บทที่ 217 คุณคือหม่ามี๊ของฉัน
หลังจากวางสาย จิ้นเฟิงเหราสีหน้าว้าวุ่น ในที่สุดก็เอ่ยปากว่า : “พี่ ซูซานบอกว่า ส่วนตัวช่วงนี้พี่สะใภ้ไม่มีโครงการ ว่างทุกวัน นี่ชัดเจนว่าเธอพูดโกหก!”
พอได้ยิน จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามีเวลา แต่ทว่าปฏิเสธตนด้วยเหตุผลว่างานยุ่ง นี่เห็นได้ชัดว่าหลบซ่อนตนอยู่ จริงๆเขาคาดการณ์ได้อย่างถูกต้อง
“พี่ ต้องไปตรวจสอบหน่อยไหม? อย่างนี้อาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพี่สะใภ้กะทันหันหรือเปล่า?”
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ หากไม่ตรวจสอบ ดูท่าตัวเจียงสื้อสื้อเองจะไม่สามารถบอกเหตุผลกับเขา
จิ้นเฟิงเหรารับคำ จากนั้นก็ออกจากห้องทำงานไป รีบส่งคนไปตรวจสอบที่อยู่ของเจียงสื้อสื้อในช่วงนี้
เวลาสี่ทุ่มกว่า จิ้นเฟิงเฉินยังยุ่งอยู่กับงาน เขาอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดเล็กน้อย เป็นเพราะเหตุใด ทำให้เจียงสื้อสื้อหลบซ่อนตนอีกครั้ง?
จิ้นเฟิงเฉินจุดบุหรี่หนึ่งมวน หมกมุ่นครุ่นคิด แต่ทว่าอย่างไรก็คิดไม่ออก
……
แต่ทางด้านนี้ ภายในห้องส่วนตัวที่บาร์เหล้า ซูชิงหยิงกับมู่จิ่งเซินกำลังถือแก้วไวน์เฉิมฉลองกันอยู่
“ได้ยินมาว่าเจียงสื้อสื้อย้ายออกมาจากบ้านเฟิงเฉินแล้ว หลายวันมานี้ก็หลบซ่อนเขา แผนของพวกเราเป็นไปได้ด้วยดี ขอบคุณคุณมาก”
ซูชิงหยิงยิ้มเล็กน้อย เดิมทีก็หมดอาลัยตายอยากอยู่หลายวัน นี่สามารถทำให้สภาพจิตใจดีขึ้นจนยากเกินจะบรรยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รู้ว่าเจียงสื้อสื้อย้ายออกจากบ้านของจิ้นเฟิงเฉิน
เธอเคยพูดว่า เจียงสื้อสื้อไม่สามารถอยู่กับจิ้นเฟิงเฉินด้วยกันได้ตลอดไป มีเรื่องนั้นอยู่ เธอก็มีโอกาสชนะแน่นอน ตนก็จะแย่งจิ้นเฟิงเฉินกลับมาในไม่ช้า
“ชิงหยิง คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพกับฉันก็ได้” มู่จิ่งเซินพูดด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงที่ได้ยินคืออบอุ่นมาก
รู้มาก่อนว่าเจียงสื้อสื้อเคยมีลูก เขาก็ให้คนไปตรวจสอบเรื่องราวในปีนั้น ปรากฏว่าเจียงสื้อสื้ออุ้มบุญเพื่อเงิน ส่วนฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร มู่จิ่งเซินยังไม่พบข้อมูลจนถึงตอนนี้
หาเด็กคนนั้นไม่เจอ พวกเขาสามารถหาตัวปลอมมาแทนที่ได้เท่านั้น เรื่องราวมีความเสี่ยงและมีพิรุธ แต่ทว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยความราบรื่น ตามที่พวกเขาคาดการณ์ ตอนนี้เดิมทีเจียงสื้อสื้อก็ไม่มีหน้าไปสู้หน้ากับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว
ได้เห็นใบหน้าซูชิงหยิงที่เปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้ม ดูเสมือนคล้ายกับว่าเป็นเจ้าหญิงที่สูงส่ง มู่จิ่งเซินก็ยิ้มตาม
ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้การยอมรับจากเธอ แต่ว่ามู่จิ่งเซินก็ไม่อยากเห็นซูชิงหยิงเศร้า ไม่ว่าอย่างไร เขายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธอ แม้กระทั่งเห็นเธอกับผู้ชายคนอื่นอยู่ด้วยกัน แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงแต่ตนสามารถอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนเธอ ขอเพียงแต่สามารถทำให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุขก็พอ
