บทที่ 333 ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉัน
ณ ห้องคนไข้ แม่จิ้นกำลังป้อนอาหารเสี่ยวเป่า เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อกลับมา เธอก็พูดอย่างเฉยเมยว่า: “กลับมาแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
เจียงสื้อสื้อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของแม่จิ้น เธอก็ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา เธอบีบไปที่ฝ่ามือของตัวเองและเดินเข้าไป
“หม่ามี๊”เสี่ยวเป่าเรียกเธอ
เจียงสื้อสื้อส่งยิ้มที่อ่อนโยนให้เขา “เสี่ยวเป่าเชื่อฟังนะคะ กินข้าวให้หมด แล้วหม่ามี๊ค่อยเล่นกับหนูนะ ”
“ผมอยากให้หม่ามี๊ป้อน”
“นี่…….. ” เจียงสื้อสื้อมองไปที่แม่จิ้น
แม่จิ้นก็เหลือบไปมองเธอเช่นกัน
สายตานี้ดูเย็นชานิด ๆ เหมือนมองคนแปลกหน้า
เจียงสื้อสื้อหนักใจขึ้นมา มือที่อยู่ข้างๆก็ค่อยๆกำแน่น
“คุณย่าครับ ผมอยากให้หม่ามี้ป้อน” เสี่ยวเป่ามองไปที่แม่จิ้นด้วยแววตาขอร้อง
ไม่ว่าแม่จิ้นจะไม่พอใจ เจียงสื้อสื้อแค่ไหน แต่แม่จิ้นก็รักหลานชายของเธอมากอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงได้แต่ยิ้มและพูดว่า “โอเค ให้หม่ามี๊ของหนูป้อน”
เสี่ยวเป่ายิ้มออกมาทันทีและหันไปมองเจียงสื้อสื้อ
แม่จิ้นยื่นชามไป “เธอมาป้อน”
“ค่ะ” เจียงสื้อสื้อรีบรับมา
“ ถ้าอย่างนั้นเธอป้อนไปก่อน ฉันจะไปส่งอาหารให้เฟิงเหรา”
แม่จิ้นถือกระติกบนโต๊ะข้างเตียงและพูดกับเจียงสื้อสื้อ
“ค่ะ.”
เมื่อมองดูเธอเดินจากไป เจียงสื้อสื้อก็นั่งลงบนขอบเตียง
เสี่ยวเป่ามองไปที่เธอ “หม่ามี๊ ป้าคนเลวคนนั้นถูกลุงตำรวจขังไว้หรือยังครับ?”
“ใช่ค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
“ แล้ว ……. พี่คนผู้ชายคนนั้นล่ะ?”
“หือ?” เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงถามแบบนี้
“พี่ชายตัวเล็กๆคนนั้นก็จะไม่มีแม่แล้วใช่ไหมครับ? ถ้าอย่างงั้นเขาก็จะเป็นเหมือนเสี่ยวเป่าในเมื่อก่อน ไม่มีแม่น่าสงสารมากนะครับ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้เสี่ยวเป่ารู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“ เสี่ยวเป่า ป้าคนนั้นจะถูกกักตัวไว้แค่สักพัก อีกไม่นานก็ได้กลับบ้าน”
เด็กคนนี้จิตใจดีจริงๆแม้ว่าจะมีคนมารังแกเขา เขาก็ยังคงเสียใจกับเรื่องแบบนี้
“จริงเหรอครับ?” ใบหน้าเล็ก ๆที่เศร้าๆของเขาก็สดใสขึ้นทันใด
เจียงสื้อสื้อยิ้มเบา ๆ “แน่นอนสิว่ามันเป็นความจริง”
เธอพูดต่อขณะที่กำลังป้อนข้าวเขา: “หนูต้องกินข้าวให้หมดอย่างเชื่อฟัง อย่างงี้ร่างกายจะได้หายไวๆ และจะได้กลับบ้านเร็วๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเป่าก็กินข้าวอย่างเต็มปากเต็มคำ กินอย่างหอมกรุ่น ไม่นานก็กินหมด
เจียงสื้อสื้อเช็ดปากให้เขาและถามว่า “เสี่ยวเป่าอิ่มหรือยัง?”
เสี่ยวเป่าพยักหน้า“ อิ่มแล้ว”
“ดีมากค่ะ” เจียงสื้อสื้อแตะไปที่แก้มของเขาเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า: “หนูนอนลงดีๆ ถ้าง่วงก็หลับไปสักพักนะคะ หม่ามี๊ออกไปสักครู่นะ”
“หม่ามี๊จะไปไหนครับ” ตาโตๆของเสี่ยวเป่าจ้องไปที่เธอ “หม่ามี๊จะกลับมาหาผมไหมครับ?”
เจียงสื้อสื้อสัญญาอย่างจริงจังว่า “แน่นอนสิ หม่ามี๊จะอยู่กับหนูตลอดไป”
เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างสบายใจ “ถ้าอย่างนั้นหม่ามี๊ไปเถอะ หนูจะไม่ดื้อ”
“น่ารักจริงๆ” เจียงสื้อสื้อแตะศีรษะของเขา
…………..
เจียงสื้อสื้อไปที่จิ้นเฟิงเหรา ทันทีที่เธอเดินไปถึงหน้าประตูของห้องผู้ป่วย เธอก็ได้ยินเสียงของแม่จิ้นดังมาจากข้างใน
“นายว่าตั้งแต่พี่ชายของนายได้เจอกับสื้อสื้อ ดูเหมือนว่ามีพายุเข้าตลอดเลยนะ เอะอะก็เกิดเรื่อง นี่ไง ขนาดเสี่ยวเป่ายังเกิดเรื่องเลย
“ แม่ครับ นี่แม่กำลังโทษพี่สะใภ้เหรอ?”
“ ฉันไม่ได้โทษเธอ ฉันแค่ไม่สบายใจ”
จิ้นเฟิงเหรายิ้มและเหล่มองเธออย่างทำอะไรไม่ถูก“ แม่ครับ ผมจะบอกให้นะ ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้นหรือเรื่องเสี่ยวเป่าในครั้งนี้ก็ตาม ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่สะใภ้เลย”
คำพูดนี้แม่จิ้นไม่ชอบฟัง “นี่นายพูดไม่ถูกนะ จะพูดว่าไม่เกี่ยวกับเธอได้อย่างไร จะมากหรือน้อยก็เกี่ยวข้องกับเธออยู่บ้าง”
“ แม่ครับ นี่แม่กำลังโทษพี่สะใภ้นิครับ?”
แม่จิ้นเบะปากไว้ ไม่ได้พูดอะไร
จินเฟิงเหราถอนหายใจ “แม่ครับ ทางที่ดีแม่ไม่ควรแสดงอะไรต่อหน้าพี่สะใภ้นะ เธอเป็นคนอ่อนไหวง่าย ถ้าเธอคิดมากเรื่องนี้ แม่ก็กำลังทำให้พี่ชายเดือดร้อน”
สีหน้าของแม่จิ้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่
จิ้นเฟิงเหราเกลี้ยมกล่อมเธออีกครั้ง: “แม่และพ่อยอมรับพี่สะใภ้แล้ว ดังนั้นอย่าไปคิดอะไรพวกนั้นเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรักใคร่กลมเกียวกันในครอบครัว”
“ถ้านายหาแฟนฉันได้สักคนก็คงจะดีกว่านี้” แม่จิ้นเหร่มองเขาและพูดอย่างโกรธ ๆ
“ แม่ครับ ทำไมพูดถึงเรื่องนี้ล่ะ?” จิ้นเฟิงเหราไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมความคิดของเธอพลุ่งพล่านขนาดนี้
เขากำลังพูดถึงเรื่องนี้ เธอกลับพูดถึงเรื่องอื่นแทน
มันสื่อสารกันไม่ได้จริงๆ
“ช่างมันเถอะ ฉันจะไม่พูดแล้ว ” จิ้นเฟิงเหรายอมแพ้แล้ว
จากนั้นแม่จิ้นจึงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันแค่พูดๆเท่านั้นแหละ ไม่ทำอะไรกับสื้อสื้อหรอก”
แม้ว่าครั้งนี้เสี่ยวเป่าประสบอุบัติเหตุ เธอก็ไม่พอใจกับเจียงสื้อสื้ออยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่นี้ ไม่มีความคิดอื่นใด
เจียงสื้อสื้อพิงบนกำแพง มองขึ้นไปบนเพดาน ริมฝีปากของเธอโค้งงอลงมาและสีหน้าของเธอก็เศร้าเล็กน้อย
เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นชาของแม่จิ้น
เธอไม่ได้โง่ เธอรู้ว่าเป็นเพราะเรื่องของเสี่ยวเป่า แต่เธอโทษแม่จิ้นไม่ได้ เธอรักเสี่ยวเป่าขนาดนี้เสี่ยวเป่าได้รับบาดเจ็บ เธอต้องทุกข์ใจมากอย่างแน่นอน และจะต้องโกรธเธอแน่นอน
แต่แค่ได้ยินด้วยตัวเอง มันก็รู้สึกเศร้าใจอยู่บ้าง
………………
เสี่ยวเป่าอยู่ในโรงพยาบาลมาหนึ่งคืน และก็กลับบ้านในวันรุ่งขึ้น
“เสี่ยวเป่าหนูขึ้นไปชั้นบนกับคุณปู่พ่อบ้านนะ ฉันมีอะไรจะพูดกับคุณย่าหน่อย”
“ครับ”
เสี่ยวเป่าถูกพ่อบ้านพาไปชั้นบนอย่างเชื่อฟัง เขาหันกลับมาเป็นครั้งคราวระหว่างเดินไป
เจียงสื้อสื้อยิ้มและโบกมือให้กับเขา เมื่อพวกเขาไปถึงชั้นสอง เธอจึงละสายตาและหันไปมองแม่จิ้น
“ เธอมีอะไรจะบอกกับฉันเหรอ?” แม่จิ้นถาม
เมื่อเทียบกับเมื่อวาน ท่าทีของแม่จิ้นดีขึ้นเยอะมาก เธอไม่เฉยเมย แต่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
“คุณป้าคะ ฉันอยากจะขอโทษคุณ” เจียงสื้อสื้อก้มศีรษะลงเหมือนเด็กที่ทำผิดพลาดไป
แม่จิ้นตกตะลึง“ นี่เป็นอะไรรึเปล่า?”
“มันเป็นความผิดของหนูเองที่ดูแลเสี่ยวเป่าไม่ดี จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับเสี่ยวเป่า เป็นความผิดของหนูเองทั้งหมด”
เมื่อวานที่ได้ยินการสนทนาระหว่างเธอกับจิ้นเฟิงเหรา เจียงสื้อสื้อก็คิดไปเยอะมาก
แทนที่จะปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นปมในใจเธอ เธอพูดให้มันชัดเจนเองเสียดีกว่า เพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกติดใจ
แม่จิ้นไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะพูดแบบนี้ เธอตกตะลึง แต่เธอก็ไหวตัวอย่างรวดเร็วและรีบพูดว่า “อย่าพูดแบบนั้นสิ นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ”
“คุณป้าคะ เสี่ยวเป่าตอนที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ เสี่ยวเป่าแทบไม่ได้มีแผลอะไรเลย แต่ครั้งนี้เจ็บขนาดนี้ คุณต้องทุกข์ใจเป็นพิเศษแน่ๆ ขอโทษจริงๆนะคะ”
เธอขอโทษอีกครั้ง
แม่จิ้นก็ทำตัวไม่ถูกทันที เธอมีความไม่พอใจต่อเธอก็จริง แต่ตอนนี้เธอขอโทษด้วยความจริงใจเช่นนี้ มันทำให้รู้สึกอายเล็กน้อย
แม่จิ้นถอนหายใจและพูดว่า “สื้อสื้อ นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ ผิดที่อีกฝ่ายหยาบคายและไร้เหตุผลเกินไป ป้าไม่ถือโทษเธอนะ”
“คุณไม่โกรธฉันจริงๆหรือคะ” เจียงสื้อสื้อกลัวว่าเธอแค่พูดๆเท่านั้น
แม่จิ้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“ แน่นอนว่าฉันไม่โทษเธอสิ พูดตามตรงตอนแรกฉันโกรธอยู่เล็กน้อย รู้สึกว่าว่าเธอดูแลเสี่ยวเป่าไม่ดี แต่ฉันมาคิดๆแล้ว เรื่องนี้โทษเธอไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเธอไม่ ต้องคิดมากแล้ว ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของ เจียงสื้อสื้อ ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เธอเม้มริมฝีปากและยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความเข้าใจของคุณป้านะคะ”
“โอเค เธออย่าคิดมาก รีบขึ้นไปพักผ่อนเถอะ ” แม่จิ้นพูดอย่างอ่อนโยน
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “โอเคค่ะ”
เรื่องนี้เคลียร์กันแล้ว เจียงสื้อสื้อก็เหมือนได้หายใจสะดวกๆสักที ปมในใจก็คลายออกแล้ว