ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 129 เบาะแสของเจียงสื้อสื้อ

บทที่ 129 เบาะแสของเจียงสื้อสื้อ

บทที่ 129 เบาะแสของเจียงสื้อสื้อ

ช่วงค่ำ หลังกินอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ทั้งสองตระกูลแยกย้ายกันตรงหน้าประตู มีเสียงหัวเราะแว่วมา เป็นภาพที่ช่างดูอบอุ่น เสมือนครอบครัวเดียวกัน

พ่อซูแม่ซูกับพ่อจิ้นแม่จิ้นกำลังคุยกัน

ซูชิงหยิงยิ้มบอกลากับจิ้นเฟิงเฉิน “ฉันไปก่อนนะคะ คุณกลับไปก็รีบพักผ่อนนะคะ เจอกันพรุ่งนี้”

ระหว่างพูด สายตาซูชิงหยิงเต็มไปด้วยความรักใคร่

“อืม” จิ้นเฟิงเฉินตอบเย็นชา

ในเวลาเดียวกัน สายตาหลายคู่กำลังมองพวกเขาอยู่ ก็คือคนตระกูลหลานและตระกูลเจียง

พวกเขาก็มากินข้าว แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอคนตระกูลจิ้น

เจียงเจิ้นถามอย่างสงสัย “จิ้นเฟิงเฉินคบกับเจียงสื้อสื้อไม่ใช่เหรอ? แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใคร?”

หลานซือเฉินมองคนที่อยู่ข้างนอกแล้วตอบว่า “เป็นคนตระกูลซู ตระกูลซูอยากให้คุณหนูซูแต่งงานกับจิ้นเฟิงเฉิน พ่อแม่ตระกูลจิ้นก็เหมือนอยากให้แต่งงาน”

ฉินซวนขมวดคิ้ว ในใจยังคิดแค้นเรื่องที่ถูกไล่ออกจากงานเลี้ยงครั้งก่อน

“แล้วจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อมันเรื่องอะไรกัน?”

ถ้าเขาไม่ชอบเจียงสื้อสื้อ ทำไมต้องปกป้องเธอขนาดนั้นในงานเลี้ยง พวกเขาต่างคิดว่า เจียงสื้อสื้อน่าจะคบอยู่กับจิ้นเฟิงเฉินตลอด จนจะแต่งเข้าตระกูลจิ้น

เห็นภาพแล้ว เจียงนวลนวลยิ้ม

“จริง ๆ แล้วเจียงสื้อสื้อก็ไม่ค่อยมีโอกาส ไม่ว่าจะฐานะทางครอบครัวหรือปัญหาของตัวเอง ก็สู้ซูชิงหยิงไม่ได้เลย วันนี้หนูกับซือเฉินยังเห็นจิ้นเฟิงเฉินกับซูชิงหยิงไปร่วมงานมหาลัยด้วยกันเลย ทั้งสองคนดูเข้ากันดี สำหรับเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้”

เจียงสื้อสื้ออาจจะแค่ถูกจิ้นเฟิงเฉินเลี้ยง เพราะฉะนั้นเขาถึงได้ห่วงเจียงสื้อสื้อแบบนี้

อีกอย่าง คุณชายลูกผู้ดีอย่างจิ้นเฟิงเฉิน จะให้เจียงสื้อสื้อแต่งงานกับตัวเองได้อย่างไร อีกอย่างเธอยังเคยสร้างเรื่องน่าอับอายในอดีตอีก

แค่คิด เจียงนวลนวลรู้สึกดีใจในความโชคร้ายของคนอื่น

แค่ได้เห็นเจียงสื้อสื้อโชคร้าย เธอก็รู้สึกดีใจ

ฉินซวนกับหลานเป่ยชวนก็ยิ้มตาม ทุกคนคิดในใจ รอวันที่เจียงสื้อสื้อถูกทิ้ง ต้องเอาคืนสิ่งที่พวกเขาถูกเหยียดหยามในช่วงเวลาที่ผ่านมา

