บทที่380 ทำให้คนอื่นรับไม่ได้
ทุกเรื่องในโลกนี้ล้วนเป็นไปอย่างไม่แน่นอน มีคนสุขก็ต้องมีคนเศร้าเสมอ
สองวันนี้ ธุรกิจของสตีเฟนกรุ๊ปพบกับปัญหาต่างๆ ตอนแรกคือการทะเลาะวิวาท ยังมีคนขายสิ่งของที่ผิดกฎหมายในนั้น ธุรกิจหลายแหล่งก็โดนตำรวจจับได้และระงับธุรกิจ
ภายในห้องสวีทของโรงแรมระดับห้าดาว ขณะนี้ จี้เฉินเอนกายลงบนโซฟานุ่ม นิ้วเรียวเคาะที่เขี่ยบุหรี่ข้างตัวเขา และฟังรายงานของผู้ช่วยตรงหน้าเขา
มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่เย็นชา ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยฆาตกรรม อดไม่ได้ที่คิดในใจ ไอ้จิ้นเฟิงเฉินทำเร็วจริงๆ
เห็นเขาทำตัวแบบนี้ ผู้ช่วยก็รู้สึกตกอกตกใจ เพราะว่าสีหน้าแบบนั้น เหมือนกับว่าพายุใกล้เข้าแล้ว
ผู้ช่วยพลิกดูงบการเงินในช่วงสองวันที่ผ่านมา พูดด้วยความเศร้าใจว่า “คุณชายครับ สูญเสียเงินไปหลายล้านในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาครับ หากไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ถ้าเรื่องนี้ถูกส่งไปที่ต่างประเทศ เข้าหูของครอบครัวnaugh ผมกลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อสถานะของคุณ ”
คำพูดต่อไป ผู้ช่วยไม่ได้พูดออกมา เพราะเรื่องง่ายๆเช่นนี้ จี้เฉินต้องเข้าใจอยู่แล้ว
ไม่เพื่อสิ่งอื่น ทายาทของสตีเฟนกรุ๊ปไม่ใช่มีแค่เขาคนเดียว
ประธานสตีเฟนในอดีตเป็นคนหลายใจ มีผู้หญิงข้างนอกบ้านเยอะมาก มีลูกนอกสมรสสามสี่คนที่ได้รับการยอมรับจากเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและพวกเขาทั้งหมดกำลังจับตามองทรัพย์สินของตระกูลอยู่
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้ชายพวกนั้นสามารถได้รับการยอมรับได้ ก็หมายถึงว่าแม่ของพวกเขาก็ต้องมีวิธีการที่ไม่ธรรมดา ถ้าต่อสู้กันจริงๆ แต่ละคนล้วนไม่ใช่คนที่ยอมได้ง่ายๆ
งั้นจี้เฉินในตอนนี้ก็ถือว่าอันตรายมาก
เพราะว่าถ้าอยากได้ทรัพย์สิน ก็ต้องลากเขาลงมาจากตำแหน่ง ดังนั้นจี้เฉินก็คือศัตรูร่วมกันของพวกเขาทุกคน และไม่ทีคนช่วยด้วย
การรายงานของผู้ช่วยทำให้จี้เฉินรู้สึกเสียดายมาก เพราะธุรกิจพวกนี้สะสมมาจากการออมของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สูญเสียไปมากมายในสองวัน คงไม่มีใครสามารถทนได้หรอก
เห็นเขาไม่พูดอะไรเลย ผู้ช่วยกลัวเขาคิดมาก เป็นห่วงเขา “คุณชายครับ?”
ยังไงก็ได้ทำการค้ามาหลายปี การขาดทุนหรือการได้กำไรล้วนเป็นเรื่องปกติ สมเหตุสมผล แต่ครั้งนี้สูญเสียไปมากหน่อยก็ยังไงล่ะ จี้เฉินยังไม่ถึงจะเสียใจ
เมื่อเทียบกับเงินที่สูญเสียไปส่วนนี้ ถ้าทรัพย์สมบัติของสตีเฟนกรุ๊ปถูกแย่งไป นั้นคือสิ่งที่ทำให้คนรับไม่ได้จริงๆ
ได้ยินเสียงเรียกของผู้ช่วย จี้เฉินเงยหน้าขึ้นมอง กัดฟันอย่างเหนื่อย พูดเสียงเบาๆ “สูญเสียแค่นี้ไม่เป็นไร ถ้าได้ของที่อยู่ในมือของจิ้นเฟิงเฉินมาได้ พวกเขาก็ไม่มีอะไรว่าแล้ว”
ช่วงนี้งานเยอะ เขารีบร้อนไม่ได้ ห้ามโดนพวกเขาจับผิดได้ ไม่งั้นก็คือยังไม่ได้ทำอะไรก็ต้องยอมแพ้เสียก่อนแล้ว
แม้ว่าจี้เฉินก็เสียใจ แต่ในท้ายที่สุดความคิดของเขาก็ชนะแรงกระตุ้นที่อยู่ในใจเขา
ผู้ช่วยก็ถอนหายใจ ขอให้เขาไม่มีปัญหาใดๆ สิ่งอื่นๆก็สามารถขบฟันอดทนไปต่อได้
ในเวลาที่เขาคิดมาก จี้เฉินพูดอย่างรับว่า “ตอนนี้แกต้องรีบทำแล้ว เราสูญเสียเปล่าไม่ได้”
คนอย่างจี้เฉิน ไม่ยอมแพ้ได้ง่ายหรอก จิ้นเฟิงเฉินทำให้เขาสูญเสียเยอะขนาดนี้ เขาจะเอาคืนมาให้ได้
จี้เฉินเงียบซะพักและพูด “ฝั่งของสมาคมทหารรับจ้างส่งคนมายัง?”
ผู้ช่วยตอบทันที “อาจจะใกล้มาถึงแล้ว”
ขนาดที่สองคนกำลังคุยอยู่ มีคนกดกริ่ง จี้เฉินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและส่งสายตาให้ผู้ช่วย เขารู้ทันทีและไปเปิดประตู
ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง สีหน้าเหมือนปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ
สองคนนี้ก็คือคนที่พวกเขาพูดถึงเมื่อกี้ คนที่มาจากสมาคมทหารรับจ้าง จี้เฉินจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างพวกเขามา
รอนานขนาดนี้สุดท้ายก็มาแล้ว ถ้าพวกเขามาแล้ว จี้เฉินก็มีคนช่วยทำสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้มาก่อน
เขาเหล่ตา มองไปพวกเขาสองคนอย่างอันตราย
โดนแรกก็แค่อยากเห็นสองคนนี้มีอะไรที่พิเศษกว่า แต่ในขณะนี้ เขารู้สึกว่าสมาคมทหารรับจ้างสมควรได้รับขึ้นชื่อจริงๆ มีคนที่เย็นช้าขนาดนี้ด้วย
ดีมาก จี้เฉินพยักหน้า เขาต้องการคนที่ไร้ความรู้สึกแบบนี้
ถ้าคนไม่มีความรู้สึก ทำอะไรก็ไม่มีความคำนึงถึงเรื่องอื่นแล้ว
“คุณสตีเฟน มีอะไรก็สั่งมาครับ”ผู้ชายคนนั้นพูดว่า
เพราะว่าคือคนที่มาจากสมาคมทหารรับจ้าง ก็แค่มาทำงานอย่างเดียว
จี้เฉินไม่อยากพูดใหม่ ก็มองไปทางผู้ช่วย
ผู้ช่วยบอกพวกเขาสิ่งที่พวกเขาต้องทำ แล้วถอยไปข้างๆ มองไปดูสีหน้าของจี้เฉิน
จี้เฉินเอาข้อมูลที่อยู่บนโต๊ะ เอาสามหรือสี่โฟลเดอร์ออกจากตรงกลางให้สองคนนั้นแล้วพูดว่า “และพวกนี้ก็คือคนข้างๆของจิ้นเฟิงเฉิน รวมครอบครัวของเขาด้วย ข้างในมีทั้งน้องชาย พ่อแม่ คู่หมั้นและลูกชาย คนพวกนี้ก็คือคนที่พวกแกต้องจัดการก่อน”
สองคนนั้นก็ไม่มีสีหน้าอะไร แค่มีคนหนึ่งยื่นมือออกมารับข้อมูลที่อยู่ในมือของจี้เฉิน อ่านเสร็จแล้วก็พยักหน้า
เพราะว่าคือคนที่มาจากสมาคมทหารรับจ้าง ดังนั้นจี้เฉินก็เชื่อใจพวกเขาได้ เห็นว่าพวกเขาเดินออกไป จี้เฉินก็นั่งพิงลงไปกับโซฟาอีกครั้ง
สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ไป ก็คือการได้รับข่าวร้ายของครอบครัวจิ้นเฟิงเฉินแล้ว
แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินฉลาดขนาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่เฉยๆและรอพวกเขาไปทำร้ายหรอก ข่าวสารของเขาก็ได้เร็ว ต้องรู้สึกอะไรไปแล้วแน่นอน
จิ้นเฟิงเฉินมองไปกู้เนี่ยนที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วและพูด “พวกเขาช่วงนี้มีการเคลื่อนไหวอะไรมั้ย”
กู้เนี่ยนส่ายหัว พูดด้วยแบบน่าเสียดาย “รายละเอียดยังไม่ชัดเจนนัก แต่เมื่อเร็วๆนี้กองกำลังที่ไม่รู้จักบางส่วนได้หลั่งไหลเข้ามาในเมืองนี้อย่างลึกลับ เกรงว่าพวกเขามาเพื่อโจมตีเรา”
ในความเป็นจริงจิ้นเฟิงเฉินก็รู้ การปรากฏตัวของพวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพียงแค่ศัตรูอยู่ในความมืด ยังไงก็ป้องกันได้ไม่ทั่วถึงหรอก
ขนาดนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าพวกนั้นมีกี่คน เพียงแค่สามารถป้องกันฝั่งตัวเองให้ดีก่อน รอพวกเขาออกมาให้หมดแล้วค่อยคิดวิธีจัดการก็ได้
ถ้าไม่อย่างนั้น นอนยังนอนไม่ดีเลย
รอกู้เนี่ยออกไปแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ส่งข้อความให้ป๋ายหลี่และเห้อซูหาน : ช่วงนี้ไอ้พวกนั้นแผลงฤทธิ์มาก พวกแกดูให้ดี
ไม่นาน ทั้งสองคนก็ส่งข้อความกลับมา ประมาณก็คือ ให้เขาไว้ใจ มีพวกเขาอยู่ ไม่เป็นไรมากหรอก
การทำงานของสองคนนี้เขาไว้ใจมาก ก็เลยไม่ได้พูดอีก
แต่…เขานึกถึงคนๆหนึ่ง
ก็เห็นเขาเอามือถือออกมาอีกครั้ง และพูดเรื่องนั้นอีกครั้งให้กับจิ้นเฟิงเหราา ให้เขาระวังให้ดีในช่วงนี้