บทที่ 307 จะจัดการได้อย่างรอบคอบ
ถ้าหากไม่มีหลักฐาน นั้นพวกเขาก็เอาเจียงนวลนวลไม่อยู่
จิ้นเฟิงเหราครุ่นคิดไปสักพัก จากนั้นเสนอว่า”ไม่นั้นเราไปสอบสวนเธอต่อหน้าเลย คุณภาพทางจิตอย่างเธอทนไม่ไหวแน่นอน”
“ไม่ต้อง”จิ้นเฟิงเฉินมองไปดูเจียงสื้อสื้อ ดวงตาคู่หนึ่งมืดลึกราวกับถ้ำ ไม่มีแสงสว่างแม้แต่นิด”ขอให้เธอเป็นคนทำ ก็จะมีหลักฐานแน่นอน”
“ก็พูดถูกอยู่นะ แต่เธอเจ้าเล่ห์ขนาดไหน ฉันกลัวว่าหลักฐานล้วนถูกเธอทำลายไปหมด”
“แม้ว่าจะจัดการได้อย่างรอบคอบแค่ไหน แต่ก็ต้องมีร่องรอยเหลืออยู่แน่นอน”จิ้นเฟิงเฉินพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า”โอเค นั้นฉันจะสั่งคนติดตามสังเกตเธอไว้”
พอพูดเสร็จ เขาก็เดินออกไป
ในวอร์ดเหลือแต่จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อที่ยังไม่ได้ตื่นมา
เขาเอื้อมมือไปจับแก้มของเธอไว้ ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความห่วงใย
“ทำไมคุณไม่สามารถดูแลตัวเองให้ดีล่ะ?”เขาพึมพำด้วยเสียงเบาๆ
เขาจับมือของเธอขึ้นมาและนำมาจูบที่ปาก จากนั้นนำมือของเธอมาติดกับแก้มของตัวเอง มุมปากหงายขึ้นมาและปรากฏรอยยิ้มที่จนปัญญา”คืนวันนั้นเป็นคุณนั่นเอง ใช่ไหม?”
วันนั้นเขาไปธุระที่เมืองหนาน และดื่มเหล้าเยอะจนเมา ก็เลยเดินออกจากห้องวีไอพี หาที่นั่งอยู่ เดิมทีคิดจะให้กลิ่นเหล้ามันกระจายไปหน่อยนึงค่อยจากไป
แต่พอตื่นมาวันรุ่งขึ้นกลับอยู่ที่ห้องของโรงแรม
เขาไม่ได้เมาจนหมดสติ ยังจำเรื่องคืนนั้นได้อยู่ แต่เนื่องจากตื่นมาตอนเช้า ในห้องมีแค่เขาคนเดียว ก็นึกว่าแค่เป็นฝันเพราะเขาคิดถึงเธอมากไป
ถ้าหากไม่ใช่เรื่องของครั้งนี้ถึงรู้ว่าเธอได้ตั้งครรภ์มาเดือนกว่าแล้ว เขาคงยังไม่รู้ความจริงอีก
“คุณนี่โง่จริงๆ ทำไมไม่บอกฉันล่ะ?”เขารู้สึกเป็นห่วงและจนปัญญากับเธอ
แม้ว่าทารกในครรภ์อยู่ไม่รอด แต่สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากกว่าคือเธอ
ถ้าเกิดเธอรู้ว่าเด็กเสียไปเพราะเรื่องครั้งนี้ เธอจะต้องตกในท่ามกลางแห่งการสำนึกผิดและละอายใจอีก
จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดสักครู่ จากนั้นจูบบนหลังมือของเธอ”สื้อสื้อ ฉันจะปกป้องคุณ ไม่ให้คุณได้รับอันตรายอีก”
……
เวลาที่เจียงสื้อสื้อตื่นมา ก็เป็นตอนบ่ายของวันที่สองหลังจากเกิดเหตุ
เธอลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เข้าตาอันดับแรกเป็นเพดานที่ขาวสะอาด เธอนิ่งอึ้งไปหลายวินาทีถึงรู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล
ความจำค่อยๆกลับคืนมาในสมอง เธอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเกือบจะโดนโจรคนนั้นข่มขืน จากนั้นตัวเองดิ้นรนมาได้จึงรีบวิ่งหนี แต่ประมาทไปจึงกลิ้งลงไปจากบันได
เธอพยายามขยับร่างกายดู
ปวดศีรษะมาก!
ขมวดคิ้วขึ้นมา เธอยกมือไปจับศีรษะ จึงจะพบว่าถูกพันด้วยผ้าชั้นหนึ่ง
จะบาดเจ็บจนรุนแรงขนาดนี้ได้ยังไง?
เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นก็ถอนหายใจออก โชคดีที่ได้กลิ้งลง ไม่นั้นก็คงถูกผู้ชายคนนั้นประสบผลแล้ว
เมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่อันตรายในเมื่อกี้นี้ เธอก็ยังคงตกใจหวาดผวา
ในวอร์ดนอกจากเธอแล้วไม่มีคนอื่นอีก
มีคนใจดีช่วยเธอแน่เลย
ไม่ทราบว่าตัวเองไม่ได้กลับบ้านมานานขนาดนี้ พวกลุงจางจะเป็นห่วงมากหรือเปล่า
โทรศัพท์ล่ะ?
เธอเช็คดูแล้ว พบว่าอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
ดังนั้น เธอเลยพยายามนั่งตัวตรงขึ้นมา
พอดีในเวลานี้ ประตูวอร์ดถูกคนผลักเข้ามาจากข้างนอก
จิ้นเหยิงเฉินเพิ่งเข้ามาก็สังเกตเห็นว่าเธอจะนั่งขึ้นมา จึงรีบวิ่งขึ้นมา”คุณจะทำอะไร?”
เมื่อได้เห็นเขา เจียงสื้อสื้อประหลาดใจมาก”เฟิงเฉิน”
จิ้นเฟิงเฉินให้เธอนอนไว้ให้ดี และขมวดคิ้วขึ้นมา”คุณจะขยับไปทำอะไรล่ะ?”
“ฉันก็แค่อยากจะหยิบโทรศัพท์”สายตาของเจียงสื้อสื้อมองไปที่โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง
จิ้นเฟิงเฉินคืนโทรศัพท์ให้เธอ”คุณเอาโทรศัพท์ไปทำอะไร?”
“โทรให้ที่บ้านไง กลัวว่าพวกเขาจะเป็นห่วง”เจียงสื้อสื้อจับโทรศัพท์ไว้ในมืออย่างแน่น และยิ้มให้เขา”แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว”
เขาอยู่ที่นี่ นั้นก็หมายความว่าคนในบ้านล้วนรู้เรื่องของเธอแล้ว
“คุณเพิ่งไปธุระต่างประเทศเมื่อเช้านี้ไม่ใช่หรือ?ทำไมถึงกลับมาแล้วล่ะ?”เจียงสื้อสื้อยังนึกว่าเป็นเมื่อวาน
“ผ่านไปวันหนึ่งแล้ว ฉันไปธุระเมื่อวาน”
จิ้นเฟิงเฉินช่วยปรับความเร็วของนํ้าเกลือให้เธอ พูดต่อว่า”คุณสามารถบอกกับฉันได้ไหมว่า ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ก็คือว่า……”
“จ๊อกๆ”
เจียงสื้อสื้อเพิ่งคิดจะพูด จู่ๆท้องก็ส่งเสียงขึ้นมา
เดิมทีหน้าที่ยังซีดอยู่นั้นก็แดงขึ้นจางๆ เธอมองไปที่เขาอย่างเขินอาย”ฉันรู้สึกหิวข้าวแล้ว และก็หิวน้ำด้วย”
ตั้งแต่เมื่อวานได้เกิดเหตุจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้ทานข้าวใดๆ ยิ่งอย่าไปพูดถึงว่าน้ำเลย
“ฉันสั่งให้ที่บ้านต้มข้าวต้มส่งมาให้”
จิ้นเฟิงเฉินเทน้ำไปด้วยพูดไปด้วย เขาหยิบหลอดวางเข้าไปในแก้วน้ำ จากนั้นให้เธอใช้หลอดดูดน้ำ
เธอดื่มน้ำลงไปอึกใหญ่ จากนั้นหัวเราะพูดเล่นว่า”เมื่อก่อนฉันเคยเห็นคนที่คลอดลูกออกมา ก็ได้นอนดื่มน้ำอยู่บนเตียงแบบนี้แหละ”
เมื่อได้ยิน”ลูก”คำนี้ สายตาของจิ้นเฟิงเฉินเปล่งประกายออกมา แต่เจียงสื้อสื้อไม่ได้สังเกต พึมพำต่อว่า”ตามจริงฉันก็สามารถนั่งตัวตรงขึ้นมาดื่มนะ”
“จะนั่งตรงขึ้นมาหรือ?”จิ้นเฟิงเฉินถามอย่างอ่อนโยน
“เออ”
จิ้นเฟิงเฉินประคองเธอขึ้นมา และนำหมอนใส่ทับไว้ในด้านหลังของเธอ
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว”ทำไมฉันรู้สึกว่าปวดท้องเล็กน้อยล่ะ?”
จิ้นเฟิงเฉินกำฝ่ามือไว้อย่างแน่น จากนั้นก็ปล่อยมือออกทันที และเงยหน้าขึ้นมามองเธอ มีคำสามคำเปล่งออกมาจากปากของเขาอย่างราบเรียบ”ประจำเดือน”
“อ๊ะ?”เจียงสื้อสื้อนิ่งอึ้งอยู่กับที่ จากนั้นก็รู้สึกตัวมาได้ สีหน้าแดงก่ำขึ้นมา”ที่จริงเป็น……เป็นประจำเดือนนี่เอง”
“ฮิฮิ”เธอยิ้มแหยๆ
เธอทำให้เขาต้องลำบากใจมาพูดคำสามคำนี้ออกมาด้วย
“ศีรษะยังปวดอยู่หรือเปล่า?”จิ้นเฟิงเฉินถาม
“มีอีกนิดนึง”เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว”ยังวิงเวียนอยู่นิดนึง”
“ขอโทษ ฉันไม่ได้ดูแลคุณให้ดี”
เจียงสื้อสื้อเห็นสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจ จึงรีบพูดว่า”นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ ต้องโทษฉันเอง ไม่ควรไปเชื่อคำพูดของเจียงนวลนวล และวิ่งมาที่โรงพยาบาล ไม่นั้นก็จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอก”
“เจียงนวลนวล?”สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินจริงจังขึ้นมา”เธอให้คุณมาที่โรงพยาบาลหรือ?”
“ใช่ไง เธอบอกว่า……”เจียงสื้อสื้อลังเลไปสักครู่”เธอบอกว่าเธอรู้เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้นฉันเลยมาที่โรงพยาบาล”
เรื่องที่เธอเคยคลอดลูกนั้น เขาก็ได้รู้แล้ว ตัวเองก็ไม่จำเป็นที่จะปิดบังเรื่องทุกอย่างต่อเขาแล้ว
เฟิงเหยาบอกว่าเจียงนวลนวลปฏิเสธว่าเธอได้เรียกสื้อสื้อมาที่โรงพยาบาล เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นพูดโกหก
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาผิดปกติ เจียงสื้อสื้อถามด้วยความเป็นห่วงเขา”เฟิงเฉิน คุณเป็นไรเหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินเสียงจึงฟื้นสติกลับมา มองไปที่เธอ”สื้อสื้อ คุณเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อวานให้ฉันฟังหน่อย”
“โอเค”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า จากนั้นเล่าเรื่องเมื่อวานให้เขาฟังอย่างละเอียด
พอจิ้นเฟิงเฉินฟังเสร็จ รู้สึกตกใจมาก”คุณแน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นโจรที่ยิงปืนใส่คุณในวันนั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ก็คือเขานั่นเอง”เจียงสื้อสื้อก็คาดไม่ถึงว่าเป็นคนนั้นเช่นกัน”เขาปลอมตัวเป็นหมอ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนหลังเขาถอดหน้ากันออก ฉันก็จำเขาไม่ได้เช่นกัน”
“แล้วเขาได้ทำร้ายคุณตรงไหนไหม?’
ฟังที่เธอพูดมาว่าผู้ชายคนนั้นมีความโลภต่อเธอ จิ้นเหิงเฉินก็โกรธขรึมมากๆ อยากจะฆ่าผู้ชายคนนั้น
“เขาไม่ได้บรรลุผล”เจียงสื้อสื้อนึกว่าสถานการณ์ในตรงนั้น ร่างกายก็เริ่มสั่นขึ้นมา”ถ้าหาก……ถ้าหากไม่ใช่ว่าฉันกลิ้งลงไป ยังไม่รู้ว่าต้องเผชิญกับเรื่องที่น่ากลัวขนาดไหน”
เมื่อเห็นลักษณะที่หวาดกลัวภายหลังของเธอ จิ้นเฟิงเฉินสงสารและเป็นห่วงเธอย่างยิ่ง จึงรีบขึ้นไปกอดเธอไว้ และพูดปลอบใจด้วยเสียงที่อ่อนโยน”ปลอดภัยแล้วนะ ล้วนผ่านไปแล้ว”