ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 467 ปกป้องภรรยาสุดชีวิต

บทที่ 467 ปกป้องภรรยาสุดชีวิต

บทที่ 467 ปกป้องภรรยาสุดชีวิต

เที่ยงวันต่อมา จิ้นเฟิงเฉินพึ่งตื่น พบว่าบนโต๊ะได้มีซุปวางอยู่ ดูๆ แล้วเหมือนว่าเป็นซุปบำรุง

ไม่ต้องคิดเลย ต้องเป็นแม่จิ้นแน่ๆ ที่เป็นคนทำ

เป็นไปอย่างที่คิด เขาพึ่งเดินไปถึงข้างโต๊ะอาหาร แม่จิ้นได้ยิ้มแล้วเดินเข้ามา

“เฟิงเฉิน ซุปบนโต๊ะถ้วยนั้นลูกอย่าลืมดื่มล่ะ”

เดิมเขาอยากจะพูดว่าตนไม่ดื่ม แต่คิดๆ แล้วก็เป็นความหวังดีของแม่ สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธ ก็ได้ฝืนดื่มลงไป

ถึงบริษัท จิ้นเฟิงเฉินพบว่าจื่อเฟิงได้รอเขาอยู่ตรงนั้นแล้ว

“มีอะไร?” จิ้นเฟิงเฉินถาม

จื่อเฟิงลังเลอยู่นาน ถึงได้พูดว่า “คุณชาย ฉันได้สืบเจอร่องรอยของเจียงนวลนวลมาได้เล็กน้อยค่ะ หวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันอีกครั้ง”

ถึงแม้ว่าจื่อเฟิงได้มีความรู้สึกที่พิเศษให้จิ้นเฟิงเฉิน แต่เธอไม่ยอมใครคนอื่นมาดูถูกในความสามารถของตัวเอง แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นจิ้นเฟิงเฉินก็ตาม

“ก็ได้ เธอตามสืบต่อเถอะ ถ้าถูกจี้เฉินขัดขวาง เธอบอกฉันเลยก็พอ” จิ้นเฟิงเฉินได้พูดเรียบๆ

เล่ห์กลของจี้เฉินเขานั้นรู้ดี ตอนนี้เจียงนวลนวลยังอยู่กับจี้เฉิน อันตรายนั้นยังมีอยู่

เขาไม่อยากที่จะเสียคนมีฝีมือไปเพราะเรื่องนี้

“ค่ะ” จื่อเฟิงไม่ได้พูดอะไรต่อ ก็แค่ตอบคำเดียวแล้วก็ออกมา

ถึงแม้ว่าความจริงนั้นยังไม่ปรากฏออกมาทั้งหมด แต่สำหรับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว การที่ได้รู้เยอะขนาดนี้มันก็พอแล้ว

ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำก็คือจัดการกับเรื่องที่ไม่เป็นจริงในโซเชียลไปทั้งหมด คืนความบริสุทธิ์ให้เจียงสื้อสื้อ

พอสั่งงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้กู้เนี่ยน เตรียมการทั้งหมดเรียบร้อยแล้วนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ได้จัดการแถลงข่าวเอง

จิ้นเฟิงเฉินได้เอาหลักฐานในมือเผยต่อสาธารณะ แล้วก็ได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้น ก็เป็นแค่ตัวปลอบ ไม่ได้เป็นแม่แท้ๆ

การจัดแถลงข่าวนี้ในสายตาของทุกคนนั้นก็ได้แค่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ว่าหลักฐานที่จิ้นกรุ๊ปเอาออกมานั้นมันสมบูรณ์แบบมาก ไม่ให้โอกาสใครมาสงสัย

บวกกับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้ออกมาโวยวาย เพราะงั้นทุกคนก็ได้เห็นด้วยเงียบๆ ว่าคำพูดของจิ้นกรุ๊ปว่าเป็นความจริง

เรื่องนี้ไม่นานก็ได้ติดอันดับท๊อป ด้านล่างนั้นก็ได้เป็นคำพูดที่เห็นใจเจียงสื้อสื้อทั้งหมด

“ว้าย คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเรื่องนี้เป็นแบบนี้ เล่นเอาฉันไปแชร์โพสต์นั้นด้วย”

“ใช่ๆ เพื่อความไม่รอบคอบของฉันลงโทษตัวเองหนึ่งแก้ว คุณนายประธานขอโทษนะ”

“กินแตงต่อ แตงของวันนี้ฉันชอบมาก หวังว่าประธานกับคุณนายรักกันนานๆ และหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะออกมาอธิบายนะ”

เย็นของวันนี้ จิ้นเฟิงเฉินได้กลับบ้านแต่เช้า ไปอยู่เป็นเพื่อนเจียงสื้อสื้อ ดูข่าวบนเน็ตเป็นเพื่อนเธอ

จิ้นเฟิงเฉินได้กอดเอวของเธอเบาๆ ได้พูดข้างหูเธอว่า “เป็นไงครับ สบายใจขึ้นหรือยัง?”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า รู้สึกซาบซึ้ง ก็ได้พูดออกไปอยากอดไม่ได้ว่า “ที่จริงไม่ต้องทำให้มันใหญ่ขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่ผิดมันก็ไม่ผิด ขอแค่พวกคุณไม่ได้เข้าใจฉันผิดก็พอ”

พอได้ยินจิ้นเฟิงเฉินก็เลิกคิ้ว “ก็เพราะว่าการประกาศข่าวนั้นเป็นความเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ ผมนั้นอยากจะให้คนทั้งโลกได้รู้ ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“ไม่เพียงแค่นั้น คนที่พูดจารุนแรงพวกนั้น ก็ได้รับคำสั่งฟ้องของศาลแล้ว เชื่อว่าอีกไม่กี่วันก็มีคำตอบแล้ว คนพวกนี้จะได้รับโทษจากศาล คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”

การปกป้องของเขา ทำให้เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

เรื่องนี่คราวนี้ได้ดังติดต่อกันสองวัน จากนั้นความดังก็ได้ลดลงไปหมด ก็ทำให้ชาวเน็ตนั้นพากันตกใจ

เดิมคิดว่าแตงอันนี้ใหญ่มาก พอที่จะกินไปพักใหญ่

ใครจะคิดว่าวันต่อมา เพราะเรื่องอีกเรื่องจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ดังอีกครั้ง

จิ้นเฟิงเฉินปกป้องภรรยาความดังนั้นไม่ได้อยู่แค่เพียงในเวยป๋อที่มีคนเข้าไปดูตลอด เว็บอื่นการค้นหาก็ไม่น้อยเหมือนกัน ทำให้สาวๆ กรีดกันอยู่นาน

ความเย็นชาของจิ้นเฟิงเฉินเป็นที่รู้จักมานาน แต่พอผ่านเรื่องนี้ไป ก็ได้เปลี่ยนเป็นคนละคน

ชายอ่อนโยนและชายเย็นชาทำให้เกิดความแตกต่างมาก ทำให้ชาวเน็ตได้กรีดกันหมด

ข้อดีที่ได้มากที่สุดจากเรื่องนี้ ก็คือภาพลักษณ์ของจิ้นเฟิงเฉินได้กลับมา หุ้นของจิ้นกรุ๊ปกลับมา อีกอย่างก็ได้พุ่งขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย

ขนาดจิ้นเฟิงเหราก็อดแซวไม่ได้ พี่ชายของตนนั้นได้พึ่งความดังมากู้การตลาด นี่ที่เรียกว่ามีเสียสละก็มีผลตอบแทน

แต่ว่าพอพวกนี้ได้ส่งไปถึงหูของจิ้นเฟิงเฉิน ก็ได้เปลี่ยนไปอีกนัยน์

จิ้นเฟิงเฉินพูดว่าจะเอาเขาไปขายเลย จะได้เอาเงินมาชดใช้ที่จิ้นกรุ๊ปได้ขาดทุนไปในส่วนนี้

จิ้นเฟิงเหราถูกว่าจนไม่พูดอะไร และไม่กล้าพูดอะไร

“ประธานจิ้นหล่อเกินไปแล้วหรือเปล่า ปกป้องภรรยาสุดชีวิตอิจฉาอ่ะ”

“พวกเราไม่กล้าถาม พวกเราก็ไม่กล้าพูด แค่กดถูกใจก็พอ อ้ายยยยย หวังว่าสามีในอนาคตของฉันจะเป็นแบบนี้บ้าง”

“ฉันเป็นแฟนคลับเลย ผู้ชายดีๆ ขนาดนี้ซาบซึ้งจัง”

เจียงสื้อสื้อมองพวกผู้หญิงที่ฝันไปเองนั้น ก็ได้เบะปาก

ได้หงุดหงิดเล็กน้อยแล้วก็สร้างแอ็กเคานต์ใหม่ แล้วก็ตอกกลับผู้หญิงพวกนั้น

จิ้นเฟิงเฉินเป็นของเธอ ใครก็แย่งไปไม่ได้

เห็นว่าเธออารมณ์เปลี่ยนไป จิ้นเฟิงเฉินก็รีบเข้าไปกอดเธอ เห็นข้อความบนโทรศัพท์ ก็ได้รู้สึกอยากจะขำ

ก็ได้ใช้คางวางไปที่หัวของเธอ พูดเบาๆ ว่า “เป็นอะไรครับ? หึงเหรอ?”

“ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่ความคิดเห็นของชาวเน็ต ฉันทำไมต้องหึงคะ”

เจียงสื้อสื้อได้ขยับในอ้อมกอดของเขา จากนั้นก็แกล้งทำเป็นไม่ให้เขาเข้าใกล้ ก็ได้มุดหัวลงไป

จิ้นเฟิงเฉินขำเบาๆ “คุณบอกว่าไม่หึงไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เข้ามา”

“ฉันยุ่งมากค่ะ ไม่เหมือนประธานจิ้น วันๆ ได้ว่างแบบนี้”

สำหรับคำพูดนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็น่าสงสารมากๆ

เป็นเพราะว่าปกป้องภรรยาถึงดังแท้ๆ ภรรยาของตนก็ดันหึงซะได้ ทำให้คนงง

ที่จริงเจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้โมโหจริงๆ แต่เขาก็ได้พูดแบบนั้นแล้ว จะไม่แสดงว่าเป็นแบบนั้นหน่อย ก็จะกลายเป็นการทำให้ตัวเองน้อยใจจริงๆ

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เจียงสื้อสื้อคิดไม่ถึง ว่ายังมีข่าวที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นซ่อนอยู่

ตอนเย็น จิ้นเฟิงเฉินได้ปล่อยข่าวที่ตัวเองจะแต่งงานออกไป สำนักข่าวหลายสำนักได้พากันแย่งลงข่าว ทำให้ยอดค้นหานั้นได้เป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว

“ประธานบริษัทจิ้นกรุ๊ปจะจัดงานแต่งงาน” ไม่กี่คำนี้ได้วางอยู่ในยอดค้นหาแรก ทำให้เจียงสื้อสื้อตกใจมากจริงๆ

เธอได้บ่นออกมาว่าจิ้นเฟิงเฉินได้ใจร้อนไปหรือเปล่า…….

การง้อคนของเขานั้นก็ได้แปลกประหลาดมาโดยตลอด ได้ประกาศการแต่งงานในเน็ต เธอที่เป็นตัวเองของงานนั้นยังไม่รู้เรื่องเลย

ช่วงสองวันมานี้ จิ้นกรุ๊ป เจียงสื้อสื้อ ประธานบริษัทจิ้นกรุ๊ป ก็ได้เป็นยอดค้นหาที่มากที่สุดอยู่ตลอด ไม่มีท่าทีว่าจะลดเลย

ไฟที่แรงขนาดนี้ ก็ได้เบียดดาราหลายๆ คนตกไปเลย เจียงสื้อสื้อไม่รู้จะพูดยังไง

ความดังของเธอในตอนนี้ รู้สึกว่าจะไปออดิชั่นก็ยังได้ นี่มัน……เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ

อีกอย่างที่เธอไม่รู้ก็คือ ไม่ว่าบนเน็ตหรือโลกความจริงได้มีกลุ่มบ้านของเจียงสื้อสื้อเรียบร้อย

เพื่อที่จะปกป้องเธอในวันแต่งงาน เจียงสื้อสื้อที่เห็นก็รู้สึกขำ

แต่พอคิดว่าชาวเน็ตได้เป็นห่วงเธอขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ก็ปล่อยพวกเขาไป

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท