้งหมดเป็นเธอที่บอกฉันให้ไปดาดฟ้าชั้นสอง คุณจิ้น หากว่าไม่ใช่เธอฉันก็ไม่สามารถไปหาคุณเจียงได้ คุณเจียงก็ไม่สามารถตกลงไปในน้ำ ทั้งหมดทั้งสิ้นเธอเป็นคนผิด ขอร้องท่านปล่อยฉันไปเถอะ!”
ซูซินหรุ่ย จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้จักว่าคนคนนี้คือใคร แต่รู้สึกว่าชื่อนี้ค่อนข้างคุ้นหู
จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้จักว่าคนคนนี้คือใคร ด้านของจิ้นเฟิงเหราทว่ารู้จัก เขาจึงพูดออกมาว่า : “พี่ เป็นลูกพี่ลูกน้องของซูชิงหยิง”
คาดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับคนตระกูลซู ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายแล้วสิ!
ได้ยินแล้ว ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินก็เยือกเย็นลง ออกคำสั่งกับลูกน้องว่า : “ให้คนมาหาฉัน”
……
เวลานี้ซูซินหรุ่ยกับซูชิงหยิงกำลังอยู่ในห้อง หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินช่วยพาเจียงสื้อสื้อกลับห้อง ในใจของพวกเธอก็กระวนกระวายอย่างมาก ถึงแม้ว่าคนจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่เรื่องนี้คนที่บงการก็คือซูซินหรุ่ย!
“พี่ ทำยังไงดี ฉันกลัวอ่ะ!”
จิ้นเฟิงเฉินต้องไม่ปล่อยหลี่มู่แน่ๆ เมื่อถึงเวลาหลี่มู่จะต้องรับสารภาพกับเขาอย่างแน่นอน
ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินกำลังหลงเจียงสื้อสื้อขนาดนั้น หากเขารู้ว่าคนที่บงการอยู่เบื้องหลังคือตน ต้องไม่ปล่อยเธอไว้อย่างแน่นอน
“กลัวตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ถ้าจิ้นเฟิงเฉินพบว่าเป็นคุณ จำสิ่งที่ฉันบอกกับคุณเมื่อกี้นี้ไว้ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นตระกูลซูของพวกเราอาจต้องประสบกับหายนะ”