……

อีกฝั่ง หลังจากแยกย้ายกับตระกูลซูแล้ว ระหว่างทางกลับบ้าน แม่จิ้นก็พูดขึ้น “เฟิงเฉิน ชิงหยิงมีอะไรไม่มี จนทุกวันนี้เธอยังไม่เคยมีแฟนสักคนเลย ลูกสองคนโตมาด้วยกัน รู้ใจกัน อยู่ด้วยกันก็เหมาะสมกันดีแล้วนี่ ลูกปฏิเสธแบบนี้ ไม่ไว้หน้าคุณลุงคุณป้าเขาเลยเหรอ?”

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว

“แม่ ผมเคยบอกแล้ว ผมไม่ชอบซูชิงหยิง แต่พ่อกับแม่ก็ยังจะพูดเรื่องนี้อีก”

พ่อจิ้นแม่จิ้นพูดอะไรไม่ออก ครุ่นคิดไปสักพักแล้วพูด “ลูกก็อายุไม่น้อยแล้วนะ อยากจะอยู่โสดแบบนี้ไปตลอดชีวิตรึไง?”

“ผมจัดการเองได้ครับ พ่อกับแม่ไม่ต้องกังวล”

พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ขับรถออกไป เมื่อรถมาถึงบ้านตระกูลจิ้น ส่งพ่อแม่มาถึงหน้าบ้าน เสี่ยวเป่าที่ยังไม่นอนก็วิ่งออกมา

“แดดดี้”

จิ้นเฟิงเฉินอุ้มลูกขึ้นมา เจ้าตัวเล็กนี้วิ่งมาแบบนี้ ต้องมีอะไรอยากขอกับเขาแน่นอน นั่นไง เจ้าตัวเล็กพูดขึ้น “แดดดี้ จะพาผมไปหาน้าสื้อสื้อเมื่อไหร่ครับ ผมไม่ได้เห็นเขาหลายวันแล้ว น้าเขายังโกรธเสี่ยวเป่าอยู่หรือครับ”

“ไม่ใช่ น้าสื้อสื้อไม่ได้โกรธหนู ช่วงนี้เขายุ่งอยู่ รอสองสามวันเดี๋ยวพ่อพาหนูไปหาน้านะครับ”

ได้ยินแบบนี้ เสี่ยวเป่าก็ไม่กล้าเชื่อ

“แดดดี้พูดเองนะ ถ้าอีกสองสามวันไม่พาเสี่ยวเป่าไปหาน้าสื้อสื้อ เสี่ยวเป่าจะไม่สนแดดดี้แล้ว”

จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะ ไม่เจอกันตั้งหลายวัน ก็ไม่เห็นเสี่ยวเป่าจะคิดถึงเขาเลย ถามหาแต่น้าสื้อสื้อ ยังเป็นลูกชายแท้ๆของเขารึเปล่าเนี่ย?

แม่จิ้นที่อยู่ข้างๆไม่อยากฟังต่อ เธออุ้มเสี่ยวเป่าไว้ในอก “ไม่ได้ ๆ นี่ก็ดึกแล้ว หลานรัก ได้เวลานอนแล้วนะ แดดดี้หนูเขาก็จะกลับไปแล้ว”

เสี่ยวเป่าพยักหน้า บอกลาจิ้นเฟิงเฉินแล้วก็ถูกแม่จิ้นอุ้มเข้าไปในบ้าน

คนเป็นแม่ย่อมรู้ แม่จิ้นรู้ดีว่าที่จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธแต่งงานกับซูชิงหยิงก็เพราะเจียงสื้อสื้อ หลานก็เหมือนกันเรียกหาแต่เจียงสื้อสื้อ

คิดแล้วแม่จิ้นก็ได้แต่ถอนหายใจ

เมื่อกลับถึงบ้าน จิ้นเฟิงเฉินก็เรียกเลขามาพบ

“ตรวจสอบได้อะไรบ้าง ช่วงนี้เจียงสื้อสื้อไปไหนมาไหนบ้าง?”

เลขาสีหน้าครุ่นคิด ไม่รู้จะเริ่มยังไง

เห็นแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็เปิดปากถาม “มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”

“ท่านประธาน ผมตรวจสอบแล้ว ช่วงนี้คุณเจียงก็ไม่ได้เจอคนแปลกหน้าหรือเรื่องอะไร แต่หลังวันเกิดคุณชายน้อยแล้ว วันถัดไป คุณผู้หญิงก็ไปหาคุณเจียง แต่ไม่รู้เขาสองคนคุยอะไรกันบ้าง”

วันที่สองหลังวันเกิดเสียวเป่า พอดีกับวันและเวลาที่เจียงสื้อสื้อหลบหน้าเขา จิ้นเฟิงเฉินเข้าใจแล้ว

มิน่า ครั้งก่อนที่บ้านเจียงสื้อสื้อถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนั้น ที่แท้เพราะไปเจอแม่ของเขามานั่นเอง

ไม่ต้องเดา เขาก็รู้ว่าแม่พูดอะไรกับเจียงสื้อสื้อ

แม่เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็นิ่งดูดายไม่ได้ เขาต้องแก้ปัญหา ไม่อย่างนั้นเจียงสื้อสื้อก็ไม่มีวันอยู่กับเขาได้

และวิธีที่จะแก้ปัญหานี้ ดูท่าแล้วต้องพึ่งเสี่ยวเป่าแล้ว……

……

อีกฝั่งหนึ่ง เจียงสื้อสื้อกลับถึงบ้านแล้ว รู้สึกสับสนในใจอย่างมาก

เธอแต่งงานกับจิ้นเฟิงเฉินทั้งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เธอนึกไม่ถึงเลย ว่าหนังสือยกเลิกสัญญาฉบับหนึ่งจะเป็นสัญญาแต่งงานได้

เจียงสื้อสื้อเสียใจมาก รู้อย่างนี้ตอนแรกก็อ่านเอกสารให้ดีก่อนเซ็นชื่อแล้ว

ทำยังไงดีหล่ะทีนี้? กลับใจ? แต่จะไปเอาเงินละเมิดสัญญาที่ไหนตั้งเยอะแยะ ตั้งห้าสิบล้าน

เจียงสื้อสื้อด่าจิ้นเฟิงเฉินในใจ จะหลอกแต่งงานก็ไม่ใช่หลอกกันแบบนี้

ในใจสับสนวุ่นวายไปหมดล้มนอนลงบนเตียงค่อยๆหลับไป พอตื่นมา เจียงสื้อสื้อเห็นมือถือมีสายที่ลู่เจิงโทรมาแต่ไม่ได้รับ

เธอตบหัว แย่แล้ว เธอลืมรุ่นพี่ไปเลย เจียงสื้อสื้อโทรกลับ

โทรศัพท์ถูกรับขึ้น เธอรีบขอโทษทันที “รุ่นพี่ ขอโทษนะคะ ตอนเที่ยงบริษัทมีธุระด่วนเลยไม่ทันได้บอกพี่ ยุ่งจนตอนนี้เพิ่งนึกขึ้นได้เลยโทรหาพี่ค่ะ”

นอนไปครึ่งวัน ตอนพูดเจียงสื้อสื้อพูดไปก็รู้สึกผิดในใจ

ลู่เจิงไม่ได้โกรธ ถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ไม่ต้องขอโทษ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ ขอโทษจริง ๆ นะคะ ไว้มีโอกาสขอเลี้ยงข้าวนะคะ”

ลู่เจิงยิ้ม “ได้ ครั้งนี้ห้ามลืมนะ”

“ค่ะ”

ทั้งสองคุยกันอีกสองสามประโยชน์ ก็วางสายไป

เจียงสื้อสื้อตื่นมากินข้าว คิดถึงว่าตัวเองกับจิ้นเฟิงเฉินแต่งงานกันแล้ว ใจเธอก็ยังรู้สึกสับสนวุ่นวาย สับสนจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ……

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท