ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 341 ไร้ยางอายจริงๆ

บทที่ 341 ไร้ยางอายจริงๆ

บทที่ 341 ไร้ยางอายจริงๆ

เสียงตื่นตกใจนี้ถือว่าได้ดึงความคิดของทุกคนกลับมา ส้งหวั่นชีงโดดลงมาจากเตียงอย่างตื่นตระหนก ยืนอยู่ที่ด้านข้างอย่างทำอะไรไม่ถูก

จิ้นเฟิงเหราก็ถูกเสียงตะคอกของเมื่อกี๊ทำเอาสะดุ้งตื่น เขาเดินมาจากทางโซฟาอย่างเกียจคร้าน และพูดอย่างไม่แคร์เลยสักนิด “นอนก็นอนสิ ทำไมต้องทำเป็นกระต่ายตื่นตูมด้วย”

“คุณจิ้น ขอโทษค่ะ เพราะฉันเองที่ดูแลไม่ทั่วถึง ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ” ในเวลานี้ส้งหวั่นชีงก็ได้ยืนออกมาขอโทษ เธอก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อคืนตัวเองจะเมาจนภาพดับ

“นี่คุณยังมีจรรยาบรรณของการพยาบาลอยู่มั้ย? ให้คุณดูแลผู้ป่วย คุณก็คือดูแลแบบนี้เหรอ?”

“ถ้าข่าวแพร่ออกไป คุณรู้มั้ยว่าจะมีผลกระทบกับทางโรงพยาบาลเรามากแค่ไหน?!”

ถึงส้งหวั่นชีงจะออกมาขอโทษ แต่คุณหมอกับหัวหน้าพยาบาลก็ยังตำหนิติเตียนอีกเช่นเคย

ศีรษะของส้งหวั่นชีงยิ่งก้มต่ำลงไปอีก ไม่ชอบสีหน้าที่กล้ำกลืนของเธอ จิ้นเฟิงเหราได้แต่ออกมาพูด

“พอได้แล้ว พวกคุณก็พูดน้อยๆหน่อยเถอะ เมื่อคืนผมเป็นคนบอกให้เธออยู่เป็นเพื่อนผมเอง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นก็ไม่ใช่เวลาทำงานสักหน่อย”

แต่ว่าหลังจากเขาพูดจบ ส้งหวั่นชีงกลับกลอกตาขาวใส่เขาทีหนึ่ง คำพูดสองคำนี้ของเขาอย่าพูดออกมาจะดีกว่า ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะเข้าใจผิดชัดๆเลย

เห็นจิ้นเฟิงเหราพูด หมอกับพยาบาลก็ไม่ได้ตำหนิส้งหวั่นชีงอย่างรุนแรงอีก กำชับไปไม่กี่คำต่างก็ได้จากไปแล้ว

ก่อนที่ส้งหวั่นชีงจะจากไป จิ้นเฟิงเหรายังได้กระพริบตาใส่เธอ หลังจากส้งหวั่นชีงเห็นก็ได้จากไปอย่างไว

ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน ข่าวที่ส้งหวั่นชีงนอนอยู่ที่ห้องของจิ้นเฟิงเหราก็ได้แพร่สะพัดไปทั่วโรงพยาบาล ไม่เพียงแต่หมอและพยาบาลที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่ผู้ป่วยก็ยังเอาเรื่องนี้มาเป็นขี้ปากเม้าท์มอยแก้เบื่อหลังทานข้าวเลย

พลบค่ำ แม่จิ้นหิ้วอาหารเพื่อสุขภาพมาเยี่ยมจิ้นเฟิงเหรา แต่ว่าหลังจากเธอมาถึงที่โรงพยาบาล ก็ได้ยินข่าวมากมายที่ทำให้เธอประหลาดใจ

แม่จิ้นเดินมาที่ห้องผู้ป่วยของลูกชายอย่างไว อยากสืบหาความจริงของข่าว “เฟิงเหรา แม่ได้ยินที่โรงพยาบาลต่างก็ลือกันหนาหูเรื่องที่ลูกที่นอนกับพยาบาล นี่คือเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ?”

ได้ยินคำถามของแม่ จิ้นเฟิงเหราที่อมข้าวอยู่ในปากอดไม่ได้ที่จะพ่นออกมา เขารีบอธิบาย “แม่ครับ มันเรื่องเพ้อเจ้ออะไรครับเนี่ย ข่าวลือมั่วซั่วแบบนี้แม่ก็เชื่อด้วยหรอครับ?”

“พยาบาลคนนั้นแค่ดูแลผมเฉยๆ เมื่อวานเธออารมณ์ไม่ดี ก็เลยดื่มเหล้าไปนิดหน่อย ต่อมาดื่มจนเมา ผมก็เลยพาเธอกลับมา จะทิ้งผู้หญิงเอาไว้ข้างถนนไม่สนใจก็คงไม่ได้มั้งแต่ผมรับประกันว่าผมไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลยนะครับ”

หลังจากแม่จิ้นได้ยินคำพูดนี้ถึงวางใจลง ได้ยินพยาบาลดื่มเหล้า จึงหันมาถามว่า “พยาบาลดื่มเหล้า ลูกคงไม่ได้ดื่มเป็นเพื่อนเธอใช่มั้ย?”

รู้สึกได้ถึงสายตาของแม่จิ้นเฉียบคมเหมือนมีด จิ้นเฟิงเหรินรีบพูดตามความจริง “แม่ ผมไม่ได้ดื่มครับ ผมรู้ดีแก่ใจ อ้อใช่ พี่ชายและพี่สะใภ้ล่ะครับ? ทำไมไม่เห็นพวกเขามาเยี่ยมผมเลย”

แม่จิ้นฟังแล้วก็พูดโดยที่ไม่เงยหน้า “พวกเขาไปเที่ยวแล้ว รวมทั้งเสี่ยวเป่าด้วย”

จิ้นเฟิงเหราประหลาดใจ แต่ก็เสียใจมาก คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะหนีตัวเองแอบไปเที่ยว เกิดความคับแค้นใจที่สุดอย่างไม่มีอะไรจะเทียบได้ในชั่วขณะ

“แม่ครับ พี่ใหญ่นี่แล้งน้ำใจจริงๆเลย น้องชายของเขายังบาดเจ็บนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย แต่เขาล่ะ กลับพาลูกเมียไปเที่ยว ผมช่างน่าสงสารจริงๆเลย!”

แม่จิ้นไม่สนใจจิ้นเฟิงเหราที่ยังบ่นอยู่ เอาแอ๊ปเปิ้ลที่อยู่ในมือยัดไปให้เขาโดยตรง พูดด้วยแววตาที่โศกเศร้าเสียใจ “ถ้าไม่ใช่เพราะลูก ป่านนี้แม่ก็ได้ไปเที่ยวกับพวกเสี่ยวเป่าแล้ว”

จิ้นเฟิงเหราในนาทีนี้มีความทุกข์พูดไม่ออกจริงๆ พี่ชายละทิ้งเขาก็แล้วไป ตอนนี้แม้แต่แม่ของตัวเองก็เริ่มรังเกียจตัวเองแล้ว

หลังจากจิ้นเฟิงเหรากัดแอ๊ปเปิ้ลคำหนึ่งก็ได้นอนขี้โกงอยู่บนเตียง และพูดออดอ้อน “คุณแม่นี่ลำเอียงจริงๆเลย พอมีหลานก็ไม่เอาลูกแล้ว ลูกชายของแม่ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แม่กระตุ้นเขาขนาดนี้ได้ยังไง หัวใจดวงน้อยๆของผมถูกทำร้ายจิตใจจะแย่อยู่แล้ว”

ระหว่างพูดยังแกล้งป่วยโดยการขมวดคิ้วไว้แน่น

แม่จิ้นที่อยู่ข้างๆกำลังเก็บข้าวของอยู่ หลังจากฟังแล้วก็ได้กลอกตาใส่เขาทีหนึ่งแล้วพูดว่า “ดูสีหน้าที่กระโดดโลดเต้นของแกก็รู้ว่าแกไม่เป็นไร เอาล่ะ พักรักษาร่างกายดีๆ เดี๋ยวพอหายดีก็สามารถออกไปเที่ยวได้แล้ว”

เห็นแผนทุกข์กายใช้ไม่ได้ผล จิ้นเฟิงเหราได้แต่ล้มเลิกแผน ใช้สายตาส่งแม่จิ้นออกจากโรงพยาบาล

หลังแม่จิ้นจากไป รู้สึกเบื่อหน่ายอย่างห้ามใจไม่ได้

พอนึกถึงพ่อแม่ลูกสามคนนั้นออกไปเที่ยว เหลือแค่ตัวเองที่เดียวดายอยู่ในประเทศ เขาก็ค่อนข้างอารมณ์ขึ้นเลย

โทรหาจิ้นเฟิงเฉิน วิดีโอคอลถูกรับสายแล้ว

ในจอเห็นแค่ภาพของทะเล นี่ยิ่งทำให้จิ้นเฟิงเหราคับแค้นใจ จิ้นเฟิงเฉินมองน้องชายที่นอนอยู่บนเตียง และพูดอย่างเย็นชา“มีธุระอะไรหรือเปล่า?”

เผชิญกับท่าทีของพี่ชายตัวเอง จิ้นเฟิงเหราทำเป็นไม่เห็นโดยตรง เขาคอยมองเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ และพูดเสียงดังว่า “เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่า มาให้อาดูหลานหน่อยเร็ว”

เสี่ยวเป่าที่ถูกเรียกชื่อได้รีบวิ่งมา เห็นจิ้นเฟิงเหราที่อยู่ในสาย เขาพูดอย่างมีความสุข “คุณอารีบหายไวๆนะครับ เสี่ยวเป่าชอบที่นี่มากเลยครับ”

ยังไม่รอให้จิ้นเฟิงเหราพูดต่อ เสี่ยวเป่าก็ได้วิ่งไปอีกด้านหนึ่ง พอหันหน้าจอมาปุ๊บก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาของพี่ชายอีก “ไม่มีอะไรงั้นฉันวางสายแล้ว เดี๋ยวจะพาสื้อสื้อไปทานข้าวเที่ยง”

เรื่องเป็นดังที่คาดคะเนไว้จริงๆ จิ้นเฟิงเฉินได้ตัดสายทิ้งโดยตรง

…………………

จิ้นเฟิงเหราเห็นตัวเองได้รับบาดเจ็บแต่ยังถูกปฎิบัติแบบนี้ เขาได้เขยี้วงมือถือออกไปไกลมาก แถมยังอดไม่ได้ที่จะบ่น “พอมีลูกมีเมีย ก็ลืมน้องชายอย่างผมจนสนิทเลยนะ จะบ้าตายอยู่แล้ว”

จิ้นเฟิงเหราที่อยู่ฝั่งนี้กำลังบ้าคลั่งอยู่ ส้งหวั่นชีงที่อยู่อยู่อีกฝั่งกลับไม่ได้อยู่ดีมีสุขสักเท่าไหร่

เธอในตอนนี้เป็นบุคลลที่โรงพยาบาลโฟกัส ไม่ว่าเธอเดินไปถึงไหนก็มีคนชี้นิ้วนินทาเธอ ทำให้เธอค่อนข้างที่จะปวดหัว

เธอทนไม่ไหวกับคำพูดนินทาพวกนั้นจริงๆ ได้แต่หลบอยู่ในห้องน้ำและสงบครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงกลับได้ยินคำพูดที่ยิ่งเสียใจเข้าไปอีก

“ส้งหวั่นชีงนี่ไร้ยางอายจริงๆเลย แฟนก็มีแล้ว ยังอ่อยคนไปทั่วอีก เชอะ~คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ดูซื่อตรงขนาดนั้น ที่จริงก็เป็นคนที่ประพฤติตัวไม่ดีเหมือนกัน”

“ก็นั่นน่ะสิ อีกอย่าง ไม่นึกเลยว่าเมื่อวานฉันจะเห็นแฟนของเขาพาผู้หญิงอีกคนมาตรวจครรภ์ด้วย แหมๆๆหน้าตาของสองคนนั้น อย่าให้พูดเลยว่าสนิทแนบแน่นมากแค่ไหน”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ เป็นแบบนี้จริงๆเหรอ นี่มันตลกเกินไปหรือเปล่า งั้นเธอก็ถูกสวมเขาน่ะสิ”

…………………

คำพูดที่เหน็บแนมของพวกเธอได้ก้องเข้ามาในหูของส้งหวั่นชีง เธอที่หลบอยู่ในห้องน้ำไม่กล้าส่งเสียงออกมา ได้แต่กัดริมฝีปากไว้แน่น

คำพูดเหน็บแนมของด้านนอกยังได้เม้าท์ต่อไป คนที่หนึ่งในนั้นได้พูดอย่างเมินใส่ “ดูสารรูปของเธอสิ เป็นครอบครัวที่มีแค่พ่อหรือแม่คนเดียวเท่านั้น ไม่มีภูมิหลังและไม่มีฐานะ ยังเพ้อฝันอยากจะไต่เต้าคุณชายจิ้นที่สูงส่งอีก

ใครบ้างที่ไม่รู้ นอกจากพี่ชายของเขาแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคที่สุดในเมืองจิ่น ทรัพย์สินมีเป็นแสนล้านไม่พอ แถมยังหน้าตาหล่อขนาดนี้ สายตาสูงจะตาย แล้วจะมาชอบเธอได้ยังไง?”

“ก็นั่นน่ะสิ คนที่คุณชายรองจิ้นชอบคือหัวหน้าพยาบาล คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยม แถมขึ้นเตียงของ คุณชายรองจิ้นโดยตรงด้วย”

ทั้งแก๊งพูดจบก็ได้ไปจากห้องน้ำได้ยินมีเสียงอย่างอื่นอีก ส้งหวั่นชีงถึงกล้าพุ่งออกมาจากห้องน้ำ

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท