บทที่ 168 คุณตกลงรึยัง
นี่คือความคิดในใจของเจียงสื้อสื้อจริงๆ เธอรู้สึกว่าลู่เจิงยอดเยี่ยมมาโดยตลอด เขาสร้างบริษัทขึ้นมาเอง ผู้ชายที่อบอุ่นและหล่อเหลาขนาดนี้น่าจะเจอผู้หญิงที่ดีกว่า
ลู่เจิงลูบหัวเธอยิ้มและพูดว่า “เด็กโง่ พูดเหลวไหลอะไรน่ะ! เธอเองก็เหนื่อยแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ!”
ทำไมลู่เจิงจะฟังความหมายคำพูดของเจียงสื้อสื้อไม่ออก แต่ว่าถึงแม้จะมีความหวังเพียงน้อยนิด เขาก็ไม่อยากยอมแพ้
“ค่ะ รุ่นพี่ก็เหมือนกัน รีบกลับไปพักผ่อนนะคะ”
ลู่เจิงพยักหน้ารับ ต่อมาเจียงสื้อสื้อก็ออกจากที่เดิมและเดินไปทางโรงแรม
มองเงาของสาวน้อย สีหน้าของลู่เจิงก็สับสน เจอกันมาตั้งนาน อย่างน้อยเขาก็พอรู้เรื่องของเจียงสื้อสื้อ
เลิกกับหลานซื้อฉิน ถูกตระกูลเจียงไล่ออกมา ดูแลแม่ที่ป่วยหนักเพียงคนเดียว……ไม่กี่ปีนี้ เธอผ่านไปไม่ได้มีความสุขเหมือนที่ตัวเองคิดเอาไว้ ตรงกันข้ามมันกลับลำบากมากกว่า
ลู่เจิงคิดในใจ ถ้าหากเขากลับมาเร็วกว่านี้ อยู่เป็นเพื่อนเธอตอนที่เธอต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ตอนนี้น่าจะพัฒนาไปไม่เหมือนตอนนี้
ดังนั้นวันนี้ถูกปฏิเสธ แต่ว่าในใจของลู่เจิงก็ยังคงไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งเงาของเจียงสื้อสื้อหายไป ลู่เจิงถึงขึ้นรถและขับรถออกจากประตูโรงแรมไป
ทั้งสองคนไม่รู้สึกเลยว่า หน้าต่างของโรงแรมมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองทั้งคู่อยู่ หลังจากที่ลู่เจิงออกไป สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินยังคงลุ่มลึก
เขารู้ว่าเจียงสื้อสื้อจะไม่ตอบรับคำของลู่เจิง แต่ว่าในใจก็ยังไม่สบายใจ เขาไม่สบายใจที่สื้อสื้อมีรุ่นพี่แบบนี้ ทั้งสองคนรู้จักกันมานาน ลู่เจิงยังชอบเธออีก วันนี้ยังสารภาพรักกับเจียงสื้อสื้อต่อหน้าเขา
จิ้นเฟิงเฉินหึงหวง เจียงสื้อสื้อคือคนของเขา
……
ขึ้นลิฟต์มา ในหัวของเจียงสื้อสื้อยังคงสับสนวุ่นวาย ถึงแม้ลู่เจิงไม่อยากให้เธอรู้สึกลำบากใจ แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไงกัน!
เธอรู้นิสัยของลู่เจิงดี ผู้ชายคนนี้คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เจียงสื้อสื้อไม่รู้เลยว่าเมื่อก่อนเธอรับมือกับรุ่นพี่ยังไง
ลิฟต์มาถึงบนตึก ตอนที่เดินผ่านห้องของจิ้นเฟิงเฉิน ก้าวของเจียงสื้อสื้อก็หยุดลง
เรื่องคืนนี้มันอึดอัดจนเกินไป ลู่เจิงสารภาพรักกับเธอ แถมยังพูดต่อหน้าจิ้นเฟิงเฉินอีก ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจผิดอะไรไหม……..
