บทที่ 304 ห้ามถูกขังเข้าไป!
เจียงสื้อสื้อโทรไปหาจิ้นเฟิงเหรา
“พี่ผมไปธุระจริงๆครับ บริษัทที่ร่วมมือกันแหล่งหนึ่งในต่างประเทศจู่ๆก็ล้มละลาย พี่ปมไปดูว่าตกลงเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น”
จิ้นเฟิงเหราในโทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่งพูดความจริงออกมา
ไปธุระจริงด้วย
เจียงสื้อสื้อโล่งใจลงมาได้
เจียงสื้อสื้อเหมือนได้ยินเสียงถอนหายใจออกมา หงายคิ้วขึ้นมา”พี่สะใภ้ คุณเป็นห่วงพี่ชายผมหรอครับ”
“ไม่”
เธอไม่ได้เป็นห่วง แต่กลัวว่าเขาโกรธเลยตั้งใจที่จะหลบตัวเอง
แล้วแน่นอนว่า เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะพูดความจริงให้จิ้นเฟิงเหรา
“พี่สะใภ้ คุณไม่ต้องห่วง ก่อนที่พี่ชายผมจะเจอกับคุณก็เป็นภูเขาน้ำแข็งลูกหนึ่ง ไม่มีผู้หญิงสามารถเข้าใกล้เขาได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของจิ้นเฟิงเหรา สีหน้าของเจียงสื้อสื้อค่อนข้างจะแปลกประหลาด เขานึกว่าเธอเป็นห่วงจิ้นเฟิงเฉินจะมีชู้ข้างนอกเหรอ?
เธอยอมเชื่อว่าโลกนี้มีผี ยังไม่ยอมไปเชื่อว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมีชู้ข้างนอก
“คุณคิดมากไปหรอก ถ้าไม่มีเรื่องอื่นฉันวางสายแล้วนะ”
ไม่รอให้จิ้นเฟิงเหราตอบกลับ เธอก็วางสายโดยตรง
จะโทรให้เขาหรือเปล่าล่ะ?
เจียงสื้อสื้อมองไปดูเบอร์ที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ กำลังลังเลอยู่ว่าจะโทรออกไปหรือเปล่า
เมื่อเวลาที่เธอกำลังลังเลอยู่ จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ทำเธอตกใจไปหมด
เธอฟื้นสติกลับมา และเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอกดปุ่มรับสาย”สวัสดีค่ะ”
“คือฉันเอง”
เสียงที่คุ้นเคยส่งมาจากลำโพง
เจียงสื้อสื้อหรี่ตาขึ้นมาทันที สีหน้าก็จริงจังขึ้นมาในทันใดนั้น
……
ณ โรงพยาบาลสตรีและเด็กประจำเมือง
รถแท็กซี่จอดอยู่ใต้ตึก เจียงสื้อสื้อกล่าวคำขอบคุณให้กับคนขับรถ จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ
มองไปทางห้องโถงของตึก เธอหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก้าวเท้าเดินเข้าไป
“ฉันอยากจะพบแก”
สายเมื่อกี้นี้เจียงนวลนวลเป็นคนโทรมา
“แกอยากรู้ตลอดว่าลูกของแกอยู่ไหนไม่ใช่หรือ?ฉันสามารถบอกกับแก”
“แกมาพบฉันที่โรงพยาบาล ฉันก็จะบอกกับแกทุกอย่าง”
เจียงนวลนวลเพิ่งเสียลูกไป คงต้องเกลียดเธอมากๆนะ เป็นไปได้ยังไงที่จะบอกความจริงให้กับเธอล่ะ?
แต่แม้รู้ว่าเป็นเช่นนี้ สุดท้ายเธอก็มาที่โรงพยาบาล
เพราะเธออยากรู้ว่าเด็กคนนั้นอยู่ไหนจริงๆ
“แกมาแล้วจริงด้วย”
เมื่อเห็นว่าเธอมา เจียงนวลนวลรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อเดินมาถึงตรงหน้าเธอ”ในเมื่อฉันมาแล้ว แกควรจะบอกกับฉันว่าลูกของฉันอยู่ที่ไหน”
“อย่ารีบสิ”เจียงนวลนวลหงายคิ้วขึ้นมา และพูดว่า”ลูกของฉันเสียไปแล้ว แกควรที่จะมาห่วงใยฉันหน่อยไม่ใช่หรือ?”
ห่วงใย?
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว ตั้งนานถึงพูดออกมาคำหนึ่ง”แกยังอายุน้อยอยู่ ยังมีโอกาสมีลูกได้อีก”
สายตาของเจียงนวลนวลปรากฏความเย็นชาออกมา มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มที่เยาะเย้ยขึ้นมา”ถ้าหากไม่ใช่แก ลูกของฉันก็จะไม่เสียไปหรอก”
“ขอโทษ”
คำขอโทษคำนี้ คือเจียงสื้อสื้อพูดกับเด็กที่ยังไม่ทันได้คลอดออกมา
“แต่ขอโทษคำเดียวก็สามารถลดความเสียหายที่แกสร้างให้ฉันเหรอ?”เจียงนวลนวลค่อนข้างจะตื่นเต้นขึ้นมา
และในขณะที่เจียงสื้อสื้อนึกว่าเธอจะดิ้นรนเหมือนเมื่อก่อนอีก แต่เธอกลับสงบลงมา
พอดีในเวลานี้ หมอที่ใส่หน้ากากอนามัยคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ดวงตาที่โผล่อยู่ข้างนอกจ้องดูแต่เจียงสื้อสื้อ
“ญาติผู้ป่วยตามฉันมาหยิบยา”
สายตาของเขาทำให้คนไม่สบายใจยิ่งนัก เจียงสื้อสื้อจึงหลบสายตาของเขาโดยจิตสำนึก
หมอเห็นว่าเธอไม่ขยับ เลยพูดอีกครั้ง”ญาติผู้ป่วยตามฉันมาหยิบยา”
ภายในวอร์ดมีแค่เธอกับเจียงนวลนวล หมอน่าจะนึกว่าเธอเป็นญาติของผู้ป่วย
ดังนั้น เจียงสื้อสื้อเลยอธิบายว่า”ฉันไม่ใช่ญาติของผู้ป่วย”
เธอยังพูดไม่จบ เสียงของเจียงนวลนวลก็ดังขึ้นมา
“พ่อกับแม่ออกไปมีธุระ แกช่วยไปเอาให้ฉันหน่อย”
เจียงสื้อสื้อคิดจะปฏิเสธ แต่ไม่ทราบว่าผีเข้าร่างหรือเปล่า ในที่สุดก็ได้พยักหน้า
เธอเดินตามอยู่ข้างหลังของหมอและออกจากวอร์ด
“โธ่เอ๊ย”
เธอแอบถอนหายใจออกมา น่าจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่มีต่อเธอจากจิตสำนึก
หมอที่เดินอยู่ข้างหน้าเหลือบตาไปมองเจียงสื้อสื้อ สายตาเปล่งประกายออกมา
แต่เจียงสื้อสื้อไม่ได้สังเกตเห็น
เธอเดินตามหมอเข้าไปในห้องทำงาน
“คุณรอก่อนนะ ฉันไปหยิบยามา”
หมอเข้าไปในห้องภายใน ส่วนเจียงสื้อสื้อก็รออยู่ข้างนอก
ไม่นานหมอก็เดินออกมา และนำกล่องยาในมือเอาให้เธอ”ยาอันนี้กินสามครั้งต่อวัน และกินหลังอาหาร”
เจียงสื้อสื้อรับมาและก้มหน้าดูอย่างละเอียด
เธอไม่ได้สังเกตว่าหมอแอบเดินอ้อมไปข้างหลังของเธอ
“ยังมียาอีกหรือเปล่า?”เธอเงยหน้าขึ้นมา ถึงพบว่าหมอหายไป
เธอสังเกตว่าข้างหลังมีคนอยู่ อยากจะหันไปมองอย่างชัดเจน แต่ท่าทางของฝ่ายตรงข้ามเร็วกว่าเธออีก เอื้อมมือไปปิดปากเธอไว้
แรงเยอะมาก
เธอพยายามที่จะเอามือเขาออก แต่ไม่ว่าทำยังไงล้วนเอาออกไม่ได้ ทำได้แต่เพียงดิ้นรนอยู่เรื่อยๆ
ฝ่ายตรงข้ามลากเธอไปในห้องภายใน
ไม่ได้!ห้ามถูกลากเข้าไป!
ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอรู้ว่าถ้าถูกลากเข้าไปตัวเองก็จบแล้ว!
ไม่ทราบว่าแรงมาจากไหน เธองอข้อศอกและดันไปข้างหลัง
ฝ่ายตรงข้ามเจ็บปวดมาก เลยปล่อยเธอออก
เจียงสื้อสื้อที่ได้รับความอิสระรีบหันร่างเปิดประตูและวิ่งออกไป
แต่ไม่นานฝ่ายตรงข้ามก็วิ่งตามออกมาได้
สิ่งที่แปลกประหลาดคือบนทางเดินไม่มีใครสักคน เงียบสงบจนได้ยินแต่เสียงเดินของเธอและคนนั้น และเสียงการเต้นของหัวใจ
เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเกือบจะตามขึ้นมาได้
เจียงสื้อสื้อเพียงแต่ต้องวิ่งเข้าไปในห้องบันได เธออยากวิ่งลงไปข้างล่าง วิ่งจนถึงห้องโถงก็จะมีคนแล้ว
แต่เพิ่งเข้าไปในห้องบันได คนนั้นก็เดินตามขึ้นมาทัน จับมือของเธอไว้และสะบัดไปที่มุมกำแพงอย่างรุนแรง
“อ๊ะ!”
เจียงสื้อสื้อชนกับกำแพงอย่างแรง เจ็บจนหน้าซีดขึ้นมาทันที
“ยังคิดจะหนีหรือ?”
ฝ่ายตรงข้ามเดินเข้าใกล้เธอ จากนั้นดึงหน้ากากบนหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เจียงสื้อสื้อคุ้นเคย
“เป็นแกนี่เอง!”
เจียงสื้อสื้อจ้องมองเขาอย่างตกใจ
ไม่ใช่คนอื่น เป็นโจรที่ลักพาตัวเสี่ยวเป่าในวันนั้นนั่นเอง แถมยังยิงปืนใส่เธอจนเธอได้รับบาดเจ็บด้วย
ผู้ชายยิ้มอย่างดุร้าย”ใช่แล้ว เป็นฉันนี่เอง ไม่ได้เจอมานานแล้วเนาะ”
ระหว่างที่พูด เขาก็เอื้อมมือไปแตะแก้มของเธอ
“อย่ามาแตะต้องฉัน!”เจียงสื้อสื้อหันหน้าไปข้างๆอย่างรังเกียจ
คำพูดนี้ทำจนผู้ชายโกรธขึ้นมา จับคอเสื้อของเธอขึ้นมา และบังคับให้เธอมองเข้าหาตัวเอง”ฉันจะบอกกับแกนะ แกตกอยู่ในมือของฉันแล้ว ฉันจะจับต้องที่ไหนล้วนได้หมด”
เมื่อพูดถึงที่นี่ เขาก็มองสังเกตเธออย่างละเอียด และปรากฏรอยยิ้มที่ลามกออกมา”คาดไม่ถึงว่าหน้าตาของแกยังพอใช้ได้ หุ่นก็ดีอยู่”
พอได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อรู้สึกหวาดกลัวมาก แต่ยังคงพยายามทำเป็นใจเย็น”ถ้าแกมาจับต้องฉันในวันนี้นะ มันก็ไม่มีผลประโยชน์ใดๆต่อแกหรอก แกปล่อยฉันไปจะไม่ดีกว่าหรือ ฉันจะทำเป็นว่าเรื่องวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้น”
เขาเป็นผู้ร้ายที่ทางตำรวจประกาศจับ ถ้าเกิดว่าเป็นคนฉลาด ก็ไม่ควรที่จะมาก่อคดีอีก
แต่เสียดายที่เขาไม่ใช่คนฉลาด
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะเว้ย แกนึกว่าฉันจะเชื่อคำพูดของแกหรือวะ?จิ้นเฟิงเฉินขังพี่น้องของฉันไว้ ฉันก็จะเล่นผู้หญิงของเขา”
ผู้ชายพูดเสร็จ ก็เข้าใกล้ไปคิดจะจูบเธอ
“แกปล่อยฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้……”
เจียงสื้อสื้อดิ้นรนอย่างสุดแรง แต่เขากดเธออยู่บนกำแพงอย่างแน่น เธอยิ่งดิ้นรนเขาก็ยิ่งยิ้มอย่างลามกกว่าเดิม
“ขยับสิ ขยับอีกสิ!”
เมื่อเห็นท่าทางและสีหน้าที่ลามกของเขา เจียงสื้อสื้อรู้สึกโกรธขรึมสุดๆ
“ถ้าแกเชื่อฟังฉันนะ ฉันก็จะพยายามเบาลงหน่อย”ผู้ชายแตะหน้าของเธอเบาๆ
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ดิ้นรนอีก ผู้ชายเลยนึกว่าเธอประนีประนอมแล้ว ดังนั้นเขาเลยหละหลวมลงเล็กน้อย
เขาไม่ได้สังเกตถึงประกายแห่งความดุร้ายที่ปรากฏอยู่ในสายตาของเจียงสื้อสื้อ
ทันใดนั้น เจียงสื้อสื้อก็งอเข่า และกระแทกไปที่เป้ากางเกงของเขาอย่างโหดเหี้ยม
“อุ๊ย!”
ผู้ชายเจ็บปวดจนงอเองลง
เจียงสื้อสื้อฉวยโอกาสนี้รีบวิ่งหนี
ผู้ชายก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาไปคำนึงถึงความเจ็บปวด และวิ่งไล่ตามขึ้นไป
“อีหญิงระยำ อย่าคิดจะหนีพ้นนะเว้ย!”
เจียงสื้อสื้อหันกลับไปมอง รู้สึกใจร้อน และไม่ได้สังเกตใต้ขา ขาเลยเหยียบอากาศไปเปล่าๆ คนเลยกลิ้งลงจากบันได และหน้าผากก็ไปชนกับกำแพง
เจ็บมาก!
เธอลืมตาขึ้นมา ภาพพจน์ต่อหน้าพร่ามัวไปหมด
“มีคนมาช่วยหรือเปล่า มีคนกลิ้งลงจากบันได”มีคนตะโกนเรียกคนมาช่วย
เสียงเหมือนส่งมาจากพื้นที่ไกลมาก เธอหลับตาลงและสลบไป