บทที่ 156 แผนลับในใจ
คำพูดเหยียดหยามพรั่งพรูออกมาจากปากคนตรงหน้า แววตาเจียงสื้อสื้อหม่นแสงลง เธอรู้ว่าตอนนี้หันจิ้งคงจะรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะยอมให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ
เจียงสื้อสื้อยกยิ้มเย็น ก่อนจะเอ่ยปากว่า:”แล้วใครเป็นคนกำหนดล่ะว่าถ้าโปรเจกต์จบลงแล้วจะไปไหนมาไหนกับลูกค้าไม่ได้? หันจิ้ง ที่ฉันทำได้เพราะฉันพึ่งความสามารถตัวเองล้วนๆ แค่ตัวเองไม่มีปัญญาก็เกินพอแล้ว ยังจะรำไม่ดีโทษปี่โทษกลองอีก”
พูดเสร็จเจียงสื้อสื้อก็ไม่รอให้อีกฝ่ายประเคนเอกสารข้อมูลให้อีก เธอไปขอแบบแพลนคร่าวๆกับซูซานเองทีเดียว จากนั้นก็กลับมานั่งทำงานตรงที่ของตัวเองต่อ
คนอื่นๆเองก็คิดว่าหันจิ้งใช้อารมณ์ตัดสินมากไปหน่อย เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นเพราะอิจฉาเจียงสื้อสื้อแน่ๆ ซ้ำยังไม่มีใครเข้าข้างอีก หันจิ้งจึงทำได้เพียงสงบปากสงบคำและนั่งลงอย่างแค้นเคืองใจ
เธอขบกัดฟันไว้แน่น คนรับผิดชอบของ SR กรุ๊ปคนนี้ไกล่เกลี่ยยากมาก เธอไม่เชื่อหรอกว่ายัยเจียงสื้อสื้อนั่นจะทำได้ คอยดูเถอะ ถึงตอนนั้นแล้วเธอจะหัวเราะเยาะยัยนั่นให้ฟันร่วงไปเลย
…….
ตอนเย็นหลังเลิกงานเจียงสื้อสื้อก็ให้พ่อบ้านมาส่งเสี่ยวเป่าที่บริษัททีเดียว เมื่อเสี่ยวเป่ามาถึงแล้วเธอก็พาเด็กน้อยไปที่จิ้นซื่อกรุ๊ปต่อ
พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ฉะนั้นก็ปล่อยเสี่ยวเป่าอยู่ที่เธอคนเดียวไม่ได้
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินรู้ว่าเจียงสื้อสื้อกำลังจะมา เขาก็ให้ผู้ช่วยตัวเองลงไปรับเธอและเสี่ยวเป่าขึ้นมาทันที เจียงสื้อสื้อจูงมือเสี่ยวเป่าเดินตามหลังผู้ช่วยและขึ้นลิฟต์ส่วนตัวไปยังชั้นบน
……
หน้าห้องทำงานของจิ้นเฟิงเฉินเป็นที่ทำงานของเลขาพอดี จากที่ไม่ไกลนัก แววตาของซูชิงหยิงหม่นแสงลงทันทีเมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฎตัสขึ้นตรงหน้าลิฟต์
เจียงสื้อสื้อ ผู้หญิงคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?
เห็นเสี่ยวเป่าที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของเจียงสื้อสื้อ และภาพที่ทั้งคู่กำลังหัวเราะพูดคุยกัน ถ้าคนไม่รู้มาเห็นก็คงจะคิดว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกันแน่ๆ แววตาของซูชิงหยิงพลันเผยแววเยือกเย็น
นังแพศยานี่จะมาอ่อยจิ้นเฟิงเฉินอีกแล้วสินะ ทำไมเสี่ยวเป่าถึงได้ดูชอบมันนัก? และที่สำคัญคือทำไมมันถึงขึ้นลิฟต์ส่วนตัวขึ้นมาเหยียบที่นี่ได้? ยัยผู้หญิงนี่มันสิทธิ์อะไรกัน ซูชิงหยิงกำปากกาในมือไว้แน่น เธอรู้สึกอิจฉาริษยาจนแทบคลั่ง
เธอมองเจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปในห้องทำงานของจิ้นเฟิงเฉิน ส่วนตัวเองก็ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ข้างนอกอย่างเจ็บใจ
…….
เมื่อเจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่ามาถึง จิ้นเฟิงเฉินก็วางแฟ้มงานในมือลง พลันสั่งให้ผู้ช่วยเอากาแฟมาให้ ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า:”ทำไมอยู่ๆถึงมาได้?”
จิ้นเฟิงเฉินรู้ดี ว่าถ้าไม่ใช่เพราะมีเรื่องอะไร เจียงสื้อสื้อก็ไม่มีทางมาหาเขาถึงที่นี่
เจียงสื้อสื้อมองเสี่ยวเป่าพลางตอบว่า:”พรุ่งนี้ฉันต้องออกเดินทางไปที่นิวยอร์กน่ะ ก็เลยดูแลเสี่ยวเป่าไม่ได้”
สิ้นเสียง ยังไม่ทันรอให้จิ้นเฟิงเฉินได้พูดอะไร เสี่ยวเป่าก็เอ่ยน้ำเสียงอาลัยอาวรณ์ว่า:”อ้าว? คุณน้าสื้อสื้อจะไปต่างประเทศเหรอครับ? แล้วจะไปกี่วันเหรอครับ?”
เสี่ยวเป่าคิดว่าตัวเองจะได้อยู่กับเจียงสื้อสื้อนานกว่านี้ซะอีก คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเดินทางไปต่างประเทศซะงั้น…..ฮือ เสียใจจนอยากจะร้องไห้
เจียงสื้อสื้อลูบหัวทุยของเสี่ยวเป่าพลันเอ่ยว่า:”น้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ต้องรอให้เรื่องทางนั้นจัดการเสร็จก่อนถึงจะกลับมาได้ แต่น้าจะรีบกลับมานะ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างว่าง่าย แต่ใบหน้าเล็กกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
จิ้นเฟิงเฉินเข้าใจ ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า:”ทำไมถึงได้กะทันหันแบบนี้?”
“บริษัทเพิ่งตัดสินใจเองน่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบ
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า พลันเอ่ยถามต่อว่า:”กินข้าวหรือยัง? ไปกินด้วยกันไหม?”
ทันใดนั้นซูชิงหยิงก็ถือแก้วกาแฟเข้ามาพอดี
ทันที่ที่เห็นเธอ นัยน์ตาของเจียงสื้อสื้อก็เผยแววสั่นไหวเล็กน้อย คำพูดที่ได้ยินที่โรงพยาบาลเมื่อครั้งก่อนผุดขึ้นมาในหัว ก่อนจะเอ่ยตอบว่า:”ไม่ล่ะ พอดีฉันยังต้องรีบกลับไปเก็บของจัดกระเป๋าน่ะ”
พูดเสร็จเจียงสื้อสื้อก็กล่าวลาขอตัวกลับ ฝีเท้าดูเร่งรีบเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าเธอไปแล้ว ซูชิงหยิงก็ลอบเหยียดยิ้มเล็กน้อย แต่เพียงชั่วครู่ก็เอ่ยขึ้นต่อว่า:”คุณเจียงเธอดูรีบๆนะ กาแฟก็ยังไม่ทันได้จิบเลย”
ซูชิงหยิงวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ สายตาที่ทอดมองไปยังแผ่นหลังของเจียงสื้อสื้อพลันฉายแววเยือกเย็น คิดไม่ถึงเลยว่าจิ้นเฟิงเฉินจะชวนผู้หญิงคนนั้นไปกินข้าวด้วย แต่ยังดีที่ยัยเจียงสื้อสื้อนั่นยังรู้จักเจียมตัว พาตัวเองกลับไปก่อน
จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบพลางขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ซูชิงหยิงอยากชวนเขากับเสี่ยวเป่าไปกินข้าวด้วยกัน แต่คิดๆดูแล้วก็คงไม่พ้นถูกปฏิเสธแน่ๆ เธอก็เลยตัดสินใจไม่ชวนแล้วเดินออกไปจากห้อง
เสี่ยวเป่าที่นั่งอยู่บนโซฟาจ้องมองแด็ดดี้ตัวเองก่อนจะเอ่ยปากถามว่า:”แด็ดดี้ แด็ดดี้ไปทำอะไรให้คุณน้าสื้อสื้อโกรธอีกหรือเปล่าครับ?”
ไม่ว่าจะจิ้นเฟิงเฉินหรือเสี่ยวเป่า พวกเขาต่างก็ดูออกว่าเจียงสื้อสื้อหนีเขาอีกแล้ว จิ้นเฟิงเฉินไม่เข้าใจ ทำไมกัน? ทั้งๆที่เขาก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ครั้งนี้เป็นเพราะอะไรกันอีกล่ะ?
เสี่ยวเป่าถอนหายใจ ทั้งๆที่เป็นเพราะแด็ดดี้เขาเองแท้ๆ กลับพลอยทำให้เขาไม่ได้กินข้าวกับคุณน้าสื้อสื้อไปด้วย
เห้อ รู้แบบนี้น่าจะกินข้าวก่อนมาที่นี่ก็ดี คราวนี้แยกกันแล้วก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงจะได้เจอกับคุณน้าสื้อสื้อ
“แด็ดดี้ งั้นผมขอไปนิวยอร์กกับคุณน้าสื้อสื้อด้วยนะครับ! ถ้าเสี่ยวเป่าไปด้วย ระหว่างทางผมก็จะได้ดูแลคุณน้า คอยกันไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณน้าไปจากแด็ดดี้ด้วยเลยไง แด็ดดี้คิดว่าไงบ้าง?” เสี่ยวเป่าถามด้วยแววตาคาดหวัง
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมองลูกชายตัวเองอย่างหมดคำพูด ก่อนจะเอ่ยตอบว่า:”อย่างแกเนี่ยนะจะดูแลเขาได้? แน่ใจนะว่าไม่ได้ไปเพิ่มภาระให้เขา?”
“เสี่ยวเป่าจะไปเพิ่มภาระให้คุณน้าได้ยังไงล่ะครับ เสี่ยวเป่าจะดูแลตัวเองให้ดี และดูแลคุณน้าด้วย แด็ดดี้ ได้ยินมาว่าที่เมืองนอกมีคนหล่อเยอะแยะเลยนะครับ แด็ดดี้ไม่กลัวเหรอว่าคุณน้าอาจจะไปชอบคนอื่น แล้วถึงเวลาถ้าคุณน้าไม่กลับมาแด็ดดี้จะทำยังไง?” เสี่ยวเป่าเอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง
“ไม่มีทาง”
เจียงสื้อสื้อแค่ไปทำงานจะไม่กลับมาได้ยังไง แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ในใจจิ้นเฟิงเฉินก็ยังกังวลอยู่ดีว่าเจียงสื้อสื้อไปเมืองนอกจะดูแลตัวเองได้หรือเปล่า แน่นอนว่าที่คิดไม่ตกที่สุดเลยก็คือทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงหลบหน้าเขาอีกแล้ว?
เสี่ยวเป่าก็ยังคงไม่ยอมแพ้ หรือเขาจะแอบจองตั๋วเครื่องบินตามคุณน้าสื้อสื้อไปเองดี ถ้าตัวเองขึ้นเครื่องแล้วคุณน้าก็คงไม่มีทางปล่อยเขาทิ้งไว้คนเดียวหรอก
จิ้นเฟิงเฉินรู้ทันความคิดของลูกชาย พลันเอ่ยปากเตือนว่า:”คุณน้าแกเขาไปทำงาน อย่าคิดไปรบกวนเขาเด็ดขาด”
“อ้อ…..เข้าใจแล้ว”
เสี่ยวเป่าพยักหน้า นั่นสินะ! จะไปรบกวนคุณน้าสื้อสื้อทำงานไม่ได้เด็ดขาด ท้ายที่สุดเด็กน้อยก็ล้มเลิกความคิดที่จะตามไป
สองพ่อลูกต่างก็มีแผนลับของตัวเองอยู่ในใจ
……..
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่เจียงสื้อสื้อกลับมาแล้ว หัวสมองเธอก็พันกันยุ่งเหยิงไปหมด
ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินกับเสี่ยวเป่าจะกำลังกินข้าวกับซูชิงหยิงอยู่หรือเปล่านะ? พวกเขาจะเป็นเหมือนครอบเดียวกันหรือเปล่า…….
ก็ไม่รู้ว้าเพราะอะไร ทีแรกเจียงสื้อสื้อก็กะว่าจะตอบตกลงรับคำชวน เพราะก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าตัวเองจะต้องไปนานเท่าไหร่ ทว่าพอเห็นซูชิงหยิงเดินเข้ามา เดาว่าเธอก็คงน่าจะไปกินด้วย…..คิดได้ดังนั้นเจียงสื้อสื้อก็ปฏิเสธไปทันที
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เจียงสื้อสื้อพยายามสลัดความคิดแย่ๆในหัวสมองทิ้ง ก่อนจะลงมือเก็บของจัดกระเป๋า
เมื่อจัดทุกอย่างเสร็จเธอก็หาอะไรกินง่ายๆ จากนั้นก็อาบน้ำแล้วเข้านอนทันที