ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 293 เห็นว่าเคยมีลูกมาก่อน

บทที่ 293 เห็นว่าเคยมีลูกมาก่อน

บทที่ 293 เห็นว่าเคยมีลูกมาก่อน

ซูชิงหยิงเดินเข้ามาคล้องแขนของเธออย่างสนิทสนม พร้อมถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย : “อาการบาดเจ็บดีแล้วหรือคะคุณเจียง?”

“ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ” เจียงสื้อสื้อชักมือกลับมา เพราะรู้สึกว่าเธอที่เป็นแบบนี้ มันทำให้รู้สึกไม่สงบใจลงได้เลยจริงๆ

ราวกับรู้สึกว่าเธอกำลังวางแผนชั่วร้ายอะไรอยู่เลย

แววตาของซูชิงหยิงฉายประกายเยือกเย็นออกมา พร้อมด้วยใบหน้าที่เผยรอยยิ้มอย่างสดใส “ดีขึ้นก็ดีแล้วล่ะ ฉันเองก็ยังเป็นห่วงอยู่เลย”

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ” เจียงสื้อสื้อไม่คิดจะพูดอะไรกับเธออีก จึงเปลี่ยนไปพูดกับคุณแม่จิ้นแทน : “คุณป้าคะ เฟิงเฉินบอกว่าวันนี้ทำงานล่วงเวลา อาจจะไม่ได้กลับมากินข้าวด้วยนะคะ”

คุณแม่จิ้นได้ยินก็ขมวดคิ้วแน่น “ทำไมถึงมีงานเยอะขนาดนั้นกันล่ะ?”

เป็นเพราะช่วงนี้เจียงสื้อสื้อมาอยู่ที่นี่ ดังนั้นทุกวันจิ้นเฟิงเฉินจะกลับมากินข้าวที่บ้าน แม้แต่จิ้นเฟิงเหราที่ไม่ค่อยอยู่บ้านก็ยังมาด้วย ทำให้ที่บ้านดูครึกครื้นมากขึ้น

แต่วันนี้จู่ๆ ก็บอกว่าจะไม่กลับมา ทำให้คุณแม่จิ้นรู้สึกใจหายหน่อยๆ

จิ้นเฟิงเฉินไม่กลับมากินข้าวด้วยกันหรือ? ซูชิงหยิงลอบกัดฟัน ทำไมถึงได้บังเอิญแบบนี้กันนะ?

ในเมื่อเขาไม่กลับมา เรื่องที่เธอรอจะทำก็ไม่มีความหมายน่ะสิ?

ขณะนั้นเอง คุณแม่จิ้นก็พูดอย่างช่วยไม่ได้ : “ในเมื่อเขาไม่กลับมา พวกเราก็กินกันไปก่อนเถอะ”

ต่อมา เธอก็เรียกคุณแม่ซู กับซูชิงหยิงไปที่ห้องอาหารทันที

ซูชิงหยิงหันมามองเธอด้วยแววตาที่เป็นประกาย อย่างน้อยเธออยู่ที่นี่ก็ถือว่าโอเคแล้วล่ะ

แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าซูชิงหยิงมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ทำไมจู่ๆ ถึงได้มานั่งข้างๆ เธอได้ ทำให้ในใจของเจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวงขึ้นมา

ความรู้สึกมันบอกกับเธอว่า ความคิดของซูชิงหยิงนี้ต้องไม่บริสุทธิ์แน่ๆ

ไม่อย่างนั้นคนที่รังเกียจเธอถึงขนาดนี้ ทำไมถึงได้มายิ้มอย่างใจดี แล้วยังมานั่งข้างเธออีกล่ะ?

มื้ออาหารดีๆ มื้อหนึ่งนี้ ราวกับว่าแปรเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงที่มีเลศนัยแอบแฝงเลย

แต่เรื่องที่น่าบังเอิญก็คือ จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหราไม่ได้กลับมาที่นี่ ส่วนเสี่ยวเป่าเองก็มีงานชุมนุมที่โรงเรียน จึงไม่ได้กลับมาเช่นกัน

ทำให้ที่บ้านเหลือเพียงแต่เธอ และคุณพ่อคุณแม่จิ้น เดิมทีก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว มาตอนนี้มีพวกซูชิงหยิงเพิ่มเข้ามาอีก ทำให้หลังจากกินข้าวเสร็จ คงต้องรู้สึกมวนท้องแน่ๆ

แค่แรกเริ่ม ทุกคนต่างก็นั่งกินข้าวกันเงียบๆ แต่ทันใดนั้นซูชิงหยิงก็พูดขึ้นมา : “คุณเจียงคะ พอดีฉันได้ยินข่าวลือที่เกี่ยวกับคุณมาเรื่องหนึ่งน่ะค่ะ”

นั่นไง มาแล้ว!

ในใจของเจียงสื้อสื้อเต้นโครมครามไปมา พร้อมกับเพิ่มความระแวดระวังขึ้น “ข่าวลืออะไรหรือคะ?”

“ก็คือ……” ซูชิงหยิงเงยหน้าขึ้นมามองทางคุณพ่อคุณแม่จิ้น พร้อมกับลังเลขึ้นมา “ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือเปล่าน่ะสิ”

เจียงสื้อสื้อแอบยิ้มอย่างเยือกเย็นในใจ ก่อนจะพูดขึ้น : “ชิงหยิง ถ้าอยากจะพูดก็พูดเลย หรือจะไม่พูดก็ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”

ซูชิงหยิงกัดปากแน่น “ถ้าอย่างนั้นฉันจะพูดล่ะนะคะ”

จากนั้นเธอก็หันมามองเจียงสื้อสื้อ “คุณเจียง ที่ฉันได้ยินมาว่าคุณมีลูกมาก่อน เรื่องจริงไหมคะ?”

“ตุ้บ!” ตะเกียบของเจียงสื้อสื้อหล่นลงบนโต๊ะ พร้อมใบหน้าที่สวยงามของเธอ ก็ขาวซีดราวกับกระดาษทันที

พอเห็นแบบนั้น แววตาของซูชิงหยิงก็ฉายแววพึงพอใจออกมา ก่อนจะพูดขึ้นต่อ : “คุณเจียงบอกเรื่องข่าวลือนั้นกับฉันได้ไหมคะ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือปลอมกันแน่?”

ซูชิงหยิงแสร้งทำท่าเป็นสงสัย ราวกับไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน

ตอนนี้ทั้งโต๊ะเงียบสงัดขึ้นมาทันใด

เจียงสื้อสื้อในตอนนี้ ได้ยินเพียงเสียงหวึ่งๆ ในหูทั้งสองข้างเท่านั้น ทำให้เสียงของซูชิงหยิงราวกับ ดังออกมาจากที่ไกลๆ ยังไงยังงั้น

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ซูชิงหยิงจะพูดเรื่องนี้ ต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่จิ้นแบบนี้ ราวกับมาฉีกแผลที่เน่าเฟะของเธอออกอย่างรุนแรง จนเลือดกระเซ็น ดูน่าหวาดกลัวอย่างมาก

เธอพยายามบอกตัวเองไม่ให้ตื่นตูมไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้ซูชิงหยิงได้ใจ

พลันเธอก็สงบใจลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตอบอย่างใจเย็น : “จริงค่ะ”

ซูชิงหยิงไม่คิดว่า เธอจะยอมรับได้อย่างหน้าชื่นตาบานแบบนี้ ทำให้เธอนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแสร้งทำเป็นพูดออกไปอย่างประหลาดใจ : “พระเจ้า! เรื่องจริงหรือนี่! แล้วเฟิงเฉินรู้เรื่องหรือเปล่า? แล้วคุณลุงกับคุณป้ารู้เรื่องด้วยไหมคะ?” เธอหันหน้าไปมองคุณพ่อคุณแม่จิ้น

ซึ่งสีหน้าของคุณพ่อคุณแม่จิ้นตอนนี้ดูแย่อย่างมาก

เรื่องนี้พวกเขารู้อยู่แล้ว แต่พอซูชิงหยิงพูดมันออกมา ไม่เพียงแต่จะหาเรื่องกันเท่านั้น แต่ยังไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยด้วย

“พวกเรารู้กันหมดแล้วล่ะค่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบแทนพวกเขา

“พระเจ้า!” ซูชิงหยิงยกมือขึ้นปิดปาก พร้อมแววตาที่เบิกกว้าง ทำท่าเป็นตื่นตกใจ

เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าหัวเราะอย่างมาก การแสดงที่เก้งก้างของเธอ มันปิดบังแผนการที่ชั่วร้ายของเธอไว้ไม่ได้จริงๆ

คุณแม่ซูเองก็หันมองไปมา ก่อนจะหันไปพูดกับคุณแม่จิ้นว่า : “มู่หลัน เธอไม่รู้หรือว่าเรื่องที่คุณเจียงมีลูกมาก่อน ถูกเผยแพร่ไปตั้งนานแล้ว แถมยังมีคำวิจารณ์ที่ไม่ดีอีกด้วย อีกอย่างเธอเองก็รู้นี่ ว่าสิ่งที่ตระกูลอย่างพวกเราใส่ใจมากที่สุด ก็คือชื่อเสียงน่ะ”

คุณแม่จิ้นเหลือบตามอง อีกทั้งก็กำตะเกียบแน่นอย่างอดไม่ได้

วันนี้สองแม่ลูกคู่นี้ตั้งใจมาหาเรื่องกันแน่ๆ

ซูชิงหยิงรู้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องที่เจียงสื้อสื้อมีลูกมาก่อน แถมยังมาแสร้งทำเป็นใสซื่อไร้เดียงสาที่นี่อีก ทำให้นึกถึงภาพที่เธอพูดเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปมาตลอดจริงๆ

ซูชิงหยิงหันมามองเจียงสื้อสื้อ ก่อนจะถามขึ้นด้วยแววตา ที่ปิดบังความชั่วร้ายไว้ไม่มิด : “คุณเจียงคะ แล้วตอนนี้ลูกของคุณอยู่ที่ไหนหรือคะ? แบบนี้เสี่ยวเป่าก็มีน้องชายไม่ก็น้องสาวแล้วใช่ไหมล่ะคะ?”

“พูดพอหรือยังคะคุณซู?” เจียงสื้อสื้ออดทนต่อไปไม่ได้อีก ในเมื่ออยากจะหักหน้าเธอต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่จิ้น ถ้าอย่างนั้นเธอก็คงไม่ต้องเกรงใจกันอีก

“ฉันทำไมหรือคะ?” ซูชิงหยิงแสร้งทำเป็นมองคนอื่น แต่ในสายตากลับเปิดเผย ความคิดในใจที่แท้จริงออกมา

เจียงสื้อสื้อสูดลมหายใจเข้าลึก “ใช่ค่ะ ฉันเคยมีลูกมาก่อน แถมยังใช้ชีวิตแบบถูกคนด่าคนวิจารณ์ แต่ฉันก็ไม่ได้เสียใจ ที่ฉันเลือกทำแบบนั้นในตอนแรกหรอกนะคะ เป็นเพราะคุณไม่รู้หรอก ว่าความรู้สึกที่สิ้นหวังมันเป็นยังไง” เธอพูดออกไปอย่างนิ่งเฉย แต่ในสายตาของคุณแม่จิ้นนั้น กลับรู้สึกเจ็บปวดใจนิดๆ

เป็นเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น เธอคงต้องแบกรับอะไรมามากมายเลยทีเดียว

ซูชิงหยิงเองก็ไม่ได้คิดมาก่อน ว่าเธอจะพูดออกมาอย่างไม่กระดากอายแบบนี้ ทำให้เธอกัดฟันด้วยความโกรธเกลียด “ในเมื่อคุณเจียงพูดแบบนี้ ทำไมถึงกลายเป็นว่าฉันทำไม่ถูกหรือคะ?”

“จริงๆ เธอก็ไม่ถูกอยู่แล้วล่ะนะ” เสียงที่ออกมา มาจากคุณแม่จิ้น

เจียงสื้อสื้อกับซูชิงหยิงเองก็หันไปมองพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างก็รู้สึกประหลาดใจอยู่หน่อยๆ

คุณแม่จิ้นวางตะเกียบลงก่อนพูดขึ้น “ชิงหยิง ที่เธอมาวันนี้ ป้าดีใจมากนะ เธอบอกว่าเธออยากจะกินอาหารฝีมือพ่อครัวของบ้านป้า ป้าก็ได้ให้คนจัดเตรียมไว้ให้ แต่เธอล่ะ?”

“เดิมทีทุกคนกินข้าวมื้อนี้กันอย่างสุขสบายก็ดีอยู่แล้ว แต่เธอกลับพูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา คิดจะทำให้พวกป้าเดือดร้อนหรือยังไง?”

น้ำเสียงของคุณแม่จิ้นดูเรียบเฉยอย่างมาก แต่ฟังดูแล้วกลับให้ความรู้สึก ตำหนิแอบแฝงอยู่

สีหน้าของซูชิงหยิงพลันซีดเผือด ก่อนจะรีบอธิบายขึ้น : “คุณป้าคะ หนูเพียงแค่สงสัยเองนะคะ หนูแค่อยากให้คุณเจียงพิสูจน์ออกมาเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายอื่นเลยนะคะ”

“เธอจะมีความหมายอื่นหรือเปล่าป้าไม่รู้ ป้ารู้แต่เพียงว่าเธอทำให้ทุกคนกินข้าวกันไม่ลงแล้ว”

“คุณป้า……”

ซูชิงหยิงคิดจะอธิบายต่อ แต่กลับถูกคุณแม่จิ้นปรามเอาไว้ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ป้าเห็นว่าเธอไม่ได้อยากจะกิน อาหารที่พ่อครัวของบ้านป้าเป็นคนทำจริงๆ เพราะฉะนั้นพวกเธอกลับไปกินข้าวที่บ้านเถอะ”

คุณแม่จิ้นออกคำสั่งให้ส่งแขก อย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่นิด เพื่อเจียงสื้อสื้อ

ขณะเดียวกัน คุณแม่ซูกับซูชิงหยิง ต่างก็หน้าถอดสีกันหมด

“มู่หลัน ทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?” คุณแม่ซูมองคุณแม่จิ้นอย่างไม่พอใจ

“สื้อสื้อเป็นแขกของตระกูลจิ้น การที่ชิงหยิงพูดแบบนี้ต่อคนที่เป็นแขกของฉัน ไม่ว่าใช่ทำเกินไปกว่างั้นหรือ?”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท