บทที่ 434 พยายามเข้านะครับพ่อ
แม่จิ้นกุมมือของเจียงสื้อสื้อไว้ด้วยความซาบซึ้งใจพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างปลื้มปีติ
เจียงสื้อสื้อเป็นคนที่มีจิตใจดีเหลือเกิน โชคดีจริงๆ ที่เฟิงเฉินได้แต่งงานกับเธอ
ในตอนนั้นเอง จิ้นเฟิงเฉินที่เพิ่งส่งแขกเสร็จก็ได้เดินเข้ามาพอดี
พอเห็นว่าทุกคนกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ เขาก็พูดแซวขึ้นว่า “นี่กำลังเม้าท์มอยอะไรกันอยู่เหรอครับ?”
พูดจบเขาก็นั่งลงที่ข้างๆ ของเจียงสื้อสื้อ จากนั้นก็หยิบผลไม้ขึ้นมากิน
ที่งานเลี้ยงเขาก็ดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงกำลังรู้สึกคอแห้ง
จิ้นเฟิงเหรารีบพูดแทรกขึ้นมาว่า “ก็กำลังพูดเรื่องลูกคนที่สองของพวกพี่ไงครับ พี่สะใภ้เขาบอกว่าอยากถามความเห็นของเสี่ยวเป่าก่อนค่อยตัดสินใจครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นในใจก็ถูกแสดงออกมาทางดวงตาของจิ้นเฟิงเฉิน
การได้เธอมาเป็นคู่ครองแบบนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะวิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว
“ขอแค่สื้อสื้อเห็นด้วย จะมีอีกกี่คนผมก็ไม่มีปัญหาครับ”
ต่อหน้าสายตาของคนทั้งหลาย จู่ๆ มาถูกจิ้นเฟิงเฉินพูดเอาใจแบบนี้ มันก็ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที
เธอหยิกเข้าไปที่เอวของจิ้นเฟิงเฉินเบาๆ
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น พอได้เห็นการกระทำของเจียงสื้อสื้อ ต่างก็พาก็อมยิ้ม
เมื่อเห็นทั้งคู่แสดงความหวานแหววใส่กันอยู่ แม่จิ่นก็ได้พูดขึ้นด้วยความปลื้มใจว่า “ในที่สุดแม่ก็เข้าใจสักทีว่าทำไมคนอย่างเฟิงเฉินถึงได้หลงรักสื้อสื้อแค่คนเดียว”
ในขณะที่แม่จิ้นกำลังปลื้มใจอยู่นั้น พ่อจิ้นก็ได้พูดขัดขึ้นมาว่า
“นี่คุณ คุณคิดว่าเรื่องที่คุณเคยกังวลหนักหนามันเกิดขึ้นแล้วหรือยัง? ดูสิสื้อสื้อเขาเป็นเด็กดีขนาดไหน ถ้าเธอถูกคุณขับไล่ออกไปละก็ ผมละอยากรู้จริงๆ ว่าคุณจะร้องไห้รึเปล่า?”
แม่จิ้นหน้าแดง แล้วแสร้งทำเป็นดุไปว่า “คุณนี่พูดมากจริงๆ”
พูดตามตรง ต่อให้ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อจะจดทะเบียนกันไปแล้วก็ตาม แต่แม่จิ้นก็ยังมีเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจอยู่เหมือนกัน
อดีตของเจียงสื้อสื้อเป็นสิ่งที่คอยทิ่มแทงใจแม่จิ้นมาโดยตลอด แต่เมื่อผ่านคืนนี้ไป เธอก็ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเจียงสื้อสื้อแล้ว
เธอสามารถเปิดใจยอมรับให้เจียงสื้อสื้อเป็นเหมือนลูกแท้ๆ ในไส้ เป็นคนของตระกูลจิ้นอย่างแท้จริง
เมื่อเห็นผู้อาวุโสทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างนี้ คนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันสุขใจไปด้วย
บรรยากาศที่สุขสมกลมเกลียวแบบนี้สิที่เป็นสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวควรมี
แต่แล้ว แม่จิ้นก็เหมือนจะนึกอะไรได้ ทำให้อารมณ์ของเขาดูแย่ลงเล็กน้อย
ทำเอาหลายคนถึงกับสงสัย
“แม่ แม่เป็นอะไรครับ?” จิ้นเฟิงเหรารีบถามออกมา
“เสี่ยวเป่าถูกเราเลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน เขาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพวกเรา ถ้าเกิดเขารู้ว่าเราอยากได้น้องอีกคนละก็ ไม่รู้ว่าเขาจะได้รับผลกระทบอะไรทางจิตใจหรือเปล่า?”
พอแม่จิ้นพูดมาอย่างนั้น ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เสี่ยวเป่าไม่เคยถูกขัดใจมาก่อน แล้วการมีลูกสองคนก็จะต้องมีการแย่งความรักกันเกิดขึ้นแน่นอน
แล้วยิ่งเขาติดเจียงสื้อสื้อซะขนาดนั้น ถ้ามีน้องเพิ่มมาอีกคนละก็ เขาจะต้องคิดมากแน่ๆ
ผ่านไปสักพัก เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เสี่ยวเป่าเป็นที่รักของเราทุกคน แถมเขายังเป็นเด็กดีมากด้วย หนูเองก็รักเขามากเลย ต่อให้ไม่มีอีกก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
พอได้ยินเธอพูดมาอย่างนั้น แม่จิ้นก็รู้สึกตื้นตันอย่างมาก เธอสามารถรักเด็กคนหนึ่งที่ไม่ใช่เลือดเนื้อของตัวเองให้เหมือนกับลูกแท้ๆ ของตัวเองได้
แถมยังยอมเสียสละเรื่องลูกของตัวเองเพื่อเสี่ยวเป่าอีก ถ้าเป็นคนทั่วไปนี่คงไม่สามารถทำได้แน่นอน
เธอไม่มีข้อกังขาใดๆ เลยที่จะยกสิทธิ์ในความเป็นแม่ให้กับเจียงสื้อสื้อ
แม่จิ้นกุมมือของเจียงสื้อสื้อไว้ด้วยความตื้นตัน “สื้อสื้อ เรื่องนี้มันช่างผิดต่อเธอเหลือเกิน”
และในตอนนั้นเอง เสี่ยวเป่าก็ได้วิ่งลงมาจากทางบันได แล้วตรงมาฟุบลงในอ้อมอกของเจียงสื้อสื้อ
“แม่ครับ แบบนี้ผมไม่ยอมนะครับ! ผมอยากเป็นพี่ชาย แม่ต้องมีน้องสาวให้ผมนะครับ ถ้าจะให้ดีก็มีน้องชายอีกคนไปเลย เมื่อเป็นแบบนี้พอออกไปข้างนอกผมคงต้องดูเท่น่ามากแน่ๆ!”
“ได้ไหมครับ? แม่ครับ ผมจะเอาน้องสาวกับน้องชาย อยู่ตัวคนเดียวแบบนี้มันน่าเบื่อครับ”
คำพูดของเสี่ยวเป่าทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันตกใจไปเลย
สิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลกัน เสี่ยวเป่ากลับไม่ได้ใส่ใจมันเลยสักนิด
แต่ว่า แม่จิ้นก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เธอจึงได้ลองถามเพื่อความมั่นใจไปอีกครั้ง “แล้วเสี่ยวเป่าไม่กลัวว่าหลังจากที่น้องชายกับน้องสาวเกิดมาแล้วจะมาแย่งความรักกับเสี่ยวเป่าไปเหรอ? เมื่อถึงตอนนั้นเสี่ยวเป่าจะไม่สามารถตัวติดกับแม่แบบนี้แล้วนะ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว เสี่ยวเป่าจะยอมรับได้เหรอ?”
เสี่ยวเป่ากะพริบตาปริบๆ แล้วส่ายหน้า จากนั้นผู้ใหญ่ในร่างเด็กก็ตอบมาว่า “ไม่เห็นจะมีอะไรเลยครับ ถ้าจะให้พูดก็คือ ในตอนที่พวกเขาเกิดมาผมก็คงโตแล้ว ผมที่เป็นพี่ชายก็ควรดูแลพวกเขาสิ ขอแค่เป็นคนที่แม่ให้กำเนิดผมก็ชอบหมดแหละครับ จะน้องสาวหรือน้องชายก็ตาม ผมก็จะรักพวกเขาอย่างเต็มที่เลยครับ”
ความจริงตอนที่เสี่ยวเป่าลงบันไดมา เขาก็ได้ยินทุกอย่างที่พวกผู้ใหญ่พูดคุยกันหมดแล้ว
ถึงเขาจะเป็นเด็ก แต่เขาก็รู้ดีว่าลูกเลี้ยงกับลูกในไส้นั้นมันต่างกัน เขาไม่อยากให้แม่ต้องเสียสละอะไรเพื่อตัวเอง เขาอยากให้แม่ของตัวเองมีความสุข
เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยินสิ่งที่เสี่ยวเป่าพูดมา มันก็ทำให้น้ำตาของเธอต้องไหลออกมา จากนั้นก็กอดเสี่ยวเป่าเอาไว้แน่ๆ แล้วพูดกับเขาอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่าไม่ต้องกลัวนะ ต่อให้แม่มีน้องๆ แล้ว ความรักที่แม่มีต่อเสี่ยวเป่าก็มีแต่เพิ่มไม่มีลด หนูเองก็เป็นที่รักของแม่เหมือนกัน แล้วจะไม่ให้แม่รักหนูได้ยังไงหล่ะ?”
ตอนนี้แม่จิ้นก็สามารถวางใจได้อย่างเต็มที่แล้ว ดูท่าเสี่ยวเป่าจะโตกว่าที่พวกเขาคิดไปเยอะเลย
“ถ้าอย่างนั้นต่อไปก็ต้องขอให้พ่อของหนูพยายามให้มากๆ นะ เสี่ยวเป่าจะได้มีน้องไวๆ” แม่จิ้นให้คำแนะนำด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ดีเลย งั้นพ่อก็เร่งมือเข้านะครับ ผมทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว” เสี่ยวเป่าพูดเสริมขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันหมายความว่ายังไง
ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อตอนนี้แดงจนไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว แดงซะยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศที่สุกจนได้ที่แล้วเสียอีก
คำพูดแบบนี้เอามาพูดต่อหน้าเสี่ยวเป่าได้ยังไง มันน่าอายจะตาย
เมื่อเห็นท่าทางที่เคอะเขินของเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
เขาได้ถึงเจียงสื้อสื้อมาโอบไว้ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “แม่สบายใจได้เลย ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ภารกิจเสร็จสิ้นลุล่วงเลยครับ”
พอพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็หันมาถลึงตาใส่จิ้นเฟิงเฉิน
คนๆ นี้ยังจะรับปากเรื่องแบบนี้อย่างจริงจังได้อีกนะ
การตอบสนองของเจียงสื้อสื้อทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะออกมา แม่จิ้นจึงได้พูดแซวขึ้นว่า “ยังไงสื้อสื้อของเราก็ยังขี้อายอยู่ดี ในเมื่อเฟิงเฉินเขารับปากแล้ว หนูเองก็ต้องพยายามเหมือนกันนะ งั้นหลายวันต่อจากนี้แม่จะต้มซุปที่บำรุงให้หนูกินทุกวันเลยแล้วกันนะ”
“แม่คะ……นี่แม่ก็……”
สิ่งที่แม่จิ้นพูดมา ทำให้เจียงสื้อสื้ออายจนต้องเอาหน้ามุดเข้าไปในอกของจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเหราที่เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเหมือนกัน แต่จู่ๆ ในหัวของเขาก็มีใบหน้าของส้งหวั่นชีงโผล่ขึ้นมา
เขาตกใจจนรีบส่ายหน้า นี่เขาเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมถึงเอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาเลย?
เขาคงไม่ได้หลงรักเธอเข้าแล้วจริงๆ ใช่ไหม………
นี่มันต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้มากเลยนะ!
เขาเคยจินตนาการไว้ว่า อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเขานั้นจะต้องเป็นคนที่ผมยาวสลวย งดงามดั่งเทพธิดา
แต่ส้งหวั่นชีงนั้นไม่ได้มีความใกล้เคียงเลยสักนิด
แต่พอนึกถึงเธอที่มักจะทำตัวอ๊องๆ มุมปากของจิ้นเฟิงเหราก็จะแย้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอที่ทำตัวเอ๋อๆ ก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ
“โอเค ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว พวกลูกเองก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ควรแยกย้ายไปพักผ่อนได้แล้วล่ะนะ” พ่อจิ้นพูดพร้อมกับยืนขึ้น
“ครับ งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบจิ้นเฟิงเฉินก็ดึงตัวเจียงสื้อสื้อลุกขึ้นมากอดไว้
ตอนแรกเสี่ยวเป่าก็อยากจะตามเจียงสื้อสื้อไปด้วย แต่ก็ถูกแม่จิ้นห้ามเอาไว้ก่อน เธอกระซิบอะไรบางอย่างให้เขาเสี่ยวเป่าหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็เข้าห้องตัวเองไปอย่างว่าง่าย
เขาเองก็ไม่อยากไปรบกวนเวลาที่พ่อกับแม่จะผลิตน้องๆ ให้กับเขาหรอกนะ!