ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 330 เสือไม่โกรธมองเธอเป็นแมวป่วย

บทที่ 330 เสือไม่โกรธมองเธอเป็นแมวป่วย

บทที่ 330 เสือไม่โกรธมองเธอเป็นแมวป่วย

“คุณผู้หญิงคะ ดิฉันไม่ได้หมายถึงอย่างงั้นค่ะ ขนาดของชุดนี้ไม่เหมาะกับลูกของคุณจริงๆ ค่ะ” พนักงานอธิบายอย่างใจเย็น

แต่ว่าอีกฝั่งไม่ยอมฟัง ยังคงโวยวายอย่างหยิ่งผยอง “ฉันไม่สน ฉันจะเอาชุดนี้”

ผู้หญิงอ้วนจ้องมองพนักงานด้วยความโกรธ “เธอจะหยิบไม่หยิบ? ไม่หยิบก็เรียกหัวหน้าพวกเธอมาก ฉันให้เขาไล่เธอออก!”

เมื่อไม่มีทางเลือก พนักงานจึงทำได้เพียงหยิบชุดเดียวที่มีให้ผู้หญิงอ้วน

“คุณผู้หญิงคะ ขออภัยจริงๆ ค่ะ คุณสามารถดูอื่นๆ อีกนะคะ” พนักงานยิ้มให้เจียงสื้อสื้ออย่างรู้สึกผิด

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปทำงานต่อเถอะค่ะ”

เธอมองไปที่ผู้หญิงอ้วน แล้วหมุนตัวเดินไปที่ห้องลองชุด

ชุดนั้นสวยจริงๆ และเหมาะกับเสี่ยวเป่า เสียดายที่ช้าไปก้าวเดียว และเสียดายความตั้งใจของนักออกแบบ

เหมือนที่พนักงานพูด สำหรับลูกชายของผู้หญิงอ้วนแล้ว ขนาดของชุดนั้นเล็กจริงๆ และไม่ใช่เล็กนิดเดียว

สามารถจินตนาการได้แล้วว่าชุดนั้นจะถูกทำลายแบบไหน

น่าเสียดายจริงๆ

เจียงสื้อสื้อถอนหายใจในใจ

“หม่ามี๊ครับ”

เมื่อได้ยินเสียง เจียงสื้อสื้อรีบเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาเป็นประกาย

เสี่ยวเป่าเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าขาวเนียนมีรอยยิ้มที่สดใส

ทั้งๆ ที่เป็นเพียงเสื้อเชิ้ตธรรมดาและกางเกงยีน แต่พอสวมบนตัวเขากลับเหมือนเสื้อแบรนด์เนม ดูดีและมีออร่า

โดยเฉพาะเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนทำให้ผิวของเขาขาวเนียนกว่าเดิม

“ดูดีไหมครับ หม่ามี๊” เสี่ยวเป่าถามออกเสียง

เจียงสื้อสื้อดึงสติกลับมา พูดด้วยรอยยิ้ม “ดูดีมากๆ”

“จริงเหรอครับ?” เสี่ยวเป่าหมุนตัว ยืนดูตัวเองอยู่หน้ากระจกอย่างมีความสุข

มองที่เขา เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ สมกับที่เป็นลูกชายของเฟิงเฉินจริงๆ

ใส่อะไรก็ดูดี

“งั้นผมเอาชุดนี้ครับ” เสี่ยวเป่าชี้เสื้อผ้าบนตัว

“ได้สิ เอาชุดนี้” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “อยากลองอย่างอื่นอีกไหม?”

“อยากครับ”

ต่อมา เสี่ยวเป่าลองอีกหลายชุด สวมแล้วผลออกมาดีมากๆ ดูดีกว่านายแบบเล็กในโปสเตอร์ที่ติดไว้บนกำแพง

ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ในร้านมีลูกค้าเยอะขึ้น

มีไม่น้อยที่เพราะเวลาผ่านหน้าร้าน เห็นชุดที่เสี่ยวเป่าลอง แล้วถูกดึงดูดเข้ามา

“เด็กน้อยคนนี้ดูดีจัง” มีคนอุทาน

“ใช่ค่ะ ฉันเดินผ่านตรงนี้ทุกวัน เสื้อผ้าแขวนไว้บนตู้ดูธรรมดา สวมบนตัวเขากลับดูดีมาก เสื้อผ้าขึ้นอยู่กับคนใส่จริงๆ”

“ถ้าลูกชายฉันดูดีขนาดนี้ก็ดี”

เจียงสื้อสื้อได้ยินคำชมพวกนี้ ในใจดีใจมาก แต่บรรยากาศที่ถูกล้อมรอบแบบนี้รู้สึกไม่ค่อยดี

ดังนั้น เธอพูดกับเสี่ยวเป่า “เธอไปเปลี่ยนชุด จ่ายบิลแล้วพวกเราไปหาแดดดี๊กัน”

จิ้นเฟิงเฉินพาพวกเขามาถึงร้านเสื้อผ้าเด็กก็ออกไปแล้ว บอกว่ามีธุระต้องจัดการ

“ได้ครับ”

เสี่ยวเป่าหมุนตัวจะเดินไปทางห้องลองชุด ทันใดนั้น มีเงาสีดำโผล่มาด้านหน้าเขา ขวางทางที่เขาเดินไป

คือลูกชายของผู้หญิงอ้วนคนนั้น

เขาชี้ที่ชุดที่เสี่ยวเป่าสวม พูดอย่างเผด็จการ “ฉันจะเอาชุดที่อยู่บนตัวนาย”

เสี่ยวเป่ามองเขา แล้วพูด “ถ้านายจะเอาก็ให้พี่พนักงานหยิบให้นายสิ ขนาดบนตัวฉันนายก็ใส่ไม่ได้”

ใส่ไม่ได้จริงๆ

ฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อยก็อ้วนกว่าเสี่ยวเป่าสองคน

เมื่อเด็กอ้วนได้ยิน ผลักเสี่ยวเป่าล้มลงอย่างแรง

“เสี่ยวเป่า!” เจียงสื้อสื้อตกใจมาก รีบพุ่งเข้าไปเช็คดูอาการ

เด็กอ้วนชี้ที่เสี่ยวเป่า พูดอย่างร้ายกาจ “ฉันจะบอกให้ พ่อฉันรวยมาก ทางที่ดีนายถอดเสื้อบนตัวนายออกมา มิฉะนั้นพ่อฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”

เมื่อได้ยิน เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว ในใจโกรธมาก เด็กอายุแค่นี้ ทำไมพูดแบบนี้? ที่บ้านเขาสอนเขายังไงกัน

เสี่ยวเป่าเคยโดนคนรังแกที่ไหนกัน บวกกับนิสัยดื้อรั้น เขาฮึมฮัมแล้วพูด “ฉันไม่ถอดหรอก”

“นายไม่ถอด ฉันช่วยนายถอด”

เด็กอ้วนพุ่งเข้ามาจะใช้ประโยชน์จากน้ำหนักตัวเองลงมือ

เจียงสื้อสื้อผลักเขาด้วยความโกรธ ดุอย่างแรง “เด็กน้อย เธอไม่รู้เหรอว่าเธอทำแบบนี้มันผิดน?”

เด็กอ้วนตกใจ หลังจากนั้น “แง้” ร้องไห้ออกมา

เจียงสื้อสื้องุนงง เธอไม่ได้ใช้แรงเลย แค่น้ำเสียงแรงไปหน่อย ไม่ต้องถึงขนาดร้องไห้มั้ง

“ลูกรัก ลูกรัก ใครรังแกเธอเหรอ?”

ผู้หญิงอ้วนได้ยินเสียงแล้วรีบวิ่งมา ดึงเขากอดไว้ในอ้อมกอดอย่างเห็นใจ

“เธอ เธอผลักผม!” เด็กอ้วนชี้มาที่ เจียงสื้อสื้อ ฟ้องผู้หญิงอ้วน

ผู้หญิงอ้วนรีบหันมาจ้องเขม็ง ถามด้วยอารมณ์โกรธ “ทำไมเธอต้องผลักเขา? ทำไมเธอต้องลงมือกับเด็กคนหนึ่ง”

หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่เป็นใจ เจียงสื้อสื้ออยากหัวเราะ มีแม่ที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ก็ไม่แปลกใจที่ลูกจะเอาแต่ใจขนาดนี้

เธอระงับอารมณ์ ลองพูดอย่างมีเหตุผลกับอีกฝ่าย “คุณผู้หญิง ลูกชายเธอผลักลูกชายฉันก่อน ฉันก็มาห้ามเขาไว้ แค่ผลักเขาเบาๆ ก็ไม่ได้เป็นอะไร”

“เธอผลักเขาแล้ว ยังพูดว่าไม่ได้เป็นอะไร ต้องลงมือตีเขาถึงจะนับเหรอ! ห้ะ?” ผู้หญิงอ้วนตะคอกอย่างลนลาน

มองดูท่าทางคร่ำครวญของฝั่งตรงข้าม จู่ๆ เจียงสื้อสื้อก็สงบลงทันที รู้สึกว่าคุยกับคนแบบนี้ มันสิ้นเปลืองเวลา สิ้นเปลืองชีวิต

เธอหันไปปรึกษากับเสี่ยวเป่าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “พวกเราเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วให้พี่ชายคนนี้ ดีไหม?”

เสี่ยวเป่าพยักหน้า “ได้ครับ”

เห็นเธอไม่สนใจตัวเอง ผู้หญิงอ้วนโกรธกว่าเดิม พุ่งเข้าไปผลักเธอ ด่าว่า “เธอหมายความว่ายังไง? เห็นฉันกับลูกชายฉันเป็นอะไร?”

เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆ อดทนและอธิบาย “คุณผู้หญิงคะ ลูกชายของเธออยากได้ชุดที่อยู่บนตัวของลูกชายฉัน ฉันถอดออกมาให้เขาก็แก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”

“แล้วเรื่องที่เธอผลักลูกชายฉันล่ะ?”

รู้สึกเหมือนไฟโกรธกำลังเดือดอยู่บนอก เจียงสื้อสื้อพยายามทนไว้ “ฉันบอกแล้วว่าลูกชายเธอผลักลูกชายฉันก่อน ถ้าจะแก้ปัญหา ก็แก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อนเถอะค่ะ”

“เฮอะๆ!” ผู้หญิงอ้วนหัวเราะเยาะ “ทำไม? จะให้ลูกชายฉันขอโทษลูกชายเธอก่อนเหรอ?”

เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “การขอโทษไม่ใช่เรื่องพื้นฐานที่สุดเหรอคะ?”

“ไม่มีทาง!” ผู้หญิงอ้วนโบกมือ พูดอย่างเย่อหยิ่ง “ลูกชายฉันไม่มีทางขอโทษ เธอฝันเถอะ”

เจียงสื้อสื้อยิ้มด้วยความโกรธ “ได้ งั้นฉันก็ไม่มีทางขอโทษ”

ในเมื่อเธอเป็นคนไม่มีเหตุผล งั้นก็ไม่ต้องมีเหตุผลแล้ว!

พนักงานที่อยู่ข้างๆ เห็นเหตุการณ์จึงรีบพุ่งเข้ามาห้ามเธอ “คุณผู้หญิงคะ มีอะไรก็คุยกันดีๆ นะคะ อย่าลงไม้ลงมือกันเลยค่ะ”

“ไสหัวของเธอไปนะ!” ผู้หญิงอ้วนผลักพนักงานออก พนักงานผอมมาก ทีเดียวก็ล้มลงทันที

ผู้หญิงอ้วนยกมือขึ้นอีกรอบเพื่อจะตี ดวงตาของเจียงสื้อสื้อมีแสงวาบ เสือไม่โกรธมองเธอเป็นแมวป่วยเหรอ?

“เพี๊ยะ!”

ทันใดนั้นเสียงตบหน้าดังขึ้นในร้าน ทุกคนต่างตะลึง

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท