บทที่ 405 นั่งดีๆ ดูเสือกัดกันดีกว่า
ตอนที่ทั้งสองคนคุยกัน พิธีกรก็ได้กล่าวเปิดงานเรียบร้อย เพลงประกอบพิธีแต่งงานก็ได้ดังขึ้น
“งั้นขอเสียงปรบมือให้กับประธานหลินและคุณหนูหลินด้วยครับ ได้ทะนุถนอมดูและมาหลายปี ความรักของพ่อที่เต็มเปี่ยม เวลานี้นั้นได้แสดงให้เห็นอย่างไม่ปิดบัง และวันนี้ คุณหนูหลินนั้นได้เจอความสุขของตัวเองแล้ว ประธานหลินนั้นก็ยังต้องควงแขนของเธอ ส่งมือของเธอให้ผู้ชายอีกคน……”
พิธีกรนั้นได้พูดบทพูดที่คุ้นเคยออกมา ความรู้สึกนั้น ได้ขึ้นลงไปตามเสียงเพลง เหมือนว่าจะทำให้ทุกคนในงานนั้นได้ซาบซึ้งไปพร้อมกัน
เจียงสื้อสื้อเห็นภาพพ่อที่แสนดีและก็ลูกสาวที่กตัญญูนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะไม่คิดถึงพ่อของตัวเอง ในใจนั้นว้าเหว่ขึ้นมา
จิ้นเฟิงเฉินเหมือนจะสัมผัสความรู้สึกของเธอได้ ก็ได้ไปกุมมือของเธอแน่น แล้วก็กระซิบข้างหูเธอว่า “ไม่เป็นไรนะครับ มีผมอยู่”
ประโยคนี้ ทำให้คนนั้นรู้สึกอบอุ่นยิ่งกว่าคำว่าฉันรักเธอหรือคำสาบานใดๆ ใช่ ขอแค่มีเขาอยู่ ก็ไม่มีอะไรที่ข้ามไปไม่ได้
งานแต่งนั้นได้ค่อยๆ ดำเนินไปต่อ ไม่ทันระวังตัวก็ได้ไปถึงตอนกล่าวคำสาบานกันแล้ว
พิธีกรนั้นได้ถามออกไปอย่างหนักแน่นว่า “เจ้าบ่าว คุณยอมแต่งงานกับเจ้าสาวไหม? ชาตินี้ไม่ว่าจนหรือรวย ไม่ว่าแข็งแรงหรือไข้ ก็จะไม่จากกันไป รักเธอแค่คนเดียว”
หลานซือเฉินยังไม่ทันได้เปิดปาก ก็ได้มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากข้างล่างเวที พูดเสียงดังว่า “เขาไม่ยอม!”
คนที่มานั้นเป็นเจียงนวลนวล
เธอนั้นทนเห็นหลานซือเฉินแต่งงานกับพูดหญิงคนอื่นไม่ได้ ข้อหนึ่งเธอปล่อยวางไม่ได้จริงๆ ข้อสอง พอนึกถึงเขาที่ได้ฮุบเอาสมบัติของตระกูลเจียงไปแล้วไปขอผู้หญิงคนอื่นแต่งงาน เธอนั้นทำใจไม่ได้
คนในงานทั้งหมดได้พากันตกใจ ยังไงซะนี้เป็นวันมงคล ถ้ามีคนออกมาล่มงาน งั้นต้องยุ่งยากแน่ๆ
เป็นพ่อหลินที่ตั้งสติขึ้นมาได้ ก็ได้สั่งบอดี้การ์ดด้วยความโมโหว่า “ไป ไปห้ามเธอไว้”
กว่าที่บอดี้การ์ดมาก็ต้องใช้เวลานิดหน่อย เจียงนวลนวลก็ได้รีบตะโกนออกไปว่า “หลานซือเฉิน ไอ้ผู้ชายแล้งน้ำใจ นายไม่สนใจที่ฉันท้อง แล้วก็หนีมาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น นายยังมีความเป็นคนอยู่ไหม เรื่องที่นายทำกับตระกูลเจียงนั้น นายไม่รู้สึกว่ามันบาปบ้างเหรอ?”
เวลานี้ บอดี้การ์ดพึ่งจะเข้าไปควบคุมตัวเธอไว้ได้ แต่ว่าก็สายไปแล้ว คำพูดที่ควรจะพูดก็ได้พูดออกไปหมดแล้ว ทุกคนนั้นก็รู้แล้วว่าหลานซือเฉินนั้นเป็นคนยังไง ทุกคนนั้นก็ได้เริ่มพูดคุยกัน
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าหลานซือเฉินนั้นจะเป็นคนแบบนี้”
“ก็ใช่นะสิจริงไหม? ถ้าเป็นแบบนี้ก็เป็นการหลอกแต่งงานเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันก็คิดว่าจริง ตระกูลหลินนั้นยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนแบบนี้ได้ยังไง ต้องเป็นหลานซือเฉินล่อลวงตระกูลหลินแน่ๆ”
……
เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสียงของหลานซือเฉินนั้นได้เสียหายไปหมด
หลินซิเหยา มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความผิดหวัง แล้วก็ได้โยนช่อดอกไม้ในมือไปฟาดเขาอย่างแรง ถามออกไปว่า “ที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
หลานซือเฉินได้เข้าใจถึงความสำคัญของงานแต่งงานนี้ดี อารมณ์ความรู้สึกนั้นได้ปะทุขึ้นมาทันที “เธอโกหก! เจียงนวลนวล เธอไม่ได้ฉันก็จะมาทำลายความสุขของฉันเหรอ?”
เจียงนวลนวลในตอนนี้ ถึงแม้มีมือของบอดี้การ์ดควบคุมอยู่ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะไม่พูดออกไปว่า “หลานซือเฉิน นายเป็นคนยังไง ยังจะต้องให้ฉันพูดอีกเหรอ?!”
พูดจบ เธอได้ยิ้มออกมา แล้วก็พูดกับหลินซิเหยา ว่า “คุณหนูหลิน คุณอย่าโดนหมอนี่หลอกเอาล่ะ หมอนี่มันเป็นแค่ไอ้สาระเลว เขากำลังหลอกคุณอยู่ แล้วยังหลอกทุกคนในตระกูลคุณ เขาก็แค่หลอกให้แต่งงาน ที่เขาอยากได้นั้นเป็นเงินของพวกคุณ!”
หลินซิเหยา ไม่กล้าที่จะเชื่อ อึ้งไปไม่กี่วิ ก็ได้ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ร้องไห้แล้วก็วิ่งออกไป
พ่อหลินเห็นว่าหลินซิเหยา วิ่งออกไปนั้น ก็ได้จะวิ่งไปตามตัว แม่หลินได้ห้ามเขาไว้ “คุณอยู่ที่นี่ ฉันไปตามซิเหยา เองค่ะ”
ความหมายนั้นได้ชัดเจนมากๆ เขาต้องจัดการกับสถานการณ์ทางนี้ และเธอก็ไปปลอบใจหลินซิเหยา ก็พอ
งานแต่งที่ได้ดำเนินการมาถึงขั้นนี้ ก็ได้ล่มไปเรียบร้อย
พิธีกรนั้นตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เป็นแบบนั้นอยู่นานถึงได้ตั้งสติได้ เอาไมค์ขึ้นมาแล้วพูด “ขอให้แขกทุกท่านนั้นใจเย็นก่อน ให้พวกเรานั้นได้เข้าสู่ช่วงต่อไป งานเต้นรำได้เริ่มขึ้นแล้ว”
เพลงได้บรรเลงขึ้น แล้วก็ได้เชิญนักเต้นมืออาชีพมา ได้เดินไปถึงใจกลางลานเต้นแล้วก็เริ่มเต้นรำขึ้น มีหลายคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ก็ได้ยกแก้วไวน์แล้วก็พูดคุยกันเองขึ้น
บรรยากาศนั้นได้ผ่อนคลายไปไม่น้อย แต่ว่าสีหน้าของพ่อหลินนั้นก็ยังเคร่งเครียดเหมือนเดิม ได้พูดกับคนตระกูลหลานที่อยู่อีกด้านว่า “เรื่องนี้ ทางที่ดีพวกคุณนั้นต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลออกมาให้ผม ไม่งั้นเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่”
พ่อแม่ของตระกูลหลานนั้นก็คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น พวกเขานั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี คิดได้แค่ว่าให้หลานซือเฉินนั้นมาอธิบายให้พวกเขาฟัง
หลานซือเฉินในตอนนี้ ได้เอาช่อดอกไม้ เดินลงมาด้วยความสิ้นหวัง พูดกับพ่อหลินว่า “คุณพ่อครับ คุณต้องเชื่อผม ผมไม่มีทางที่จะทำแบบนั้น”
พ่อหลินได้หึออกมา “มันก็ไม่แน่ เรื่องนี้ไม่มีทางจบแน่ ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหยาเหยาล่ะก็ ฉันนั้นจะทำให้ธุรกิจของตระกูลหลานนั้นอยู่ในการตลาดต่อไปไม่ได้แน่”
ต่อให้ตระกูลหลานนั้นได้ฮุบสมบัติของตระกูลเจียงไป แต่ถ้าเทียบกับตระกูลหลิน ก็ยังห่างกันอยู่ กับอำนาจของตระกูลหลินนั้นหลานซือเฉิน ก็ยังมีความหวาดกลัวเล็กน้อย
เพราะเรื่องนี้ตระกูลหลานนั้นได้เสียชื่อเสียงไป สีหน้าที่มองไปยังหลานซือเฉินก็แปลกไป เวลานี้หลานซือเฉินได้ไปอยู่จุดที่ทุกคนก็ตะโกนให้ต่อยเขา
เจียงสื้อสื้อมองเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นอย่างกะหันทันนี้ ก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ใครๆ ก็คิดไม่ถึง ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอ พูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “คุณไม่รู้เรื่องที่เจียงนวลนวลท้อง?”
เจียงสื้อสื้อได้ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องนี้เธอนั้นไม่เคยได้ยินเลยแม้แต่นิด แต่ก็ไม่รู้เลยว่าเจียงนวลนวลนั้นจะมาล่มงานแต่งนี้
ถึงแม้กลับไปคราวก่อน ท่าทางที่เจียงนวลนวลมีให้กับหลานซือเฉินนั้น ดูแล้วเหมือนว่าได้เกลียดจนเข้ากระดูก แต่ว่าเธอนั้นคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจียงนวลนวลจะทำถึงขนาดนี้
ไม่ได้ทำให้แค่ตระกูลหลานหลินทั้งสองตระกูลขายหน้า ก็ได้ทำให้ตระกูลเจียงขายหน้าด้วย
เจียงสื้อสื้อมองจิ้นเฟิงเฉิน แล้วพูดว่า “ยังไงซะฉันกับตระกูลเจียงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันมากแล้ว คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ฉันไม่มีทางเข้าไปยุ่งหรอก”
ถ้าเกิดเธอเข้าไปยุ่งจริงๆ ก็จะมีผลกระทบต่อตระกูลจิ้น ถึงตอนนั้นทั้งสี่ตระกูลได้มีปัญหา เกรงว่าเรื่องนี้จะได้หนักขึ้นกว่าเดิมแน่
เทียบกับอันนั้น เธอนั้นนั่งดูเสือกัดกันจะดีกว่า
งานแต่งได้กลายเป็นแบบนี้ สำหรับพวกนักข่าวแล้ว ก็ต้องเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพวกเขาอยู่แล้ว เห็นได้จากสองวันนี้ พวกสำนักข่าวใหญ่ๆ ได้แย่งกันรายงานเรื่องนี้ กลัวว่าคนอื่นนั้นจะแย่งหัวข่าวไป
ในเวลาเดียวกัน หุ้นของหลานซื่อกรุ๊ป ก็ได้มีผลกระทบหนักมาก เห็นได้ชัดว่าได้ร่วงลงไปตลอด
หลานซือเฉินนั่งอยู่ในห้องทำงาน ได้เห็นตัวเลขพวกนั้น ก็ได้โมโหจนพูดอะไรออกมาไม่ได้ ความหวังที่เขาวาดฝันไว้ได้พังไปหมด ถึงขั้นให้หลานซื่อกรุ๊ปมีผลกระทบไปด้วย
เขากัดฟันแน่น พูดออกมาแต่ละคำเหมือนว่าได้รอดออกมาจากไรฟัน “เจียงนวลนวล……”
และเวลานี้เจียงนวลนวลนั้น ก็ได้นั่งดูผลตรวจที่แผนกสูติในโรงพยาบาล มองผลตรวจแล้วก็เหม่อลาย
เดิมเธอก็แค่เดาว่าตัวเองนั้นอาจจะท้อง แต่ว่ารอบเดือนของเธอนั้นก็ไม่ปกติอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดมาก
แต่ว่าเมื่อวานพอกลับไป ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ปกติ ก็เลยมาโรงพยาบาล
คิดไม่ถึงว่า เธอนั้นท้องจริงๆ และก็ท้องไปหลายเดือนแล้ว