เจียงสื้อสื้อลดสายตาต่ำลง ตอนที่เธอออกมาจิ้นเฟิงเฉินและซูชิงหยิงก็ออกจากร้านอาหารไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาและซูชิงหยิงจะไปไหนกันหรือว่ากลับโรงแรมนะ
เจียงสื้อสื้อด่าตัวเองเงียบๆ ที่คิดเรื่องอึดอัดแบบนี้ เธอและรุ่นพี่ไม่มีความเป็นไปได้เลย เธอและจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่มีความเป็นไปได้ใดๆ
เธอไม่อยากให้คนอื่นมีความหวังและไม่ควรให้ตัวเองมีความหวังใดๆ ไว้เช่นกัน
คิดไป เจียงสื้อสื้อเตรียมจะกลับห้อง แต่ใครจะรู้ ประตูห้องที่อยู่ด้านหน้ากลับเปิดออก จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ด้านใน เจียงสื้อสื้อยังไม่ได้สติกลับมา ก็ถูกดึงเข้าไปด้านใน และประตูห้องก็ถูกปิดลง
ในห้องไม่ได้เปิดไฟ มองอยู่ในความมืด เจียงสื้อสื้อถูกกดอยู่ตรงประตู เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร จิ้นเฟิงเฉินก็ประทับริมฝีปากลงที่ปากเธอ
เจียงสื้อสื้อเบิกตาโพลง ลมหายใจของผู้ชายคนนี้ออกมาจากใบหน้า ริมฝีปากและฟันบดขยี้ลงไป เขากระหน่ำลงไปเหมือนลมพายุ ความหมายเหมือนกับกำลังลงโทษอย่างนั้น
“เอ่อ……”
เขาเหมือนกับสูบบุหรี่มา เจียงสื้อสื้อรู้สึกถึงกลิ่นบุหรี่จางๆ ทั้งร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของผู้ชายเอาแต่ใจ ไม่นานร่างกายของเจียงสื้อสื้อก็อ่อนปวกเปียก
และไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน จิ้นเฟิงเฉินถึงค่อยๆ หยุดรอยจูบลง แต่ว่ามือยังคงโอบเอวของเจียงสื้อสื้ออยู่ ผู้ชายคนนี้ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูด “ตอบตกลงลู่เจิงรึยัง? ”
เจียงสื้อสื้ออยากจะผลักเขาออก ลมหายใจของผู้ชายตรงหน้าก็รุนแรงยิ่งใหญ่ รุนแรงจนทำให้คนอื่นหายใจลำบาก หัวใจเต้นแรงกว่าเดิม
“คุณปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ!”
จิ้นเฟิงเฉินเข้าใกล้ และไม่ปล่อยเจียงสื้อสื้อ แถมยังพูดต่อว่า “ตอบคำถามของผมมาก่อน ตอบตกลงลู่เจิงไปรึยัง? ”
ถึงแม้ไม่ได้เปิดไฟ แต่เจียงสื้อสื้อรู้สึกได้ว่าดวงตาคู่นี้ของผู้ชายคนนี้ได้จ้องเธออยู่ เหมือนกับว่าถ้าเธอไม่ตอบก็จะประทับรอยจูบลงมาอีก
เจียงสื้อสื้อตกใจ และรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ค่ะ………ฉันไม่ได้ตกลง”
เธอไม่ได้ชอบลู่เจิง จะตอบตกลงทำไม
ถึงแม้จะรู้ว่าคำตอบเป็นแบบนี้ แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินกลับมีความสุขออกมาผ่านดวงตาของเขา
“จริงไหม?”
“จริงค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้ารับ
“ทำไมไม่ตกลง?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้” ความรู้สึกผิดประกายผ่านดวงตาของเจียงสื้อสื้อ ถ้าหากตอนนี้เปิดไฟล่ะก็ จะเห็นได้ว่าสีหน้าของเธอลุกลี้ลุกลน
มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินมีรอยยิ้มเล็กๆ พูดต่อว่า “เพราะไม่อยามีความรักจริงๆ หรือว่ามีอย่างอื่นอยู่ในใจ? ”
พันธนาการนี้หมายความว่ายังไงทั้งสองคนรู้อยู่แก่ใจ หัวใจของเจียงสื้อสื้อแทบจะพุ่งออกมา แต่ว่ายังคงพูดอย่างปากแข็งว่า “คุณพูดอะไร? ฉันมีพันธนาการที่ไหนกัน”
“จริงเหรอ? ” ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินเปล่งประกายของรอยยิ้ม และกระซิบข้างหูเธอ
เจียงสื้อสื้อหน้าแดง แต่ยังแสร้งใจเย็นและพูดว่า “จริง……จริงค่ะ”
“คุณเป็นคนไม่ซื่อสัตย์เลยจริงๆ ” จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม และปล่อยเจียงสื้อสื้อออก ใช้จูบที่ดุเดือดและพูดว่า “ไม่ได้ตอบตกลงก็ดีแล้ว คุณเป็นของผม ถ้าหากกล้าไปตอบตกลงกับคนอื่น……”
คำหลังจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พูดออกมา เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าผลลัพธ์คงจะรุนแรงมาก แต่ว่าพอคิดกลับไปถึงประโยคคุณเป็นของผมเมื่อกี้นี้ หัวใจของเธอก็เหมือนโดนอะไรพุ่งชย สีหน้าเปลี่ยนเป็นลุกลี้ลุกลน
เจียงสื้อสื้อรีบพูดขึ้นว่า “เวลาก็ดึกมาแล้ว ฉันกลับไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
ตอนที่กำลังคิดจะออกไป จิ้นเฟิงเฉินก็ดึงข้อมือของเธอเอาไว้
“รอก่อน ผมมีของจะให้คุณ”
เจียงสื้อสื้อสงสัย เห็นจิ้นเฟิงเฉินเปิดไฟ ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอากล่องกำมะหยี่มาจากที่ไหน ข้างในมีเข็มกลัดอยู่ ซึ่งมันสวยมากงาม
“วันนี้ตอนออกไปด้านนอกเห็นเข้า มันเข้ากับคุณมากๆ ก็เลยซื้อมา” จิ้นเฟิงเฉินพูดออกมา
เข็มกลัดนี้ดูเหมือนจะเข้ากับเธอมากๆ แต่ว่าเจียงสื้อสื้อแค่มองก็รู้แล้วว่าราคาต้องสูงมาก ดังนั้นจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
รู้ว่าเธอคงปฏิเสธ ดังนั้นจิ้นเฟิงเฉินจึงพูดว่า “ถือว่าเป็นมารยาทแล้วกัน! คุณซื้อของให้เสี่ยวเป่าเป็นกอง ไม่ใช่เหรอ? ”
“คุณรู้ได้ยังไงคะ? ” เจียงสื้อสื้อถามอย่างสงสัย
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “หุ่นยนต์พวกนั้น คุณคงไม่ได้เอาไปเล่นเองหรอกมั้ง? ”
เจียงสื้อสื้อไม่มีทางเลือกทำได้แค่ฟังคำเขา รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบอีกแล้ว และได้ยินจิ้นเฟิงเฉินถามต่อว่า “คิดว่าจะกลับประเทศตอนไหน? ”
“เรื่องของโครงการก็ทำสำเร็จแล้ว ผู้จัดการให้ลาหยุดสองวัน พรุ่งนี้เดินเล่นอีกหนึ่งวัน วันมะรืนคงกลับค่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบ
ยังไม่ได้สติกลับมา ก็ได้ยินจิ้นเฟิงเฉินหยิบเสื้อคลุมกุญแจรถและพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมจะพาคุณไปเที่ยวเล่น”
หลังจากพูดจบ ก็ดึงเจียงสื้อสื้อออกจากประตู
เจียงสื้อสื้ออยากปฏิเสธ ตอนนี้จะออกไปเที่ยวที่ไหนกันคะ?