ไม่ว่าจะทุ่มไปเท่าไหร่ ทั้งหมดนี้ก็คุ้มค่า
เวลานี้ หลี่อานก็เดินเข้ามา
“คุณซู คุณมู่ ฉันติดต่อกับคุณเจียงแล้ว เขาตอบรับจะมาเจอวันพรุ่งนี้”
ซูชิงหยิงยิ้มเล็กน้อย เอ่ยปากสั่งว่า : “คุณพาเด็กคนนั้นไปพบเธอ อย่าลืมระมัดระวังหน่อย ต้องอย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“ฉันรู้แล้ว คุณซู” หลี่อานพูดตอบรับ
ซูชิงหยิงกับมู่จิ่งเซินยกแก้วไวน์เฉลิมฉลองกันอีกครั้ง
……
วันต่อมา เจียงสื้อสื้อมาถึงห้องอาหารและรออยู่นาน หลี่อานเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กชายอายุประมาณห้าขวบ
เห็นเจียงสื้อสื้อ เด็กชายก็วิ่งเข้ามาโผกอดเธอ น้ำเสียงอ่อนโยนตะโกนด้วยความตื่นเต้นว่า : “หม่ามี๊!”
ได้ยินเสียงเรียกหม่ามี๊นี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจเธอก็ไม่ได้แปลกใจและดีใจอะไรขนาดนั้น ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกสงบ นี่คือเด็กที่เธอคิดถึงมานานหลายปี! เจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงสามารถเป็นเช่นนี้
เธอพิจารณาเด็กชายตัวน้อยตรงหน้าเธอ เด็กชายโตขึ้นมาน่ารักมาก เวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น เวลานี้จ้องมองที่เจียงสื้อสื้อ
“แดดดี๊บอกว่าคุณคือหม่ามี๊ผู้ให้กำเนิดฉัน จริงใช่ไหม?”
เจียงสื้อสื้อชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า
“จริงๆหรอ? อาาาาาา! ดีจังเลยย ในที่สุดซวนซวนก็มีหม่ามี๊แล้ว หม่ามี๊ของฉันยังสวยขนาดนี้ หม่ามี๊ คุณรู้ไหม ซวนซวนรอคุณมาตลอดเลยนะ! มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดกับคุณ”
เห็นสีหน้าตื่นเต้นของหลี่ซวนตลอดเวลาทว่าเจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ฉันทำได้เพียงตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆ
ต่อมา บริกรก็เดินเข้ามา ทั้งสามก็สั่งอาหาร
ในระหว่างที่กินข้าว หลี่ซวนดูจะชอบเจียงสื้อสื้อเป็นพิเศษ เรียกหม่ามี๊ทุกคำ ยังให้เจียงสื้อสื้อตักอาหารให้ไม่หยุด ดูเหมือนว่า เจ้าตัวน้อยนี่มีความสุขอย่างมาก แล้วก็ชอบเจียงสื้อสื้อมาก
“นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นซวนซวนมีความสุขขนาดนี้ คุณเจียง ฉันขอร้องคุณจริงๆล่ะ กลับไปตระกูลหลี่เถอะ! เรามามอบครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้ซวนซวนกันเถอะ” หลี่อานเอ่ยด้วยคำพูดกินใจ
เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลี่ซวน สายตาอบอุ่นอย่างมาก ดูเหมือนความรักที่พ่อมีให้กับลูกอย่างแท้จริง
ได้ยิน เจียงสื้อสื้อหยุดคีบตะเกียบในมือชั่วขณะ
“ขอโทษ คุณหลี่ เรื่องนี้ฉันต้องพิจารณาก่อน”
ท้ายที่สุดเจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เห็นได้ชัดว่าหลี่ซวนดีมากน่ารักมาก แต่ว่าตนเองทว่าไม่ชอบที่จะอยู่กับเด็กคนนี้อย่างจริงใจ ใจเธอคิดว่า ถ้าหากว่าเสี่ยวเป่าพูดกับเธอแบบนี้ เธอต้องดีใจอย่างแน่นอน แต่ชัดเจนว่าหลี่ซวนเป็นลูกชายที่เธอให้กำเนิด!
หลี่อานก็ไม่ได้บีบบังคับเจียงสื้อสื้อ เพียงแค่พูดโน้มน้าวต่อว่า : “คุณเจียง ซวนซวนชอบคุณมากจริงๆ เขาสูญเสียแม่ไปห้าปีแล้ว ฉันไม่อยากให้ชีวิตในวัยเด็กของเขาเป็นแบบนี้ต่อไป รอถึงตอนที่เข้าโตขึ้นรู้เรื่องแล้ว เขาจะรู้ว่าคุณอยู่ข้างๆเขาทว่าไม่กลับบ้าน ซวนซวนจะคิดอย่างไร? ถึงเวลาจะมาชดเชยทุกๆอย่างทว่าก็สายเกินไปแล้ว”
แม้ว่าหลี่อานจะไม่ได้บีบบังคับเจียงสื้อสื้อ ทว่าคำพูดแต่ละคำทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกกดดัน มองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ซวน เจัยงสื้อสื้อรู้สึกละอายใจอย่างมาก
หลังจากออกมาจากห้องอาหาร หลี่ซวนกล่าวคำอำลากับเจียงสื้อสื้ออย่างอาลัยอาวรณ์
“หม่ามี๊ คุณก็ไม่สามารถเล่นเป็นเพื่อนฉันอีกแล้วใช่ไหม? ซวนซวนยากที่จะได้เจอกับคุณ……” เวลาพูด สีหน้าของหลี่ซวนปรากฏถึงความหดหู่
“ต้องขอโทษด้วย! ซวนซวน ฉันยังต้องทำงาน วันหลังจะมาเล่นกับคุณได้ไหม? ” เจียงสื้อสื้อพูดอย่างหมดหนทาง
“ได้หม่ามี๊ งั้นคุณต้องมาหาซวนซวนให้เร็วที่สุดนะ ซวนซวนจะรอคุณอยู่ที่บ้านอย่างเชื่อฟัง”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า ทั้งสามคนก็แยกกัน ทางกลับบ้าน จิตใจของเธอว้าวุ่นอย่างมาก
รอคอยมาหลายปีขนาดนี้ แต่เธอไม่เคยเห็นเด็กคนนั้นปรากฏตัวต่อหน้าเธอเลยสักวัน แต่ในตอนนี้เจียงสื้อสื้อทว่ากลับไม่ดีใจเลยสักนิด ในใจกลับตรงกันข้ามอย่างมาก
เจียงสื้อสื้อไม่อยากกลับไปตระกูลหลี่ แต่ฉันก็รู้เสียใจกับเด็กคนนั้น สักพัก ที่เธอจมดิ่งอยู่กับความครุ่นคิด……
……
ทางด้านนี้ จิ้นเฟิงเหราก็ตรวจสอบหาเบาะแสที่พักของเจียงสื้อสื้อขณะนี้ได้อย่างรวดเร็ว เขาก็มารายงานจิ้นเฟิงเฉินทันที
“พี่ ฉันตรวจสอบแล้ว ในช่วงเวลานี้พี่สะใภ้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อหลี่อานใกล้ชิดกันมาก”
ได้ยิน จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย