ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 463 มือที่สามขึ้นตำแหน่ง

บทที่ 463 มือที่สามขึ้นตำแหน่ง

บทที่ 463 มือที่สามขึ้นตำแหน่ง

เวลาเดียวกัน เจียงซื่อกรุ๊ปก็ได้วุ่นวายอีกครั้ง พอเจอกับเรื่องในคราวนี้ พึ่งเริ่มดีขึ้น วันนี้ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับการล้มละลายอีกแล้ว

เจียงสื้อสื้อนั่งอยู่ที่ห้องประชุม มองคนที่อยู่ข้างล่างอย่างปวดหัว

เจียงเจิ้นเต็มไปด้วยความได้ใจ ราวกับว่ากำลังรออะไรสนุกๆ

ผ่านไปนาน เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดอย่างไม่ร้อนไม่หนาวว่า

“ฉันเชื่อว่าทุกคนก็ได้ข่าวกันแล้ว สำหรับข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงในตอนนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับบริษัทไปไม่น้อย

แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ได้ผิดที่ฉัน เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตของเจียงซื่อกรุ๊ปเป็นยังไง ทุกคนก็ได้เห็นกับตาของตัวเอง เพราะงั้นวันนี้ฉันหวังว่าทุกคนไม่ต้องไปใส่ใจมันมาก

แล้วก็หวังว่าจะไม่มีคนมาซ้ำเติม พวกเรามีเป้าหมายเดียวกันก็คือพัฒนาเจียงซื่อกรุ๊ป ก็มีแค่นี้ที่ทำให้พวกเราชนะทั้งสองฝ่าย”

แต่ว่า เจียงสื้อสื้อพึ่งพูดจบ เจียงเจิ้นก็ได้ออกมาเถียงว่า “ตอนนี้เธอเป็นผู้ถือหุ้นที่มากที่สุดของเจียงซื่อกรุ๊ป ก็คือคนที่มาดูแลเจียงซื่อกรุ๊ป เกิดเรื่องขึ้นแล้ว เธอนอกจากที่จะออกมาพูดอะไรไร้สาระ ไม่มีคำพูดอื่นแล้วเหรอ?”

ตั้งแต่เจียงสื้อสื้อไม่ได้เอาตำแหน่งผู้จัดการให้กับเจียงเจิ้น เขาก็ได้เคียดแค้นอยู่ตลอด

เห็นว่ามีโอกาสที่จะทำร้ายเจียงสื้อสื้อ เขาก็ได้รีบกระโดดออกมา

คนที่อยู่ในสถานการณ์ก็ได้ใช้สายตาที่รังเกียจมองไปยังเจียงเจิ้น พ่อที่ทนเห็นลูกตัวเองได้ดีไม่ได้แบบนี้ พวกเขาพึ่งที่จะเคยเจอเป็นครั้งแรก

ในผู้ที่ถือหุ้นคนนั้นมีคนที่เจียงเจิ้นติดสินบนไว้ เห็นว่าเจียงสื้อสื้อไม่พูดอะไร ก็ได้ยืนออกมาในเวลานี้

“ใช่ครับ ประธานเจียง ตอนนี้เป็นเพราะปัญหาส่วนตัวของคุณทำให้เจียงซื่อกรุ๊ปตกอยู่ในวิกฤต ตามหลักการแล้วคุณต้องให้เหตุผลกับพวกเรานะครับ”

แต่ว่าก็มีคนที่อยู่ฝ่ายยุติธรรม ก็ได้พูดแทนเจียงสื้อสื้อ

คนที่ถือหุ้นที่ค่อนข้างอายุน้อยนั้น ก็ได้ชี้เจียงเจิ้นแล้วพูด “การที่เจียงซื่อกรุ๊ปเป็นแบบนี้ในวันนี้ คุณคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับคุณเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวสุดที่รักของคุณคนนั้น เจียงซื่อกรุ๊ปจะกลายมาเป็นแบบนี้เหรอ? ตอนนี้ได้เริ่มดีขึ้นมาหน่อยแล้วแท้ๆ คุณยังรีบร้อนที่จะออกมาโทษกันแบบนี้อีก นี่มันเป็นอะไรที่หน้าไม่อายจริง!”

พอคนนั้นพูดแบบนั้นออกมา เจียงเจิ้นรู้ว่าตนนั้นหาเหตุผลมาเถียงไม่ได้ ก็ได้เงียบไป

เวลานี้ก็ได้มีคนที่เคาะประตูห้องประชุม

ยังไม่รอให้เจียงสื้อสื้อพูดอะไร ก็ได้มีไมค์อันนึงจ่อมาที่เธอ

แล้วได้ล้อมเจียงสื้อสื้อไว้ รีบถามคำถามออกมา

“คุณเจียง ไม่ทราบว่าข่าวบนโซเชียลนั้นคุณได้เห็นหรือยังคะ? บอกว่าคุณเป็นเมียน้อยขึ้นตำแหน่ง ไม่ทราบว่าคุณคิดยังไงคะ?”

“คุณเจียง ทำไมคุณถึงได้แย่งว่าที่สามีของคนอื่นอยู่ตลอดล่ะครับ? ก่อนหน้าเป็นน้องสาวคุณ ตอนนี้ก็เป็นคุณนายตระกูลจิ้นคุณเป็นคนที่มีจิตใจอำมหิตแบบนี้จริงเหรอ?”

“ใช่ค่ะ คุณเจียง ได้ยินมาว่าคุณเป็นคนบริหารเจียงซื่อกรุ๊ป ทำไมไม่เห็นความก้าวหน้าอะไรเลยค่ะ?”

“คุณเจียง เชิญคุณตอบพวกเราด้วย”

……

ผู้คนล้อมเจียงสื้อสื้อจนไม่มีอะไรหลุดลอดเข้ามาได้ คำถามก็ได้ถามมาไม่หยุด

ตอนนี้เจียงสื้อสื้อกำลังสับสนอยู่ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี

ไม่รู้เลยว่ามีคนเปิดการถ่ายทอดสด คนที่มาดูนั้นได้ทะลุหมื่นแล้ว

เวลานี้พวกผู้ที่ถือหุ้นถึงรู้สึกตัว ก็ได้ไล่คนพวกนั้นออกไป

นี่เป็นข่าวในของเจียงซื่อกรุ๊ป จะหลุดออกไปไม่ได้

พอคนพวกนั้นออกไป เจียงสื้อสื้อถึงตั้งสติได้

ก็ได้รีบโทรไปหาจิ้นเฟิงเฉิน

“เฟิงเฉิน ทางฉันเจอปัญหานิดหน่อย นักข่าวกลุ่มหนึ่งได้ล้อมเจียงซื่อกรุ๊ปไว้แล้ว ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี”

เจียงสื้อสื้อพึ่งได้เจอเรื่องนี้เป็นครั้งแรก น้ำเสียงก็ได้ปนกับความอยากร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้

“สื้อสื้อ คุณอย่าใจร้อน ผมไปที่เจียงซื่อกรุ๊ปตอนนี้ ไม่ต้องกลัว อีกสิบนาทีผมก็ถึง” จิ้นเฟิงเฉินได้ปลอบ

แล้วก็สอนเจียงสื้อสื้อว่าตอนนี้ควรทำยังไงไป แล้วก็ลงตึกไป

ได้ยินเสียงของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็วางใจลงไม่น้อย

แต่ว่าเธอนั้นยังไม่เคยที่จะเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ก็ยังร้อนใจอยู่ดี

คลิปที่พวกนักข่าวได้ถูกพวกที่ถือหุ้นของบริษัทไล่ออกมาเมื่อกี้ ได้แชร์ลงในเน็ตเรียบร้อย

ไม่นาน จิ้นเฟิงเฉินก็ได้มาถึงเจียงซื่อกรุ๊ป พอเขาปรากฏตัว พวกนักข่าวที่ดักรออยู่ล่างตึกก็ได้ล้อมเขาทันที

“ถ้าทุกคนอยากจะฟังความจริงนั้น ให้ตามผมไปชั้นบน”

นักข่าวก็ได้รีบเดินตามหลังไปติดๆ

มาถึงหน้าห้องประชุม นักข่าวที่มามุงที่ด้านหน้าประตูก็ได้หลีกทางให้อย่างอัตโนมัติ

เปิดประตูก็เจอกับเจียงสื้อสื้อที่มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้าไปแล้วก็กอดเธอไว้

ได้ปลอบไปไม่หยุดว่า “ผมมาแล้ว เดี๋ยวผมจัดการเอง”

เจียงสื้อสื้อได้เอาตัวเองฝังไปที่อ้อมอกของจิ้นเฟิงเฉิน จมูกได้ตัน น้ำตาก็ได้ไหลออกมาอย่างไร้ความกล้า

ผ่านไปสักพัก รอให้เจียงสื้อสื้ออารมณ์ได้เย็นลง จิ้นเฟิงเฉินได้จูงมือเธอเดินไปที่ประตู

“ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณพวกคุณนักข่าวทุกท่านจริงๆ ที่ให้ความสนใจกับชีวิตส่วนตัวของพวกเราสามีภรรยา ผมสามารถพูดออกไปตรงๆ เลยว่าข่าวบนเน็ตนั้นไม่ได้เป็นความจริง ภรรยาของผมเป็นคนยังไง จิ้นเฟิงเฉินคนนี้เข้าใจดี คนบนเน็ตบางส่วนได้จงใจสร้างข่าวลือนี้ขึ้นเพื่อมากระทบชีวิตประจำวันของพวกเรา”

จิ้นเฟิงเฉินก็ได้หยุดไปสักพัก แล้วก็พูดต่อว่า “พวกนี้ผมจะส่งต่อให้ทนายจัดการ คนที่เกี่ยวข้องนั้นจะได้รับหนังสือฟ้องของผม ต่อด้วย ที่เจียงซื่อกรุ๊ปกลายเป็นแบบนี้ ไม่ได้เป็นเพราะภรรยาของผมเจียงสื้อสื้อเป็นคนทำ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะประธานเจียงประธานคนก่อนทำเองทั้งหมด”

บนตัวของเขาได้มีบรรยากาศที่ทำให้สถานการณ์นั้นควบคุมได้ พวกนักข่าวทั้งหมด ก็ได้ฟังเขาอย่างเงียบๆ

“ผมเชื่อว่าพวกนี้พนักงานที่อยู่ในเจียงซื่อกรุ๊ปนั้นสามารถที่จะยืนยันได้ อีกอย่างเรื่องที่ว่าแย่งที่สามีนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรค่าที่จะเอ่ยเลยแม้แต่นิด ใครเป็นคนแย่งใครกันนั้น คนที่รู้ความจริงนั้นเข้าใจกันดี เอาครับ คำถามของพวกท่านผมได้ตอบไปแล้ว ที่เหลือผมขอตัว”

พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้พาเจียงสื้อสื้อออกไป

สำหรับสิ่งที่จิ้นเฟิงเฉินพูดนั้น พวกคนที่ถือหุ้นในบริษัทก็ได้ออกมายืนยัน ถึงขั้นได้มีพนักงานบางส่วนก็ได้มาอธิบายเรื่องนี้

เจียงสื้อสื้อไม่ได้แย่งว่าที่สามีของใคร นี่เป็นความอิจฉาของเจียงนวลนวล

พอเป็นแบบนี้ กระแสข่าวก็ได้เปลี่ยนไป

ที่ได้ด่าเจียงสื้อสื้อในโซเชียลก็ได้เริ่มที่จะมาพูดเห็นใจเธอ ก็ได้พูดขอโทษกับคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้

มองเห็นคำวิพากษ์ในเน็ต เจียงสื้อสื้อก็เริ่มหายใจสะดวก

ก็ถือว่าได้คืนความบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง

เจียงสื้อสื้อก็ได้รู้สึกขอบคุณมากๆ จิ้นเฟิงเฉิน ทุกครั้งที่ตัวเองลำบาก เขาก็จะช่วยเธอแก้ไขปัญหาทั้งหมด

ถ้าเกิดไม่มีเขาล่ะก็ เกรงว่าเธอไม่รู้เลยว่าจะเผชิญหน้ากับพวกนักข่าวยังไง

เรื่องมาถึงจุดนี้ อยู่ๆ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้คิดถึงต้นต่อของปัญหานี้

ทำไมผู้หญิงคนนั้นโผล่ออกมาแล้ว อดีตของสื้อสื้อก็ได้ถูกคนแฉ่ออกมา?

บนโลกนี้คนที่ไม่อยากให้เจียงสื้อสื้อได้ดี นอกจากพวกเจียงเจิ้นยังมีคนอื่นอีก?

คนที่น่าสงสัยที่สุดก็เป็นเจียงนวลนวลอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่หนีไปได้ ก็ไม่มีข่าวคราวโดยตลอด

ถ้าเธอเป็นคนที่ก่อความวุ่นวายล่ะก็ เรื่องที่อธิบายไม่ได้หลายๆ เรื่องก็กระจ่างแล้ว

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท